ตอนที่ 956 เส้นทางของผู้ทำลาย

-A A +A

ตอนที่ 956 เส้นทางของผู้ทำลาย

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 956 เส้นทางของผู้ทำลาย

เท็มเพลสถือได้ว่าเป็นนักประดิษฐ์ชั้นยอดในปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้นชายชราคนนี้ก็ยังบอกว่าเนื้อหาภายในรูปมิสเทอรีมูนเป็นเนื้อหาที่ชั่วร้าย มันจึงยิ่งทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกสงสัยว่าเนื้อหาที่ถูกบันทึกเอาไว้มันมีใจความว่ายังไงกันแน่

“คุณช่วยอธิบายให้ชัด ๆ หน่อยได้ไหมครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างเร่งรีบ

“พูดตามตรงว่าตอนแรกที่ฉันอ่านเนื้อหานี้ ฉันก็ตั้งข้อสงสัยว่ามันคือเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ด้วยประสบการณ์ทั้งหมดที่ฉันสั่งสมมาฉันก็ได้ข้อสรุปว่าเทคนิคที่ถูกบันทึกเอาไว้คือเทคนิคที่สามารถใช้การได้จริง ๆ” 

“อย่างไรก็ตามเนื้อหาในเทคนิคมันไม่ใช่เรื่องปกติเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะแทนที่เทคนิคจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับผู้สร้างแต่เนื้อหาของเทคนิคนี้กลับเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ทำลายมากกว่า” เท็มเพลสกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ผู้ทำลาย!? หรือว่าเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่มีเอาไว้สำหรับการทำลายสิ่งประดิษฐ์โดยเฉพาะ” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

“นายลองศึกษามันดูเองก็แล้วกัน ด้วยศักยภาพของนายในตอนนี้ฉันเชื่อว่านายย่อมสามารถทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดได้อย่างไม่มีปัญหา” เท็มเพลสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องเอกสารออกมามอบให้กับเซี่ยเฟย

เซี่ยเฟยรับเอกสารมาอย่างอยากรู้อยากเห็น และเมื่อเขาพลิกหน้ากระดาษอ่านข้อมูลต่าง ๆ มันก็ทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“นายน่าจะเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันเป็นเทคนิคที่เอาไว้สำหรับการทำลายสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่สมบูรณ์ เทคนิคนี้มันบ้าไปแล้ว ทั่วทั้งจักรวาลมันไม่มีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นไหนที่ไม่มีข้อบกพร่องหรอก การทำลายสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่สมบูรณ์มันอาจจะฟังดูสมเหตุสมผล แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วมันจะมีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นไหนบ้างที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สมบูรณ์แบบ”

“เรื่องที่เลวร้ายมากกว่านั้นคือเนื้อหาช่วงครึ่งหลังเป็นการทำลายกฎแห่งการประดิษฐ์และทำการเรียนรู้มันขึ้นมาใหม่ตั้งแต่แรก นี่มันเป็นวิธีการของคนบ้าชัด ๆ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาเอาวิธีบ้า ๆ แบบนี้มาจากไหน เขาไม่เคยลองเทคนิคนี้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ แต่เขากลับกล้าสร้างรหัสภาพขึ้นมาเพื่อส่งต่อเทคนิคบ้า ๆ นี่ให้ลูกหลานของตัวเอง”

เท็มเพลสวิจารณ์เทคนิคภายในภาพอย่างหัวเสีย แต่เซี่ยเฟยกลับมองเทคนิคนี้ด้วยแววตาอันเป็นประกาย

การเริ่มต้นฝึกฝนกฎแห่งการประดิษฐ์ใหม่อีกครั้งหลังจากที่พลังพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุด มันมีความคล้ายคลึงกับในตอนที่เขาต้องเริ่มฝึกฝนวิชามนตราอสูรใหม่อีกครั้งไม่มีผิด 

ซึ่งหลักการนี้สอดคล้องกับหลักการไม่ทำลายไม่ก่อกำเนิด เพียงแต่วิชามนตราอสูรเป็นวิชาเกี่ยวกับการควบคุมอสูร แต่วิชานี้เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์ก็เท่านั้นเอง

