ตอนที่ 852 ชิ้นส่วนอาร์ค
ตอนที่ 852 ชิ้นส่วนอาร์ค
“เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมทางเดินตรงนี้มันเป็นเส้นตรง?!” จู่ ๆ โอโร่ก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นมาด้วยความสับสน
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้เข้ามาภายในซีเครดสปริง เขาก็ได้พบกับเส้นทางที่แตกแยกออกไปอย่างมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจนทำให้แม้แต่คนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็มักที่จะเกิดอาการหลงทาง ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหนอนด้วงมิติ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้ขุดกำแพงทะลุผ่านมาจนถึงเส้นทางนี้ เขากลับได้พบกับเส้นทางยาวหลายร้อยกิโลเมตรที่ไม่มีทางแยกแตกออกไปเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งมันเป็นเส้นทางที่แตกต่างจากเส้นทางที่เขาเคยเห็นมาโดยสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้นปริมาณความหนาแน่นของต้นไม้สองข้างทางก็น่าตกใจมากด้วยเช่นกัน เพราะในพื้นที่เพียงแค่ 1 ตารางเมตรกลับมีต้นไม้ใหญ่เติบโตซ้อนกันถึง 10 ต้น และต้นไม้แต่ละต้นต่างก็แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาอย่างสมบูรณ์
เซี่ยเฟยกัดฟันวิ่งตรงต่อไป เพราะไม่ว่าเส้นทางนี้จะแปลกแค่ไหนแต่มันก็ยังดีกว่าการตกอยู่ภายในเงื้อมมือของวิลโล่อยู่ดี
หงส์ครามยังคงทำตามแผนการของเซี่ยเฟยเป็นอย่างดี ทำให้เส้นทางที่เขาวิ่งผ่านไปถูกถล่มไปด้วยเศษดินเศษไม้ที่พังลงมา
แม้ว่าผิวเผินมันจะดูเหมือนกับว่าวิลโลว์ถูกปิดกั้นด้วยเศษหินที่พังทลาย แต่เซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะประมาทเลยแม้แต่นิดเดียว
ข้อเท็จจริงในเวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่านอกเหนือจากเส้นทางปกติมันย่อมมีเส้นทางพิเศษที่เขาไม่รู้จักซ่อนตัวอยู่อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นศัตรูย่อมไม่สามารถปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันทั้งที่เขาคิดจำนวนระยะเวลาเดินทางของศัตรูเอาไว้แล้ว
ไม่กี่นาทีต่อมาช่องอุโมงค์ก็หายไปเผยให้เห็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 200,000 กิโลเมตร ส่วนบนฟ้ามันก็มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางอวกาศ
ดาวเคราะห์ดวงนี้ให้ความรู้สึกคล้ายกับดวงจันทร์ที่ปล่อยแสงสว่างออกมาจาง ๆ ทั่วทั้งดาวเคราะห์ต่างก็เต็มไปด้วยต้นไม้ที่แย่งกันขึ้นจนแน่นขนัดทั่วพื้นที่ไปหมด
เซี่ยเฟยเลือกที่จะหยุดลงพร้อมกับโยนร่างของแซมสันที่หมดสติลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วแตะแหวนมิติเบา ๆ เพื่อหยิบน้ำยาสีเขียวมรกตออกมา
จ๊อก!
