Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 7 คุ้มกันสาวน้อยครึ่งจิ้งจอก

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc

-A A +A

Porpiang Writer 1 : The Superhero Arc บทที่ 7 คุ้มกันสาวน้อยครึ่งจิ้งจอก

หมวดหนังสือ: 

วันที่ 14 มกราคม ค.ศ.2017

ที่ไหนสักแห่งในเมืองเซ็นเตอร์ซิตี้

เวลา 19:00 น.

 

        “ฮัลโหล อดัม อีฟ พวกนายอยู่ที่ไหนแล้ว...อะไรนะ! อยู่ที่ร้านอาหารเหรอ? คุณจอห์นบอกฉันมาว่า ให้ปกป้องพวกนายจากพวกทหารชุดดำที่กำลังตามล่าพวกนาย ถ้าพวกนายอยู่ใกล้ ๆ กับฉันก็ออกมาด่วนเลยนะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกซีมเลสฮิวแมนจะคิดแผนอะไรนอกจากนี้อีก แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกนายตกอยู่ในอันตรายแน่นอน อย่าลืมออกมาเจอกับฉันด้วยนะ แค่นี้นะ”

        พอเพียงยืนอยู่ข้างรถประจำตัวของเขาคันใหม่ บูกัตติ ชิรอน คลาสสิก รุ่นมาตรฐาน (Bugatti Chiron Classic Standard Edition) ที่เขาเพิ่งซื้อมาใหม่หลังจากมีใบขับขี่มาได้ไม่กี่เดือน หลังจากที่เขาโทรคุยกับสองฝาแฝดเดลวินแล้ว เขาก็เก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองเข้ากระเป๋า และชำเลืองมองดูรอบ ๆ ว่ามีพวกทหารรับจ้างชุดดำของซีมเลสฮิวแมน หรือที่เรียกว่า เอสเอชเอสเอส ย่อมาจาก หน่วยรักษาความปลอดภัยซีมเลสฮิวแมน (SHSS : Seemless Human Security Services) ผ่านไปมาอยู่แถวนี้หรือไม่

        โทรศัพท์มือถือของพอเพียงนั้นคือ พอเพียงเทค แกรนด์โฟน 6 (PorpiangTech GrandPhone 6) มือถือเรือธงยี่ห้อพอเพียงเทค (PorpiangTech) ประจำปี 2017 มือถือเครื่องนี้ตัวเครื่องเป็นสีเงินและมีโลโก้เป็นอักษรตัวพี ตัวอักษรย่อของพอเพียง ซึ่งน่าจะเดาได้ว่ามันมีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตพกพาของกูเกิลที่ออกมาประชันกับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิ้ลแน่นอน

        สำหรับรถชิรอนคันนี้มีตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์สีเทาเบอร์เจ็ดทั้งคันแบบเงา มีส่วนที่เป็นสีเงินนั่นก็คือโครงรูปตัวซีข้างประตูรถ ฝาครอบเครื่องยนต์ และกรอบตะแกรงรูปเกือกม้าอันเป็นเอกลักษณ์ของบูกัตติ ท่อไอเสียท้ายรถเป็นท่อไอเสียสี่เหลี่ยมสองท่อ ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยสีเทาทั้งห้อง ซึ่งเก้าอี้โดยสารและพวงมาลัยทำจากวัสดุหนังทั้งหมด มีการสลักชื่อรุ่นชิรอนไว้ที่หมอนพิงศีรษะและแผงคอนโซลกลางสีเดียวกัน

        ด้วยความอัจฉริยะเต็มสูบ พอเพียงจึงปรับแต่งรถคันนี้ให้เป็นรถปลั๊กอินไฮบริดขับเคลื่อนทุกล้อ (ออลวีลไดรฟ์) และดัดแปลงให้เป็นรถติดอาวุธพร้อมกับสวมเอไอปัญญาประดิษฐ์อย่างแฮมิลตันไปด้วย (Hamilton The AI) เพื่อให้สามารถรองรับกับระบบออโต้ไพลอท คือการขับรถอัตโนมัติโดยไม่ใช้คนขับ