สำหรับการทำลายอาวุธชั้นยอดเพื่อทำลายข้อบกพร่องก็ถือว่าเป็นหลักการกลับตาลปัตรจากสิ่งที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ฝึกฝนกฎความโกลาหลแบบเขาแล้ว เขาย่อมเข้าใจถึงพลังของการกลับตาลปัตรดีกว่าคนอื่น

หากเขาสามารถกำจัดจุดอ่อนของสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดไปได้เรื่อย ๆ วันหนึ่งหลังจากที่เขาสะสมแก่นของสิ่งประดิษฐ์ได้มากพอ มันก็อาจจะเกิดปฏิกิริยาอะไรสักอย่างขึ้นมาก็ได้

ซานชิงไม่กล้าที่จะฝึกฝนตามวิชานี้หลังจากที่เขาได้รับมันมา นั่นก็เพราะว่าเนื้อหาของวิชาขัดต่อหลักการนักประดิษฐ์ที่มีอยู่มาตั้งแต่เดิม การตัดสินใจของซานชิงจึงไม่ต่างไปจากเท็มเพลสที่ไม่กล้าละทิ้งวิชาดั้งเดิมเพื่อเริ่มต้นฝึกฝนใหม่อีกครั้ง 

ด้วยเหตุนี้ซานชิงจึงใช้ประโยชน์จากวิชานี้ได้เพียงแค่เล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้เขากลายเป็นนักประดิษฐ์ที่โด่งดัง ซึ่งมันก็พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ทรงพลังมากเพียงใด

“พูดตามตรงว่าเทคนิคนี้มันเป็นเทคนิคที่เอามาใช้จริงไม่ได้หรอก ถ้าหากพวกเราละทิ้งสิ่งที่พวกเราฝึกฝนมา แล้วก่อนหน้านั้นพวกเราจะยอมอดทนฝึกฝนวิชาขึ้นมาตั้งแต่แรกทำไม?”

“ฉันรู้ว่านายมีนิสัยแปลก ๆ มันเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงลังเลว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับนายหรือเปล่า เอาเป็นว่าความเห็นของฉันเราไม่จำเป็นจะต้องฝึกฝนตามเทคนิคนี้หรอก แต่นายจะตัดสินใจยังไงเรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวนายเอง” เท็มเพลสกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้อง

“เท็มเพลสเป็นนักประดิษฐ์ชั้นยอด คำพูดของเขาย่อมเป็นคำพูดที่น่าเชื่อถืออย่างไม่ต้องสงสัย ฉันคิดว่าตอนนี้กฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นที่ 8 ของนายมันก็มากพอแล้ว นายไม่จำเป็นจะต้องฝึกฝนวิชาแปลก ๆ แบบนี้หรอก” ลินนิจกล่าวหลังจากภายในห้องเหลือพวกเขาเพียงสองคน

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเรียกพลังของกฎแห่งความโกลาหลขึ้นมาบนฝ่ามือ

“คุณรู้ไหมว่าทำไมพลังของกฎแห่งความโกลาหลถึงทรงพลังมาก?” เซี่ยเฟยถาม

“เพราะว่ามันคือพลังที่สามารถพลิกผันทุกสิ่ง สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้” ลินนิจตอบ

“ใช่ หลังจากที่ผมฝึกฝนมันไปเรื่อย ๆ ผมก็ได้พบว่าการใช้พลังให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดไม่ใช่การใช้พลังไปตามกรอบดั้งเดิม แต่เป็นการใช้พลังนอกกรอบที่คนอื่นเคยกำหนดเอาไว้ ผมคิดว่าแก่นแท้ของเรื่องนี้มันน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน” เซี่ยเฟยกล่าว

“นายกำลังจะบอกว่านายจะทำลายกฎแห่งการประดิษฐ์และเริ่มฝึกฝนใหม่ตามวิชานี้ เหมือนกับตอนที่นายละทิ้งวิชามนตราอสูรแล้วฝึกฝนมันขึ้นมาใหม่งั้นเหรอ?!” ลินนิจถามพร้อมกับถอนหายใจ

“ไม่ สิ่งที่ผมจะทำคือการบรรลุกฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นสูงสุดให้ได้ก่อน จากนั้นผมค่อยทำการฝึกฝนทั้งหมดเพื่อเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

