ตอนที่ 937 สังหารริมทะเลสาบ

-A A +A

ตอนที่ 937 สังหารริมทะเลสาบ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 937 สังหารริมทะเลสาบ

ตอนเที่ยงของเช้าวันรุ่งขึ้น การเจรจาก็มาถึงจุดสิ้นสุดอย่างแท้จริง 

ทูม่ากับคีมอก็รู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถสู้ฐานอำนาจของเซี่ยกู่เฉิงได้ หากสกายวิงเข้าร่วมกับกลุ่มกบฏพวกเขาก็จะเสียอำนาจในปัจจุบันไปอย่างแน่นอน เงื่อนไขที่พวกเขาตั้งขึ้นมาจึงเป็นสิ่งที่สกายวิงไม่มีทางจะตอบรับตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เซี่ยเฟยตระหนักถึงเหตุผลในเรื่องนี้เป็นอย่างดี และมันก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะต้องเจรจากันต่อไป เขาจึงกล่าวคำอำลาผู้นำทั้งสามของกลุ่มกบฏ ก่อนที่จะเดินออกมาจากกระโจมขนาดใหญ่

“การเจรจาเป็นยังไงบ้าง?” เทพดำถามอย่างลุ้นระทึก เพราะเขายืนรอเซี่ยเฟยอยู่หน้ากระโจมตั้งนานแล้ว

“พวกเราสกายวิงย่อมไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของใครง่าย ๆ และถึงแม้ว่าวันหนึ่งพวกเราจะไม่ได้อยู่ในดินแดนกฎอีกต่อไป แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าร่วมกับใครด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ เพราะเงื่อนไขที่ทางกลุ่มกบฏตั้งขึ้นมามันเป็นการดูถูกเหยียดหยามตระกูลของเขาชัด ๆ

เทพขาวกับเทพดำต่างก็เบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกใจ เพราะเมื่อพวกเขาได้เห็นท่าทีที่ไม่พอใจของเซี่ยเฟย ทุกคนก็สามารถสรุปได้ในทันทีว่าสกายวิงไม่มีทางที่จะได้เข้าร่วมกับกลุ่มกบฏแล้ว

นอกเหนือจากสองเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่จักรวาลนี้ยังมีกองกำลังใหญ่อีกสองกองกำลังคือกลุ่มผู้พิทักษ์และกลุ่มกบฏ อย่างไรก็ตามในบรรดากองกำลังทั้งสี่กลุ่มกบฏถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งน้อยที่สุด พวกเขาจึงต้องการชักนำสกายวิงมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับพวกเขา เพื่ออย่างน้อยกองกำลังของพวกเขาจะสามารถค้ำยันกลุ่มผู้พิทักษ์เอาไว้ได้

เซี่ยเฟยพูดตัดบทว่าเขายังมีธุระสำคัญที่ต้องกลับไปจัดการ เขาจึงกล่าวคำอำลากับพี่น้องทั้งสองคน

ทันใดนั้นคีมอที่โผล่หัวออกมาจากกระโจมก็ส่งสัญญาณให้ชายร่างกำยำเคลื่อนที่ขวางเซี่ยเฟยเอาไว้

“ในเมื่อคุณเป็นตัวแทนของตระกูลสกายวิงได้ มันก็หมายความว่าคุณจะต้องเป็นนักรบที่แข็งแกร่งมากแน่ ๆ” ชายร่างกำยำชี้นิ้วไปที่เซี่ยเฟยพร้อมกับตะโกนถามขึ้นมาเสียงดัง

“ผมไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่หรอก แต่อย่างน้อยผมก็ไม่มีทางทิ้งศักดิ์ศรีของสกายวิง” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างเย็นชา

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว! เมื่อวานนายโยนน้องชายฉันลงทะเลสาบ ถ้านายกล้าก็มาประลองกับฉันซะ” ชายร่างกำยำตะโกนพร้อมกับถุยน้ำลายลงบนพื้นอย่างหยาบคาย

เซี่ยเฟยเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะท่าทางของอีกฝ่ายต้องการจะเข้ามาหาเรื่องเขาชัด ๆ