        “แถวนี้หวังว่าจะไม่มีไอ้พวกทหารชุดดำอยู่แถวนี้นะ” พอเพียงพึมพำ “เช็กพิกัดที่พวกเดลวินมุ่งหน้าไปด้วยเลยดีกว่า”

        พอเพียงได้เข้าแอปลิเคชั่นแฮมิลตันเน็ตเวิร์ก (Hamilton Network) เครือข่ายของเอไอแฮมิลตัน แล้วเช็กพิกัดของสองฝาแฝดเดลวิน ปรากฏว่าเขาอยู่ห่างจากพวกเดลวินประมาณสามกิโลเมตรครึ่ง

        “ไม่ได้การแล้ว ระยะห่างขนาดนี้มันอาจจะทำให้พวกซีมเลสฮิวแมนสามารถไล่ต้อนพวกเดลวินให้จนมุมแน่ รีบจัดการให้มันจบ ๆ เลยดีกว่า” พอเพียงพึมพำ

        ว่าแล้ว เขาก็ขึ้นรถชิรอนคู่กาย แล้วสตาร์ตเครื่อง และเหยียบคันเร่งจนมิดเพื่อมุ่งหน้าไปหาพวกเดลวินทันที

 

        แต่ในขณะนั้น ชายหนุ่มเสื้อสีเทาไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่เขาโดยตรง สายตาคู่นั้นคือเงาดำ ๆ บางอย่างที่ไม่มีใครรู้จัก เงานั้นอยู่บนดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง ค่อย ๆ มองรถชิรอนเคลื่อนจากไป และมันก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวถอยไป...

 

        ตัดภาพกลับมาที่สองพี่น้องเดลวิน ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี...

        หลังจากคุยกับพอเพียงเสร็จ อดัมกับอีฟที่ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงก็เริ่มคุยกันทันที

        “พี่ว่าที่คุณจอห์นโทรมาเตือนพวกเราก่อนหน้านี้น่าจะเป็นจริงแน่ ๆ เพราะพวกซีมเลสฮิวแมนจะมาตามล่าพวกเราแล้ว”

        “แล้วจะเอายังไงดีคะพี่?” อีฟถาม

        “ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ว่าไอ้พวกซีมเลสฮิวแมนจะมาตอนไหน และถ้าพวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนนี่เรื่องใหญ่แน่เลยนะเนี่ย” อดัมว่า “เอาเป็นว่าเราจะแอบ ๆ ซ่อนตัวแล้วกัน เพราะว่าพวกเราแต่งตัวเหมือนกัน โชว์หน้าท้องเหมือนกันด้วย อาจจะเป็นจุดสนใจก็ได้เพราะหน้าท้องพวกเราดูน่ารักมาก เนอะ”

        “ค่ะพี่” อีฟว่า และบรรยากาศรอบตัวของสองพี่น้องถือว่าหวานแหววมาก (ถ้าพอเพียงรู้คงจะโวยวายว่า “เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ยังจะมีโมเมนต์หวานแหววอีก!!!” ใส่พวกเดลวินแน่ ๆ เลย) หารู้ไม่ว่าคนภายนอกอาจจะมองพวกเดลวินแล้วคิดในใจว่า ถ้าจะสวีตกันขนาดนี้ทำไมไม่เป็นแฟนกันไปเลยล่ะ? ก็เป็นได้

 

        ตัดกลับไปที่ข้างนอกห้าง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบิ๊กซี พวกทหารซีมเลสฮิวแมนซึ่งขนมาพร้อมกับรถกระบะฟอร์ด เอฟ-150 (Ford F-150) สีดำสนิท กับโลโก้ซีมเลสฮิวแมนที่ติดอยู่ข้างประตูและบนฝากระโปรงรถ รวมถึงรถถังแปดล้อ กำลังเคลื่อนที่เพ่นพ่านไปมา เพื่อหวังจะตามล่าสองฝาแฝดเดลวินจนสุดขอบฟ้า แต่ขณะนั้นเองก็มีเป้าหมายใหม่ให้ตามล่าแล้ว เมื่อรถฟอร์ด เฟียสต้า เอสที (Ford Fiesta ST) แฮตช์แบ็คห้าประตูสีเหลืองคันหนึ่งวิ่งหนีการไล่ล่าของพวกซีมเลสฮิวแมน ซึ่งคนขับก็ไม่ใช่ใครเลย เธอคือสาวน้อยครึ่งจิ้งจอกผมสีชมพูครีมสีม่วง หูและหางเหมือนสุนัขจิ้งจอกสีชมพู สวมเสื้อแขนยาวสีม่วงอ่อนและเอวลอยจนเห็นสะดือ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ นัยน์ตาสองสีเหมือนพอเพียง ข้างซ้ายสีน้ำเงิน ข้างขวาสีแดง

