บทที่ 32 ตระกูล 'วงศ์เวชรุ่งเรือง'
แกร๊ก ~~
“มาแล้วหรอค่ะ ทำไมทำเสร็จเร็วจังเลย หนายยย ~~ ทำอะไรให้เฮียกินค่ะ” คนร่างสูงที่นอนเหยียดตัวอยู่บนที่นอนพูดด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นมาขณะที่สายตาจับจ้องอยู่ที่แล็ปท๊อป โดยที่นึกว่าเป็นคนที่ตัวเองรอคอยอยู่เข้ามา
“หลงเมียไม่ลืมหูลืมตาเลยนะนาย” กิตกระแหนะกระแหนผู้เป็นเจ้านาย
สิ้นเสียงของลูกน้องคนสนิท สายตาอ่อนละมุนก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งและดุดัน ก่อนจะส่งมาพร้อมแรงอาฆาตไปยังลูกน้องที่ยืนทำหน้าล้อเลียนใส่เขา
“มึงว่างมากนักหรือไง ถึงมีเวลามาแซวกูแบบนี้ หรืองานที่ทำอยู่มันน้อยไป งั้นกูว่าจะเปิดคาสิโนอีกสัก 5 ที่ ผับอีกสัก 10 ที่ ให้มึงดูแลดีไหม” เขาเอ่ยน้ำเสียงดุดันกลับไป ขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่แล็ปท๊อปในมือ นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นลูกน้องคนสนิทแม่จะยิงให้ไส้แตก โทษฐานมาเห็นเขาตอนมุ้งมิ้ง
“พะ..พอแล้วครับนาย ที่ทำอยู่ก็หัวหมุนแล้วคร้าบบบ” เขาทำทีเป็นแกล้งปฏิเสธออกไป มีหรือเขาจะไม่ไหว ถ้าเจ้านายของเขาจะเปิดกิจการใหม่มาให้เขาดูแลจริงๆ เขาเต็มใจทำอย่างยิ่ง เพราะเขานั้นตั้งใจไว้แล้วว่าจะยอมทำงานถวายหัวถวายชีวิตให้กับนายคนนี้ของเขา เพราะถ้าไม่ได้นายในวันนั้น เขาคงตายอนาถข้างถนนไปแล้ว
“แล้วมึงมามีอะไรด่วน” เขาถามเข้าประเด็น
“เรื่องที่นายโดนลอบทำร้าย ผมไปจัดการมาแล้วครับ” กิตตอบกลับเข้าประเด็นเช่นกันด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเริ่มรายงานทุกอย่างให้เจ้านายฟัง
“นายครับ เรื่องนี้ ผมว่ามันมีอะไรแปลกๆ” กิตสำทับสิ่งที่ตัวเองสงสัยให้ผู้เป็นนายฟัง
“แปลกยังไง” เขาวางแล็ปท็อปในมือลงแล้วหันมาฟังอย่างจริงจัง
กิตกระชับมือแน่นขึ้น แล้วตั้งใจรายงานข้อมูลทุกอย่างที่เขาไปเคล้นมาได้เกี่ยวกับเรื่องที่เจ้านายของเขาถูกลอบฆ่า โดยไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
“หลังจากที่พวกผมมาส่งนายที่นี่แล้ว พวกผมก็กลับไปตามล่าพวกมันต่อ โดยเริ่มจากอีนางนกต่อที่พวกเราจับตัวไว้ได้ ตอนแรกมันไม่ยอมรับ แต่พอเจอกับ...”
กิตนึกถึงสิ่งที่เขาใช้ทรมานอีนางนกต่อคนนั้น เขาก็ไม่ใช่คนอำมหิตอะไร เขาเริ่มถามมันดีๆ แต่มันดันลีลามาก ความอดทนเขามีไม่เยอะพอจะมานั่งรอมันเล่นลิ้น เขาจึงเริ่มลงมือจัดการมันด้วยการ...ถอดเล็บ..