ชายหนุ่มเทน้ำยาลงไปที่หน้าของแซมสันโดยตรง ก่อให้เกิดกลิ่นเย็นสบายแพร่ออกมาอย่างรุนแรง โดยกลิ่นนั้นมีความคล้ายคลึงกับกลิ่นของมินต์
วินาทีต่อมาแซมสันก็กระโดดลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างกระฉับกระเฉง คล้ายกับว่าความสับสนและความเหนื่อยล้าทั้งหมดถูกขจัดออกไปเรียบร้อยแล้ว
เซี่ยเฟยตั้งชื่อน้ำยาชนิดนี้ว่าน้ำยาเย็นสบาย ซึ่งมันสามารถทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นหลังจากที่สัมผัสกับน้ำยาเพียงแค่หยดเดียว แล้วมันก็ไม่ต้องพูดถึงแซมสันที่ถูกเทน้ำยาลงไปทั้งขวดโดยตรง
แซมสันรีบใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำยาบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา เพราะความเจ็บปวดจากการถูกเซี่ยเฟยตัดนิ้วยังคงทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวชายหนุ่มคนนี้สุดหัวใจ
“ที่นี่คือที่ไหน?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับชี้นิ้วไปยังดาวเคราะห์ที่ส่องสว่างอยู่บนฟากฟ้า
“พวกเรามาที่นี่ได้ยังไง? นี่คือพื้นที่ใจกลางซีเครดสปริง” แซมสันกล่าวพร้อมกับเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก
“ดาวเคราะห์ดวงนั้นมันคืออะไร? ทำไมมันถึงมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นขนาดนั้น?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับถือบลัดบิวเทียสขึ้นมาภายในมือ
“นายกำลังมองหาอาร์คอยู่ไม่ใช่เหรอ? นี่แหละสิ่งที่นายกำลังตามหา” แซมสันกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
คำตอบนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาอย่างฉับพลัน เพราะเขาไม่คิดว่าการพยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวังมันจะทำให้เขาได้มาเจอกับอาร์คแบบนี้
“อาร์คเกิดการระเบิดหลังจากเคลื่อนที่ผ่านประตูจักรวาล เศษชิ้นส่วนของอาร์คจึงได้กระจัดกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างมากมาย สิ่งที่นายกำลังเห็นอยู่ตรงหน้าคือหนึ่งในเศษชิ้นส่วนของอาร์คที่ก่อให้เกิดซีเครดสปริง นี่คือเหตุผลว่าทำไมแม้แต่ภายในช่องว่างมิติอันมืดมิด มันก็ยังมีสิ่งมีชีวิตเติบโตขึ้นมาได้” แซมสันกล่าว
“ชิ้นส่วนของอาร์คทำให้เกิดซีเครดสปริงงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาด้วยความตกใจ
“นายลองดูให้ดี ๆ ว่าอาร์คชิ้นส่วนนั้นมีต้นพืชขึ้นมาทั้งหมดกี่ต้น และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมตำนานถึงเล่าขานว่าอาร์คคือผู้นำพาชีวิตมายังจักรวาลแห่งนี้” แซมสันเริ่มกล่าวอย่างจริงจังเมื่อเขาได้พูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์
คำอธิบายนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงเท่านั้น เพราะแม้แต่โอโร่ก็กำลังรู้สึกตกตะลึงไม่แพ้กัน
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนโบราณถึงเชื่อว่าอาร์คคือผู้นำพาชีวิตมาสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่ เพราะแม้แต่เศษชิ้นส่วนของมันก็ยังสามารถสร้างพืชพันธุ์ขนาดเท่าดาวเคราะห์ขึ้นมาได้แบบนี้”
น่าเสียดายที่ยานอาร์คระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ และมีเศษชิ้นส่วนกระจายไปทั่วทั้งจักรวาล ไม่อย่างนั้นยานรบมหัศจรรย์ลำนี้ก็คงจะสร้างความตกตะลึงให้กับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้อย่างแน่นอน
เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะถ้าหากว่าอาร์คคือผู้นำพาชีวิตเข้ามายังจักรวาลแห่งนี้จริง ๆ มันก็หมายความว่าทุกชีวิตต่างก็ล้วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดมาจากนอกประตูจักรวรรดิ
แต่จากสิ่งที่โอโร่ได้เล่ามามันก็ดูเหมือนกับว่านอกประตูจักรวาลนั้นเต็มไปด้วยอสูรกายรีเวิร์สที่พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งไม่ใช่เหรอ?
การค้นพบในครั้งนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม ว่าประตูจักรวาล, อาร์คและพวกรีเวิร์สมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?
