ตอนที่ 845 บุกเข้าไปในช่องว่างมิติ

“ทำไมเขาจะต้องร้องขอกองกำลังราชากฎเยอะขนาดนี้? ซีเครดสปริงที่คุณพูดถึงมันคือที่แบบไหนกันแน่?” เซี่ยเฟยถามอย่างตกใจ

“แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอยู่แล้ว” โอโร่กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างลึกลับ

“แล้วแซมสันที่อยู่ในซีเครดสปริงล่ะ?” เซี่ยเฟยถามอีกครั้ง

“แน่นอนว่าเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดาด้วยเหมือนกัน” โอโร่กล่าวพร้อมกับยักไหล่

คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออกในทันที เพราะโอโร่บอกกับเขาเพียงแค่ว่าเขาจะต้องมุ่งหน้าไปยังซีเครดสปริงเพื่อตามหาคนที่ชื่อแซมสัน แต่อดีตจอมมารก็ไม่ยอมบอกเขาว่าซีเครดสปริงอยู่ที่ไหน

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าทำไมในช่วงเวลาแรกที่ได้ยินคำว่าซีเครดสปริง ฮีธฟิลด์ถึงมีอาการลังเลออกมาแบบนั้น แต่หลังจากที่เขาได้เห็นเจ้าเมืองแบล็กไลออนเรียกรวมกองกำลังนักรบชั้นยอดมาจากราชวงศ์แล้ว เขาก็สามารถหาข้อสรุปได้อย่างรวดเร็วว่าสถานที่ที่ชื่อว่าซีเครดสปริงย่อมจะต้องเป็นสถานที่ที่อันตรายมากอย่างแน่นอน

หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างตามสมควรแล้ว ฮีธฟิลด์ก็สูดหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนที่จะหันมาคุกเข่าลงรายงานเซี่ยเฟยด้วยความเคารพ

“ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ทันทีที่กองกำลังสิงโตดำมาถึงพวกเราก็พร้อมที่จะออกเดินทางได้ทันที”

ท่าทางของเจ้าเมืองคนนี้ทำให้เซี่ยเฟยประหม่าอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ยื่นมือออกไปตามคำแนะนำของโอโร่เพื่อให้ฮีธฟิลด์จูบแหวนราชันย์สิงโต

พิธีการนี้ดูคล้ายกับพิธีการของอัศวินในยุคโบราณ ซึ่งทันทีที่ฮีธฟิลด์ได้จูบแหวนมันก็ทำให้เขาเกือบจะเป็นลมจากความสุข

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจถอดแหวนออกอย่างเงียบ ๆ เพราะปฏิกิริยาของฮีธฟิลด์ที่มีต่อแหวนทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงจงใจเก็บแหวนเพื่อให้บทสนทนากลับสู่สภาวะปกติ

“ขอบคุณนะครับที่ช่วยดำเนินการให้ ดูเหมือนการใช้ทีมสิงโตดำจะทำให้คุณเสียคะแนนไปเยอะเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยายามประคองร่างฮีธฟิลด์ให้ลุกขึ้นยืน

“คะแนนพวกนั้นสามารถหาเพิ่มได้จากการบริจาค แต่เรื่องของ…” ฮีธฟิลด์หยุดชะงักอย่างกะทันหันเมื่อตัวเองเกือบจะหลุดคำว่าบรรพบุรุษออกไป 

เพราะแม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่เคยบอกให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่แม้แต่คนโง่ก็คงจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แน่นอน เขาจึงพยายามปรับเปลี่ยนท่าทีของตัวเองให้กลับมาจริงจังเผื่อว่าเซี่ยเฟยจะนำเรื่องของเขาไปถ่ายทอดต่อให้กับโอโร่ในแง่ดี

“การที่ฉันมีโอกาสช่วยเหลือคุณถือว่าเป็นเกียรติของฉันแล้ว ฉันแค่เสียใจเล็กน้อยที่ฉันสะสมคะแนนมาไม่มากพอ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะเรียกระดมทีมสิงโตดำสัก 30 ทีม” ฮีธฟิลด์กล่าว

