บทที่ 12...1/3

จันทร์ซ่อนใจ

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 12...1/3

          ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป แม้ว่าจะยังหาตัวมือปืนไม่พบ พันธินเดินทางมาทำงานพร้อมปริญ แผลจากรอยกระสุนคงทำอะไรบอดี้การ์ดคนนี้ไม่ได้ อย่างน้อยเหตุการณ์ร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ ที่ทำให้รู้ว่าเขาไว้ใจใครได้บ้าง

          เอกสารสำหรับการประชุมในวันนี้ถูกพันธินเปิดอ่าน การนั่งเฉยๆ ย่อมเสียเวลาอันมีค่าไป บอร์ดบริหารต้องการขยายโครงการไปที่เชียงราย แต่เขาเห็นว่าควรประเมินตลาดและเรื่องของภัยพิบัติก่อน น่าแปลกที่งานนี้สรัชจงใจเข้ามาแย่งซื้อที่ดินอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังเป็นเรื่องภายใน อาจมีเกลือเป็นหนอน เขาคงต้องหาวิธีบี้หนอนให้ตายเสียที

          “มีนักข่าวที่หน้าตึกครับ ให้ขับรถไปจอดด้านหลังแทนไหมครับ” ปริญถามเมื่อเห็นนักข่าวมาออรอกัน

          พันธินเงยหน้ามองไปยังกลุ่มคนที่มาอออยู่ ที่คอคล้องกล้องไว้ ช่างมีความพยายามในการหาข่าว เขาน่าจะใช้ประโยชน์จากนักข่าวพวกนั้นได้

          “ไม่ต้องหรอก ผมรู้พวกนั้นมาด้วยเรื่องอะไร”

          รถจอดอย่างสง่างามที่หน้าตึกสำนักงานของใหญ่เอ็มไพร์ กรุ๊ป พันธินก้าวลงมาเผชิญกับนักข่าว เรียวปากหนายิ้มพราวเมื่อไม่มีการหนีหน้า เขาเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้ร้ายที่ป่านนี้อาจจะลอยหน้าลอยตาในสังคมอยู่

          “ผมให้เวลาห้านาที วันนี้มีประชุมสำคัญ อยากถามอะไรก็เชิญครับ”

          “ผู้หญิงที่อยู่กับคุณพันธินซึ่งเราสืบแล้วว่าเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอิชย์ เธอเป็นว่าที่คู่หมั้นคนต่อไปของคุณหรือเปล่าครับ” นักข่าวสายบันเทิงถาม ถ้าเป็นจริงขึ้นมาล่ะก็นางเอกชื่อดังคงมีหนาวจากที่คิดว่าผู้ชายจะเสียใจหนัก แต่กลับยังยิ้มได้

          พันธินอยากจะหัวเราะ ที่รอมานานก็เพื่อคำถามแบบนี้เองหรือ “การมีความสัมพันธ์ทางใจที่ดีกับคนดีๆ เป็นเรื่องที่ดีครับ หากจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น ผมคงไม่จำเป็นต้องปิดบัง เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าวดีนั้น”

          “แล้วจากเหตุลอบยิงล่ะครับ คุณพันธินสงสัยใครเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า”

          “ผมมีคนที่สงสัยอยู่ในใจครับ แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจน่าจะดีกว่า สำหรับคำถามนี้ผมอยากฝากถึงคนที่ส่งของขวัญมาให้ว่าโอกาสหน้าไม่มีอีกแล้ว” สายตาของพันธินสื่อความตามนั้น ไม่ว่าคนที่ฆ่า คิดจะฆ่า หรือแม้แต่คนปกป้องคนผิด ต่อไปจากนี้รอรับผลจากกระทำได้เลย

          “มีข่าวว่าคุณดรุณีกับคุณสรัชจะหมั้นกัน คุณพันธินคิดเห็นอย่างไร ถ้าถูกเชิญจะไปงานหมั้นไหมครับ” นักข่าวกลับมาเรื่องที่คนอ่านสนใจอีกครั้ง

          “การได้สมรักเป็นเรื่องที่ดีจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปนี่ครับ” คิดว่าเขาจะไปพังงานหมั้นเพราะช้ำใจจะได้ตามไปทำข่าวงั้นสิ

          “เหตุผลที่คุณพันธินไม่มีทีท่าเสียใจที่เสียคู่หมั้นให้กับคู่แข่งทางธุรกิจก็เพราะมีผู้หญิงอีกคนอยู่แล้วใช่ไหมคะ” คนนี้นักข่าวสายธุรกิจ แต่พ่วงบันเทิงเข้ามาด้วย

