ตอนที่ 965 เนตรมนตรา VS เนตรสีทอง

-A A +A

ตอนที่ 965 เนตรมนตรา VS เนตรสีทอง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 965 เนตรมนตรา VS เนตรสีทอง

ตั้งแต่เริ่มต้นของการต่อสู้เหวินหยิงไม่เคยลืมตาขึ้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เซี่ยเฟยจึงคิดว่าเธอคือคนตาบอดมาโดยตลอด แต่ใครจะรู้ว่าระหว่างที่การต่อสู้กำลังเข้มข้นจนถึงที่สุด จู่ ๆ เธอกลับลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ทำไมตาของเธอถึงเหมือนตาของงูแบบนี้?!” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้เห็นรูม่านตาเรียวยาวสีเหลืองอำพัน

การลืมตาของเหวินหยิงก่อให้เกิดจิตสังหารอันรุนแรง พลังวิญญาณอันทรงพลังเริ่มรุกรานเข้ามาภายในร่างของเซี่ยเฟยราวกับว่าเขากำลังถูกจ้องมองจากยมทูตผู้มาจากนรก

เนตรมนตรา!

เมื่ออีกฝ่ายเริ่มใช้พลังจากดวงตาในการโจมตี เซี่ยเฟยก็เริ่มใช้พลังจากดวงตาเพื่อต่อต้านด้วยเช่นกัน

วิชาเนตรมนตรามีหน้าที่อยู่ 2 อย่าง หน้าที่แรกคือการเสริมความคมชัดให้เซี่ยเฟยสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล หน้าที่ที่ 2 คือการเป็นตัวกลางส่งกระแสจิตเข้าไปภายในร่างของสัตว์ชนิดต่าง ๆ เพื่อทำลายหรือควบคุมสัตว์เหล่านั้นตามแต่เขาจะเลือกสรร

อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่เคยใช้เนตรมนตรากับสิ่งชีวิตที่มีสติปัญญามาก่อน แต่เนื่องมาจากว่าศัตรูเริ่มใช้วิชาเนตรของตัวเองออกมาก่อน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องใช้วิชาเนตรของตัวเองเพื่อต่อต้าน

ใครจะคาดคิดว่าการเผชิญหน้ากันระหว่างวิชาเนตรทั้งสองจะก่อให้เกิดคลื่นพลังงานขึ้นมาอย่างมหาศาล ซึ่งในระหว่างที่เซี่ยเฟยส่งกระแสจิตผ่านดวงตาทั้งสองข้างอยู่นั้น มือของเขาก็ยังคงห้ำหั่นกับจอมเทพด้านหน้าไม่หยุดหย่อน

“แย่แล้ว! เหวินหยิงคือผู้สืบทอดเนตรสีทองมาจากแม่ของเธอ มันเป็นวิชาเนตรที่ทรงพลังมาก ไม่เพียงแต่มันจะสามารถใช้ควบคุมสัตว์ประหลาดได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถนำมาใช้ทำลายร่างกายศัตรูได้อีกด้วย” เซี่ยจิงผู้ซึ่งเป็นจอมเทพจากตระกูลสกายวิงกล่าวขึ้นมาอย่างกังวล

เซี่ยเหอหลินกับเซี่ยหงมองไปยังภาพด้านหน้าอย่างกังวลด้วยเช่นกัน เพราะการเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญพร้อม ๆ กันถึงสองคนเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเฉพาะในตอนนี้ที่เหวินหยิงได้ใช้เนตรสีทองออกมา มันยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก

ตระกูลสกายวิงคือตระกูลที่ชื่นชอบการผจญภัย ซึ่งหลังจากที่พวกเขาสำรวจหาข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็ถือได้ว่ามีข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังของดินแดนดาร์คไนท์มากพอสมควรแล้ว

เมื่อเหวินหยิงเริ่มใช้เนตรสีทองเพื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยเฟย จอมเทพทั้งสามของสกายวิงจึงสามารถจดจำได้ในทันทีว่าวิชาเนตรนี้คือวิชาเนตรสีทองในตำนาน

ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเผ่าดาร์คไนท์คือราชาเหวินต้าที่มีระดับพลังเหนือเกินกว่าใครจะหยั่งรู้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังของเหวินต้าคือราชินีเหวินซินผู้ทรงพลังและเธอก็คือผู้สืบทอดพลังของเนตรสีทอง

เหวินซินเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเหวินต้า และเหวินหยิงที่อยู่ตรงหน้าเซี่ยเฟยก็คือลูกสาวที่เกิดขึ้นมาจากการสมสู่ของพี่น้องคู่นี้

ตระกูลดาร์คไนท์ถือได้ว่าเป็นตระกูลที่แปลกประหลาด เพราะถึงแม้เหวินซินจะมีพลังเหนือกว่าเหวินต้าอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอกลับเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังเพื่อแอบช่วยเหลือสามีอยู่อย่างเงียบ ๆ ผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วศัตรูที่น่ากลัวที่สุดภายในเผ่าดาร์คไนท์คือเหวินซินไม่ใช่เหวินต้าผู้ซึ่งเป็นราชา

“พวกเราไปกันเถอะ เซี่ยเฟยมีหน้าที่หลอกล่อพระเจ้าออกมา เราจะปล่อยให้เขาเป็นอะไรไปไม่ได้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า” เซี่ยหงกล่าว

สกายวิงไม่เคยคิดที่จะเสียสละสมาชิกภายในตระกูลของตัวเอง เป้าหมายเดียวที่พวกเขาปล่อยให้เซี่ยเฟยเผชิญหน้าเหตุการณ์ในปัจจุบันเพียงลำพัง นั้นก็เพราะพวกเขาต้องการที่จะหลอกล่อศัตรูของตระกูลออกมาเพื่อจัดการในคราวเดียว

ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นไปนานนับล้าน ๆ ปี ถึงแม้ว่าตระกูลสกายวิงจะเหลือสมาชิกอยู่เพียงแค่คนเดียว แต่สมาชิกคนนั้นก็จะพยายามหาวิธีแก้แค้นแทนตระกูลจนถึงขีดสุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นทัศนคติของฝูงหมาบ้าอย่างพวกเขามาโดยตลอด

เซี่ยจิงกับเซี่ยหงไม่สามารถจะอดทนได้อีกต่อไป พวกเขาจึงพยายามปรากฏกายเพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เซี่ยเฟย แต่เซี่ยเหอหลินผู้ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มได้หยุดพวกเขาเอาไว้ซะก่อน

“พวกเรามารอดูกันต่ออีกสักพักเถอะ” เซี่ยเหอหลินคว้าสหายทั้งสองเอาไว้พร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“นายไม่เห็นเหรอว่าเซี่ยเฟยอาจจะพลาดท่าได้ทุกวินาที อย่าลืมนะว่าเขาคือดีม่อนวิงเพียงคนเดียวนอกเหนือจากบรรพบุรุษ ไม่ว่ายังไงเราก็จะปล่อยให้เขาตกอยู่ในอันตรายไม่ได้เป็นอันขาด” เซี่ยจิงกล่าวขึ้นมาอย่างร้อนใจ

“ใช่ นายก็น่าจะรู้ว่าดีมอนวิงทรงพลังมากแค่ไหน ถึงแม้พวกเราจะมีศักยภาพเหมือนเซี่ยเฟยในการทะยานขึ้นไปบนความเร็วสูงสุดได้ แต่ปีกของเราก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับเขา มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะขึ้นไปยืนอยู่บนจุดเดียวกันกับบรรพบุรุษ” เซี่ยหงกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“พวกนายก็ลองดูเอาเองแล้วกัน ตอนนี้เซี่ยเฟยค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับคู่ต่อสู้แล้วและเขาก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการตอบโต้” เซี่ยเหอหลินกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังเซี่ยเฟยที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด

“นักรบที่แท้จริงไม่เพียงแต่จะต้องมีพลังอยู่ในระดับสูงเท่านั้น แต่พวกเขาจะต้องมีความมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้ออีกด้วย ในเมื่อเซี่ยเฟยยังไม่คิดที่จะยอมแพ้แล้ว พวกเราจะกังวลแทนเขาไปทำไม?”