        แล้วทำไมพวกซีมเลสฮิวแมนถึงต้องการตามล่าสาวน้อยครึ่งจิ้งจอกอย่างเอาเป็นเอาตายไม่แพ้สองพี่น้องเดลวิน?

 

        ไม่มีใครรู้ในตอนนี้หรอก

 

        แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ตำรวจนครบาลเริ่มเอาจริงบ้างแล้วล่ะ พวกเขารีบเข็นเอาฝูงรถตำรวจออกมาตามล่าและทำให้ทุกอย่างสงบสุขให้ได้ เพราะมันวุ่นวายเกินไปแล้ว แต่แน่นอนว่า สาวน้อยครึ่งจิ้งจอกนั้นหนีรอดก่อนที่ตำรวจจะมาเห็นแน่ ๆ ส่วนพวกซีมเลสฮิวแมน ที่ตอนนี้เริ่มมีรถลึกลับเข้ามาเสียบแทนที่ และรูปทรงมันคล้ายกับแบทโมบิลจากเกมแบทแมน อาร์คฮัมไนท์ แต่มีหางเป็นปีกนก ส่วนกระจังหน้ามีปากนกยื่นออกมา ซึ่งรถคันนี้เป็นตัวล่อให้กับตำรวจและซีมเลสฮิวแมนไล่ตามแน่นอน

 

        ส่วนพอเพียง ระหว่างทางขับรถเขาได้รับโทรศัพท์จากภัททิต้า ให้มาช่วยนัตตี้ เอวิล (Nutty Eivill) รุ่นน้องของเขาให้หน่อย เพราะเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจากการโดนพวกทหารชุดดำตามล่า เอ้า งานงอกละทีนี้ พอเพียงคิด และเขาก็ต้องเช็กพิกัดของนัตตี้อีก แต่เขาพบว่า พิกัดของนัตตี้ตอนนี้อยู่ในบิ๊กซีสาขาราชดำริ ก็ที่เดียวกับที่สองฝาแฝดเดลวินพักซะด้วย

        “เยี่ยม บันเทิงละทีนี้” พอเพียงพึมพำแล้วก็มุ่งตรงไปยังบิ๊กซีราชดำริทันที

 

        ตัดกลับไปที่นัตตี้ หลังจากหาที่จอดรถได้แล้ว เธอก็นั่งพักหายใจครู่ใหญ่ จากนั้นก็เปิดประตูลงมาดูท้ายรถ เธอก็ช็อกซินีม่า เพราะว่าท้ายรถมันพรุนเพราะถูกซีมเลสฮิวแมนไล่ยิงเธอใส่จนไม่เหลือความสวยงามแล้ว เธอไม่มีทางเลือกจึงทิ้งรถที่เอามาขับไว้แล้วเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า แต่เพื่อไม่ให้ดูใจร้ายเกินไป จึงหาเศษกระดาษที่หามาได้จากตัวรถมาเขียนเพื่อขอโทษที่ขโมยรถคนอื่นมาใช้ ความว่า...