“แค่เล็บแรกมันก็สารภาพหมดเปลือกแล้วครับ ว่าโดนว่าจ้างให้มาเดินที่ผับนี้ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่มันใส่ที่มันทำ คนที่เป็นคนจ้างก็เป็นคนกำหนดให้แต่งตามที่บอก โดยมันบอกว่าจ้างคืนละ 50,000 มันเห็นเงินเยอะดีแล้วงานสบายมันก็เลยตกลงทำ โดยคนที่จ้างคือเอเจนซี่ที่มันทำงานด้วยครับ พอตกลงค่าจ้างจ่ายเงินเสร็จเอเจนซี่คนนั้นก็ออกนอกประเทศไปทันทีเลย ” กิตเล่าเรื่องราว
“ส่วนที่ผมว่ามันแปลกๆ ก็คือ ทำไมพวกมัน ถึงเลือกผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายคุณเอลิซมาทำให้นายหลงกลได้ใกล้เคียงตัวจริงมาก มากขนาดที่ทำให้นายเข้าใจผิดได้ นอกจากมันจะรู้ว่าคุณเอลิซหน้าตา รูปร่าง ลักษณะเป็นอย่างไง แต่ที่ผมไม่เข้าใจ มันรู้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณเอลิซหมดเลยได้ยังไง ทั้งลักษณะ ท่าทาง รูปร่าง แม้กระทั่งทรงผม ถึงขั้นสามารถหาผู้หญิงที่คล้ายคุณเอลิซขนาดนั้นมาหลอกนายได้ จะว่าเห็นที่ผับในคืนนั้น ที่นายอุ้มคุณเอลิซ ออกมา แสงสลัว กับคนที่พลุกพล่าน ก็ไม่น่าระบุตัวตนได้ละเอียดขนาดนั้นนะครับ ผมว่าพวกมันต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่านายเอาคุณเอลิซมาอยู่กับนาย และคิดว่านายต้องแคร์เธอมากถึงกลับไม่ยอมให้ออกไปไหน มันถึงใช้จุดอ่อนตรงนี้จู่โจมนาย” กิตบอกเล่าพร้อมตั้งข้อสงสัย
“และที่ผมอยากรู้คือ พวกมันใช้วิธีไหนกันนะ ที่ทำให้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณเอลิซได้ถึงขนาดนั้น ถ้ามันจะส่งคนมาจับตาดู สถานที่นี่เป็นที่ของนาย การที่คนจะเข้าออกย่อมตรวจสอบได้อยู่แล้วเป็นไปได้ยากมากที่จะหาข้อมูลจากคนที่นี่” กิตไม่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ บอกเล่าให้เจ้านายฟังหมดสิ้น
ผู้เป็นเจ้านายนั่งนิ่งคิ้วขมวดฟังลูกน้องคนสนิทรายงานสิ่งที่ไปจัดการ จากเหตุการณ์การโดนลอบทำร้ายครั้งล่าสุด สิ่งที่เขาเป็นกังวลมากที่สุดไม่ใช่อันตราย ที่จะเกิดกับชีวิตเขา แต่เป็น หญิงสาวที่เขารัก กลัวว่าเธอจะมีอันตราย ทำให้ยิ่งไม่อยากให้เธอไปไหนให้ห่างสายตา แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อสัญญากับเธอไปแล้วว่าจะให้อิสระกับเธอบ้าง
“แล้วมึงมีความคิดเห็นยังไงบ้าง” เขาถามลูกน้องคนสนิท
“ในเมื่อเอลิซไม่เคยเจอกับใครเลยนอกจาก...” เหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“พนักงานที่มาส่งเสื้อผ้าให้เอลิซตอนนั้น มึงไปสืบมาให้หมด ถ้าเป็นพวกมันขายข้อมูลเอลิซออกไป มึงรู้ใช่ไหมว่าต้องจัดการยังไง อย่าให้ต้องถึงมือกู” เขาสั่งให้ลูกน้องด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นให้ไปจัดการ
กิตมองตากับเจ้านายอย่างคนรู้ใจ และรู้ดีว่าถ้าคนพวกนั้นทรยศ การที่เขาเป็นคนจัดการถือว่าเป็นความเมตตาที่ท่านเซบาสเธียมอบให้แล้ว
“อ๋อ แล้วอีกอย่าง มึงรู้หรือยังว่าเป็นพวกไหน” เขานึกขึ้นได้ถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบทำร้ายในครั้งนี้
“หลังจากที่ตามเอเจนซี่คนนั้นได้แล้ว พอมันเห็นคลิปที่ผมจัดการกับอีนางนกต่อ มันก็รีบซัดทอดไปถึงคนที่จ้างมันทันที ส่วนคนที่มันทำร้ายนายผมตามไปจนเจอที่กบดานของมัน แต่เราช้าไปก้าวหนึ่งครับ มันโดนวางยาพิษคงหวังฆ่าปิดปาก โชคยังดีตอนที่ผมไปเจอมันยังไม่ตาย มันยื่นเมมโมรี่การ์ดให้ผมแล้วถึงขาดใจตาย ตอนแรกที่ผมเปิดดูมันไม่มีอะไรเลยครับ ผมเอะใจเลยเอาไปให้แฮกเกอร์ของเราจัดการ ถึงได้รู้ว่าใครเป็นคนที่ติดต่อกับมันมาตลอด มีทั้งคลิปเสียงที่คุยทางโทรศัพท์ ยอดเงินโอน แชทที่คุยกัน มันคงเก็บไว้หวังแบล็กเมล์ทีหลัง ที่่สำคัญข้อมูลที่ทั้งฝั่งเอเจนซี่และข้อมูลในเมมโมรี่การ์ดที่มือแทงให้มาก็ตรงกันครับ" กิตสาธยายเรื่องราวอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
"และคนที่จ้างพวกมันมาทำนร้ายนายก็คือคนของ
ตระกูล ‘วงศ์เวชรุ่งเรือง’ ครับ”
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 102
แสดงความคิดเห็น