หลังจากเซี่ยเหอหลินพูดจบเซี่ยจิงกับเซี่ยหงก็พยายามสงบสติอารมณ์ลง จากนั้นทั้งคู่ก็มองไปยังสนามรบอีกครั้ง

เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเหมือนกับที่เซี่ยเหอหลินบอกเอาไว้ เพราะถึงแม้เซี่ยเฟยจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูถึงสองคน แต่เขากลับค่อย ๆ ยืนหยัดตั้งหลักได้อย่างมั่นคง โดยไม่มีท่าทีที่จะเพลี่ยงพล้ำอีกต่อไป

การต่อสู้อันยากลำบากคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้นักรบมีการเติบโต การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งพร้อม ๆ กันถึงสองคน มันจึงช่วยให้เซี่ยเฟยเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการต่อสู้ในครั้งนี้

จอมเทพปริศนาทำการฟาดฟันคลื่นมิติจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยอย่างต่อเนื่อง โดยคลื่นมิติเหล่านี้มีจำนวนรวม ๆ กันมากกว่า 128 คลื่นก่อให้เกิดการจู่โจมที่โหดร้ายมาก

อิ้ว!

ขนอุยพ่นลำแสงพลังงานออกมาจากปากเพื่อพยายามหยุดยั้งคลื่นมิติทั้ง 128 คลื่นนี้เอาไว้

น่าเสียดายที่คลื่นมิติไม่ได้จู่โจมมาจากทิศทางเดียว แต่พวกมันบินอ้อมจู่โจมมาจากทุกทิศทาง ขนอุยจึงสามารถสกัดกั้นการจู่โจมเอาไว้ได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น

เมื่อคลื่นมิติเข้ามาใกล้เซี่ยเฟยก็ใช้ความเร็วประกอบกับวิชาเล่ห์กายาในการหลบหลีกการโจมตีอย่างฉิวเฉียด จนทำให้คลื่นมิติอันโหดร้ายเคลื่อนที่ผ่านร่างเขาไปคลื่นแล้วคลื่นเล่า

อย่างไรก็ตามการจู่โจมด้วยคลื่นมิติก็เป็นการจู่โจมที่รวดเร็วมาก และเซี่ยเฟยยังต้องแบ่งสมาธิไปต้านทานพลังจากเนตรสีทอง เมื่อเขาได้เห็นว่าคลื่นมิติบางส่วนกำลังเข้ามาใกล้ เขาจึงใช้ใบหญ้าหงส์ครามทั้งหกใบกางออกเป็นโล่

หงส์ครามถูกจู่โจมเข้าใส่อย่างต่อเนื่องจนทำให้เศษใบหญ้ากระจายออกไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ถึงแม้ว่าคลื่นมิติเหล่านั้นจะรุนแรงมาก ท้ายที่สุดหงส์ครามก็สามารถต่อต้านการโจมตีเอาไว้ได้

“มันช่างเป็นอาวุธมายาที่ทรงพลังจริง ๆ แต่มันได้รับความเสียหายไปมากแล้ว ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าคราวนี้แกจะรับมือกับการโจมตีของฉันยังไง” จอมเทพกล่าวขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด

เซี่ยเฟยขมวดคิ้วโดยไม่พูดอะไร เพราะการเผชิญหน้ากับนักรบผู้แข็งแกร่งทั้งสองคนพร้อม ๆ กันถือได้ว่าเป็นบทพิสูจน์ครั้งใหญ่มากที่สุดเท่าที่เขาได้เคยเผชิญหน้ามา

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้เห็นเลือดที่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาสีทองของเหวินหยิง ขณะที่จอมเทพที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เริ่มหายใจอย่างเหนื่อยหอบเช่นเดียวกัน ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่กำลังจะใช้ท่าสังหารเพื่อจัดการกับเขาแล้ว

128 คลื่นมิติ!!

