ตอนที่ 940 ดาบกลืนวิญญาณ
ตอนที่ 940 ดาบกลืนวิญญาณ
“หุบปากไปซะ!” ทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ส่งเสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้ไมล่ารู้สึกปวดหัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
โอโร่มีพลังอยู่แค่ระดับราชา ในขณะที่เซี่ยเฟยไม่มีความผันผวนของพลังงานถูกปลดปล่อยออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว คล้ายกับว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นเพียงคนธรรมดา แต่ถึงกระนั้นทั้งสองคนก็ยังกล้าตะโกนด่าจอมมารแบบเขา
เซี่ยเฟยกับโอโร่ยังคงทะเลาะกันโดยไม่สนใจไมล่าคล้าย ๆ ว่าจอมมารคนนี้เป็นเพียงก้อนหินที่บังเอิญกระเด็นมาสร้างความรำคาญให้พวกเขาเท่านั้น
ใบหน้าของไมล่าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เพราะเขากำลังรู้สึกว่าถูกทั้งสองคนดูถูก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เข้าใจว่าทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ของเซี่ยเฟย
ชายหนุ่มมีประสาทสัมผัสอันดีเยี่ยมและเขาก็มักจะเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยไหวพริบอยู่เสมอ โอโร่ที่อยู่กับเซี่ยเฟยมานานย่อมมีความเข้าใจในการกระทำของชายหนุ่มไปโดยปริยาย เพราะไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เป็นเพื่อนรู้ใจที่อยู่ด้วยกันมานานนับปี
แน่นอนว่าเซี่ยเฟยสัมผัสถึงตัวตนของไมล่าได้ตั้งนานแล้ว และเพียงแค่เขาแอบส่งสัญญาณให้กับโอโร่เบา ๆ ทั้งคู่ก็สามารถเล่นละครตบตาได้อย่างสมจริง
จากนั้นพวกเขาก็ทำเหมือนนักรบคนนี้เป็นเพียงอากาศเพื่อพยายามทำให้ไมล่ารู้สึกโกรธจนไร้สติ
ความสงบไม่ใช่คุณสมบัติที่มีในนักรบทุกคน และถึงแม้ว่าไมล่าจะมีพลังอยู่ในระดับจอมมาร แต่เขาก็ไม่ได้มีมันสมองที่สามารถติดตามเล่ห์เหลี่ยมของเซี่ยเฟยได้
“วันนี้ฉันจะฉีกพวกแกให้เป็นชิ้น ๆ” ไมล่าร้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ ก่อนที่เขาจะพุ่งตัวเข้าไปเพื่อพยายามคว้าเซี่ยเฟยกับโอโร่เอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
สาเหตุที่เขาไม่ได้ใช้ท่าสังหารออกมาโดยตรง นั้นก็เพราะเขาต้องการจะทรมานทั้งสองคนนี้ให้รู้สำนึกที่ทั้งคู่กล้ามาดูถูกจอมมารผู้แข็งแกร่งอย่างเขา ซึ่งแน่นอนว่าการพยายามคว้าจับศัตรูด้วยมือเปล่า มันคือการเคลื่อนไหวที่ดูถูกศัตรูอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกันโอโร่ก็คือราชันย์แห่งไลอ้อนฮาร์ท เขาคนนี้คืออดีตจอมมารที่มีประสบการณ์มานับไม่ถ้วน ในวันที่เขาสร้างชื่อเสียงไปทั่วทั้งจักรวาล ในตอนนั้นไมล่ายังไม่ทันได้เกิดมาลืมตาดูโลกเลยด้วยซ้ำ
แม้ว่าปัจจุบันโอโร่จะยังฟื้นฟูพลังของตัวเองกลับมาได้ไม่สมบูรณ์ แต่ประสบการณ์อันโชกโชนที่ได้หล่อหลอมเขามาย่อมทำให้เขาเป็นนักรบที่ยากรับมืออย่างแน่นอน
ส่วนทางด้านหมาป่าเดียวดายของสกายวิงก็มีความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน และถึงแม้ว่าในปัจจุบันเขาจะมีพลังไม่ถึงระดับจอมเทพ แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็มากพอที่จะสังหารจอมกฎได้แล้ว
แม้จะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเพียงลำพัง แต่เซี่ยเฟยก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถจัดการกับศัตรูคนนี้ได้ และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการที่เขารับมือกับศัตรูพร้อมกับโอโร่