 

ขอโทษนะคะที่ฉันเอารถของคุณไปใช้

แต่มันจำเป็นจริง ๆ ค่ะ ^_^

 

        แล้วทิ้งกระดาษแผ่นนั้นไว้ในรถก่อนจะเดินออกไปทันที

 

        ระหว่างทางนัตตี้ก็เดินไปอย่างกลัว ๆ ว่าพวกซีมเลสฮิวแมนจะตามมาหรือเปล่านะ

        ถึงแม้ห้างสรรพสินค้ามันจะกว้างมาก แต่เธอก็เดินมั่ว ๆ จนมาที่ศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้า และมานั่งโต๊ะเดียวกับสองฝาแฝดเดลวินโดยไม่รู้ตัว ส่วนทั้งสองก็งงว่าอยู่ ๆ มีผู้หญิงอีกคนมานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเขาได้ยังไง

        “เอ่อ สาวน้อย เธอมานั่งใกล้พวกเราได้ไง?” อดัมเริ่มถาม นั่นทำให้นัตตี้สะดุ้งและหันมามองสองฝาแฝดเดลวินที่แต่งตัวเหมือนกัน แม้ใบหน้าจะไม่เหมือนกันก็ตาม

        “พ...พวกเธอคือใครเหรอ?” นัตตี้ถาม

        “ฉันชื่อ อดัม เดลวิน” อดัมตอบ และผายมือไปยังน้องสาว “ส่วนนี่อีฟน้องสาวฉัน”

        “สวัสดี” อีฟบอก “แล้วเธอล่ะ”

        “ฉันชื่อ นัตตี้ เอวิล” นัตตี้บอก “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

        “ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน” อดัมพูด “มาหลบพวกทหารชุดดำเหมือนกันเหรอ?”

        “รู้ได้ยังไง?” นัตตี้ถาม

        “รู้สิ” อดัมพูด “พวกเรากำลังโดนทหารขององค์กรซีมเลสฮิวแมนตามล่าน่ะ แล้วเราไม่รู้เลยว่าข้างนอกนั่นจะมีพวกไหนเข้ามาอีก พวกเราแทบจะไม่ไว้ใจใครแล้วด้วยซ้ำ”

        “อืม...ฉันเองก็เหมือนกัน” นัตตี้พูด “ถ้าพ่อหรือแฟนของฉัน หรือแม้กระทั่งพี่ภัททิต้าไม่มาช่วยฉันละก็ ฉันอาจจะกลัวแทบทุกคนที่จะมาทำร้ายฉันก็ได้”

        “ไม่เป็นไร อยู่รวมกันเป็นกลุ่มไว้ จะได้ไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ไหน” อีฟบอก

 

        ทางด้านพอเพียงที่ขับรถชิรอนถึงห้างบิ๊กซีราชดำริแล้ว เขาก็เข้าไปที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าทันที และค่อย ๆ หาช่องที่ว่างเพื่อนำรถเข้าไปจอด เมื่อพอเพียงดับเครื่อง เสียงดนตรีเพลงฮีเทนส์ของวงทเวนตี้วันไพลอตส์ก็ดังขึ้น (Heathens by twenty one pilots) พอเพียงร้องเพลงนี้ระหว่างที่เขากำลังเดินไปหาสองฝาแฝดเดลวิน เขาลงจากรถและได้เดินสำรวจดูรอบ ๆ ว่าชั้นที่เขาจอดรถ (ชั้น 2) มีรถที่สาวครึ่งจิ้งจอกขับมาหรือเปล่า ปรากฏว่ามีรถแบบนั้นจริง ๆ ฟอร์ด เฟียสต้า เอสที แฮตช์แบ็คสีเหลือง ที่ท้ายรถมีรอยกระสุนพรุนไปหมดแล้ว แถมกระจกรถก็แตกทั่วคันหมดแล้ว แล้วก็ข้างในมีกระดาษที่เขียนข้อความที่กล่าวไว้ข้างต้น พอเพียงจึงเข้าใจ และทิ้งกระดาษแผ่นนั้นไว้ในรถแล้วเดินเข้าไปในห้าง (ในระหว่างนี้เขายังร้องเพลงไม่จบด้วย)

        (Soundtrack : Heathens – twenty one pilots)

 

        เมื่อพอเพียงร้องเพลงจบ มันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาได้เดินมาพบกับอดัม อีฟ และนัตตี้พอดี

        “ไม่ต้องกลัว นี่เพ้นท์ เพื่อนของพวกเราเอง” อดัมบอกนัตตี้

        “อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ หนูชื่อ นัตตี้ เอวิล” นัตตี้บอก

