ตอนที่ 830 กระบวนการหลอมที่มีปัญหา
ตอนที่ 830 กระบวนการหลอมที่มีปัญหา
“แย่แล้ว! ฉันคิดว่าชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นน่าจะเป็นชุดเกราะที่มีจิตวิญญาณ!” โอโร่อุทานพร้อมกับเหงื่อเม็ดใหญ่ที่เริ่มไหลออกมาจากหน้าผาก
“ชุดเกราะที่มีจิตวิญญาณ!” เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะให้ลังเล ท้ายที่สุดกระบวนการทุกอย่างมันก็เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถมาหยุดยั้งได้ในตอนนี้
พลังที่ไหลออกมาจากดักแด้จักจั่นทองแดงและชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นเริ่มเข้าพัวพันจู่โจมเข้าใส่กันและกัน เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องใช้กฎแห่งความโกลาหลเพื่อปราบปรามพลังทั้งหมดและหลอมรวมพวกมันเข้ากันให้ได้
ควันสีดำเคลื่อนไหวคดเคี้ยวไปมาและส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ลูกแก้วอสูรคือแกนชีวิตที่มีจิตวิญญาณด้วยเช่นกัน เมื่อมันถูกหลอมรวมเข้ากับดักแด้จักจั่นทองแดง พลังของพวกมันจึงเริ่มปะทะเข้ากับวิญญาณภายในชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์น
การปะทะกันของสองสิ่งนี้คล้ายกับการปะทะกันของวิญญาณ เพราะพวกมันทั้งคู่ต่างก็ล้วนแล้วแต่ไม่มีตัวตน สิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นมันจึงกลายเป็นการปะทะกันของหมอกควันสีดำและกลุ่มแสงสีทอง
“ชุดเกราะจิตวิญญาณมันคืออะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับพยายามยึดจับท่อโลหะเอาไว้ เพราะการปะทะกันของจิตวิญญาณทั้งสองทำให้เขาคล้ายกับกำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากพายุเฮอริเคน
ยิ่งไปกว่านั้นแรงต้านของจิตวิญญาณทั้งสองยังมีความรุนแรงมาก ชนิดที่ว่าแม้แต่กฎแห่งความโกลาหลของเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถบังคับให้พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกันได้
“ชุดเกราะจิตวิญญาณมันก็หมายถึงในชุดเกราะมันมีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่นั่นแหละ แต่ในสภาวะปกติพวกเราไม่สามารถสัมผัสถึงตัวตนของจิตวิญญาณพวกนั้นได้” โอโร่อธิบายอย่างเร่งรีบ
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงมาก เพราะอย่าลืมว่าอันธก็คือวิญญาณด้วยเหมือนกัน
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าในจักรวาลแห่งนี้มีสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณอยู่จริง ๆ แต่มันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถค้นพบได้ง่าย ๆ ยกตัวอย่างเช่น อันธก็สามารถที่จะสื่อสารกับเขาและโซฟีได้เท่านั้น จิตวิญญาณแต่ละตนย่อมมีคลื่นความถี่ที่ไม่เหมือนกัน และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าในชุดเกราะของเขามีจิตวิญญาณอื่นสิงสถิตอยู่
จิตวิญญาณในชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นอาจจะเป็นจิตวิญญาณของเจ้าของชุดเกราะคนก่อน หรืออาจจะเป็นจิตวิญญาณเร่ร่อนในจักรวาลที่แอบมาสิงสถิตอยู่ในชุดเกราะชุดนี้ก็ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือจิตวิญญาณนี้มีความแตกต่างจากอันธ เพราะเซี่ยเฟยไม่สามารถสัมผัสถึงจิตวิญญาณดวงนี้ได้
