บทที่ 40 อาบน้ำให้หน่อย
ฉันไม่ได้เรียกป้าเสริมให้มาช่วย เพราะคิดว่าจะทำอะไรง่ายๆ ให้เขากิน โดยไม่ลืมที่จะมีเมนูไข่และอาหารเสริมต่างๆ เพื่อบำรุงร่างกายให้เขาและช่วยสมานแผลของเขาด้วย
ฉันเตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อย จนผ่านไปสักพัก ~~
เมื่อมองดูนาฬิกาก็คิดว่านานพอที่เขาน่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วและน่าจะเดินลงมาได้แล้ว ทำไมป่านนี้เขายังไม่ลงมาอีก ฉันคิดด้วยความสงสัย หรือมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา หรือว่าเขาลื่นล้มในห้องน้ำหรือเปล่านะ พอคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบกุลีกุจอวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนเขาทันที
แกร๊ก~~
เมื่อฉันเปิดประตูแล้วเดินไปถึงที่นอนก็พบกับร่างสูงสง่านอนกึ่งนั่งเหยียดตัวเอนหลังพิงกับหัวเตียงสายตาจับจ้องดูอะไรบางอย่างในแล็ปท็อปของตัวเองอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และเหมือนว่าจะไม่รู้ด้วย ว่าตอนนี้มีคนเข้ามาถึงในห้องนอนแล้ว ให้ตายเถอะ...ฉันรีบวิ่งมาแทบตายเพราะเป็นห่วงเขากลัวว่าจะลื่นล้ม แต่ที่ไหนได้กลับมานั่งจ้องแล็ปท๊อปหน้านิ่วอยู่ตรงนี้... นี่เขาจะรู้บ้างไหมว่าคนอื่นเขาเป็นห่วงจนคิดไปไกลขนาดไหนแล้ว ฉันได้แต่ยืนส่ายหน้าเบาๆ
แต่ดูท่าคนข้างหน้าจะไม่รู้อะไรเลย จนฉันต้องเอ่ยถามขึ้น
“เฮียทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีกค่ะ เดี๋ยวก็สายหรอกค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเขา แต่คนตรงหน้ายังนั่งคิ้วขมวดชนกันอยู่ไม่ได้ฟังสิ่งที่ฉันพูดเลย
“เฮีย!..เฮียค่ะ!..เฮีย!!!” ฉันเรียกเขาอยู่หลายครั้ง แต่เหมือนเขาจะอยู่ในภวังค์ไม่ได้ยินอะไรเลย จนคำสุดท้ายที่ฉันเรียกเขาเสียงดังขึ้นทำให้เขาสะดุ้งจนหันกลับมามองต้นเสียง
“ห๊ะ...อะ...อ้าวเอลิซ ว่าไงนะคะ เฮียไม่ทันได้ฟัง” เขาขานรับพอเป็นพิธี ก่อนจะหันหน้ากลับไปจ้องมองยังแล็ปท๊อปตามเดิม
ฉันสังเกตอาการที่ดูเครียดของเขา จนอดเป็นกังวลไม่ได้
“ดูอะไรอยู่ค่ะ ทำไมเครียดจัง” ฉันถามเขาด้วยความเป็นห่วง มีเรื่องอะไรร้ายแรงหรือเปล่านะทำไมเขาดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“การลงทุนนะคะ มันไม่ค่อยดีเท่าไร” เขาเอ่ยตอบทั้งที่ไม่ได้หันมามองหน้าฉันด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไรนะคะ การลงทุนมันก็มีความเสี่ยงทั้งนั้นแหละ ขาดทุนบ้างกำไรบ้าง อย่าคิดมากนะคะ วันหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ” ฉันเอ่ยปลอบเขาไปเพราะหวังว่าเขาจะคลายความกังวลลงไปได้บ้าง เพราะส่วนตัวฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากเท่าไรนัก มีครั้งหนึ่งที่เคยลองเล่นกับเขาอยู่บ้าง สุดท้ายก็ได้นั่งติดดอยเป็นเพื่อนคนอื่นเขา
“ใครบอกว่าขาดทุนค่ะ เฮียไม่ได้ขาดทุนสักหน่อย” เขาบอกฉัน เพราะไม่อยากให้ฉันเข้าใจอะไรผิดๆ
“อ้าวว...แล้วเฮียเครียดอะไรล่ะ” ฉันงง ถ้าไม่ขาดทุนแล้วจะเครียดทำไมกัน
“ก็วันนี้ที่เฮียลงทุนไปทำกำไรได้แค่ 30 ล้าน มันน้อยเกินไป” เขาเอ่ยน้ำเสียงหงุดหงิดที่ผลของการลงทุนไม่เป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้
“กำไรแค่ 30 ล้าน” ฉันอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ
(*0*) ส่วนนี้คือสีหน้าของฉันเมื่อได้ฟังว่าเขาไม่พอใจที่รายได้จากการลงทุนของเขาได้แค่ 30 ล้าน เหอะๆ ฉันคงจะดูแคลนตระกูล ‘ธิพัฒน์เดชะไพศาล’ เกินไปหน่อยแล้วล่ะ
ฉันรีบสลัดความอึ้งทิ้ง ก่อนจะบอกให้คนตรงหน้าลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว สิ่งที่ฉันทำ ถ้าหากใครได้มองมาอาจจะคิดว่าฉันดูเป็นห่วงเป็นใยเอาใจใส่เขามากก็จริง ก็ใช่! มันก็คือส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือฉันอยากออกไปเจอโลกภายนอกแล้ว หลังจากที่ต้องทนอุดอู้อยู่แต่ในเพนท์เฮ้าท์ห้องนี้ และตอนนี้ฉันก็ตื่นเต้นมากจนแทบจะอดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้ออกไป
“ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” ฉันดึงมือคนร่างใหญ่ให้ลุกขึ้น ส่วนแล็ปท็อปของเขาฉันก็ยึดไปเก็บไว้ที่ลิ้นชักข้างที่นอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขาลุกขึ้นตามแรงดึงของฉัน พร้อมส่งสายตาอ้อนที่ดูมีลับลมคมในสุดๆ
“อาบให้เฮียหน่อยได้ไหมคะ น๊าาา เฮียอาบไม่ถนัด” เขาอ้อนขณะเดินอ้อยอิ่งมาหยุดซุกใบหน้าที่ซอกคอขาวเนียนของฉัน
(นั่นไง คิดไว้แล้วไม่มีผิด ว่าเขาต้องมีข้อต่อรองอะไรบ้างอย่างกับฉันแน่นอน)
“แต่คุณหมอบอกว่าเฮียทำกิจกรรมได้เหมือนคนปกติแล้วนะคะ” ฉันบอกในสิ่งที่คุณหมอพูดไว้ตอนตัดไหม
“ก็ตอนนี้เฮียไม่ชินนี่หน่าาา อาบน้ำไม่เป็นแล้วเนี๊ย ตั้งแต่มีคนมาคอยทำให้” เขาเอ่ยอ้างจนน่าหมั่นไส้
ฉันที่ไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ จึงได้แต่ยอมรับคำขอร้องของคนตัวโตที่แสนจะหน้ามึนที่ยืนนิ่งซุกหน้าอยู่ที่คอฉัน ดูท่าแล้วจะไม่ยอมไปไหน ถ้าฉันไม่รับปาก
“งั้นก็ได้ค่ะ” ฉันตอบรับ คนตัวโตดีดตัวเด้งขึ้น สีหน้าดีใจที่ได้รับการตอบรับอย่างที่ใจตัวเองปรารถนา ก่อนจะเดินลิ่วนำไปที่ห้องน้ำทันที
ณ ห้องน้ำ~~
เขายืนนิ่งชูสองแขนขึ้นให้ฉันถอดเสื้อออกให้เขา เผยให้เห็นมวลกล้ามเนื้อของเขาที่ยังคงดูดีเช่นเคย แม้ความแน่นจะลดลงไปบ้างเนื่องจากการนอนรักษาตัวเป็นเวลานาน แต่เท่านั้นก็ทำให้ฉันละสายตาจากก้อนขนมปังที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าไม่ได้เลย ฉันยืนมองจนเจ้าของร่างกระแอมออกมาเพื่อย้ำเตือนว่าเขายังยืนหายใจอยู่ตรงนี้
ฉันหลุดออกจากภวังค์อาหารตา ก่อนจะเลื่อนมือลงมาที่เอวเพื่อถอดปราการด่านถัดไปออก กางเกงยี่ห้อหรูค่อยๆ รูดลงผ่านช่วงท่อนล่างที่ดูดีไม่แพ้ท่อนบน ร่องเชฟวีที่ถัดลงมาจากหน้าท้องดูสมส่วนรับกับช่วงล่างอย่างสวยงาม ฉันลอบมองก่อนจะเสหน้ามองไปทางอื่นด้วยความเขินอาย
ขณะที่กางเกงกำลังจะผ่านพ้นจุดกึ่งกลางแก่นกายลำใหญ่ของเขานั้น ท่อนเอ็นลำหนาก็ออกอาการแสดงท่าทางทักทายคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยการพองตัวยกหัวขึ้นมาแทบจะดีดเด้งเข้าหน้าเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าฉันจะเคยเห็นมันบ่อยแล้วตอนที่ทำความสะอาดร่างกายให้เขาเมื่อครั้งที่เขานอนป่วย แต่ฉันก็ยังไม่ชินอยู่ดี เพราะเมื่อใดที่ได้เห็นอวัยวะในร่างกายของเขาส่วนนี้ เลือดในกายสาวมักจะสูบฉีดจนหน้าร้อนผ่าว และยิ่งตอนนี้มันไม่ได้อ่อนแอสงบนิ่งเหมือนช่วงที่ผ่านมาแล้ว
ฉันหยัดตัวลุกขึ้นยืนพยายามเบนสายตาไม่ให้มองไปยังร่างประติมากรรมที่งดงามตรงหน้า ก่อนจะบอกให้ร่างสง่าไปยืนใต้ฝักบัว เมื่อปรับอุณหภูมิน้ำได้ที่พอดีแล้ว ฉันถึงเปิดน้ำเพื่อทำการชำระร่างกายให้เขา
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 101
แสดงความคิดเห็น