ตอนที่ 921 เสริมพลังให้กับดินแดนลับ

พลังงานภายในร่างของแท่งทองเกิดอาการผันผวนขึ้นมาอย่างรุนแรง ซึ่งมันก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่าอาการนี้เป็นอาการที่แย่หรืออาการที่ดี แต่โดยสรุปผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ร่างกายของมันสั่นสะท้านขึ้นมา

ไม่กี่นาทีต่อมาแท่งทองก็ส่งเสียงเรอออกมาดังลั่น จากนั้นมันก็ส่งรอยยิ้มให้เซี่ยเฟยอย่างไร้เดียงสา โดยไม่เหลือภาพของหนอนด้วงมิติอันดุร้ายในก่อนหน้านี้เลย

อย่างไรก็ตามชายหนุ่มกลับจับจ้องมองไปยังแท่งทองด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง เพราะในช่วงไม่กี่นาทีที่ผ่านมาหนอนด้วงมิติตรงหน้ากลับเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ดวงตากลมโตของมันถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน พื้นที่บริเวณปากที่เคยอยู่บริเวณหน้าท้องก็ขยับไปอยู่ด้านหน้าของศีรษะ บริเวณด้านหลังของมันเต็มไปด้วยขนสีทองอันอ่อนนุ่ม ซึ่งชายหนุ่มก็คิดว่าการไปนั่งบริเวณนั้นคงจะทำให้เขารู้สึกสบายตัวมาก

แท่งทองกำลังวิวัฒนาการ!

หลังจากกลืนกินลูกแก้วจากร่างของโกลเดนไลท์เข้าไป แท่งทองก็มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างฉับพลัน จากตอนแรกที่มันเป็นเพียงแค่หนอนด้วงมิติวัยเด็ก แต่ตอนนี้มันได้เติบโตจนกลายเป็นหนอนด้วงมิติวัยรุ่นแล้ว

เมื่อเทียบกับการเติบโตอันเชื่องช้าของขนอุย การเติบโตอันรวดเร็วของแท่งทองย่อมทำให้เซี่ยเฟยมีความสุขกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“ทำได้ดีมาก! ดูเหมือนลูกแก้วนั้นมันจะช่วยทำให้นายวิวัฒนาการขึ้นสินะ” เซี่ยเฟยตบศีรษะแท่งทองเบา ๆ อย่างตื่นเต้น

แท่งทองพยักหน้าอย่างดีใจพร้อมกับมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยดวงตาที่แยกออกมาเป็น 2 ดวง

“เอาล่ะนายพักผ่อนก่อนเถอะ ก่อนหน้านี้นายทำงานหนักมานานมากแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าว

อี๊ด!

แท่งทองส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับพยายามขยับกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายราวกับมันพยายามบอกชายหนุ่ม 

“ว่าตอนนี้ร่างกายของมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกำลัง และความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่มีในก่อนหน้านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่หายไปเป็นปลิดทิ้ง”

“โอเค ๆ ฉันเข้าใจแล้ว พวกเราออกเดินทางกันต่อก็ได้ แต่นายจะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองเป็นอันดับแรก เข้าใจไหม?” เซี่ยเฟยพยายามอธิบาย

แท่งทองพยักหน้าซ้ำ ๆ เพราะหลังจากที่มันวิวัฒนาการ แม้ว่ามันจะต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์เหมือนโกลเดนไลท์อีกครั้ง แต่มันก็มีความมั่นใจว่ามันจะสามารถจัดการกับศัตรูตามลำพังได้

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมุดเข้าไปภายในปากของแท่งทองอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าการช่วยชีวิตหนอนน้อยโดยบังเอิญในวันนั้นจะทำให้เขามีสหายที่ภักดีในวันนี้

ช่องว่างมิติเป็นปรากฏการณ์มิติบิดเบือนอันแปลกประหลาด นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตที่เติบโตภายในช่องว่างมิติแห่งนี้แล้ว มันยังมีน้อยคนนักที่จะมีความเข้าใจว่าพื้นที่อันซับซ้อนในบริเวณนี้จะนำทางพวกเขาไปสู่ที่ไหน

ในฐานะที่แท่งทองคือหนอนด้วงมิติที่เติบโตขึ้นมาภายในช่องว่างมิติตั้งแต่เกิด มันจึงมีความคุ้นเคยกับช่องว่างมิติตามธรรมชาติ การมีพันธมิตรเป็นหนอนด้วงมิติจึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเซี่ยเฟยมาก เพราะไม่ว่าเขาจะหลงไปที่ไหนเขาก็สามารถเรียกแท่งทองออกมารับเขากลับไปได้ทั่วทุกที่

