ตอนที่ 864 สังหารจักรพรรดิภายใต้ดาบเดียว

เซี่ยเฟยพุ่งต่อไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า คว้าร่างของหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้อย่างฉับพลัน อย่างไรก็ตามแม้ว่าหญิงสาวคนนั้นจะพยายามเผยรอยยิ้มออกมา แต่มันก็ไม่สามารถปิดบังอาการบาดเจ็บบนร่างของเธอได้

“เสี่ยวหยู! ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?!” เซี่ยเฟยรีบใช้แขนเสื้อของเขาเช็ดเลือดบริเวณมุมปากของหญิงสาว

สาเหตุที่อาคารนี้ถูกแบ่งแยกออกเป็น 4 ชื่อ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นพื้นที่ที่มีการแบ่งสัดส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณนี้คืออาคารธันเดอร์ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจักรพรรดิ เซียวรั่วหยูที่เพิ่งจะมีพลังในระดับราชาเพียงแค่ไม่นานจึงไม่ควรจะมาอยู่ในอาคารแห่งนี้ได้เลย

หญิงสาวไม่พูดอะไรแต่เหลือบสายตามองออกไปอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นฝาครอบสนามประลองก็ถูกเปิดออกพร้อมกับมีหญิงสาว 3 คนยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่เย็นชา 

หนึ่งในหญิงสาวเหล่านั้นคือจักจั่นขาวที่เซี่ยเฟยเคยพบมาก่อน ส่วนผู้หญิงอีกสองคนก็เป็นคนที่เซี่ยเฟยไม่เคยเห็นหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว

“แกเป็นใคร? อย่ามาแตะต้องเธอนะ!” หญิงสาวในชุดสีแดงตะคอกออกมาอย่างเย็นชา คล้ายกับว่าเธอไม่พอใจที่เซี่ยเฟยมาแตะต้องร่างกายของเซียวรั่วหยู

ตูม!

ชายหนุ่มสะบัดแขนขวาออกไปด้วยความโกรธ ก่อให้เกิดหงส์ครามที่จู่โจมออกไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้หญิงสาวชุดแดงถูกกระแทกออกไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

ร่างของหญิงสาวชุดแดงฝังเข้าไปในกำแพงโดยตรง พร้อมกับใบหญ้าทั้งห้าที่กำลังหันหน้าเข้าใส่เธออย่างดุร้าย ตราบใดก็ตามที่ชายหนุ่มออกคำสั่งไม่ว่าหญิงสาวคนนี้จะสวยแค่ไหน แต่ร่างของเธอก็จะถูกฉีกกระชากออกจากกันเป็นชิ้น ๆ

“หงส์คราม! นายคือเซี่ยเฟยจากสกายวิง” หญิงสาว 1 ใน 4 ผู้ซึ่งมีร่างสีทองอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ขณะเดียวกันคิ้วของเธอก็ขมวดเข้าด้วยกันด้วยความหวาดกลัวเมื่อเธอได้พูดถึงตระกูลสกายวิง

เมื่อมีคำว่าสกายวิงทุกคนก็หยุดประลองในทันที ก่อนที่จะรีบวิ่งมาดูเหตุการณ์นี้อย่างสนุกสนาน มีเพียงจักจั่นขาวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเฟยกับเซียวรั่วหยู

“ฝากดูแลเธอด้วย” เซี่ยเฟยพยักหน้าให้กับหญิงสาวในอ้อมแขนเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมอบเธอให้เฝิงซินเหนียนกับหลางซุนเย่ที่อยู่ด้านหลังคอยดูแล

พริบตาต่อมาจิตสังหารภายในร่างของเขาก็ถูกระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะเหลือบสายตามองไปยังหญิงสาวตรงหน้าทีละคน

“ใจเย็น ๆ มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้” เฝิงซินเหนียนพยายามก้าวเท้าเข้ามาหยุดความโกรธของสหายเอาไว้

เซี่ยเฟยยกมือขึ้นมาปิดกั้นสหายของเขาเอาไว้เบา ๆ แต่เฝิงซินเหนียนกลับพบว่าแขนเพียงข้างเดียวนั้นกลับมีความแข็งแรงราวกับกำแพงเหล็ก จนทำให้เขาไม่สามารถต่อต้านกำลังของเซี่ยเฟยได้เลย