ในระหว่างกระบวนการหลอมรวมคือการใส่พลังของลูกแก้วอสูรที่มีจิตวิญญาณเข้าไปในชุดเกราะที่มีจิตวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว มันจึงทำให้จิตวิญญาณทั้งสองเกิดความไม่พอใจและเกิดการต่อต้านอันรุนแรงดั่งที่เห็นอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเซี่ยเฟยพยายามใช้พลังเพื่อหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกัน จิตวิญญาณทั้งสองก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือพวกมันร่วมมือกันเพื่อต่อต้านเซี่ยเฟย ดังนั้นถ้าหากว่าชายหนุ่มต้องการที่จะเสร็จสิ้นกระบวนการหลอมรวมในครั้งนี้ให้ได้ เขาก็จำเป็นจะต้องพิชิตจิตวิญญาณทั้งสองให้ได้ด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความสงสัย เพราะทั้งอันธและโซฟีต่างก็พยายามวิจัยการหาร่างกายใหม่ให้กับอันธอย่างยากลำบาก แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้ทั้งสองจะร่วมกันวิจัยมาอย่างยาวนาน แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณของอันธเข้ากับร่างโลหะได้อย่างสมบูรณ์
ในทางกลับกันวิญญาณภายในชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นกลับมีการผสานหลอมรวมเข้ากับชุดเกราะอย่างสมบูรณ์ ทั้ง ๆ ที่โลหะพวกนี้ไม่ใช่หินมัวร์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความไวต่อวิญญาณโดยเฉพาะ การพยายามหลอมรวมจิตวิญญาณเข้าสู่โลหะแบบนี้ ย่อมมีความยากลำบากมากกว่าการหลอมรวมจิตวิญญาณเข้ากับหินมัวร์เป็นพันเป็นหมื่นเท่า
‘จิตวิญญาณนี้สามารถหลอมรวมเข้ากับชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นได้อย่างสมบูรณ์งั้นเหรอ?’
‘เป็นไปได้ไหมว่ามันจะเป็นจิตวิญญาณที่มีความแตกต่างไปจากอันธ?’
เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้มีเวลาให้คิดเรื่องนี้มากเกินไป เพราะวิญญาณทั้งสองกำลังมุ่งเป้าหมายมาที่เขา
ขนอุย!
เล่ห์มายา!
ทันใดนั้นอสูรตัวน้อยก็ได้กลายร่างเป็นเซี่ยเฟยอีกคน พร้อม ๆ กับพลังงานปริมาณมหาศาลภายในร่างของมันที่ถูกถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เซี่ยเฟยสามารถเพิ่มพลังของกฎแห่งความโกลาหลเข้าไปในกระบวนการหลอมรวมได้มากกว่าเดิมถึงสองเท่า
โอ้ว!
จิตวิญญาณจากชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นเริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน และถึงแม้ว่ามันจะถูกรวมเข้ากับดักแด้จักจั่นทองแดงและลูกแก้วอสูร แต่มันก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังของกฎแห่งความโกลาหลที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่าได้ พวกมันจึงค่อย ๆ ถูกบีบบังคับให้กลับไปภายในชุดเกราะ
“ยังไม่พอ”
เซี่ยเฟยตะโกนร้องคำราม ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยพลังงานสำรองออกมาจากสมองของเขาในทันที พลังงานปริมาณมหาศาลจึงไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างของชายหนุ่ม ก่อนที่พลังงานเหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นคลื่นพลังกฎแห่งความโกลาหลอันเชี่ยวกราด
ยิ่งไปกว่านั้นกฎแห่งความโกลาหลของเซี่ยเฟยยังได้ถูกเลื่อนระดับเป็นขั้นที่ 4 แล้ว ซึ่งมันเป็นพลังที่ถูกยกขึ้นมาในระดับกลาง พลังของกฎแห่งความโกลาหลในตอนนี้จึงเหนือล้ำมากกว่าพลังในอดีตมาก
จิตวิญญาณในเงาดำพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่น่าเสียดายที่พละกำลังของมันค่อย ๆ ถูกกดดันให้อ่อนแอลงเรื่อย ๆ ขณะที่เซี่ยเฟยได้เผยให้เห็นความดุร้ายของกฎแห่งความโกลาหลอย่างช้า ๆ
ตูม!