นอกจากนี้ทั่วทั้งดินแดนเทพยังมีผู้ที่ครอบครองหนอนด้วงมิติอยู่เพียงแค่ไม่กี่คน และมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงหนอนด้วงมิติกลายพันธุ์อันแข็งแกร่งอย่างแท่งทองเลย 

ด้วยเหตุนี้การเป็นพันธมิตรกับแท่งทองจึงไม่เพียงแต่จะเอื้ออำนวยผลประโยชน์ให้กับเซี่ยเฟยเท่านั้น แต่มันยังเอื้ออำนวยผลประโยชน์ให้กับตระกูลสกายวิงทั้งตระกูลด้วย

เมื่อคิดถึงความภักดีและผลประโยชน์ที่แท่งทองจะนำมาในอนาคต เซี่ยเฟยก็ได้ใช้วิญญาณพิทักษ์สวรรค์ในการคุ้มครองร่างของมันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปภายในสถานีวิจัยลับ

ภายในห้องควบคุมหลักพวกเท็ดดี้กำลังยืนรออย่างตื่นเต้น เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็เพิ่งจะได้รับอิสรภาพกลับคืนมา ซึ่งอิสรภาพครั้งนี้ต้องขอบคุณทั้งเซี่ยเฟยและแท่งทอง

“ตัวเมื่อกี้มันคือโกลเดนไลท์ในตำนานใช่ไหม? ฉันเคยได้ยินเรื่องของมันมาก่อน แต่ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้มาเห็นมันด้วยตาของตัวเอง” 

“อีกอย่างดูเหมือนว่านายจะแข็งแกร่งมากเลยนะ ถึงขนาดสังหารโกลเดนไลท์ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าหลังจากนี้อาชูร่าจะติดตามนายไปแต่มันก็คุ้มค่ากับเวลาตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่ฉันได้ทุ่มเทสร้างมันขึ้นมาแล้ว” เท็มเพลสกล่าวอย่างตื่นเต้น

“ชุดอาชูร่ามันแปลก ๆ ไปหรือเปล่าครับ? ถึงแม้การสวมใส่มันจะช่วยให้พลังการต่อสู้ของผมดีขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกคลั่งมากกว่าเดิมจนต้องจัดการกับศัตรูทั้งหมดถึงจะระบายความอัดอั้นภายในใจออกไปได้” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงความรู้สึกในตอนที่เขากำลังต่อสู้

เมื่อได้ยินคำอธิบายของเซี่ยเฟยทั้งเท็ดดี้และยาบูริต่างก็หันไปมองเท็มเพลสพร้อมกัน

“ฟังคำอธิบายของฉันก่อน อาชูร่ามันสร้างขึ้นมาจากแร่แบล็คสตาร์ที่จะช่วยเร่งจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง ความจริงถ้าหากว่าคาวิสไม่ได้บังคับให้ฉันใช้โลหะนี้ ฉันก็คงจะไม่มีวันไปแตะต้องมันอย่างเด็ดขาด” เท็มเพลสพยายามแก้ไขเรื่องเข้าใจผิด

“ทำไมคุณถึงไม่บอกผมก่อน โชคดีที่ผมควบคุมสติได้ค่อนข้างดี ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้ผมคงจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“เมื่อกี้เขาบอกว่าเขาคุมตัวเองได้แล้วงั้นเหรอ?” เท็ดดี้กับยาบูริพึมพำขึ้นมาเบา ๆ

“ก่อนหน้านี้นายรีบเดินทางมากเกินไป ฉันเลยอธิบายข้อบกพร่องของมันให้นายฟังไม่ทัน เท่าที่ฉันสังเกตดูผลของชุดอาชูร่ายังไม่ได้แสดงพลังออกมาอย่างเต็มที่  เหมือนกับมีอะไรบางอย่างไประงับความบ้าคลั่งของมันเอาไว้” เท็มเพลสกล่าวพร้อมกับยักไหล่

“มีอะไรบางอย่างไประงับความบ้าคลั่งของมันเอาไว้งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“ชุดเกราะชุดนี้มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง พวกมันจะยอมจำนนต่อนักรบที่บ้าคลั่งกว่าพวกมันเท่านั้น นายที่มีความคลั่งมากกว่ามันเลยทำให้มันไม่จำเป็นจะต้องแสดงพลังทั้งหมดของตัวเองออกมา ตราบใดก็ตามที่นายฝึกใช้มันมากพอวันหนึ่งนายย่อมควบคุมพลังของมันได้ราวกับว่านายกำลังใช้พลังของตัวเอง” เท็มเพลสกล่าว