“แกคือคนทำร้ายเสี่ยวหยูใช่ไหม?” เซี่ยเฟยยกแขนชี้ขึ้นไปทางจักรพรรดิกฎคนเดียวภายในกลุ่มผู้หญิงที่เหลืออีกสองคน

ทั้งจักจั่นขาวและหงส์แดงต่างก็มีพลังสูงกว่าเซียวรั่วหยูไม่มากนัก ยิ่งไปกว่านั้นพลังของเซียวรั่วหยูยังเป็นพลังประเภทผู้พิทักษ์ที่ยากจะทำลายได้ง่าย ๆ ข้อสรุปเพียงหนึ่งเดียวคือจักรพรรดิกฎจะต้องเป็นคนลงมือ ไม่อย่างนั้นเซียวรั่วหยูก็ไม่มีทางจะได้รับบาดเจ็บจนถึงระดับนี้

“ใช่ ฉันอยากจะลองดูการป้องกันของอเมทิสต์การ์ด ฉันจึงขอให้จักจั่นขาวกับหงส์แดงพาตัวเธอมา ใครจะไปคิดว่าพลังป้องกันในตำนานจะเปราะบางถึงขนาดนั้น สาเหตุที่เธอได้รับบาดเจ็บมันไม่ได้เป็นเพราะฉัน แต่มันเป็นเพราะว่าเธออ่อนแอมากเกินไป อีกอย่างถึงยังไงเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นในการประลอง อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว” จักรพรรดิกฎสาวตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

หญิงสาวคนนี้มีท่าทางทะมัดทะแมงมากและถ้าหากว่ามันไม่ใช่หน้าอกที่นูนขึ้นมา เธอก็อาจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายได้เลย

ความจริงแล้วหญิงสาวคนนี้มีชื่อว่าฮันนี่จากเผ่าการาน ในทุก ๆ เดือนเธอจะเดินทางมายังอาคารแห่งนี้เพื่อหาใครสักคนเป็นผู้ฝึกให้กับเธอเหมือนกับอัจฉริยะคนอื่น ๆ

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฮันนี่มาหาคู่ท้าประลองตามปกติ ก่อนที่เธอจะได้พบกับจักจั่นขาวกับหงส์แดงนอกอาคาร และได้พบว่าเซียวรั่วหยูซึ่งเป็นสาวใช้ของทั้งคู่มีพลังอเมทิสต์การ์ดที่หาได้ยาก เธอจึงยืนกรานอยากจะขอท้าประลองกับเซียวรั่วหยูแม้ว่าพลังของทั้งสองฝ่ายจะแตกต่างกันมากก็ตาม 

เนื่องมาจากหงส์แดงไม่ใช่เจ้านายของเซียวรั่วหยูโดยตรง เธอจึงไม่คิดจะใส่ใจอาการบาดเจ็บของสาวใช้รายนี้อยู่แล้ว ส่วนจักจั่นขาวก็คิดว่ามันเป็นการประลองธรรมดา เธอจึงไม่ได้มีความคิดที่จะคัดค้านด้วยเช่นกัน

แต่ใครจะไปคิดว่าการโจมตีของฮันนี่จะรุนแรงมากจนทำให้เซียวรั่วหยูได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว เหตุการณ์นี้จึงกระตุ้นความโกรธของเซี่ยเฟยขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และนำมาซึ่งเหตุการณ์ในปัจจุบัน

ผู้หญิงในตระกูลสโนว์ดริฟท์ไม่ค่อยจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เมื่อเซี่ยเฟยพุ่งตัวเข้ามาคว้าร่างของเซียวรั่วหยูไว้ เธอจึงส่งเสียงตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณ แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวโดยไม่ดูตาม้าตาเรือของเธอมันก็ทำให้ชายหนุ่มจับร่างของเธอฝั่งเอาไว้กับกำแพง

เซี่ยเฟยหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับจิตสังหารที่พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ฟุบ!