        “ไม่เป็นไร ฉันก็รู้ว่าเธอโดนตามล่ามาเหมือนกัน” พอเพียงว่า

        “พี่รู้เหรอคะ?” นัตตี้ถาม

        “ภัททิต้าเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว” พอเพียงพูด “ฉันเลยมาช่วยเธอพร้อม ๆ กับสองฝาแฝดเดลวินไง”

        “อย่างนี้นี่เอง” อดัมพูด “พวกเราก็คงไม่ห่วงอะไรแล้วล่ะนะ”

        “ฉันก็ได้แจ้งตำรวจให้มาจัดการกับพวกซีมเลสฮิวแมนด้วย เพราะว่าพวกมันเล่นเอารถถังมาในเมืองแบบนี้มันทำให้ประชาชนแตกตื่นทั้งคืนแน่นอน” พอเพียงพูด “แต่ก็นะ ตอนนี้พวกเราก็ไม่ได้มั่นใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรอกนะ เพราะว่าไอ้พวกซีมเลสฮิวแมนยังไม่ทยอยกลับไปจากศูนย์ของตัวเองสักที ไม่ใช่พวกนายหรอกที่กลัว ฉันเองก็ระแวงเหมือนกัน”

        แต่พอเพียงรู้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังเขา เขาจึงหันขวับแล้วชักปืนพกของตัวเองออกมาเล็งขู่ไปที่เงานั้น ซึ่งเป็นมนุษย์ผู้ชายแต่แต่งกายคล้ายกับแบทแมนผสมกับหน้ากากอีกาดำ ผ้าคลุมหลังของเขาเป็นขนนกล้วน ๆ หัวมีจงอยปากนก และสวมหมวกทรงสูงไว้

        ปืนพกของพอเพียงคือปืน เอ็ม 92 เอฟเอส ซามูไรเอดจ์ เลี่ยมทองทั้งกระบอกยกเว้นด้ามปืนกรอบไม้สีน้ำตาล ผิวสัมผัสเป็นสีดำ ติดโลโก้หน่วยสตาร์ส (S.T.A.R.S. : Special Tactics And Rescue Services) ใช้ดีไซน์ปืนมาจากโมเดลของอัลเบิร์ต เวสเกอร์มาชุบทอง ติดนกสับแบบปืนซามูไรเอดจ์ทั่วไป แล้วใช้คุณสมบัติของปืนโมเดลนี้มาผสมกับโมเดลปืนของแบร์รี่ เบอร์ตัน, คริส เรดฟิลด์ และจิล วาเลนไทน์ จนกลายเป็น “โมเดลพอเพียง มาสเตอร์” สไลด์ด้านซ้ายมีข้อความสลักไว้ว่า “S.T.A.R.S. R.P.D. Special Team” ส่วนด้านขวามีข้อความสลักไว้ว่า “Mod.SAMURAI EDGE Law Enforcement Use Only” ซึ่งนั่นก็คือปืนพกที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมชุดเรสซิเดนท์อีวิลที่พอเพียงได้ดัดแปลงให้มีโมเดลเป็นของตัวเองนั่นเอง

        “แกต้องการอะไร...” พอเพียงถาม “ฉันบอกแล้วไงว่าเวลาแบบนี้ฉันไว้ใจใครไม่ได้ทั้งสิ้น!”

        “ช้าก่อนเพ้นท์!!

        เสียงที่เขาคุ้นเคยดังขึ้น และภัททิต้าก็พุ่งเข้าไปขวางระหว่างพอเพียงกับชายแปลกหน้าคนนั้น เขากางแขนห้ามไว้และมองมาที่ชายแปลกหน้า

        “แอรอน” ภัททิต้าพูดกับชายแปลกหน้า “เขาเป็นเพื่อนของฉัน ทั้งสี่คนเลย อย่าทำร้ายเขานะ”

        “อะไรนะ?” พอเพียงถาม

        “แอรอน เบลิคสัน” (Aaron Belicson) ภัททิต้าพูด “เขาเป็นเพื่อนฉัน แล้วเขาแต่งตัวเป็นยอดมนุษย์โครว์แมนน่ะสิ (Crowman)”

        “ยินดีที่ได้รู้จัก” โครว์แมนพูด “ฉันคือโครว์แมน”

        “ย-ยินดีที่ได้รู้จัก” พอเพียงพูด

        “เอาเถอะ ภัททิต้า ฉันไม่ได้จะมาทำร้ายพวกเขาสักหน่อย” โครว์แมนบอกภัททิต้า “ฉันมาเพื่อช่วยปกป้องพวกเขาต่างหาก”

        “อ้าว” ภัททิต้าว่า “แล้วคนอื่นมันไม่สงสัยนายบ้างเหรอ?”