           “ดูละครหลังข่าว คุณคงได้คำตอบที่น่าฟังกว่าคำตอบของผม” พันธินหัวเราะแล้วเดินเข้าตึกไป

          เบื้องหลังนักข่าวยังยืนงงว่าได้คำตอบแล้วหรือยัง จนกระทั่งใครคนหนึ่งร้องอ้อ หลังจากเพิ่งรู้ว่าถูกหลอกด่านิ่มๆไปเรียบร้อยแล้ว

 

          กลางดึกท่ามกลางความมืดบริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองที่สามารถเดินทางลงใต้ได้ รถบรรทุกสองคันกำลังขับตามกันไปช้าๆ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกมามีของสำคัญที่หากส่งถึงปลายทางจะสร้างเงินได้มหาศาล ‘ของ’ ถูกแพ็คและอำพรางไว้อย่างดี ตลอดมาไม่เคยมีการผิดพลาด การส่งของเป็นไปด้วยดี

          ทว่าในคืนนี้ด่านตำรวจมาจากไหนวะ!

          รถที่บรรทุกไม้มาเต็มตู้คอนเทนเนอร์จอด แต่ไม่ยอมให้ตรวจ ทว่ากลับเสนอเงินให้เพื่อพบกับความผิดคาดตำรวจไม่รับเงิน แถมยังตั้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน เมื่อไม่มีทางเลือกจึงชักปืนขึ้นมาขู่ ตู้คอนเทนเนอร์ถูกเปิด แล้วค้นอย่างรู้ดีว่าไม้แปรรูปที่ถูกกฎหมายนั้นเป็นเพียงหน้าม่านที่ซ่อนบางอย่างไว้

          นั่นไง! ตำรวจพบแล้ว ไม้พะยูงกลายเป็นหลักฐานเอาผิด การจับกุมเกิดขึ้นในวินาทีนั้น เสียงปืนแรกดังมาจากรถสองคันที่ถูกล้อมจับทันที

          เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึก ภาวิตไม่พอใจนักที่ถูกรบกวนเวลา แต่พอเห็นว่าลูกน้องคนสนิทเป็นคนโทรมาเขาก็รีบรับ ด้วยความกังวลว่าอาจมีเรื่อง คืนนี้ขนไม้เสียด้วย

          “ไม้ถูกจับได้ครับนาย ตำรวจเอาของกลางไปจนหมด”

          “ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้าวะ ทำไมมันรู้ แล้วคนของเราล่ะ” เรื่องนี้สำคัญกว่า ถ้ามีใครรู้เข้า ชื่อเสียงของเขาหมดกันแน่ ปีหน้าเขาจะลงเล่นการเมืองเสียด้วย

          “หนีทันครับ ไอ้ที่หนีไม่ทันก็ตายแล้ว” คนสนิทรีบรายงาน

          ภาวิตค่อยโล่งอก แต่พอคิดว่าไม้ถูกจับทั้งที่ไม่เคยถูกจับได้ ความโกรธก็ยิ่งทวีคูณ มันต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ ตำรวจรู้ได้ยังไงวะ

          “ไปสืบมาใครมันปากสว่าง ถ้ารู้เอาให้ตาย”

          “ครับนาย”

          เงินหลายล้านหายไปในพริบตา ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง ภาวิตนั่งคิด เขามีศัตรูไม่กี่คน แล้วในไม่กี่คนนั้นก็ไม่มีใครกล้าเล่นงานเขาด้วย เราต่างทำมาหากิน ใครมันกล้าล้ำเส้น แล้วตำรวจที่ทำคดีมันไม่กลัวตายหรือไง ไม่รู้หรือว่ากำลังมีเรื่องกับใคร เขาต้องหาคนช่วย รอจนถึงเช้าไม่ได้แล้ว ภาวิตรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินทางไปหาคนที่จะช่วยให้เรื่องเงียบ

 

          ‘ข่าว’ มาถึงพันธินก่อนที่จะเห็นหนังสือพิมพ์ในห้องอาหาร เขานึกสีหน้าของภาวิตไม่ออกว่าจะเป็นยังไง แต่นึกออกว่าคนที่เห็นแก่ได้แบบนั้นต้องทำอะไร แผนแรกผ่านไปด้วยดี ส่วนแผนต่อไปอีกไม่เกินสองวันทุกอย่างจะดำเนินต่อ การรอดชีวิต ในขณะที่คนที่ควรรอดกลับตาย ทำให้เขาต้องแก้แค้นด้วยวิธีที่ผ่านการคิด ไม่ใช่ซื่อตรงเกินไปจนกลายเป็นถูกทำร้ายในทันทีที่คิดว่าทำดีที่สุดแล้วอย่างที่แล้วมา 