“เท่าที่ผมรู้ทีมสิงโตดำมีสมาชิกเพียงแค่ 300 คนไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าหากพวกเขาถูกเรียกใช้งานทั้งหมดมันคงจะดึงดูดความสนใจจากทุกฝ่ายมาที่เราแน่นอน ซึ่งเรื่องนั้นย่อมเป็นเรื่องที่พวกเราไม่ต้องการ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คำอธิบายของเซี่ยเฟยทำให้ฮีธฟิลด์สะดุ้งขึ้นมาในทันที เพราะทีมสิงโตดำถือได้ว่าเป็นกองกำลังลับของราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ท แต่ถึงกระนั้นเซี่ยเฟยก็ยังรู้จำนวนของสมาชิกทั้งหมดภายในทีม ซึ่งมันเป็นหลักฐานบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าชายคนนี้คือผู้ที่โอโร่ให้ความไว้วางใจเป็นอย่างสูง

“ในอดีตทีมสิงโตดำมีจำนวนสมาชิกอยู่ 300 คนจริง แต่ตอนนี้จำนวนของพวกเขาถูกเพิ่มขึ้นเป็น 600 คนมาสักพักแล้ว” ฮีธฟิลด์กระซิบเบา ๆ เพื่อให้เซี่ยเฟยกลับไปรายงานข้อมูลใหม่ให้กับโอโร่

“อ๋อ แบบนี้นี่เอง เดี๋ยวผมช่วยรายงานเรื่องนี้ให้” เซี่ยเฟยกล่าว

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยไม่จำเป็นจะต้องรายงานเรื่องใดเลย เพราะจักรพรรดิจากตระกูลไลอ้อนฮาร์ทคอยรับฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ทุกคำพูดของฮีธฟิลด์จึงได้ยินไปจนถึงโอโร่อย่างชัดเจน

ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างโอโร่กับเซี่ยเฟยก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ฮีธฟิลด์คิดเลยแม้แต่น้อย เพราะในขณะที่ฮีธฟิลด์คิดว่าคนทั้งสองคนนี้สนิทกัน แต่ในความเป็นจริงคือโอโร่พยายามรบเร้าให้ชายหนุ่มสังหารตัวเขาตลอดเวลา เพียงแต่ชายหนุ่มยังพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อให้อดีตจอมมารอยู่กับเขาต่อไป

“เส้นทางสู่ซีเครดสปริงค่อนข้างอันตรายมาก เดี๋ยวฉันจะให้ราชากฎ 2 คนคอยเป็นบอดี้การ์ดปกป้องความปลอดภัยให้กับคุณอย่างใกล้ชิด พวกเขาเป็นคนสนิทของฉันเอง ฉันสามารถรับรองได้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างปัญหาใด ๆ” ฮีธฟิลด์ยังคงพยายามทำให้เซี่ยเฟยพอใจต่อไป

“ขอโทษด้วยครับ แต่ผมเป็นคนขี้ระแวงและไม่ค่อยชอบพึ่งพาคนอื่นเท่าไหร่ นอกเหนือจากเฉินตงแล้วผมก็ไม่ไว้ใจใครรอบ ๆ ตัวคุณทั้งนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับโบกมือ

“ตอนนี้เฉินตงกำลังฝึกในเขตของราชวงศ์อย่างหนัก แต่เดี๋ยวฉันจะรีบเชิญเขากลับมาหาคุณเดี๋ยวนี้เลย” ฮีธฟิลด์กล่าวอย่างรวดเร็ว

เนื่องมาจากเฉินตงคือคนสนิทของเซี่ยเฟย ฮีธฟิลด์จึงใช้คำว่า ‘เชิญ’ เพื่อเรียกตัวชายหนุ่มคนนั้นกลับมา ไม่ว่ายังไงเซี่ยเฟยก็คือคนสนิทของจักรพรรดิไลอ้อนฮาร์ท ผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทของคนสนิทของจักรพรรดิย่อมได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้นเป็นเงาตามตัว

เซี่ยเฟยเชื่อว่าหลังจากนี้เฉินตงคงจะได้รับการดูแลจากฮีธฟิลด์อย่างเต็มที่ และเรื่องนี้ก็คือสิ่งที่ชายหนุ่มพอจะทดแทนมิตรภาพที่เฉินตงคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับเขา ในยามที่เขากำลังตกอยู่ในความยากลำบากเท่าที่เขาจะทำได้