“แล้วเรื่องประตูจักรวาลล่ะ? แกรู้อะไรบ้าง?” เซี่ยเฟยถามอีกครั้ง
“เรื่องประตูจักรวาลฉันก็รู้พอ ๆ กันกับนายนั่นแหละ ในเมื่อนายรู้จักชื่อฉันแล้วนายไม่รู้หรือยังไงว่าเหตุผลที่ฉันถูกขับไล่ออกมาจากเผ่ามาร นั่นก็เพราะว่าฉันพยายามแอบสืบหาข้อมูลของอาร์คกับประตูจักรวาล” แซมสันกล่าวพร้อมกับยักไหล่
คำตอบนี้ทำให้เซี่ยเฟยชะงักไปอีกครั้ง เพราะเขาไม่คิดเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ปราชญ์ผู้รอบรู้ถูกขับไล่ออกมาจากเผ่ามาร มันจะเป็นเพราะว่าชายชราพยายามสืบหาข้อมูลของอาร์คกับประตูจักรวาลแบบนี้
“ความจริงถึงแม้ฉันจะถูกจับขังเพราะเรื่องอื่น แต่ฉันก็มักที่จะสงสัยอยู่เสมอว่าเหตุผลจริง ๆ ที่ฉันถูกจับขังอยู่แบบนี้มันก็อาจเป็นเพราะเรื่องที่ฉันกำลังสืบเรื่องประตูจักรวาลอยู่เหมือนกัน” จู่ ๆ โอโร่ก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เมื่อทุกอย่างถาโถมเข้ามามันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกใจครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะแม้แต่โอโร่ก็ถูกจับขังด้วยเหตุผลเรื่องประตูจักรวาลด้วยงั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตามเมื่อเขานึกถึงเทพขาวกับเทพดำที่มีระดับพลังสูงมากเกินกว่าที่เขาจะหยั่งรู้ก็ถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมกับกลุ่มกบฏ มันก็อาจจะเป็นเพราะเทพสองพี่น้องอาจจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องประตูจักรวาลก็ได้
“แปลกมาก ทำไมฉันถึงทำนายอนาคตของเขาไม่ได้กันนะ?” แซมสันพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ขณะที่เขามองไปทางเซี่ยเฟย
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายชรารู้สึกหงุดหงิดมาก เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยเจอคนแบบเซี่ยเฟยมาก่อนเลย
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยมีเวลาตกตะลึงได้ไม่นานนัก เพราะในที่สุดมันก็มีลำแสงอันรุนแรงพุ่งทะลุผ่านกำแพงที่พังทลายมาทางเขา
เล่ห์กายา!
ชายหนุ่มพลิกตัวหลบหลีกการโจมตีโดยสัญชาตญาณ แล้วเขาก็ได้พบว่าถึงแม้ว่าเขาจะสามารถหลบหลีกการโจมตีในครั้งนี้ได้อย่างฉิวเฉียด แต่แซมสันไม่สามารถหลบหลีกภัยพิบัติในครั้งนี้ได้ สิ่งที่เหลือจึงมีเพียงแขนข้างเดียวที่อยู่ในมือของเซี่ยเฟย แต่ร่างกายของเขาถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
เซี่ยเฟยเหวี่ยงแขนแซมสันทิ้งไปก่อนที่เขาจะเร่งความเร็วด้วยพละกำลังทั้งหมดเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังชิ้นส่วนของอาร์ค ขณะที่ภายในแววตาของเขามันกำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“นายบ้าไปแล้วเหรอ?! วิลโล่คือผู้ใช้กฎแห่งแสงนะ ยิ่งนายเคลื่อนไหวในที่โล่งมันก็ยิ่งทำให้เขาล็อกเป้าได้ง่ายมากขึ้น” โอโร่ตะโกนอย่างสิ้นหวัง
“คุณคิดผิดแล้ว! คราวนี้วิลโล่ไม่มีทางโจมตีผมได้ เพราะถ้าหากว่าเขาทำลายชิ้นส่วนอาร์ค มันก็จะเท่ากับการทำลายซีเครดสปริงลงทั้งหมด” เซี่ยเฟยตะโกนกลับไปเสียงดัง
เมื่อได้ยินเซี่ยเฟยเตือนสติโอโร่ก็เริ่มสังเกตสถานการณ์อีกครั้ง แล้วเขาก็ได้พบว่าถึงแม้การโจมตีในครั้งแรกของวิลโล่จะเต็มไปด้วยพลัง แต่การโจมตีในครั้งต่อ ๆ มามันกลับเป็นเพียงลำแสงเล็ก ๆ ที่มีความแตกต่างจากการโจมตีในครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง
เมื่อคิดถึงความเกลียดชังของวิลโล่ที่มีต่อตระกูลสกายวิงที่สามารถทำให้ราชันย์คนนี้จู่โจมโดยไม่สนใจแม้กระทั่งชีวิตสหายของตัวเอง แล้วจู่ ๆ คนที่มีความแค้นขนาดนั้นจะลดระดับพลังโจมตีลงมาจากเดิมทำไม
