ตอนที่ 851 กฎแห่งแสง
ตอนที่ 851 กฎแห่งแสง
ซีเครดสปริงเป็นดินแดนที่ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอก มันจึงไม่มีใครรู้ว่าเซี่ยเฟยคือนักรบจากตระกูล สกายวิงและนี่ก็คือโอกาสที่ทำให้เขาสามารถสังหารศัตรูลงได้อย่างง่ายดาย
ฉึก!
บลัดบิวเทียสถูกแทงออกไปด้วยความเร็วมากกว่า 400,000 เมตรต่อวินาที จากนั้นมันก็แทงเข้าไปในหน้าอกของแฮมเบิร์กอย่างฉับพลัน
นับตั้งแต่การขว้างแซมสันออกไปจนถึงกระบวนการสังหาร ทุกอย่างใช้เวลาไปเพียงไม่ถึงครึ่งวินาทีเท่านั้น จักรพรรดิกฎผู้เย่อหยิ่งจึงถูกสังหารทั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว และทั้งหมดนี้มันก็เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาประมาทศัตรูมากเกินไป
ในเวลาเดียวกันเลวี่ก็เรียกชั้นพลังบาง ๆ ออกมาเพื่อปาดออกไป ซึ่งถ้าหากว่าใครมองชั้นพลังนี้ดี ๆ พวกเขาจะได้พบว่ามันคือพลังมิติที่ถูกบีบอัดจนมีความบางราวกับใบดาบ
อันตราย!
สัญชาตญาณของชายหนุ่มกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง ก่อนที่แขนของเขาจะออกแรงเพื่อสะบัดซากศพภายในมือออกไป
ร่างของแฮมเบิร์กถูกโยนออกไปเพื่อกีดขวางใบดาบมิติเอาไว้ ขณะที่ชายหนุ่มปลีกตัวหลบออกไปยังด้านข้างอย่างรวดเร็ว อดีตหนึ่งในเสาหลักของซีเครดสปริงจึงถูกผ่าร่างออกเป็นชิ้น ๆ เรียกได้ว่าเขาตายซ้ำตายซาก เพราะถึงแม้ตัวเองจะตายไปแล้วแต่ซากศพก็ยังคงถูกฟันให้ตายซ้ำอยู่ดี
ในเวลาเดียวกันชายหนุ่มก็ใช้มือขวาคว้าร่างแซมสันที่ลอยอยู่ในอากาศ เพื่อใช้นักปราชญ์คนนี้เป็นโล่คอยป้องกันการโจมตีจากเลวี่ที่เป็นจักรพรรดิกฎอีกคน
การเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกฎเป็นเรื่องที่อันตรายมาก และเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมีศีลธรรมถึงขนาดจะต้องปล่อยชายชราให้หนีไป ไม่ว่ายังไงเลวี่ก็เดินทางมาเพื่อช่วยเหลือแซมสัน เซี่ยเฟยจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เอาชายชราร่างเล็กมาทำหน้าที่เป็นโล่ที่มีชีวิต
การจู่โจมครั้งแรกเซี่ยเฟยก็ใช้โอกาสจากความลังเลของแฮมเบิร์กเพื่อสังหารอีกฝ่ายลงในทันที และคราวนี้เขาก็พยายามจะใช้ความลังเลของเลวี่เพื่อหาโอกาสในการจู่โจมจักรพรรดิผู้นี้ด้วยเช่นกัน
‘น่ารังเกียจ!’ เลวี่คิดในใจด้วยความโกรธเมื่อได้เห็นวิธีการของชายหนุ่ม แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบวิธีการนี้มากแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าที่จะลงมือเพราะกลัวที่จะทำร้ายแซมสันจริง ๆ
แซมสันไม่เพียงแต่จะเป็นพวกพ้องของเขาเท่านั้น แต่นักปราชญ์คนนี้ยังเป็นคนสนิทของวิลโล่ ราชันย์กฎแห่งซีเครดสปริงอีกด้วย ถ้าหากวิลโล่รู้ว่าเขาคือคนลงมือทำร้ายแซมสันโดยไม่ได้ตั้งใจ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือเขาจะต้องคอยรองรับอารมณ์จากราชันย์คนนี้ด้วยเช่นกัน
ในที่สุดเลวี่ก็ถูกบังคับให้ต้องใช้พลังเพื่อเบี่ยงเบนคมดาบมิติของตัวเองออกไป จนทำให้คมดาบมิติตัดผ่านพื้นที่บริเวณปลายชุดเกราะของแซมสันไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถ้าหากว่าจักรพรรดิกฎคนนี้เคลื่อนไหวช้ากว่าเดิมอีกแม้แต่นิดเดียว ร่างของชายชราก็คงจะถูกตัดขาดออกจากกันถึงขั้นที่อาจจะเสียชีวิตได้เลย
‘มันกลัวที่จะทำร้ายแซมสันจริง ๆ ด้วย!’ เซี่ยเฟยตะโกนภายในใจ
เมื่อเซี่ยเฟยสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าเลวี่ไม่กล้าที่จะแตะต้องแซมสัน เขาจึงใช้วิธีการที่ก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มจึงพุ่งตัวไปด้านหน้าโดยใช้ชายชราเป็นโล่ที่ถือโดยมือขวา และใช้มือซ้ายคอยตวัดกวัดแกว่งบลัดบิวเทียสเพื่อจู่โจมศัตรู
น่าเสียดายที่การคว้าจับร่างของแซมสันเอาไว้ทำให้การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยเชื่องช้าลง อีกฝ่ายจึงสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้ แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของศัตรูได้เป็นอย่างดี
นี่คือช่วงเวลาที่ขนอุยกำลังรอคอย!