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงติดต่อเฉินตงไม่ได้ ที่แท้เขาก็กำลังปลีกตัวออกไปฝึกฝนอย่างสันโดษนี่เอง ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนผมขอฝากสิ่งนี้ไปมอบให้กับเขาด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหยิบชุดเกราะที่เคยเป็นของควินซี่ออกมามอบให้กับฮีธฟิลด์

ตอนแรกที่ฮีธฟิลด์ได้รับชุดเกราะเขาก็สะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขาสามารถสัมผัสได้ในทันทีว่าชุดเกราะชุดนี้ไม่ใช่ชุดเกราะธรรมดา และมันก็จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากมากอย่างแน่นอน

ไม่ว่ายังไงเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะใช้ชุดเกราะของเผ่ามารในพื้นที่ของเผ่าเทพได้อยู่แล้ว แต่แทนที่เขาจะนำมันไปขาย เขาก็คิดว่าการมอบมันให้กับเฉินตงคงจะเป็นประโยชน์มากกว่า

หลังจากพูดคุยรายละเอียดกันอีกเล็กน้อย ฮีธฟิลด์ก็ขอตัวออกไปเพื่อไปเตรียมการเดินทางไปยังซีเครดสปริง

“นายนี่เป็นพวกเจ้าเล่ห์จริง ๆ” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจหลังจากที่ฮีธฟิลด์จากไปแล้ว

“เจ้าเล่ห์อะไรเหรอครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างไร้เดียงสา

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายจงใจพูดถึงเฉินตงและมอบชุดเกราะนั่นต่อหน้าหลานของฉันโดยตรง มันเป็นการพยายามสื่อออกมาชัด ๆ ว่าเฉินตงเป็นคนของนาย และนายจะพยายามปกป้องเขาไม่ว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น” โอโร่กล่าว

“ใช่ครับ ผมต้องการจะสื่อแบบนั้นจริง ๆ ไหน ๆ ผมก็มีโอกาสได้ใช้ชื่อเสียงของคุณแล้ว ผมก็ขอยืมชื่อเสียงของคุณไปใช้ต่ออีกสักหน่อยก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

—

เมื่อราชากฎผู้สวมชุดเกราะสีดำเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ มันก็ทำให้บรรยากาศภายในพื้นที่บริเวณนี้ดูตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ

เซี่ยเฟยได้นำชุดเกราะของเผ่ามารออกมาสวมทับชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นเอาไว้อีกชั้นด้วยเช่นกัน เพราะถึงยังไงสถานที่แห่งนี้ก็เป็นพื้นที่ของเผ่ามาร มันจึงไม่ใช่เรื่องดีถ้าหากว่าเขาจะสวมใส่ชุดเกราะจากทางฝั่งเผ่าเทพ

หลังจากนั้นฮีธฟิลด์ก็นำกองกำลังตรงไปยังสวนหลังบ้านที่ถูกปิดผนึกเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำให้แม้แต่แมลงวันก็ไม่สามารถบินเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ได้

ฮีธฟิลด์เดินไปกดปุ่มกลไกบางอย่างเบา ๆ ทำให้สวนที่แต่เดิมถูกปกคลุมด้วยดอกไม้แยกออกเป็น 2 ส่วนเผยให้เห็นบันไดที่นำลงไปยังพื้นที่ใต้ดิน

เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสถานที่ที่เรียกว่าซีเครดสปริง มันก็คงจะไม่ได้อยู่ที่ชั้นใต้ดินใช่ไหม?

ความสูงของเซี่ยเฟยน้อยกว่านักรบไลอ้อนฮาร์ทมาก เขาจึงกลายเป็นตัวตนที่โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มนักรบที่มีขนาดร่างกายที่ใหญ่โต

อย่างไรก็ตามนักรบทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่คงระเบียบวินัยเอาไว้เป็นอย่างดี เพราะมันไม่มีใครให้ความสนใจตัวตนของเซี่ยเฟยเลย ทุกคนยังคงเดินตรงไปข้างหน้าตามคำสั่งที่ได้รับจากฮีธฟิลด์

กองกำลังนี้ประกอบไปด้วยราชากฎจากทีมสิงโตดำ 100 คน ประกอบกับบอดี้การ์ดส่วนตัวของฮีธฟิลด์อีกสามคน หมายความว่ากองกำลังของพวกเขาประกอบไปด้วยราชากฎทั้งหมด 105 คน และ นักรบบางคนก็อาจจะมีพลังถึงระดับจักรพรรดิกฎด้วยซ้ำ