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาเป็นชุดพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้าที่ถูกระเบิดออกมา เหตุการณ์นี้ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่วแม้แต่พื้นที่มิติก็เริ่มเกิดการบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
—
ไม่กี่นาทีต่อมาเซี่ยเฟยก็กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางเศษซากคริสตัลอันว่างเปล่าด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้คริสตัลต้นกำเนิดจำนวนมากเพื่อเติมเต็มพลังงานให้ฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
กระบวนการหลอมรวมโดยใช้ค้อนรวมศูนย์เสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องทำมีเพียงแค่เปิดใช้งานชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นอีกครั้ง เพื่อดูว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนบ้าง
“อันตรายมาก โชคดีที่พลังแปลก ๆ ของนายควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ไม่งั้นเรื่องนี้มันคงจะกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ” โอโร่กล่าวอย่างสยดสยองเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์อันน่าหวาดกลัวในก่อนหน้านี้
ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไร เพราะเขาคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วว่ากระบวนการทั้งหมดย่อมจะต้องมีอุปสรรคอย่างแน่นอน เพียงแต่อุปสรรคที่ปรากฏขึ้นมาแตกต่างไปจากสิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้ เพราะไม่ว่าจะเป็นถ้ำ, ภูเขาหรือบ้านไม้ของฮัวหยูตงต่างก็พังทลายทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นย่อมไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขาเลย สิ่งสำคัญจริง ๆ คือกระบวนการหลอมรวมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้วต่างหาก แล้วมันก็ทำให้เขาได้รับอุปกรณ์ชิ้นที่ 2 ที่ถือกำเนิดมาจากการหลอมรวมด้วยค้อนรวมศูนย์
“ยิ่งฉันคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ มากเท่านั้น ย้อนกลับไปในตอนที่นายบอกว่านายจะใช้ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นเป็นวัตถุดิบตั้งต้น”
“แววตาของฮัวหยูตงมีความผิดแปลกไปเล็กน้อย บางทีเขาอาจจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าภายในชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นมีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่ เพราะเขาเป็นคนช่วยนายซ่อมชุดเกราะชุดนี้ขึ้นมา การที่เขาจงใจไม่บอกเรื่องนี้กับนายนั่นก็เพราะว่าเขาอาจจะต้องการฆ่าปิดปากนายก็ได้” โอโร่กล่าว
เมื่อพูดถึงฮัวหยูตง เซี่ยเฟยก็พยายามมองไปรอบ ๆ เพราะถึงแม้ภูเขาทั้งลูกที่เคยเป็นบ้านของชายชราคนนี้จะถูกทำลาย แต่ฮัวหยูตงก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาให้เขาเห็นเลย
หลังจากเหตุการณ์นี้ชายหนุ่มก็ตัดสินใจที่จะเรียนศาสตร์ทุกศาสตร์ด้วยตัวเอง เนื่องจากเขาไม่อยากจะพึ่งพาความสามารถของคนอื่นอีกแล้ว เพราะถ้าหากว่าเขาไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ในวันนี้ได้ จุดจบมันก็อาจจะกลายเป็นเขาที่เสียชีวิตในระหว่างกระบวนการหลอมรวมก็ได้ใครจะรู้
ไม่ว่ายังไงชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนที่เคยเชื่อใจใครเต็ม 100% สิ่งเดียวที่เขาเชื่อใจมีเพียงแค่ความสามารถของตัวเองเท่านั้น
ชายหนุ่มพยายามสลัดความคิดเรื่องฮัวหยูตงออกไป จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วลูบไล้ไปตามชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์น ตอนนี้เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยของจิตวิญญาณใด ๆ ได้แล้ว คล้ายกับว่าจิตวิญญาณพวกนั้นถูกผนึกเอาไว้ภายในชุดเกราะชุดนี้อย่างสมบูรณ์
หลังจากที่ชายหนุ่มใช้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ฟื้นฟูพลังงานให้กับตัวเองอีก 2-3 ก้อน เขาก็ใช้นิ้วแตะที่ชุดเกราะเบา ๆ เพื่อเป็นการเปิดใช้งานชุดเกราะที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมาใหม่
นี่คือผลงานจากการหลอมรวมลูกแก้วอสูร, ดักแด้จักจั่นทองแดง, วิญญาณดั้งเดิมของชุดเกราะและกฎแห่งความโกลาหลผ่านทางค้อนรวมศูนย์ ผลที่ได้รับมันจึงกลายเป็นสิ่งที่แม้แต่เซี่ยเฟยก็คิดไม่ถึง
—
ฟู่ว~
พื้นที่ด้านหลังชุดเกราะพ่นเปลวไฟออกมาอย่างรุนแรง ส่งร่างของชายหนุ่มให้พุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ
แกร๊ก ๆ ๆ ๆ
อุปกรณ์ไอพ่นซึ่งแต่เดิมซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังค่อย ๆ ถูกขยับ ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปติดตั้งบริเวณใต้ฝ่าเท้าทั้งสองข้าง
ชุดเกราะกำลังเปลี่ยนรูปร่าง!?