“กอลล่า เซี่ยเฟยเป็นตัวแทนของสกายวิงและเขาก็เป็นแขกของเรา กรุณาให้เกียรติเขาด้วย” เทพดำที่ตามมาทางด้านหลังส่งเสียงตะคอกกลับไปอย่างเย็นชา

เมื่อได้เห็นท่าทางของสองพี่น้องเทพขาวดำ เซี่ยเฟยก็หันไปมองทางกระโจมของผู้นำ ทันใดนั้นเขาได้พบว่าทูม่ากับคีมอไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ซึ่งมันก็หมายความว่าความวุ่นวายนี้เป็นสิ่งที่ชายชราทั้งสองได้เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

“พวกมันต้องการสั่งสอนฉันสินะ” เซี่ยเฟยพึมพำพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมาจาง ๆ

“มีเหตุผลอะไรที่คนพวกนั้นจะมาทำให้นายโกรธ พวกเขาก็น่าจะรู้ว่าสกายวิงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะมายั่วยุได้” ลินนิจถามขึ้นมาด้วยความสับสน

“พวกเขาแค่พยายามหาเรื่องให้ฉันไม่กลับมายุ่งกับพวกเขา แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่บรรพบุรุษหยุดติดต่อกับกลุ่มกบฏ ตำแหน่งของพวกเขาก็จะอยู่รอดปลอดภัย” เซี่ยเฟยตอบกลับ

ลินนิจสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพิ่มเติม

“ฉันชื่นชมทักษะความเร็วของสกายวิงมาตั้งนานแล้ว ฉันก็แค่อยากจะชวนน้องชายคนนี้มาประลองฝีมือกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง” กอลล่ากล่าวอย่างเฉยเมย

“นี่นาย!” เทพดำตะโกนด้วยใบหน้าอันบิดเบี้ยว เพราะท้ายที่สุดเซี่ยกู่เฉิงก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นคราวนี้พวกเขาทั้งคู่ยังติดต่อสกายวิงให้มาเจรจากับกลุ่มกบฏเป็นการส่วนตัว หากกอลล่าทำอะไรลงไปมันก็เทียบเท่ากับการทำให้พวกเขาสองพี่น้องต้องแบกความรับผิดชอบในครั้งนี้ไปด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่กอลล่าต้องการคือการท้าประลอง ซึ่งมันถือว่าเป็นเรื่องปกติที่นักรบทุกคนต่างก็ทำกัน ดังนั้นถึงแม้เทพขาวดำจะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาคัดค้านการท้าประลองในครั้งนี้ได้

“ฉันรับเฉพาะการประลองที่เดิมพันด้วยความตายเท่านั้น” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา และถึงแม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ดังมากนัก แต่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มอย่างชัดเจน

การเดิมพันด้วยความตาย หมายความว่าการประลองจะยังไม่สิ้นสุดลงจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตกตายลงไปเท่านั้น ซึ่งมันเป็นการเดิมพันที่ไม่ได้ใช้กันในการประลองปกติเลยแม้แต่นิดเดียว

“ในเมื่อนายเป็นคนเสนอ ฉันก็จะเป็นคนสนองความต้องการของนายเอง” กอลล่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างยินดี เมื่อเซี่ยเฟยต้องการที่จะเดิมพันความตายกับเขา

ฟุบ!

ทันทีที่อีกฝ่ายตอบรับคำท้าเซี่ยเฟย, ขนอุย, หงส์ครามและเนอร์วาน่าต่างก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว

หงส์ครามเข้าไปพันธนาการกอลล่าเอาไว้เป็นอันดับแรก จากนั้นขนอุยก็พ่นลำแสงพลังงานออกมาจากปาก เนอร์วาน่าก็พุ่งออกไปแยกร่างของอีกฝ่ายกลายเป็นสองส่วน ก่อนที่ลำแสงพลังงานจะแผดเผาร่างของกอลล่าจนกลายเป็นผุยผง

การจู่โจมอันโหดร้ายเกิดขึ้นภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะทันได้ตั้งตัวร่างของกอลล่าก็ไม่ได้เหลืออยู่ตำแหน่งเดิมอีกต่อไปแล้ว

ทุกคนต่างก็มองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าเซี่ยเฟยจะโจมตีอย่างรวดเร็วขนาดนี้

ในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นขนอุย, หงส์ครามหรือเนอร์วาน่าก็สามารถจัดการกอลล่าได้อย่างง่ายดาย เหตุผลที่เซี่ยเฟยจู่โจมอย่างเต็มกำลัง นั่นก็เพราะเขาต้องการแสดงให้พวกกบฏได้เห็นว่าความแข็งแกร่งของสกายวิงไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ

ช็อก!