ระหว่างที่ไมล่ากำลังเข้ามาใกล้ทั้งคู่อยู่นั่นเอง จู่ ๆ เซี่ยเฟยกับโอโร่ที่ยืนเถียงกันมาเป็นเวลานานก็กระโดดแยกออกจากกันคล้ายกับว่าพวกเขาตกลงกันเอาไว้ล่วงหน้า
ทั้งคู่เริ่มโจมตีขนาบข้างจากทั้งสองฟากฝั่งของไมล่าในทันที
ขนอุยกระโจนออกมาจากแขนของเซี่ยเฟย ก่อนที่ร่างกายของมันจะขยายออกอย่างรวดเร็ว
หงส์ครามเหยียดใบหญ้าทั้งหกของมันออกไป โดยทั่วทั้งใบหญ้าเต็มไปด้วยหนามแหลมและมีดอกไม้พลังงานเบ่งบานขึ้นมาอย่างแหลมคม
เนอร์วาน่าพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าคอยหาจังหวะจู่โจมศัตรูจากที่สูง
“ฆ่ามัน!” เซี่ยเฟยตะโกนพร้อมกับปล่อยพลังของกฎแห่งความโกลาหลออกมาทางฝ่ามือ
“ใช่ ฆ่ามันซะ!!” โอโร่ตะโกนขึ้นมาอย่างดุร้ายด้วยเช่นกัน
อสูรศักดิ์สิทธิ์! อาวุธมายา!” ไมล่าอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก และทันใดนั้นเขาก็ได้รู้ตัวแล้วว่าตัวเองตกหลุมพรางของนักรบคู่นี้
ไมล่าพยายามกระโดดเพื่อตอบโต้อันตรายเป็นจำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้ามา แต่เขาก็ได้ตระหนักว่าขาของเขาถูกพันธนาการด้วยใบหญ้าสีฟ้า 2 ใบโดยไม่รู้ตัว
จอมมารแห่งเผ่าอิโดซาพยายามใช้กฎแห่งแสงเพื่อจัดการกับหงส์ครามที่รัดเท้าเขาเอาไว้ แต่ในขณะนั้นขนอุยที่ร่างกายถูกล้อมรอบด้วยพลังงานก็กำลังพุ่งเข้าจู่โจมศัตรูจากทางด้านบน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมทั้งสองฟากฝั่ง ไมล่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องกางฝ่ามือฝั่งหนึ่งเพื่อรับมือกับขนอุย ขณะใช้ฝ่ามืออีกฝั่งหนึ่งเพื่อพยายามทำลายพันธนาการของหงส์คราม
ทันใดนั้นร่างของโอโร่ก็เข้าประชิดจอมมารอย่างฉับพลัน ก่อนที่เขาจะใช้หมัดที่เต็มไปด้วยพลังของกฎแห่งความมืดเล็งไปที่เอวและดวงตาของไมล่า
แม้ไมล่าจะโง่เขลาแต่เขาก็ยังคงเป็นจอมมารที่ประมาทไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็สูดอากาศเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะปล่อยลำแสงออกมาจากปากเพื่อจัดการกับโอโร่
น่าเสียดายที่ตอนที่เขากำลังจะจู่โจมเข้าใส่โอโร่อยู่นั่นเอง ร่างของเซี่ยเฟยก็ปรากฏตัวขึ้นอีกด้านพร้อมกับดาบกลืนวิญญาณเนอร์วาน่า
การโจมตีของคนกลุ่มนี้พุ่งเข้ามาเป็นชุด ไมล่าจึงต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทั่วทุกด้าน และการจู่โจมในแต่ละครั้งยังทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมอยู่เสมอ
ไมล่าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมจู่ ๆ มันถึงได้มีศัตรูที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งอย่าลืมว่าในตอนนี้แท่งทองไม่ได้เข้าร่วมการโจมตีด้วย เนื่องมาจากมันไม่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยได้ทัน และมันก็ยังเชื่องช้าเกินไปที่จะติดตามเล่ห์เหลี่ยมของชายหนุ่ม
พริบตาต่อมาการจู่โจมจากทุกทิศก็ทวีความรุนแรงขึ้นจากเดิมอย่างกะทันหัน โดยหงส์ครามได้ออกแรงรัดศัตรูจนทำให้ขาของไมล่าหัก ขนอุยเร่งความเร็วพุ่งเข้าปะทะจากด้านบนอย่างรุนแรง ฝ่ามือสีดำสนิทของโอโร่แทงเข้าไปในหัวใจของจอมมารคนนี้โดยตรง และเซี่ยเฟยก็คือคนที่เข้ามาปิดฉากชีวิตของชายชราคนนี้
เนอร์วาน่า!