คำตอบของเซี่ยเฟยอดที่จะทำให้ลินนิจอ้าปากค้างขึ้นมาไม่ได้ เพราะมันคงจะไม่มีใครกล้ามีความคิดบ้า ๆ แบบนี้อีกต่อไปแล้ว

การฝึกฝนกฎแห่งการประดิษฐ์จนถึงขั้นที่ 9 เท่ากับว่าพวกเขามีความสามารถมากพอที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกเกรงขาม ถึงขนาดที่เทพนักประดิษฐ์อย่างเท็มเพลสยังถูกบริษัทฟิกส์กักขังมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี เพียงแค่เท่านี้มันก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าตัวตนของเทพนักประดิษฐ์แต่ละคนมีความสำคัญมากแค่ไหน

แต่เซี่ยเฟยกลับตัดสินใจทำการฝึกฝนของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่ากฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นสูงสุดไม่ได้มีค่าสำหรับเขาเลย

เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มออกเดินทาง เซี่ยกวงไห่ที่อยู่ภายในคฤหาสน์อีวิลวิงก็ถอนหายใจออกมา

“เฮ้อ! เซี่ยเฟยเริ่มออกเดินทางแล้ว เขาคือสมาชิกเพียงคนเดียวที่สามารถกางดีม่อนวิงออกมาได้ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะต้องรับช่วงต่อจากบรรพบุรุษแท้ ๆ แต่ถึงแบบนั้นบรรพบุรุษก็ยังกล้าส่งเข้าไปทำภารกิจที่อันตรายมาก”

เนื่องมาจากเซี่ยกวงไห่เคยไปที่ดินแดนลับมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาจึงสามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวภายในนั้นได้โดยไม่มีปัญหา แน่นอนว่าที่พวกเขาพยายามตรวจสอบการเคลื่อนไหวภายในดินแดนลับเอาไว้ นั่นก็เพราะพวกเขาต้องการปกป้องดินแดนนี้เอาไว้อย่างลับ ๆ เซี่ยเฟยจะได้ไม่ต้องกังวลเมื่อเขาได้ออกไปทำภารกิจของตระกูล

“นายก็น่าจะเข้าใจว่าศักยภาพชั้นยอดมันย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง มันเป็นเพราะว่าเซี่ยเฟยคือสมาชิกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตระกูล เขาเลยจำเป็นจะต้องทำภารกิจที่ยากลำบากและอันตรายที่สุดของตระกูลด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเค่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ผมรู้เรื่องนั้นดี ผมแค่ไม่คิดว่าเราควรปล่อยให้เซี่ยเฟยเดินทางไปที่นั่นคนเดียว อย่างน้อยเขาก็ควรจะมีผู้ช่วยเดินทางไปด้วยสัก 2-3 คน” เซี่ยกวงไห่กล่าว

“ใครบอกว่าเซี่ยเฟยไปที่นั่นตัวคนเดียว เขามีทั้งขนอุย, หงส์คราม, แท่งทอง ในบรรดาผู้ช่วยของเขามันก็ไม่มีใครถือว่าอ่อนแอเลยนะ” เซี่ยเค่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยกวงไห่เม้มริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร เพราะสิ่งที่ชายชราพูดมามันก็ไม่ต่างไปจากความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

“สาเหตุที่บรรพบุรุษให้เซี่ยเฟยทำภารกิจนี้ มันไม่ใช่เพียงเพราะเขามีศักยภาพมากที่สุดและมีดีม่อนวิงแค่นั้นหรอกนะ แต่มันเป็นเพราะเขาทั้งฉลาด, โหดเหี้ยมและบ้าคลั่งไม่ต่างไปจากตัวบรรพบุรุษเอง บรรพบุรุษเลยคิดว่าเซี่ยเฟยคือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว” เซี่ยเค่อกล่าว

“ผมก็โหดเหมือนกัน ทำไมบรรพบุรุษไม่เลือกผมบ้าง?” เซี่ยกวงไห่กล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจ

“นายโหดก็จริงแต่นายไม่ได้บ้าเหมือนกับเซี่ยเฟย ที่สำคัญนายกล้าบอกว่าตัวเองฉลาดกว่าเซี่ยเฟยไหมล่ะ?” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