เจ้าตัวน้อยพุ่งด้วยความเร็วจนกลายเป็นดาวหางสีขาว เพื่อเจาะจงเข้าใส่พื้นที่มุมอับของเลวี่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
แม้ว่าจักรพรรดิคนนี้จะมองไม่เห็นการโจมตีที่กำลังพุ่งเข้ามา แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะดูถูกการโจมตีของศัตรู เขาจึงพยายามรวบรวมพลังมาไว้ในร่างอย่างเต็มที่เพื่อสกัดกั้นการพุ่งโจมตีของขนอุย!
ตูม!
เสียงปะทะดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้ร่างของขนอุยและเลวี่กระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง
เลวี่สมแล้วที่มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะถูกขนอุยจู่โจมเข้าใส่จุดบอดแต่เขาก็ยังสามารถที่จะป้องกันการโจมตีของอสูรตัวน้อยตัวนี้ได้
อย่างไรก็ตามด้วยการโจมตีอันรุนแรงของขนอุยในครั้งนี้ มันก็ทำให้เลวี่กระเด็นออกไปจากตำแหน่งเดิมไม่น้อยกว่า 100 เมตร
การปะทะรอบแรกจบลงที่ผลเสมอกัน!!
ขนอุยกลับไปยืนอยู่บนไหล่ของเซี่ยเฟยอีกครั้ง ก่อนที่จะเตรียมตัวปะทะกับศัตรูในรอบต่อไป หงส์ครามยังคงมุดตัวลงไปซ่อนอยู่ภายในดิน ขณะที่บลัดบิวเทียสเปล่งประกายออกมาราวกับว่ามันกำลังกระหายเลือดของศัตรู
ระหว่างนั้นเลวี่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด เมื่อตระหนักได้ว่ามนุษย์ตรงหน้าไม่ใช่นักรบธรรมดา แต่เป็นนักรบความเร็วสูงที่มีพละกำลังมากพอที่จะสังหารจักรพรรดิกฎได้ในคราวเดียว
แซมสันที่ถูกจับอยู่ในมือของเซี่ยเฟยเวียนหัวจนน้ำลายฟูมปาก ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้มีพลังเหมือนกับนักรบคนอื่น ๆ การถูกเซี่ยเฟยจับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาด้วยความเร็วสูง มันจึงทำให้เขาเป็นลมหมดสติไปตั้งนานแล้ว
“นายเอาเขามาเป็นโล่ได้ยังไง? ตาแก่นี่ยังไม่ได้บอกนายเรื่องอาร์คเลยนะ?!” โอโร่พยายามกล่าวเตือนสติ
“เงียบ!” เซี่ยเฟยร้องคำรามขึ้นมาด้วยความดุร้าย และแรงกดดันที่เขาปล่อยออกมามันก็ถึงกับทำให้โอโร่พูดไม่ออก
เซี่ยเฟยเกลียดการถูกชี้นำในการต่อสู้มาก และถึงแม้ว่าผู้แนะนำในคราวนี้จะเป็นโอโร่ แต่อีกฝ่ายก็ถูกเขาตวาดกลับไปโดยไม่มีข้อยกเว้น
ก่อนหน้านี้เขาถูกล้อมด้วยจักรพรรดิกฎถึงสองคน แล้วในช่วงเวลาวิกฤติเขาจะต้องไปคิดถึงชีวิตคนอื่นทำไม
เขาพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขารอดชีวิต แม้ว่าวิธีการนั้นจะถูกด่าว่าน่ารังเกียจแต่เขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“แกมาจากตระกูลสกายวิงสินะ” เลวี่ชี้นิ้วไปที่เซี่ยเฟยด้วยความโกรธ
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก ฉันแค่มีเรื่องจะถามแซมสันนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าแกไม่อยากให้มันตายก็ถอยไปซะ ไม่อย่างนั้น…” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับแสยะยิ้ม
ท่าทางของเซี่ยเฟยทำให้เลวี่ชะงักค้างไปด้วยความตกใจ ท้ายที่สุดมันก็เห็นได้ชัดเลยว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีความคิดจะขู่เล่น ๆ หากเขาลงมือทำอะไรผลีผลามแซมสันก็อาจจะตายได้ทุกเมื่อ