ทันใดนั้นชายคนหนึ่งที่มีพลังในระดับจักรพรรดิก็ปรากฏตัวขึ้นมาฝั่งตรงข้ามของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อบดบังฮันนี่ที่อยู่ด้านหลัง

ชายคนนี้คือฮันเตอร์พี่ชายของฮันนี่ที่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นเมื่อเขาได้เห็นเซี่ยเฟยคุกคามน้องสาว เขาจึงรีบปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อปกป้องคนของตัวเองเอาไว้

“คุกเข่าขอโทษเธอซะ!” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง

“นี่แกกล้าพูดแบบนั้นกับพวกเราเหรอ?!” สองพี่น้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ ขณะที่เฝิงซินเหนียนที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกำลังมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาทั่วทั้งร่างร่างกาย

เซียวรั่วหยูพยายามเอื้อมมือออกไปดึงแขนเสื้อของเซี่ยเฟยเพื่อเกลี้ยกล่อมไม่ให้ชายหนุ่มสร้างปัญหา แต่หลางซุนเย่กลับคว้าเธอไว้แล้วลากตัวเธอออกไปในระยะไกลพร้อมกับส่ายหัวไปมาซ้ำ ๆ

“ตอนนี้มันสายไปแล้ว ฉันคิดว่าไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหยุดยั้งเซี่ยเฟยได้ทั้งนั้น”

“คุกเข่าลงขอโทษซะ!” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอีกครั้งด้วยแววตาที่เย็นชา

“สกายวิงมีแต่พวกบ้าสินะ ถ้าฉันไม่ขอโทษแล้วมันจะทำไม?!” ฮันนี่ตอบกลับอย่างเยาะเย้ย

“ถ้าแกขอโทษแกจะตายเพียงคนเดียว แต่ถ้าพวกแกไม่ขอโทษพวกแกทั้งสองคนก็จะต้องตายไปพร้อมกัน” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง

ท่าทางของเซี่ยเฟยเต็มไปด้วยความโกรธและมันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่า คู่ต่อสู้ของเขาในขณะนี้จะเป็นสองพี่น้องที่มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎ

พี่น้องตระกูลฮันต่างก็สะดุ้งในทันที ก่อนที่ฮันเตอร์จะชี้นิ้วไปยังป้ายธันเดอร์ด้านบนอาคาร

“แหกตาดูซะ! ที่นี่คืออาคารธันเดอร์ มันเป็นที่ที่เอาไว้ให้จักรพรรดิกฎต่อสู้กัน ถ้าแกอยากท้าทายพวกเรา 2 พี่น้อง อย่างน้อยก็กลับไปฝึกให้มีพลังถึงระดับจักรพรรดิซะ!!” ฮันเตอร์กล่าวออกมาอย่างเย่อหยิ่ง จนทำให้แม้แต่หลางซุนเย่ที่อยู่ด้านหลังก็ยังรู้สึกโกรธจากคำดูถูกที่อีกฝ่ายแสดงออกมา

“เรื่องแรกคือฉันไม่ได้ต้องการท้าประลองกับพวกแก แต่ฉันต้องการที่จะฆ่าพวกแกต่างหาก ส่วนเรื่องที่ 2 คือฉันมีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก

ฟึ่ม!

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ไม่ได้กักเก็บพลังของตัวเองเอาไว้อีกต่อไป ก่อนที่เขาจะระเบิดจิตสังหารออกมาด้วยพลังทั้งหมด

แรงกดดันอันมหาศาลแพร่กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่อย่างรวดเร็ว และแม้แต่คนที่อยู่บริเวณมุมอาคารก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังของเซี่ยเฟยอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎจริง ๆ

เฝิงซินเหนียนกับหลางซุนเย่มองไปยังภาพตรงหน้าและอ้าปากค้าง เพราะท้ายที่สุดผู้ที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ 4 มังกรทะยานฟ้าเมื่อเช้ามันก็คือเซี่ยเฟยนั่นเอง

ฟุบ!

ร่างของชายหนุ่มพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างฉับพลัน ก่อนที่บลัดบิวเทียสภายในมือจะถูกเสือกแทงออกไปยังฮันเตอร์

ในเวลาเดียวกันฮันเตอร์ก็เป็นถึงจักรพรรดิกฎผู้แข็งแกร่ง และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความเร็วเท่ากับเซี่ยเฟย แต่เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่เชื่องช้าเช่นเดียวกัน เขาจึงรีบระเบิดพลังออกไปเพื่อต่อต้านการโจมตีของศัตรู

เกลเบรคเกอร์!