          พันธินเดินมาที่รถพร้อมหนังสือพิมพ์ เมื่อได้ยินความคิดของพ่อบ้านว่าลุงอิชย์รออยู่หน้าตึก

          “ยิ้มอะไรหรือครับคุณธิน” อิชย์ถามพลางตามเข้าไปนั่งในรถด้วยกัน

          “ลองอ่านดูสิครับลุงอิชย์” เขายื่นหนังสือพิมพ์ให้ รถค่อยๆ เคลื่อนออกจากวัสวาน

          “ข่าวไม้พะยูงถูกจับหรือว่า...” อิชย์เปลี่ยนใจมาคิดในใจแทน ฝีมือคุณหรือครับ แน่ใจแล้วหรือว่าเป็นคุณภาวิต

          “ยังไม่แน่ใจเรื่องนั้น แต่แน่ใจว่าใครบ้างที่อยากให้ผมตาย” เขาเอ่ยเสียงไม่เบานักเพราะจงใจให้ปริญได้ยินด้วย

          “ระวังตัวนะครับ”

          “แน่นอนครับ ผมพลาดและโง่ได้แค่ครั้งเดียว” พันธินยิ้ม “เปิดไปหน้าสองสิครับ มีข่าวสำคัญอีกข่าว”

          อิชย์เปิดหนังสือพิมพ์ไปหน้าสองก็เห็นรูปที่น่าจะเพิ่งถ่ายเมื่อวันก่อน พันธินอุ้มสาวปริศนาไว้ในวงแขน หน้าตาของเขาเรียบกริบระงับความโมโห ส่วนสาวปริศนามีผ้าพันที่ข้อเท้า เดาไม่ยากสักนิดว่าเป็นใคร

          “ผมไม่นึกว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต”

          “อย่าห่วงเลยครับ ผมให้เกียรติลุงอิชย์ยังไง ก็ต้องให้เกียรติอรอย่างนั้น อะไรที่ทำแล้วลุงอิชย์สบายใจ ผมจะทำ แม้จะขัดใจพ่อไปบ้าง แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ผมไม่กลัว” พันธินเอ่ยเมื่อได้ยินความคิดของคนเป็นพ่อที่ห่วงชื่อเสียงของลูกสาว

          “สบายใจที่ได้ฟัง”

          อิชย์ถอนใจ เขาไม่ได้คาดหวังอะไร แต่การที่ลูกสาวต้องมาเป็นข่าวกับคนที่นักข่าวกำลังให้ความสนใจย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก มีหลายอย่างที่อรอินทุ์ไม่รู้และเขาไม่มีวันบอกเพราะมันเกี่ยวกับพันธินโดยตรง ใบหน้าคร้ามหันมาส่ายหน้า หากวันหนึ่งจะมีใครที่รู้ความจริง เขาคิดไว้แล้วว่าควรมีใครบ้าง คนที่อยู่ในใจมีเพียงสองคน พ่อของเขากับอรอินทุ์เท่านั้น

 

 

การเป็นพันธินไม่ง่ายเลย ต้องเก่งและวางแผนเอาคืนคนที่ทำให้แค้นด้วย

 

แจ้งข่าวนะคะ

1 จันทร์ซ่อนใจ ได้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ (20/11/2023)  ในหมวด นิยายรัก เว็บ/แอพพลิเคชั่น MEB ค่ะ

ลิงค์ค่ะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDI0NjkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMjcxODg0Ijt9

2 โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อง จันทร์ซ่อนใจ จากราคาปกติ 249 ลงเหลือ  149 บาท 17 วัน ตอนเหลือเวลา 10 วันค่ะ  สามารถพาอรอินทุ์กับพระเอกของเธอมาไว้ที่ชั้นหนังสือในราคาน่ารักได้แล้วนะคะ

3  โบว์จะลงจันทร์ซ่อนใจให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วหยุดการลงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาด้วยกันค่ะ

  •  

 

จันทร์ซ่อนใจเป็นนิยายที่จะคุณรู้ว่าการรอคอยและไม่หมดหวัง

สักวันคุณจะสมหวัง...

และร่วมกันหาฆาตกรตัวจริงด้วยกัน หวังว่าจะชอบนะคะ

  •  
  • _บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.