“ถ้าแกยอมไว้ชีวิตแซมสัน ฉันก็จะปล่อยแกไป” เลวี่กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อได้รู้ว่าศัตรูในคราวนี้คือสกายวิง ทุกคนทั่วทั้งดินแดนกฎต่างก็รู้สึกปวดหัว และถึงแม้ว่าเลวี่จะอยู่ในดินแดนปิดอย่างซีเครดสปริง แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงของสกายวิงมาบ้างเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามจู่ ๆ ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกประหลาด เขาจึงรีบคว้าร่างของแซมสันเพื่อหนีออกไปจากพื้นที่บริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ต่อมามันคล้ายกับว่ามีใครบางคนเปิดแสงสปอร์ตไลท์ไปยังพื้นที่ที่ชายหนุ่มเคยยืนอยู่ พริบตาต่อมาพืชพรรณบริเวณนั้นก็ถูกเผาไหม้กลายเป็นจุณ แม้แต่แม่น้ำก็เหือดแห้งในเวลาเพียงไม่นาน
“นั่นมันกฎแห่งแสงของราชันย์วิลโล่ รีบหนีเร็วเข้า!” โอโร่ตะโกนเสียงดัง
ที่แท้วิลโล่ก็ซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ มาโดยตลอด แต่เพราะเขากลัวจะทำร้ายแซมสันเขาจึงยังไม่ลงมือในทันที อย่างไรก็ตามเมื่อเลวี่ตัดสินใจที่จะรามือ เขาก็ตัดสินใจที่จะจู่โจมเพื่อสังหารเซี่ยเฟยอย่างฉับพลัน
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะรับรู้ถึงอันตรายได้ล่วงหน้า แต่ความเร็วของเขาจะเทียบชั้นกับความเร็วแสงได้ยังไง โชคดีที่เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มโจมตี ไม่อย่างนั้นถึงแม้เขาจะสวมชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นเอาไว้ แต่มันก็ไม่สามารถที่จะต้านทานความร้อนที่เกิดจากกฎแห่งแสงได้อย่างแน่นอน
ขนอุยรีบพุ่งตัวเข้าใส่ผนังทางด้านซ้ายก่อให้เกิดช่องทางขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันหงส์ครามก็ถูกบังคับให้หมุนอย่างบ้าคลั่งเพื่อทำหน้าที่เป็นหัวสว่าน
เมื่อราชันย์กฎปรากฏตัวขึ้นมาเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจหนีเข้าไปในอุโมงค์ที่เขาเพิ่งขุดขึ้นมาในทันที ไม่ว่ายังไงการโจมตีของแสงก็มีทิศทางเป็นเส้นตรง เขาจึงจำเป็นจะต้องหลบหนีเข้ามาในพื้นที่แคบเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสามารถมองเห็นตัวเขาได้
ในระหว่างที่ชายหนุ่มเดินทางไปจนถึงทางแยก การโจมตีด้วยลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวก็มาถึงอีกครั้ง
เดิมทีเส้นทางภายในซีเครดสปริงเป็นทางเดินที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์แปลก ๆ โดยตัวอุโมงค์มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 เมตร แต่หลังจากพลังของกฎแห่งแสงพุ่งผ่านไป ความกว้างของทางเดินก็ถูกขยายจนมีรัศมีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
แม้ว่าพลังของกฎแห่งแสงจะฟังดูเป็นพลังที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ แต่ความจริงแล้วไม่ว่าพลังนั้นจะเป็นพลังอะไร มันก็คือพลังที่มีอยู่เพื่อเอาไว้เข่นฆ่าศัตรูเหมือน ๆ กัน