โคตรช็อก!

ภายนอกเซี่ยเฟยดูเหมือนเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาที่เขาลงมือเขากลับมีพลังไม่ต่างไปจากราชันย์กฎขั้นสูงสุด

“วันนี้ผมโชคดีที่ได้พบกับทุกคน ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกมากที่อยากจะมาขอคำแนะนำจากตระกูลสกายวิง ในเมื่อผมอยู่ที่นี่ตรงนี้แล้วใครอยากจะท้าประลองกับผมก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครก้าวเท้าเข้ามาในวงนี้ เขาคนนั้นก็เท่ากับว่ายอมรับการท้าประลองเดิมพันด้วยความตาย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะใช้หงส์ครามวาดวงกลมขึ้นมาบนพื้น

แม้คำพูดของชายหนุ่มจะฟังดูอ่อนน้อม แต่ในความเป็นจริงเขากำลังท้าทายกลุ่มกบฏทั้งกลุ่มอยู่ชัด ๆ

หนึ่งต่อกลุ่มกบฏทั้งหมด!?

การกระทำของเซี่ยเฟยไม่ใช่การกระทำของคนบ้าอีกต่อไป เพราะการเคลื่อนไหวของเขามันอยู่เหนือเกินกว่าคำว่าบ้าของคนปกติไปไกลแล้ว

“สกายวิงก็มีดีแค่เร็วเท่านั้นแหละ ฉันจะเป็นคนประลองกับนายเอง” ชายร่างเตี้ยคนหนึ่งส่งเสียงตะโกน ก่อนที่เขาจะกระโจนเข้าไปในวงกลม

“วงกลมนี้คืออาณาเขตของสกายวิง ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าย่างเท้าเข้ามา มันคนนั้นก็จะต้องตายอย่างไม่มีข้อยกเว้น!” เซี่ยเฟยตะโกนพร้อมกับปลดปล่อยจิตอสูรออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ชายหนุ่มเดินทางมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของตระกูล และถึงแม้ว่าการเจรจาจะจบลงที่ความล้มเหลว แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้สกายวิงสูญเสียศักดิ์ศรีไปอย่างเด็ดขาด

แต่สิ่งที่เซี่ยเฟยทำลงไปค่อนข้างที่จะรุนแรงเกินไปสักหน่อย เพราะช่วงเวลาเพียงแค่พริบตานักรบของทางฝั่งกบฏ 7 คนที่กล้าก้าวเท้าเข้ามาภายในวงกลมต่างก็เสียชีวิตจนไม่เหลือแม้แต่เศษซากอยู่บนพื้นด้วยซ้ำ

“คนต่อไปเชิญ” เซี่ยเฟยยกมือขึ้นมาข้างหนึ่งพร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกนักรบกบฏคนต่อไป

อย่างไรก็ตามในคราวนี้มันกลับมีเพียงแค่เสียงลมที่พัดผ่านไปเท่านั้น เพราะมันไม่มีใครกล้าที่จะออกมาท้าทายชายหนุ่มคนนี้อีกต่อไปแล้ว

หลังจากเซี่ยเฟยดูดซับพลังงานจากชิ้นส่วนอาร์คเข้าไป สมองของเขาก็ถูกปิดผนึกจากการสำรวจภายนอกโดยสิ้นเชิง ในสายตาของคนอื่นชายหนุ่มจึงดูไม่ต่างไปจากคนทั่วไป และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงสร้างความตกตะลึงได้ทุกเมื่อทันทีที่เขาเลือกจะลงมือ

ข้อเท็จจริงจากการสูญเสียชีวิตนักรบทั้งเจ็ดคนได้พิสูจน์แล้วว่าหากผู้ที่ต้องการจะท้าประลองไม่ใช่จอมกฎ มันก็ไม่มีนักรบคนไหนมีความสามารถที่จะท้าทายเซี่ยเฟยได้เลย