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของการเคลื่อนไหวในอากาศอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่ออุปกรณ์ไอพ่นได้ขยับมาอยู่ใต้ฝ่าเท้า มันย่อมทำให้ชายหนุ่มเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากกว่าในตอนที่อุปกรณ์ไอพ่นถูกซุกซ่อนอยู่ด้านหลัง
ชายหนุ่มยังคงพยายามบินเล่นในอากาศ และเนื่องมาจากอุปกรณ์ไอพ่นสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางได้มากยิ่งขึ้น มันจึงทำให้ความเร็วในการเคลื่อนไหวกลางอากาศของเขาไม่ต่างไปจากการวิ่งอยู่บนพื้นดินมากนัก
ฟู่ว!!
เซี่ยเฟยระเบิดพลังไอพ่นออกมาอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของเขามุ่งตรงไปยังภูเขาสูงที่อยู่ในระยะไกล
“จะชนแล้ว!” โอโร่อุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะการพุ่งเข้าชนภูเขาด้วยความเร็วมากกว่า 100,000 เมตรต่อวินาทีไม่ใช่เรื่องตลก การปะทะเพียงแค่ครั้งเดียวอาจจะทำให้ผู้สวมใส่ชุดเกราะถูกกระแทกจนเสียชีวิตลงไปได้เลย
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็เลือกที่จะไม่สนใจคำแนะนำของโอโร่ เพราะสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือพยายามทดสอบระบบการป้องกันที่สมควรจะได้รับการอัปเกรดขึ้นมาใหม่ด้วยเช่นกัน
ตูม!
ในที่สุดร่างของชายหนุ่มก็พุ่งเข้าชนกับภูเขาโดยตรง จนทำให้ภูเขาที่มีความสูงมากกว่า 200 เมตรพังทลายลงมาในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที
ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างที่ร่างของเซี่ยเฟยกำลังจะปะทะเข้ากับภูเขา จู่ ๆ รูปร่างของชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างด้านหน้าให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
ผลลัพธ์ที่ได้คือตัวชุดเกราะทำหน้าที่เป็นเหมือนกับควงสว่าน จนทำให้แรงกระแทกแทบที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในชุดเกราะอย่างเซี่ยเฟยเลย
เซอร์ไพรส์!
เซอร์ไพรส์มาก!
ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดเกราะทื่อ ๆ อีกต่อไป แต่มันคือชุดเกราะอัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างตามแต่ละสถานการณ์ที่มันกำลังเผชิญหน้าได้
เซี่ยเฟยค่อย ๆ ร่อนลงบนพื้นอย่างมีความสุข เพราะการที่ชุดเกราะมีความฉลาดมากขึ้น มันก็จะทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงสถานการณ์อันตรายได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ตูม!
เซี่ยเฟยทดลองชกกำปั้นเข้าใส่ภูเขา และเมื่อหมัดของเขาถูกเหวี่ยงออกไป ถุงมือหนามก็ปรากฏขึ้นบริเวณกำปั้นของเขาในทันที เพื่อช่วยขยายความเสียหายที่มีให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
“นี่มันชุดเกราะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการต่อสู้ชัด ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับมองกำปั้นของตัวเองอย่างยินดี
“นี่มันชุดเกราะอะไรกันเนี่ย!? นี่นายสร้างอุปกรณ์แปลก ๆ ขึ้นมาอีกแล้วงั้นเหรอ?” โอโร่อุทานด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
***************
ไอเทมโกงอีกชิ้นนนน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 357
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น