หลังจากใช้เข็มทิศมิติเดินทางไปบริเวณชายขอบของดินแดนกฎ เซี่ยเฟยก็เดินทางต่อโดยใช้เจมินี่ซึ่งเป็นยานรบที่รวดเร็วที่สุดในจักรวาล

ระหว่างการเดินทางชายหนุ่มพยายามฝึกฝนกฎแห่งการประดิษฐ์อย่างบ้าคลั่ง อักขระกฎตัวที่ 9 จึงถูกถักทอขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ชายหนุ่มพยายามฝ่าฟันอุปสรรคขั้นสุดท้ายอย่างไม่ยอมแพ้

คติที่ว่าหากไม่ทำลายไม่ก่อกำเนิดยังคงดังกึกก้องภายในใจของชายหนุ่มอยู่ซ้ำ ๆ และถ้าหากว่าเขาต้องการจะยืนอยู่เหนือกว่าคนอื่น เขาต้องห้ามเดินทางตามเส้นทางของคนอื่นอย่างเด็ดขาด

ตูม!

คลื่นพลังถูกระเบิดออกมาจากร่างเป็นสัญญาณว่าชายหนุ่มสามารถฝ่าฟันกฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นสูงสุดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพล้ง!

“เฮ้อ! เมื่อไหร่ฉันจะชินกับความบ้าของสกายวิงได้สักทีนะ” ลินนิจกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ เพราะอย่างแรกที่เซี่ยเฟยทำหลังจากที่ได้กลายเป็นนักประดิษฐ์ขั้นสูงสุดไม่ใช่การเฉลิมฉลอง แต่เป็นการทำลายการฝึกฝนทั้งหมดให้ป่นปี้

จากพื้นดินสู่สวรรค์ จากนั้นเขากลับเลือกกระโดดลงจากสวรรค์เพื่อมุ่งตรงสู่นรก

หากวัดตามประวัติศาสตร์เซี่ยเฟยจะต้องเป็นเทพนักประดิษฐ์ที่มีอายุสั้นที่สุดอย่างแน่นอน เพราะเขาถือครองพลังระดับเทพนักประดิษฐ์เพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้น ก่อนที่เขาจะทำลายอักขระกฎทั้งหมดลงไปโดยไม่ลังเล

จากนี้ไปเขาจะเริ่มฝึกฝนกฎแห่งการประดิษฐ์ด้วยวิธีที่บ้าคลั่งที่สุด เพราะมันไม่ใช่การฝึกฝนโดยการสร้างอีกต่อไป แต่เป็นกระบวนการย้อนกลับที่ต้องฝึกฝนด้วยการทำลายสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดแทน

หลังจากทำลายการฝึกฝนดั้งเดิมลงไปเพียงแค่ 3 วัน เซี่ยเฟยก็สามารถฝึกฝนเทคนิคมิสเทอรีมูนได้สำเร็จ

พรสวรรค์ในการเรียนรู้ของเซี่ยเฟยน่าทึ่งมาก แม้แต่ลินนิจเองก็ไม่รู้ว่าศักยภาพของชายหนุ่มจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน อย่างไรก็ตามความชื่นชมพวกนั้นมันก็หายไปในพริบตา เพราะเซี่ยเฟยเริ่มเดินทางในเส้นทางของผู้ทำลาย

ชี่!

ชุดเกราะหมื่นดาราถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ!

ชี่!

สร้อยข้อมือฟ้าคำรามถูกทำลายจนแหลกสลาย!!

ร่างกายของลินนิจสั่นกระตุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ราวกับว่าเซี่ยเฟยกำลังทำลายของรักของหวงของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สมบัติที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้ภายในแหวนมิติค่อย ๆ ถูกนำออกมาทำลายทีละชิ้น ๆ จนในที่สุดลินนิจก็ไม่สามารถทนมองภาพบาดตาบาดใจตรงหน้าได้อีกต่อไปแล้ว

“นี่นายกำลังทำบ้าอะไรอยู่?! ของพวกนั้นมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอดหมดเลยนะ”

“คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ทำลายก็ไม่ก่อกำเนิด” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างสงบ

ชี่!

ปืนใหญ่ห้วงดาราถูกทำลายลงไปอีกชิ้น!!

***************

ตรรกะปกติใช้กับพี่เฟยไม่ได้เสมอและตลอดไป 555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.