ตอนที่ 865 สังหารศัตรูต่อหน้าผู้พิทักษ์
ตอนที่ 865 สังหารศัตรูต่อหน้าผู้พิทักษ์
ซาเลมมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในบรรดาผู้พิทักษ์มังกรทั้งสี่เป็นรองเพียงแค่คูรัน และเขาก็มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎขั้นที่ 5 ห่างจากการเป็นจักรพรรดิกฎระดับสูงอยู่เพียงแค่ก้าวเดียว
ตามสามัญสำนึกพลังของเซี่ยเฟยย่อมไม่สามารถท้าทายซาเลมได้อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังของพวกเขาก็มีความแตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นพลังของชายหนุ่มยังห่างจากอีกฝ่ายอยู่หลายขั้น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนชายหนุ่มก็เป็นรองผู้พิทักษ์คนนี้อยู่หลายขุม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ซาเลมตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความโกรธ
ฟุบ!
เซี่ยเฟยจู่โจมออกไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเลือดขึ้นหน้า ในเวลานั้นมันก็จะไม่มีใครมีความสามารถมากพอที่จะหยุดเขาได้
“หากใครมาขวางก็ตายไปซะ!!”
คนที่หยิบยื่นความช่วยเหลือคือพันธมิตร ส่วนคนที่ขัดขวางคือศัตรู ไม่ว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นใครแต่ศัตรูทุกคนจะต้องตายอย่างไม่มีข้อยกเว้น
ซาเลมไม่เคยคิดว่าเซี่ยเฟยจะกล้าจู่โจมเข้าใส่เขาจริง ๆ มันจึงทำให้ชายคนนี้มองไปยังชายหนุ่มอย่างตกตะลึง
นี่มันคนบ้าชัด ๆ!
จิตสังหารของเซี่ยเฟยถูกปลดปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่ง และการจู่โจมของเขาก็ไม่ได้มีการออมกำลังเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการโจมตีนี้มีความรุนแรงถึงตาย ถ้าหากว่าเขาไม่หลบหนีเขาก็คงจะถูกชายหนุ่มคนนี้สังหารโดยไม่ลังเล
ฟุบ!
ทันใดนั้นซาเลมก็เลือกที่จะหลบออกไป เพราะมันเป็นการโจมตีที่เขาไม่มีเวลาได้ทันตั้งตัวจริง ๆ
1 ใน 4 ผู้พิทักษ์มังกรกำลังหลบหนีเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยเฟย!!
“หา!”
“ไม่มีทางนั่นซาเลมกำลังหลบจริง ๆ ใช่ไหม?!”
การหลบของซาเลมเป็นเพียงปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ตามขึ้นมาอย่างมากมาย
ในฐานะที่เขาเป็นถึงผู้พิทักษ์มังกรที่มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ตัวตนอย่างเขาจะหลบหนีผู้ที่มีพลังด้อยกว่าได้ยังไง การเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณของตัวเองในครั้งนี้ มันจึงตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย
ในแววตาของซาเลมเต็มไปด้วยความรำคาญ ก่อนที่เขาจะประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน
มิติพิศวง!
ในเวลาเดียวกันเมื่อเซี่ยเฟยเคลื่อนที่ผ่านซาเลมไปแล้ว ดาบของเขายังคงมุ่งตรงไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายคือฮันนี่ที่กำลังยืนตกตะลึงอยู่ไม่ไกล
เพล้ง!