ที่แย่ไปกว่านั้นมันก็ดูเหมือนกับว่าวิลโล่ไม่ได้สนใจชีวิตของแซมสันอีกต่อไปแล้ว เขาจึงเลือกใช้การโจมตีขนาดใหญ่เพื่อสังหารเซี่ยเฟยโดยไม่สนใจที่จะต้องสูญเสียอะไรไปทั้งนั้น
อย่าลืมว่ากฎแห่งแสงคือการควบคุมพลังของแสงที่มีความเร็วเหนือกว่าความเร็วของเซี่ยเฟยมาก ดังนั้นถ้าหากว่าวิลโล่สามารถล็อกเป้าชายหนุ่มได้ ในเวลานั้นมันก็จะกลายเป็นอันตรายที่คุกคามถึงชีวิต
เมื่อราชันย์กฎปรากฏตัวเซี่ยเฟยก็ไม่มีเวลาให้คิดอีกต่อไป สิ่งเดียวที่เขาสมควรจะทำในตอนนี้คือการพยายามอยู่ห่างจากศัตรูให้ได้มากที่สุด เพราะด้วยความสามารถของเขาในปัจจุบัน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะต่อต้านผู้ที่มีพลังอยู่ในระดับราชันย์ได้
ทั้งขนอุยและหงส์ครามต่างก็ต้องพยายามขุดผนังในเส้นทางคดเคี้ยวอย่างหนัก เพราะตราบใดก็ตามที่พวกเขาเดินทางเป็นเส้นตรง ในเวลานั้นพวกเขาก็จะถูกจู่โจมด้วยพลังของกฎแห่งแสงในทันที
“ไอ้สารเลวสกายวิง!!” เสียงร้องคำรามดังสนั่นขึ้นมาจากด้านหลัง ซึ่งมันเป็นเสียงของวิลโล่ที่กำลังร้องคำรามด้วยความโกรธ
“แย่แล้ว! ดูเหมือนว่าวิลโลว์จะมีความแค้นกับตระกูลของนายนะ” โอโร่กล่าวด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
เซี่ยเฟยยังคงตั้งสมาธิกับการหลบหนี ท้ายที่สุดเขาก็รู้ดีว่าความสำเร็จของสกายวิงไม่เพียงแต่จะสร้างชื่อเสียงขึ้นมาเท่านั้น แต่มันย่อมจะต้องสร้างความขุ่นเคืองให้กับหลาย ๆ ตระกูลอย่างไม่ต้องสงสัย
ย้อนกลับไปในอดีตชื่อเสียงสกายวิงเคยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชายหนุ่มมาแล้วหลายครั้ง แต่ดูเหมือนกับว่าในคราวนี้ชื่อเสียงของตระกูลกลับให้ผลตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
เมื่อได้รู้ว่าเซี่ยเฟยคือนักรบจากสกายวิง วิลโล่ก็เลือกที่จะสังหารชายหนุ่มคนนี้โดยไม่สนใจว่าเขาจะต้องสูญเสียอะไร ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าราชันย์ผู้นี้มีความเกลียดชังสกายวิงจนถึงกระดูกดำ
ระหว่างที่ขนอุยกับหงส์ครามพยายามขุดผนังอย่างบ้าคลั่ง เซี่ยเฟยก็เร่งความเร็วอีกครั้งเพื่อพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วมากกว่า 500,000 เมตรต่อวินาที
และเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็เริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ โดยการบังคับหงส์ครามให้ทำลายพื้นที่ทางด้านหลัง จนทำให้อุโมงค์ที่เขาขุดขึ้นมาเกิดการถล่มเป็นทางยาว แต่เขาก็รู้ดีว่าการปิดเส้นทางแบบนี้สามารถถ่วงเวลาได้แค่สั้น ๆ เท่านั้น
“เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมทางเดินตรงนี้มันเป็นเส้นตรง?!” จู่ ๆ โอโร่ก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นมาด้วยความสับสน
***************
ขอถามให้รู้เรื่องก่อนไม่ได้เหรอ! เดี๋ยวปล่อยตัวให้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 323
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น