ชายหนุ่มดันฝ่ามือทั้งสองข้างไปด้านหน้าพร้อมกับปลดปล่อยพลังสายลมอันรุนแรงเข้าใส่เซี่ยเฟย

พลังนี้คือการใช้พลังสายลมอันรุนแรงเพื่อทำลายศัตรูเป็นวงกว้าง แม้กระทั่งกองทัพอันแข็งแกร่งก็ยากที่จะต้านทานกระแสลมแรงเช่นนี้ได้

แกร็ก ๆ ๆ ๆ

ขณะเดียวกันชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นของชายหนุ่มก็เริ่มรวบรวมพลังป้องกันทั้งหมดเอาไว้ตรงหน้า เพื่อให้เซี่ยเฟยไม่จำเป็นจะต้องระมัดระวังสายลมอันรุนแรง และทำให้เขาสามารถพุ่งตรงไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

ลมแค่นี้มันจะหยุดเขาเอาไว้ได้ยังไง!?

ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ว่าพลังเกลเบรคเกอร์ของฮันเตอร์ไม่รุนแรง แต่มันเป็นเพราะเซี่ยเฟยบ้าระห่ำเกินไปต่างหาก

ดาบสีแดงตัดผ่านท้องช่วงล่างลากขึ้นไปจนถึงบริเวณไหล่ของชายหนุ่ม ซึ่งการโจมตีนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายของอีกฝ่ายเหี่ยวเฉาลงเท่านั้น แต่มันยังทำให้ร่างของเขาถูกตัดแบ่งออกเป็น 2 ซีกอีกด้วย

“เร็วเกินไปแล้ว!”

“เหี้ยมโหดมาก!”

เหล่าบรรดาจักรพรรดิกฎที่เฝ้าดูการต่อสู้ต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยท้าทายพลังเกลเบรคเกอร์โดยตรง แล้วฉีกกระชากร่างของศัตรูออกเป็นชิ้น ๆ ซึ่งการจะทำแบบนี้ได้จำเป็นจะต้องใช้ความกล้าหาญมาก และมันก็จำเป็นจะต้องใช้การอ่านการโจมตีของศัตรูอย่างเด็ดขาดอีกด้วย

สิ่งที่เซี่ยเฟยแสดงออกมาคือการสังหารจักรพรรดิกฎได้ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งแต่เดิมทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่านักรบสกายวิงมีความแข็งแกร่งมากกว่าคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน และการกระทำของเซี่ยเฟยมันยิ่งช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งของสกายวิงได้เป็นอย่างดี

“พี่!!” ฮันนี่ร้องโหยหวนออกมาสุดเสียง เมื่อได้เห็นพี่ชายถูกสังหารลงไปต่อหน้า

คลื่น!

หงส์ครามเฝ้ารอโอกาสมาตั้งนานแล้ว เมื่อมันได้เห็นว่าศัตรูกำลังตื่นตกใจมันก็รีบพุ่งตัวออกไปเพื่อพันธนาการร่างฮันนี่ในทันที ใบหญ้าทั้งห้าของอาวุธมายาชิ้นนี้มีความแข็งแกร่งมาก และตราบใดก็ตามที่หญิงสาวถูกหงส์ครามรัดเข้าใส่ในเวลานั้นเธอก็จะต้องตายอย่างแน่นอน

แต่ในระหว่างที่ใบหญ้าสีฟ้ากำลังพุ่งเข้ารัดร่างของหญิงสาวอยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็ได้มีแสงสีขาวปรากฏออกมาหยุดใบหญ้าของหงส์ครามเอาไว้

“หยุด! ใครมันกล้ามาก่อปัญหาภายในพื้นที่ของมังกรฟ้า” เจ้าของเสียงปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับรีบแยกเซี่ยเฟยออกจากฮันนี่อย่างรวดเร็ว

“จักรพรรดิซาเลม ผู้พิทักษ์มังกรฟ้าเดินทางมาถึงแล้ว”

เมื่อผู้มาใหม่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด มันก็มีเสียงของใครบางคนตะโกนดังขึ้นมา

ใช่แล้ว ผู้ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากซาเลม 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์มังกรฟ้า ชายผู้ยืนอยู่บนยอดพีระมิดที่เรียกว่ากลุ่มนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าเทพแห่งนี้นี่เอง

“หากใครกล้ามาขวางก็ตายไปซะ!!” อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้สนใจผู้มาใหม่คนนี้เลย เพราะเขายังคงส่งเสียงตะโกนและพุ่งตัวออกไปด้านหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

***************

บางทีก็แอบคิดนะว่าพี่เฟยมีชีวิตยาวนานขนาดนี้นี่มันสุดยอดจริง ๆ เป็นคนอื่นคงตายซ้ำ ๆ ไปนานแล้ว