        “เรื่องนั้นพวกเราเก็บเป็นความลับมานานแล้วล่ะ” โครว์แมนพูด “พวกเราปกปิดความลับอย่างรัดกุมมานาน จะได้จัดการดูแลให้ถึงที่สุดจนกว่าจะเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการน่ะ”

        “แล้วโครว์คาร์ของนายล่ะ” ภัททิต้าถาม (Crowcar)

        “อยู่หน้าห้างแล้ว” โครว์แมนบอก

        “จะให้นัตตี้กับสองฝาแฝดเดลวินเข้าไปในรถเหรอ?” พอเพียงถาม

        “ใช่” โครว์แมนบอก

        “แต่ฉันจะให้นัตตี้เข้าไปในรถฉันดีกว่า” ภัททิต้าบอก

        “อย่างนั้นก็ตามใจ” โครว์แมนพูด

        “เอาล่ะนัตตี้” ภัททิต้าพูด “หนูออกมาที่นี่ทำไม?”

        “หนูหนีออกจากบ้านเพราะทะเลาะกับพ่อหนูมา” นัตตี้ตอบ

        “เดี๋ยวพี่จะเคลียร์กับพ่อหนูให้เอง” ภัททิต้าบอก “ไปขึ้นรถกันเถอะ”

        “ฉันจะขับรถตามไปนะ” พอเพียงพูด “แล้วแจ้งตำรวจด้วย”

        “ฉันว่าตำรวจมันพึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้” โครว์แมนพูด

        “งั้นเหรอ?” พอเพียงว่า “ถ้าตำรวจมาหานาย ฉันจะไม่รับผิดชอบด้วยนะ”

        “โอเค” โครว์แมนพูด

 

        ในที่สุด พอเพียงก็วิ่งเข้าไปที่ลานจอดรถ มุ่งไปที่รถชิรอน ขึ้นรถ สตาร์ตรถ แล้วเหยียบมิดไมล์ออกจากห้างสรรพสินค้าทันที เขาพร้อมจะซัดกับพวกทหารรับจ้างให้หมด และเขาขับมาเพื่อสมทบกับรถโครว์คาร์และบีเอ็มดับเบิลยู ไอ 8 สีขาว (BMW I8) ของภัททิต้าที่นัตตี้นั่งมาด้วย

 

        ระหว่างทาง พอเพียงยังได้รับโทรศัพท์จากหมวดเกล็นน์ ซึ่งรับหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างทางกรมตำรวจกับพอเพียง เพื่อที่พอเพียงจะได้รู้ว่าพวกตำรวจรับมือกับซีมเลสฮิวแมนได้นานแค่ไหน ปรากฏว่าตำรวจเอาแทบไม่อยู่แล้ว ต้องใช้หน่วยพิเศษในการปราบปรามพวกซีมเลสฮิวแมนให้ได้

        “งั้นรีบเลยครับ เพราะว่ามันก่อความวุ่นวายไปทั่วแล้วครับ องค์กรนี้น่ะ” พอเพียงพูดในสาย

        ในขณะที่การพากันหลบหนีของพวกพอเพียงยังคงดำเนินต่อไป คราวนี้พวกซีมเลสฮิวแมนรู้แล้วว่านัตตี้และสองฝาแฝดเดลวินมุ่งหน้าไปทางไหน ดังนั้น กองกำลังเอสเอชเอสเอสจึงระดมทั้งรถกระบะทั้งรถถังแปดล้อตามล่าพวกพอเพียงให้ได้ และที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ พวกมันเล่นเอาเฮลิคอปเตอร์มาด้วย!