อาวุธกลืนวิญญาณแบ่งร่างของจอมมารออกเป็นสองส่วน ซึ่งมันก็ไม่มีพลังงานใดที่สามารถหลบรอดไปจากอาวุธชิ้นนี้ได้ แม้แต่วิญญาณของไมล่าก็ยังถูกดูดซับเข้าไปภายในเนอร์วาน่าพร้อม ๆ กันด้วย
นี่คือการสังหารอย่างเด็ดขาดเพราะแม้แต่วิญญาณของจอมมารก็ไม่ได้มีโอกาสไปเกิดใหม่!
ตูม!
เซี่ยเฟยใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างปล่อยกฎแห่งความโกลาหลออกไปเพื่อลบร่องรอยสุดท้ายของไมล่าและทำให้ศพที่แห้งเหี่ยวของเขากลายเป็นเพียงแค่ฝุ่นผง
—
“นี่มันเยี่ยมไปเลย!!” โอโร่อุทานขึ้นมาอย่างดีใจ และถึงแม้ไมล่าจะถูกสังหารด้วยการลงมือของเซี่ยเฟย แต่อดีตจอมมารก็สัมผัสได้ว่าตัวเขาในวันนี้แข็งแกร่งกว่าตัวเขาในอดีตอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันคือราชันย์จากเผ่าไลอ้อนฮาร์ท จอมมารตัวน้อยอย่างแกกล้าดียังไงถึงได้มาขู่ฉัน!” โอโร่ร้องคำรามด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
หลังจากถูกขังภายในโลงน้ำแข็งมาเป็นเวลานานหลายล้านปี ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้เกิดใหม่แต่ต้องกลายเป็นมนุษย์ โอโร่จึงได้ใช้ไมล่าเป็นที่ระบายความอัดอั้นภายในใจของเขา
เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบโดยไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้โอโร่ระบายความโกรธของตัวเองออกมา
ในที่สุดโอโร่ก็รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันก็ต้องขอบคุณกระโถนระบายความโกรธอย่างไมล่าที่ช่วยให้เขาระบายความอัดอั้นภายในใจออกมาได้
“พวกเราไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะมีกำลังเสริมตามเขามาอีกก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าวขณะก้มหยิบแหวนมิติของไมล่าขึ้นมาจากพื้น
ในที่สุดเซี่ยเฟยกับโอโร่ก็อาศัยแท่งทองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงแค่เศษฝุ่นของผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นจอมมารที่ภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเอง
—
เผ่าอิโดซา
ทีมฝึกหนอนด้วงมิติทุกคนยังคงเตรียมพร้อมเพื่อรอให้ไมล่านำตัวแท่งทองกลับมา จากนั้นโยฟาก็จะส่งหนอนด้วงสีทองตัวนี้เข้าไปยังสถานที่ฝึกของตระกูลในทันที พร้อมกับจับแท่งทองทำพันธสัญญาให้กลายเป็นสัตว์ปีศาจใต้อาณัติของพวกเขาต่อไป
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็คือการพยายามปล้นหนอนด้วงมิติมาจากคนของสกายวิง โยฟาจึงเต็มไปด้วยความกังวล เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการพยายามรุกรานสกายวิงมันจะทำให้พวกเขาต้องพบเจอกับอะไร เขาจึงตัดสินใจนำแท่งทองไปฝึกอย่างลับ ๆ และจะไม่ให้หนอนตัวนี้ปรากฏกายเว้นแต่ว่าทางตระกูลจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากจริง ๆ