กองกำลังนี้ถือว่าเป็นกองกำลังที่น่ากลัวจริง ๆ เพราะมันมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับกองกำลังผสมของตระกูลมูนวอร์ดและอีกสองลัทธิของเผ่าเมอร์แมน

ห่างออกไปไม่ไกลเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีความสูงมากกว่า 300 เมตร และมีความกว้างใหญ่มากกว่า 10 กิโลเมตร

ฮีธฟิลด์พยักหน้าเล็กน้อยส่งสัญญาณให้ทีมหยุดพัก จากนั้นเขาก็กระซิบข้อความเบา ๆ กับผู้นำทีมสิงโตดำที่อยู่ใกล้ ๆ กับเขา

ผู้นำทั้งสองของทีมสิงโตดำรู้สึกลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนที่เขาจะโบกมือให้ทุกคนถอยหลังไปเพื่อทำการเคลียร์พื้นที่

“เปิด!”

ผู้นำทีมสิงโตดำทั้งสองคนทำการส่งพลังออกไป ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเปิดมิติเผยให้เห็นเส้นทางที่มุ่งหน้าตรงไปยังช่องว่างมิติ

ช่องมิติ!

เซี่ยเฟยสามารถจดจำพื้นที่อันตรายแห่งนี้ได้ในทันที เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยหลุดเข้าไปในช่องว่างมิตินี้ ขณะที่หนอนด้วงมิติเข้าบุกโจมตีพื้นที่ของตระกูลหยู โชคดีที่ในครั้งนั้นเขาสามารถหลบหนีออกมาจากช่องว่างมิติได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะต้องติดอยู่ในช่องว่างมิติตลอดไป ไม่มีทางหาเส้นทางออกมาจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้ได้เลย

เมื่อช่องว่างมิติถูกเปิดออกมันก็เริ่มดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปราวกับหลุมดำ โชคดีที่พื้นที่บริเวณนี้ถูกปกป้องเอาไว้ด้วยกำแพงกฎ และระดับนักรบทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับราชาขึ้นไป มันจึงไม่มีใครถูกดึงเข้าไปภายในช่องว่างที่เพิ่งถูกเปิดออก

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฮีธฟิลด์ถึงนำทุกคนลงมายังชั้นใต้ดิน เพราะถ้าหากพวกเขาเปิดช่องว่างมิติบนพื้นดิน มันคงจะสร้างความวุ่นวายขึ้นมาอย่างมากมาย

“ซีเครดสปริงอยู่ในช่องว่างมิติงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ คราวนี้นายเดาถูกแล้ว” โอโร่กล่าวอย่างเคร่งครัด

ทันใดนั้นฮีธฟิลด์ก็ค่อย ๆ หยิบโลหะที่ดูเหมือนหอยสังข์ออกมาอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะเป่าโลหะนั้นเบา ๆ บริเวณทางเข้าช่องว่างมิติ

เซี่ยเฟยสังเกตท่าทางของฮีธฟิลด์อย่างระมัดระวัง ซึ่งมันก็ดูเหมือนกับว่าโลหะนั้นจะทำหน้าที่เป็นแตรเพื่อเรียกอะไรบางอย่างออกมา

ทุกคนยังคงยืนรออยู่อย่างเงียบเงียบ ก่อนที่อีก 10 นาทีต่อมาฮีธฟิลด์จะโบกมือให้ทุกคนเคลื่อนที่เข้าไปในช่องว่างมิติอันมืดมิด

เซี่ยเฟยกัดฟันเดินตามกองกำลังเข้าไปในช่องว่างมิติด้วยเช่นกัน ก่อนที่เขาจะได้พบว่าฝ่าเท้าของตัวเองกำลังสัมผัสกับความว่างเปล่าราวกับว่าเขากำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางอวกาศ

ระบบมองกลางคืนและระบบช่วยชีวิตของชุดเกราะถูกเปิดใช้งานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมาชายหนุ่มก็เห็นภาพที่ทำให้เขารู้สึกตกตะลึง

“นั่นมันอะไร!!”

***************

แล้วอะไรเล่า!! หรือข้ามไปเป็นซีเครดสปริงเลย?