พื้นที่มิติบริเวณนั้นเริ่มแตกละเอียดในทันทีคล้ายกับว่าเซี่ยเฟยได้พุ่งเข้าไปชนกระจก
นี่คือทักษะเฉพาะตัวที่มีชื่อเสียงของซาเลม การใช้กฎแห่งมิติในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลง
มิติพิศวงเป็นการใช้พลังสร้างความสับสนให้กับสมอง โดยการเปลี่ยนแปลงพื้นที่มิติออกเป็นชั้น ๆ ก่อให้เกิดมิติทับซ้อนกันขึ้นมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
แม้ว่าผู้พิทักษ์มังกรแต่ละคนจะไม่ได้มีพลังโดดเด่นมากนัก แต่พวกเขาแต่ละคนต่างก็ล้วนแล้วแต่มีทักษะเฉพาะเป็นของตัวเอง
ความจริงแล้วในกลุ่มมังกรฟ้ามีผู้ที่มีพลังเหนือกว่าผู้พิทักษ์มังกรฟ้าทั้งสี่อยู่อีกเยอะมาก แต่สาเหตุที่พวกเขาถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้ นั่นก็เพราะว่าพวกเขาแต่ละคนต่างก็ล้วนแล้วแต่นำพลังมาพลิกแพลงได้โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ
สาเหตุที่ซาเลมจงใจหลบเซี่ยเฟยนั้นก็เพราะว่ามันเป็นการหลอกล่อให้ชายหนุ่มตกเข้าไปอยู่ในพื้นที่มิติที่เขาได้เตรียมพร้อมเอาไว้ ซึ่งการหลบหนีในครั้งนี้มันจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เสียศักดิ์ศรีเหมือนกับที่คนอื่น ๆ ได้มองมาทางเขา
ขณะเดียวกันเมื่อชายหนุ่มถูกขังอยู่ในมิติพิศวง เขาก็เริ่มรวบรวมพลังของกฎแห่งความโกลาหล ท้ายที่สุดมันก็ไม่มีพลังใดที่สามารถต่อต้านพลังของกฎแห่งความโกลาหลได้ เพราะมันเป็นพลังที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำลายพลังของผู้อื่นโดยเฉพาะ
แม้ว่าไซ, เทพขาวและเทพดำจะเตือนไม่ให้เซี่ยเฟยใช้กฎแห่งความโกลาหลต่อหน้าคนอื่น ๆ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังเลือดขึ้นหน้า เขาจึงใช้พลังทั้งหมดออกไปโดยไม่สนใจอะไรแล้ว
ตูม!
ก่อนที่ทุกคนจะทำความเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เซี่ยเฟยก็เจาะทะลุมิติพิศวงจนทำให้รอยแยกมิติแตกกระเด็นออกไปยังทิศทางต่าง ๆ ในพริบตา และในวินาทีต่อมาบลัดบิวเทียสก็แทงเข้าไปในหน้าอกของฮันนี่โดยตรง และเปลี่ยนร่างของเธอให้กลายเป็นเพียงซากศพที่แห้งเหี่ยว
“จำเอาไว้ว่านี่คือราคาที่ต้องจ่าย ถ้าแกกล้ามาท้าทายฉัน!!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามราวกับสายฟ้าฟาด
ช็อก!
โคตรช็อก!
เซี่ยเฟยสังหารพี่น้องตระกูลฮันต่อหน้าซาเลมจริง ๆ
เรื่องนี้มันจะน่าเหลือเชื่อจนเกินไปแล้ว!!
ดวงตาทุกคู่ต่างก็เบิกกว้างด้วยความตกใจและทำให้ทั่วทั้งพื้นที่ตกอยู่ภายใต้ความเงียบงัน
“เยี่ยม!” หลางซุนเย่ตื่นเต้นจนส่งเสียงตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เขาถูกจับจ้องด้วยดวงตาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เขาก็รีบหดตัวถอยกลับเข้าไปในมุมมืดอย่างรวดเร็ว
“น้องชาย อย่าลืมนะว่าตอนนี้เซี่ยเฟยทำลายศักดิ์ศรีของมังกรฟ้าจนป่นปี้ไปหมดแล้ว ถึงนายจะรู้สึกสะใจแต่นายก็ไม่ควรแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา” เฝิงซินเหนียนตบไหล่หลางซุนเย่พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าอันบูดบึ้ง
“สมกับเป็นสกายวิงจริง ๆ เขาไม่ได้เห็นแก่หน้ามังกรฟ้าด้วยซ้ำ” ซาเลมรู้สึกอับอายจนใบหน้ากลายเป็นสีม่วง เพราะทั้ง ๆ ที่เขายืนอยู่ตรงนี้แต่เซี่ยเฟยก็ยังสามารถสังหารฮันนี่ลงไปได้
“คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง? การที่ผมไม่ฆ่าคุณด้วยมันก็ถือว่าผมเห็นแก่หน้ามังกรฟ้าสุด ๆ แล้ว” เซี่ยเฟยหันไปมองซาเลมอย่างเย็นชา
“เอ่อ…”
ใบหน้าของซาเลมยิ่งบิดเบี้ยวไปกว่าเดิม ร่างกายทั้งร่างของเขากำลังสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง แต่เขาก็ทำได้เพียงแต่ชี้นิ้วไปยังเซี่ยเฟยโดยไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำ
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันก็ต้องขอให้นายสั่งสอนฉันหน่อยแล้ว” ในที่สุดซาเลมก็ระเบิดจิตสังหารออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ถึงตอนนั้นจิตสังหารของเขาก็ไม่สามารถจะกดทับจิตสังหารอันบ้าคลั่งของเซี่ยเฟยได้
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“จิตสังหารของทั้งคู่เท่ากันงั้นเหรอ? มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?!”