“แย่แล้วครับ! มีข่าวมาจากโถงวิญญาณว่าเมล็ดพันธุ์ของท่านไมล่าเหี่ยวเฉาลงไปแล้ว” ผู้ส่งสารของตระกูลเข้ามารายงานโยฟาอย่างหวาดกลัว
“อะไรนะ?! พูดอีกทีซิ!!” โยฟากล่าวถามด้วยใบหน้าอันซีดเซียวและศีรษะของเขาก็กำลังรู้สึกวิงเวียนจนแทบจะเป็นลม
ผู้ส่งสารเน้นย้ำเรื่องเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตที่เหี่ยวเฉาขึ้นมาอีกครั้ง และมันก็ทำให้เหงื่อเม็ดโตไหลออกมาทั่วทั้งร่างของโยฟา
จอมมารคือตัวตนอันเป็นอมตะที่สามารถกลับมาเกิดใหม่ในเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตที่พวกเขาหว่านทิ้งเอาไว้ได้ทุกเมื่อ การที่เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตเหี่ยวเฉาลงไป มันก็หมายความว่าเจ้าของเมล็ดพันธุ์ถูกศัตรูกำจัดอย่างเด็ดขาด ซึ่งวิธีการที่ศัตรูใช้ออกมานั้นก็เป็นสิ่งที่โยฟายากจะล่วงรู้ด้วยเหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ คือไมล่าไม่มีทางกลับมาเกิดใหม่ได้อีกแล้ว
การลงมือในคราวนี้ถือได้ว่าเป็นการลงมือที่โหดร้ายอย่างแท้จริง เพราะโยฟาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามันมีวิธีการอื่นในการสังหารจอมกฎ นอกเหนือจากการเข้ามาทำลายเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตของเขาคนนั้นไปโดยตรง
เหล่าบรรดาสมาชิกภายในหน่วยฝึกหนอนดูมิติต่างก็ตื่นตระหนก เมื่อทราบข่าวว่าจอมมารในเผ่าเสียชีวิตลงไปอย่างกะทันหัน
“เงียบ!” โยฟาตะโกนสั่งการเสียงดังเพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์เอาไว้
“รีบติดต่อไปหาสายลับที่อยู่แนวหน้าแล้วถามเขาเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” โยฟาตะโกนสั่งการอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามไม่กี่นาทีต่อมาสถานการณ์มันกลับดูเลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
“ท่านโยฟา พวกเราติดต่อไปหาสายลับไม่ได้ บางทีพวกเขาอาจจะถูกศัตรูกำจัดไปหมดแล้ว”
เมื่อได้ยินว่าแม้แต่สายลับก็ยังถูกกำจัด โยฟาก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง
ความเป็นจริงโอโร่มีความคุ้นเคยกับวิธีการลงมือของตระกูลอิโดซาเป็นอย่างดี สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากการสังหารไมล่าคือการค้นหาสายลับและกำจัดหน่วยสายข่าวพวกนี้ให้หมด
“ท่านโยฟาพวกเราควรจะทำยังไงกันดี?”
“รีบติดต่อไปหาผู้นำตระกูลในราชวังราชันย์เดี๋ยวนี้ รีบบอกเขาว่าสกายวิงล่วงรู้แผนการของพวกเราแล้ว” โยฟากล่าวอย่างอ่อนแรง
แน่นอนว่าโยฟาไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ฝีมือของสกายวิง แต่เป็นฝีมือของเซี่ยเฟยกับโอโร่เพียงสองคน
***************
จะประกาศสงครามกันอีกเหรอ?!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 348
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น