ทุกคนเคยได้ยินมานานแล้วว่านักรบสกายวิงมีพลังการต่อสู้เหนือเกินกว่าระดับของตัวเอง เพียงแต่ความสามารถในการต่อสู้ก้าวข้ามระดับของเซี่ยเฟย มันเหนือล้ำกว่าจินตนาการของคนอื่นมากเกินไป

อย่าลืมว่าในตอนนี้ชายหนุ่มเป็นเพียงแค่จักรพรรดิระดับสูงสุดเท่านั้น แต่เขากลับสามารถสังหารนักรบระดับราชันย์ได้ถึง 7 คนติดต่อกัน ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตาของตัวเอง พวกเขาก็คงจะไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยไม่สามารถจะนำไปเทียบเป็นตัวแทนของนักรบสกายวิงได้ เพราะหมาป่าเดียวดายคนนี้แตกต่างจากนักรบคนอื่น ๆ ในตระกูลอย่างสิ้นเชิง

ตัวช่วยภายในมือของเขาเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่ใช่จะครอบครองได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น

อสูรศักดิ์สิทธิ์ขนอุย!

อาวุธมายาหงส์ครามที่ผ่านการหลอมรวมอาวุธชิ้นอื่นมาแล้วถึง 4 ชิ้น!

กฎแห่งความโกลาหลซึ่งเป็นพลังที่สามารถจะพลิกผันทุกสิ่งในจักรวาล!

ชุดเกราะอาชูร่า สุดยอดผลงานของเท็มเพลส ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งกาจที่สุดของบริษัทฟิกส์!

และท้ายที่สุดคือเนอร์วาน่าอาวุธกลืนวิญญาณเพียงชิ้นเดียวที่มีอยู่ภายในจักรวาลแห่งนี้!!

ด้วยตัวช่วยทั้งหมดที่พูดมาประกอบกับความสามารถของเซี่ยเฟย มันก็อย่าว่าแต่การสังหารเจ็ดครั้งติดต่อกันเลย เพราะถึงแม้ศัตรูจะเข้ามาอีก 700 คนแต่เขาก็สามารถสังหารศัตรูทั้งหมดได้อย่างแน่นอน

ทูม่าและคีมอต่างก็เผยสีหน้าออกมาอย่างน่าเกลียด เพราะตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะสั่งสอนเซี่ยเฟยให้รู้สำนึก และให้ชายหนุ่มกลับไปยังตระกูลด้วยความอับอาย แต่ใครจะไปรู้ว่าสถานการณ์กลับกลายเป็นเซี่ยเฟยสร้างความอับอายให้กับพวกเขาแทน

มันจะขายขี้หน้าเกินไปแล้ว!!

ทูม่ากับคีมออยากจะออกไปจัดการกับเซี่ยเฟยด้วยตัวเอง แต่การทำแบบนั้นมันก็จะยิ่งทำให้พวกเขาขายขี้หน้ามากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อไม่เห็นว่ามีใครกล้าเข้ามาท้าทายเขาอีกแล้ว เซี่ยเฟยก็เก็บหงส์ครามเข้ามาในแขนขวา ขณะที่ขนอุยกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของชายหนุ่ม แต่ถึงกระนั้นมันก็พร้อมที่จะกระโดดออกมาสังหารศัตรูที่เข้ามาได้ทุกเมื่อ

“ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่อยากได้รับคำแนะนำจากผมแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างสุภาพขณะหันไปมองผู้คนโดยรอบ

ชายชราทั้งสามที่แอบอยู่ในกระโจมสะดุ้งตกใจขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้ารับด้วยความอับอาย

“จำเอาไว้ฉายาของพวกเราคือดาบคลั่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่ดาบคลั่งถูกชักออกจากฝัก ไม่ว่าใครก็จะถูกพวกเราสังหารลงทั้งหมด!” เซี่ยเฟยทิ้งสโลแกนประจำตระกูลเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินจากไปอย่างเย่อหยิ่ง

***************

ทิ้งคำคมไว้แบบหล่อ ๆ แล้วเดินจากไป อิอิ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.