“นี่น่ะเหรอความแข็งแกร่งของสกายวิง!! มันเกินกว่าสิ่งที่ฉันเคยคิดเอาไว้อีก”
วันนี้เป็นวันประลองประจำเดือนสำหรับจักรวรรดิกฎ มันจึงทำให้มีจักรพรรดิกฎจากตระกูลต่าง ๆ มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ตัวตนของพวกเขาทุกคนต่างแต่เป็นความภาคภูมิใจและเป็นเสาหลักภายในตระกูลของตัวเอง ทางกลุ่มมังกรฟ้าจึงจัดวันประลองขึ้นมาเดือนละ 3 วันเพื่อให้พวกเขามีโอกาสได้เรียนรู้จากการต่อสู้จริง
การเดินทางของจักรพรรดิทั้งหลายในวันนี้ไม่ได้สูญเปล่าแล้ว เพราะพวกเขาได้เห็นการต่อสู้อันน่าตื่นเต้นระหว่างเซี่ยเฟยกับพี่น้องตระกูลฮันทั้งสองคน
ยิ่งไปกว่านั้นการจู่โจมในครั้งที่ 2 ยังเป็นการสังหารจักรพรรดิต่อหน้าซาเลม ผู้ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์มังกรฟ้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 อีกด้วย
เมื่อทั้งสองฝ่ายปลดปล่อยจิตสังหารเข้าใส่กัน ทุกคนต่างก็อยากเห็นเซี่ยเฟยเผชิญหน้ากับซาเลมสักครั้ง เพราะวิธีการจัดการกับนักรบความเร็วสูงเป็นสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักรบทุกคนในสถานที่แห่งนี้
เซียวรั่วหยูกำหมัดขึ้นมาอย่างกังวล เพราะใครจะไปคิดว่าเซี่ยเฟยจะสร้างศัตรูเพราะเธออีกแล้ว
หญิงสาวรีบหันไปมองหลางซุนเย่ในทันที และถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้จักเขา แต่เธอก็คาดเดาว่าเขาจะต้องเป็นสหายของเซี่ยเฟยอย่างแน่นอน
“คุณช่วยไปบอกพี่เซี่ยเฟยหน่อยได้ไหมว่าเรื่องนี้มันไม่เป็นปัญหาอะไรกับฉันหรอก ตราบใดก็ตามที่ฉันทนเอาไว้ทุกอย่างมันก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ถ้าหากว่าเหตุการณ์เป็นแบบนี้มันจะทำให้ท่านแม่โกรธเราได้” เซียวรั่วหยูกล่าวขึ้นมาอย่างร้อนรน
“แบบนี้มันหมายความว่าเธอต้องถูกรังแกอยู่บ่อย ๆ สินะ นังพวกตัวเหม็นมันจะรังแกคนอื่นมากไปแล้ว!”
อย่างไรก็ตามทันทีที่หลางซุนเย่พูดจบ มันกลับมีเสียงผู้หญิงอันเย็นชาดังขึ้นมาแต่ไกล
“แกเรียกใครว่านังตัวเหม็นนะ?”
ฝูงชนรีบแยกออกจากกันในทันทีเผยให้เห็นเฝิงคูชานที่กำลังเดินเข้ามากับผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมหน้า
“ท่านแม่!”