        ฝ่ายพอเพียงได้หนีด้วยการไปขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุขเพื่อที่จะได้หลบหนีสะดวกขึ้น แต่ข้อเสียก็คือ เฮลิคอปเตอร์จะเห็นง่ายขึ้น และส่งกำลังพลเข้ามาไล่ล่ากันใหญ่ แต่พอเพียงไม่แคร์เท่าไหร่เพราะว่ามาถึงขนาดนี้แล้วต้องไปให้สุด แต่กลับมีอะไรบางอย่างบินไล่ตามมา...

 

        ทอมมี่ เอวิล (Tommy Eivil) ชายครึ่งยมทูต ผมสีแดง ทรงผมคล้ายริวคิก ดวงตาสีดำ นัยน์ตาข้างซ้ายสีม่วง ข้างขวาสีแดง ใส่เสื้อคลุมฮูดแขนยาวสีดำทับเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีเทาอ่อน รองเท้าผ้าใบสีดำ ติดปีกมีควันสีดำ กำลังโบยบินกลางเวหาเพื่อตามหาลูกสาว อาวุธของเขาคือเคียวปีศาจที่เขาใช้ฆ่าศัตรูทุกคนที่ขวางหน้า และเขารู้ว่าลูกสาวของเขาอยู่ที่ไหน เพราะว่าการไล่ตามเส้นทางการตามล่าของซีมเลสฮิวแมน ก็ได้มาเจอกับฝูงเฮลิคอปเตอร์ ประมาณสิบกว่าลำ ส่วนข้างล่างคือกระบะและรถถังอีกนับร้อย ทอมมี่ประเดิมลำแรกด้วยการบินพุ่งเข้าไปเกาะที่หน้าห้องนักบินด้วยความแค้น

        “นั่นมันอะไรน่ะ!!” นักบินอุทาน

        “แกบังอาจทำร้ายลูกสาวของฉัน” ทอมมี่คำราม และทำลายกระจกห้องนักบินให้แตกเพื่อสอยเอานักบินออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นก็ดีดตัวออกจากเฮลิคอปเตอร์ลำแรกให้ตกลงมา แล้วพุ่งไปเกาะหางเฮลิคอปเตอร์ลำที่สอง เพื่อใช้เคียวปีศาจของเขาตัดหางให้ขาด และดีดตัวออกมาบินต่อ ปล่อยให้เฮลิคอปเตอร์ลำที่สองให้ตกลงมาขวางพวกรถกระบะขององค์กรซีมเลสฮิวแมน และจากนั้นทอมมี่ก็ไปเกาะเฮลิคอปเตอร์ลำที่สามเพื่อจัดการทำลายใบพัดบนเฮลิคอปเตอร์ให้ขาดจนมันร่วงลงมาตกพื้น และขว้างเคียวออกไปเพื่อสอยใบพัดใหญ่ของเฮลิคอปเตอร์ให้ขาดทีละลำจนหมด เสร็จแล้วก็บินด้วยความเร็วสูงล้ำหน้าไปไกลสักสามกิโลเมตร แล้วก็ลงมายืนขวางถนนทันทีเพื่อไม่ให้รถที่วิ่งอยู่ไปต่อได้

        เมื่อโครว์คาร์ ไอ 8 และชิรอนมาถึงก็เหยียบเบรกเต็มพิกัดเพื่อหยุดรถอย่างรวดเร็ว จากนั้น โครว์แมน อดัม อีฟ ภัททิต้า นัตตี้ และพอเพียงก็ลงมาจากรถของตัวเองทันที

        “ใครน่ะ?” พอเพียงถาม และเกือบจะชักปืนเล็งไปที่ทอมมี่ซะแล้ว แต่ภัททิต้าชักมือห้ามพอเพียงไว้ก่อน

        “นั่นพ่อของนัตตี้” ภัททิต้าตอบ “เขาชื่อทอมมี่”

        และนัตตี้ที่ได้เห็นพ่อก็พุ่งเข้าไปกอดทอมมี่อย่างรวดเร็ว

        “โอเค มันคงไม่ตามมาแล้วล่ะมั้ง” อดัมพูด

        “แน่ใจนะว่ามันจะจบอยู่แค่นั้นน่ะ?”

        เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งหมด และพวกเขาก็หันไปดู พบว่าทั้งฝูงรถถังและรถกระบะสีดำตามทันแล้ว และพวกทหารเอสเอชเอสเอสชักปืนเอเค-47 ของตัวเองชี้มาที่ทั้งเจ็ดคน พอเพียงกับภัททิต้าชักปืนพกของตัวเองออกมา ปืนพกของภัททิต้าคือ วอลเธอร์ พีพีเค สีดำ ซึ่งเป็นปืนพกประจำตัวเจมส์ บอนด์ สายลับอังกฤษ

        “ในที่สุดก็ไม่มีที่ให้พวกแกหนีไปแล้ว” แจ็ค ไทสัน หัวหน้าใหญ่ของหน่วยเอสเอชเอสเอสพูด (Jack Tyson) เมื่อถอดหน้ากากแล้วเขาเป็นชายเคราแพะ และผมจอนยาวสีน้ำตาลเข้ม “ทีนี้ ส่งสองฝาแฝดเดลวินและมนุษย์ครึ่งสัตว์หรืออมนุษย์ทั้งสองคนมาให้พวกเราซะ ถ้าไม่อยากตายกันหมด”

        “คิดรึว่าพวกเราจะให้แกง่าย ๆ” พอเพียงถาม

        “แกรู้ไหม ฉันมีของให้แลกนะพวก” โครว์แมนพูด

        “แอรอน?” ภัททิต้าหันไปบอกโครว์แมน

        “ของอะไรน่ะ” แจ็คถาม

        ทันใดนั้นเอง ฝูงอีกาก็บินมาตอมทหารเต็มไปหมด

        “อ๊าก!!! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!” แจ็คกรีดร้อง

        “เป้าล่อให้พวกเราได้เปรียบไง” โครว์แมนตอบ จากนั้นก็ชูมือขึ้นฟ้า ทำมือคล้ายกับส่งสัญญาณให้ทำอะไรสักอย่าง

        สักพัก เครื่องบินของโครว์แมนก็ปรากฎขึ้น มันคล้ายกับแบทวิงอย่างมาก และยิงจรวดมิสไซล์หลายลูกใส่พวกทหารที่มาล้อมทั้งเจ็ดคนไว้ตายเกลี้ยง

        “เครื่องบินนี้มาจากไหนกันน่ะ?” พอเพียงถาม

        “โครว์เจ็ต (Crowjet)” โครว์แมนตอบ “เครื่องบินของฉันเองแหละ”

        “เอาเถอะ แล้วซากพวกนี้ใครจะรับผิดชอบล่ะ?” ภัททิต้าถาม

        “ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย และนักดับเพลิงจัดการเองไง” โครว์แมนบอก

        “ขอบใจมาก ช่วยได้เยอะเลย” ภัททิต้าประชด

        “เอาเถอะ ฉันจะพาทั้งทอมมี่ นัตตี้ และสองฝาแฝดกลับไปตามบ้านของพวกเขาให้เอง” โครว์แมนพูด

        “ตามใจ” พอเพียงพูด “แต่ฉันก็ไม่นึกว่าโลกใบนี้มันจะมีมนุษย์สายพันธุ์ครึ่งสัตว์และอมนุษย์อยู่ในโลกใบนี้ด้วยอะ”

        “แหม ๆ นายตกข่าวอีกแล้วเหรอ” ภัททิต้าถาม “ฉันไปสืบข้อมูลดูแล้ว มันมีโครงการที่จะสร้างมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ๆ พวกซีมเลสฮิวแมนชอบสร้างอะไรประหลาด ๆ เยอะ”

        “เอาเถอะ ตอนนี้ฉันจะแจ้งตำรวจละนะ ให้โครว์แมนรีบหนีด่วนเลยนะ” พอเพียงพูด

        “ได้” โครว์แมนพูด จากนั้นก็พาสองฝาแฝดเดลวินและสองพ่อลูกเอวิลขึ้นโครว์เจ็ตบินออกไปทันที

        “ฉันไปก่อนนะ” ภัททิต้าพูด แล้วขึ้นรถไอ 8 ออกไป

        “อืม เหลือเราคนเดียว ต้องรอจนเช้าเลยเหรอเนี่ย” พอเพียงพูด

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.