เซี่ยเฟยกรอกตาไปทางเท็มเพลสอย่างปวดหัว เพราะชายชราเหมือนกำลังต่อว่าว่าเขาเป็นคนบ้ายิ่งกว่าชุดเกราะ

แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงชอบชุดเกราะอาชูร่ามากอยู่ดี เพราะมันเป็นชุดเกราะที่ช่วยขยายพลังของจิตอสูรภายในใจของเขาได้ ตราบใดก็ตามที่เขาไม่เสียสติจากการใช้พลังนี้ มันก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับเขาอย่างเห็นได้ชัด

เท่าที่เท็มเพลสได้บอกมาชุดเกราะชุดนี้คือชุดเกราะระดับจอมเทพ แล้วมันก็เป็นชุดเกราะที่ดีที่สุดเท่าที่เขาสามารถที่จะสร้างขึ้นมาในตอนนี้ได้แล้ว

แน่นอนว่าอุปกรณ์ระดับจอมมาร, อุปกรณ์ระดับจอมเทพขั้นสูงและอุปกรณ์ระดับจอมเทพขั้นสูงสุดก็เช่นกัน การสร้างอุปกรณ์เหล่านั้นขึ้นมาจำเป็นจะต้องใช้ทรัพยากรมากเกินไป และมันก็จำเป็นจะต้องใช้เทพนักประดิษฐ์หลายคนร่วมมือกันในการสร้างสรรค์พวกมันขึ้นมา

การได้ครอบครองชุดเกราะระดับจอมเทพตั้งแต่ที่เขามีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสูงย่อมช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย ย้อนกลับไปในตอนที่เขาถูกยูลานจู่โจมด้วยพลังแห่งความมืด ชุดเกราะชุดนี้ก็สามารถปกป้องร่างกายของเขาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เขาจึงสามารถทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปกับการตอบโต้ศัตรูได้อย่างง่ายดาย

การมีความได้เปรียบในด้านอุปกรณ์ย่อมทำให้เขามีความได้เปรียบในระหว่างการต่อสู้ด้วยเช่นกัน และเมื่อมันได้รวมกับพลังของกฎแห่งความโกลาหลและพลังของหงส์คราม มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงสามารถสังหารนักรบระดับราชันย์ขั้นที่ 5 ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

“ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกันงั้นเหรอ?” เท็ดดี้กล่าวถาม

“เรื่องนี้ผมไม่กล้าตัดสินใจคนเดียวหรอกครับ ผมคงต้องปรึกษากับพวกคุณทั้งสามคนก่อน พวกคุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าบริษัทฟิกส์มีเส้นสายอยู่ทั่วทั้งดินแดนกฎ หากพวกคุณกลับไปผมก็เกรงว่าพวกคุณคงจะตกอยู่ในเงื้อมมือของบริษัทฟิกส์อีกครั้ง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“ตอนนี้ครอบครัวของฉันก็ไม่อยู่แล้ว พูดตามตรงว่าฉันก็ไม่มีที่ให้กลับไปเหมือนกัน” เท็มเพลสกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

ทันทีที่เท็มเพลสพูดจบชายชราทั้งสองก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาด้วยเช่นกัน เพราะในระหว่างที่บริษัทฟิกส์จับตัวพวกเขามา บริษัทอันเหี้ยมโหดนี้ได้ทำการฆ่าล้างสังหารครอบครัวของพวกเขาทั้งหมด ไม่ต่างไปจากเผ่าจักรกลของลินนิจที่ถูกกวาดล้าง

เซี่ยเฟยพยายามพูดเกลี้ยกล่อมและถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนช่วยเหลือชายชราทั้งสามคนออกมา แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเรียกร้องให้ทุกคนตอบแทนบุญคุณ เพียงแต่เขาพยายามหาทางออกให้ชายชราทั้งสามคนแทน

คนที่เพิ่งได้รับอิสรภาพกลับมาจะรู้สึกกลัวอะไรมากที่สุด?

แน่นอนว่าสิ่งที่ชายชราทั้งสามคนนี้รู้สึกกลัวมากที่สุดคือการถูกบริษัทฟิกส์จับตัวไปคุมขังอีกครั้ง

มีเพียงผู้ที่เคยสูญเสียอิสรภาพไปเท่านั้นถึงจะเข้าใจถึงอิสรภาพที่แท้จริง ซึ่งเซี่ยเฟยตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงต้องการปล่อยให้ชายชราทั้งสามตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง

แม้ว่าเซี่ยเฟยจะยังเด็กมากแต่เขาก็ได้ศึกษาพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดมาอย่างถี่ถ้วน ชายชราทั้งสามคนนี้จึงไม่รู้เลยว่าเซี่ยเฟยกำลังใช้หลักจิตวิทยาในการชักจูงพวกเขาไปอยู่ด้วย