หงส์แดง, จักจั่นขาวและเซียวรั่วหยูต่างก็รีบคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อหญิงชราอย่างรวดเร็ว เพราะภายในตระกูลสโนว์ดริฟท์สถานะของหญิงชราคนนี้ก็ไม่ต่างไปจากผู้นำตระกูล
หญิงชราผู้สวมม่านบังหน้าคนนี้คือ ‘เอเลแกนซ์’ จักรพรรดิกฎผู้ลึกลับที่คอยดูแลตระกูลสโนว์ดริฟท์อยู่ในปัจจุบัน
“ท่านผู้นำ” ซาเลมก้มหัวแสดงความเคารพเฝิงคูชานด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
เฝิงคูชานกับเอเลแกนซ์เดินเข้ามาใจกลางอาคารด้วยสีหน้าอันเย็นชา ขณะที่ด้านหลังของพวกเขามีผู้ติดตามอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนักรบจากตระกูลสโนว์ดริฟท์หรือบรูซซึ่งเป็นผู้พิทักษ์มังกรฟ้าอีกคน
เอเลแกนซ์ไม่ได้สนใจเซี่ยเฟยมากนัก แต่เธอได้จ้องมองไปยังหลางซุนเย่แทน แม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกม่านบังไว้ แต่แววตาอันดุร้ายของเธอก็ยังมากพอที่จะทำให้หลางซุนเย่รู้สึกหวาดกลัว ไม่ว่ายังไงหญิงชราคนนี้ก็มีชื่อเสียงไม่ต่างไปจากเฝิงคูชาน และสถานะของเธอก็ยังสูงกว่าเซี่ยบูหยุนจากตระกูลสกายวิงด้วยซ้ำ
“ขอโทษครับ” หลางซุนเย่รีบหันหน้าหนีและแอบรู้สึกเสียใจกับคำพูดที่เขาเพิ่งพูดออกไป
ในเวลาเดียวกันเฝิงซินเหนียนก็เดินออกมาจากฝูงชน ก่อนที่เขาจะก้มศีรษะลงโค้งคำนับบิดาของตัวเอง
“หลังจากโตขึ้นก็ยังเอาคนอื่นมาทำร้ายชื่อเสียงของมังกรฟ้าอยู่อีกงั้นเหรอ” เฝิงคูชานกล่าวอย่างเย็นชา
คำพูดของเฝิงคูชานจริงจังมากจนทำให้เฝิงซินเหนียนตัวสั่นไปทั่วทั้งตัว
เซี่ยเฟยไม่ได้ให้ความสนใจต่อการปรากฏตัวของผู้มีอำนาจทั้งสองคนเลย เขายังคงเดินเข้าไปหาเซียวรั่วหยูแล้วช่วยเธอให้ลุกยืนขึ้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่หญิงสาวยังคงตื่นตระหนกเพราะถ้าหากว่าเธอไม่คุกเข่าลงเธอก็จะถูกลงโทษตามกฎของตระกูลสโนว์ดริฟท์
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอไม่จำเป็นจะต้องคุกเข่าให้กับใครอีกต่อไปแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างอ่อนโยนราวกับว่าเขากำลังส่งสารไปให้เอเลแกนซ์อย่างตั้งใจ
“คุกเข่าลงซะ!” เอเลแกนซ์ตะโกนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว เซียวรั่วหยูที่ตัวสั่นไปทั่วทั้งตัวจึงรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นแขนของเซี่ยเฟยก็เหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถคุกเข่าได้แม้ว่าเธอจะอยากคุกเข่าลงไปก็ตาม
“คุกเข่าลงไปเดี๋ยวนี้! เธอไม่ฟังคำสั่งของฉันแล้วงั้นเหรอ?!” เอเลแกนซ์คำรามออกมาเป็นน้ำเสียงที่ดุร้าย
“ฟังนะนังตัวเหม็น เซียวรั่วหยูคือคนของฉัน!!” เซี่ยเฟยกล่าวออกไปอย่างเย่อหยิ่ง ก่อนที่เขาจะชี้หน้าใส่เอเลแกนซ์อย่างไม่เกรงกลัว
***************
พี่เฟย!!!!!!!!!!!!!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 371
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น