จอมเทพส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับใช้ท่าสังหารท่าเดิมออกมาอีกครั้ง ท้ายที่สุดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักรบความเร็วสูงอย่างนักรบสกายวิง การจู่โจมในระยะไกลจึงถือว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยมากที่สุดแล้ว เพียงแต่ว่าการจู่โจมในลักษณะนี้จำเป็นจะต้องใช้พลังงานมหาศาล การเคลื่อนไหวเพียงแค่ 2 ครั้งจึงทำให้พลังงานภายในร่างถูกใช้ออกไปจนเกือบหมด

“ระเบิด!” เซี่ยเฟยตะโกนร้องคำรามพร้อมกับเม็ดพลังงานภายในสมองที่ระเบิดพลังงานออกมาอย่างรุนแรง

พลังงานอันไร้ที่สิ้นสุดถาโถมเข้าสู่ร่างกายของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจิตอสูรอันทรงพลังก็ถูกระเบิดออกมา

พลังงานคือรากฐานของนักรบและเมื่อเซี่ยเฟยระเบิดพลังงานทั้งหมดที่เก็บสะสมเอาไว้ มันจึงช่วยยกระดับการต่อสู้ของเขาให้ขึ้นไปยืนอยู่ในจุดที่เขาไม่เคยทำได้มาก่อน

คลื่นแสงห้าสีลอยออกมาจากร่างของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง และความผันผวนของพลังงานอันมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมา มันก็ทำให้ทุกคนจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยอย่างตกใจ

ระดับพลังของเซี่ยเฟยในตอนนี้ต่ำกว่าจอมเทพอย่างเห็นได้ชัด แต่พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขากลับเหนือกว่าจอมเทพตรงหน้าอย่างเทียบกันไม่ติด

ไม่มีใครรู้ว่าเซี่ยเฟยสามารถแอบซ่อนพลังงานมหาศาลแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้แน่ ๆ คือในตอนนี้ชายหนุ่มมีพลังเหนือกว่าระดับจอมเทพขั้นพื้นฐานไปแล้ว

ทันใดนั้นหงส์ครามที่ได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรงก็ฟื้นฟูกลับมาด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง ซึ่งการถูกทำลายไปในก่อนหน้านี้ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้มันยอมแพ้เท่านั้น แต่มันยังไปปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของหงส์ครามขึ้นมาอีกด้วย

ใบหญ้าสีฟ้าทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว โดยในขณะนี้ไม่เพียงแต่ใบหญ้าจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่มันยังมีใบหญ้างอกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบ

“หงส์ครามวิวัฒนาการแล้ว! ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะวิวัฒนาการในระหว่างการต่อสู้แบบนี้” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

หลังจากการวิวัฒนาการใบหญ้าของหงส์ครามก็งอกยาวออกมาถึงเจ็ดใบ โดยแต่ละใบมีความยาวสูงสุดได้มากถึง 5 กิโลเมตร

คลื่น!

การจู่โจมจากคลื่นมิติใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เซี่ยเฟยไม่คิดที่จะหลบหลีกอีกต่อไป เพราะใบหญ้าทั้งเจ็ดใบกำลังถูกยกขึ้นราวกับมือขนาดใหญ่ ก่อนที่ใบหญ้าเหล่านี้จะฟาดฟันลงมาเพื่อทำลายคลื่นมิติทั้งหมดในคราวเดียว

***************

พี่เฟยก็ระเบิดพลังงานเหมือนกัน ย๊ากกกกก (เปิดเผยร่างซุปเปอร์ไซย่าอิอิ)

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.