ชายชราทั้งสามกำลังตกอยู่ในสถานการณ์มืดแปดด้านอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับอิสรภาพกลับคืนมา แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ตัวเองจะต้องทำอะไรต่อไป

“เซี่ยเฟย นายเป็นคนช่วยพวกเราไว้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราทั้งสามคนก็จะติดตามนายไปก็แล้วกัน ตราบใดก็ตามที่พวกเรายังคงใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเราจะต้องอยู่ที่ไหน” เท็มเพลสกล่าวเป็นตัวแทนจากชายชราทั้งสามคน

เท็ดดี้กับยาบูริต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะในตอนนี้พวกเขาไม่มีใครให้พึ่งพาแล้วจริง ๆ

“ความจริงแล้วผมก็พอจะมีแผนอยู่บ้าง” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

“ไหนลองพูดแผนของนายออกมาหน่อย?” เท็ดดี้กล่าว

“ตอนนี้พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังดินแดนลับ มันเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยอิสระ พวกคุณสามารถพักผ่อนอยู่ที่นั่นได้อย่างอิสระจนกว่าพวกคุณจะอยากไปที่อื่น” เซี่ยเฟยกล่าว

ชายหนุ่มพยายามเน้นคำว่าอิสระมากเป็นพิเศษ เพราะสิ่งที่ชายชราทั้งสามคนนี้กำลังโหยหามากที่สุดนั่นก็คืออิสระ แน่นอนว่าทั้งสามคนให้ความสนใจข้อเสนอของเซี่ยเฟยในทันที และพวกเขาก็เริ่มถามถึงรายละเอียดของดินแดนลับ

เซี่ยเฟยอธิบายเรื่องต่าง ๆ ภายในดินแดนลับออกไปอย่างอดทน จนทำให้ใบหน้าของปรมาจารย์ทั้งสามเปล่งประกายขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“พวกคุณคงไม่รู้ แต่ความจริงแล้วผมเป็นคนของตระกูลสกายวิง” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ

“สกายวิง!?”

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมความเร็วของนายถึงน่าทึ่งมากขนาดนั้น ที่แท้นายก็เป็นคนจากตระกูลสกายวิงที่มีชื่อเสียงนี่เอง”

ชายชราทั้งสามต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะสกายวิงมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน พวกเขาจึงรู้จักชื่อเสียงของตระกูลนี้เป็นอย่างดี

“พวกคุณทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นปรมาจารย์ระดับแนวหน้าในจักรวาล และพวกเราสกายวิงต่างก็รักษาคำพูดเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ตราบใดก็ตามที่ผมยังอยู่ผมขอสัญญาว่าจะไม่มีใครจับตัวพวกคุณกลับไปได้” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

คำพูดนี้คือสิ่งลวงใจชายชราทั้งสามคนเป็นอย่างมาก พวกเขารู้ดีว่าแม้ในยามปกติสกายวิงจะเต็มไปด้วยอิสระแต่พวกเขาก็ยึดมั่นในหน้าที่ของตัวเอง คนของสกายวิงทุกคนต่างก็ล้วนแต่ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี การถูกปกป้องโดยตระกูลที่มีชื่อเสียงตระกูลนี้จึงไม่ต่างไปจากความฝัน

ในเวลาเพียงแค่ไม่นานปรมาจารย์เท่าทั้งสามคนก็ถูกชายหนุ่มล่อลวงโดยสมบูรณ์ และพวกเขาก็พร้อมที่จะติดตามเซี่ยเฟยไปจนสุดทาง

เมื่อเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ของบริษัทฟิกส์ วิธีการของเซี่ยเฟยมีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่เพียงแต่เขาจะใช้งานชายชราทั้งสามได้เท่านั้น แต่เขายังเอาชนะใจชายชราทั้งสามคนนี้ได้อีกด้วย

เมื่อดินแดนลับได้รับการเสริมพลังจากปรมาจารย์ทั้งสามคน ประกอบกับการกลับมาของราชาเผ่าจักรกล มันก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนี้ดินแดนลับจะเพิ่มประสิทธิภาพไปได้ไกลแค่ไหน

—

หลังจากจัดการเรื่องชายชราทั้งสามคนแล้ว เซี่ยเฟยก็มุ่งหน้ากลับมายังห้องขังหมายเลข 1 เพราะลินนิจยังไม่ได้ติดต่อเขามาเลย มันจึงทำให้เขารู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย

“ลินนิจ คุณโอเคไหม?” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงแม้ว่าเขาจะตะโกนออกไปมากกว่า 3 ครั้ง แต่มันกลับไม่มีสัญญาณใดตอบกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว

 

---