คำอธิบายเรื่องนี้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือถึงแม้วิลโล่จะอยากฆ่าเซี่ยเฟย แต่เขากลัวที่จะทำลายดาวเคราะห์ที่เกิดจากพืชในระยะไกลมากกว่า
การพยายามใช้ประโยชน์จากศัตรูเป็นสไตล์การต่อสู้ของเซี่ยเฟยมาโดยตลอด ในเมื่ออีกฝ่ายไม่กล้าที่จะสัมผัสชิ้นส่วนอาร์ค เขาจะเป็นคนมุ่งหน้าเข้าไปหาชิ้นส่วนอาร์คชิ้นนั้นด้วยตัวเอง
นอกจากนี้คำถามที่ว่าอาร์คคืออะไรยังกวนใจชายหนุ่มมาระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้หาคำตอบสักที เขาจึงต้องการที่จะเห็นชิ้นส่วนอาร์คด้วยตาของตัวเอง
น่าเสียดายที่ถึงแม้วิลโล่จะใช้ทางลัดตามเซี่ยเฟยมาจนถึงที่นี่ได้ แต่ในพื้นที่โล่งมันไม่มีทางลัดเอาไว้ให้เดินทางอีกต่อไปแล้ว ราชันย์แห่งซีเครดสปริงจึงทำได้เพียงแต่อาศัยความเร็วของตัวเองในการติดตามศัตรูไป แล้วมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาย่อมเชื่องช้ากว่านักรบสกายวิงมาก
ระยะทางจากพื้นขึ้นไปจนถึงดาวเคราะห์ประหลาดมีระยะห่างมากกว่า 100,000 กิโลเมตร แต่ด้วยความเร็วในปัจจุบันของเซี่ยเฟย เขาก็สามารถใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น
ใบหน้าของวิลโล่เต็มไปด้วยความกังวล เพราะท้ายที่สุดชิ้นส่วนอาร์คก็คือรากฐานของซีเครดสปริงทั้งหมด ถ้าหากว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนชิ้นนี้ขึ้นมา มันก็อาจจะสร้างภัยพิบัติไปทั่วทั้งซีเครดสปริง
ในช่วงเวลาวิกฤตนั่นเองจู่ ๆ ร่างของเลวี่ก็ปรากฏตัวผ่านประตูมิติ และเนื่องมาจากชายคนนี้เป็นผู้ใช้พลังมิติเพียงคนเดียวจากหกเสาหลักแห่งซีเครดสปริง เขาจึงเป็นความหวังเดียวที่จะสามารถหยุดยั้งเซี่ยเฟยในตอนนี้เอาไว้ได้
“รีบหยุดมันเร็วเข้า!” วิลโล่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับชี้นิ้วไปยังเซี่ยเฟยที่อยู่ในระยะไกล
เลวี่ที่เพิ่งปรากฏตัวสะดุ้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนที่เขาจะรีบใช้พลังเพื่อเปิดประตูมิติออกมาดักหน้าเซี่ยเฟย
ชายชราคนนี้มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎขั้นสูงแล้ว ระดับพลังของเขาจึงสูงกว่าเซี่ยเฟยมาก ถ้าหากว่าเลวี่สามารถเคลื่อนที่ไปดักหน้าเซี่ยเฟยได้ ในเวลานั้นชายหนุ่มย่อมตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
อย่างไรก็ตามจู่ ๆ มุมปากของเซี่ยเฟยก็ยกรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นเขาก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเพื่อทำการปลดปล่อยคลื่นมิติเข้าใส่ดาวเคราะห์ในระยะไกล
การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มทำให้เลวี่เหงื่อแตกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปเพื่อปรากฏตัวตรงหน้าคลื่นมิติของเซี่ยเฟย
ชายชราจำเป็นจะต้องใช้กำแพงมิติปกป้องการโจมตีของเซี่ยเฟยเอาไว้อย่างต่อเนื่อง เพราะชายหนุ่มยังคงจู่โจมไปยังทิศทางต่าง ๆ ซ้ำ ๆ จนบังคับให้เลวี่ต้องเคลื่อนที่ผ่านประตูมิติครั้งแล้วครั้งเล่า
ความเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มทำให้เลวี่อยากจะระเบิดอารมณ์ออกมา เพราะในขณะที่เขาต้องการจะไปสกัดกั้นเซี่ยเฟย แต่ชายหนุ่มกลับขว้างพลังออกมารอบ ๆ จนทำให้เขาต้องเคลื่อนที่ไปมาเหมือนกับตัวตลก
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 376
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น