บทที่ 68 ได้พบกันอีกครั้ง

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 68 ได้พบกันอีกครั้ง

หมวดหนังสือ: 

“มาร์ค ตอนนี้ลูกมีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้วใช่ไหม” อยู่ๆ แม่ผมก็โพล่งออกมา ดีนะที่ตอนนี้ผมกินอิ่มแล้วไม่งั้นข้าวได้กระเด็นออกนอกปากอีกแน่

 

“มะ...ไม่มีนะครับแม่” ผมตอบด้วยอาการที่มีพิรุธสุดๆ

 

“หึหึ...แม่รู้ แม่เคยผ่านมันมาก่อน อาการแบบเดียวกับมาร์คเป๊ะเลย เวลาที่คนมาถาม” แม่เอ่ยเปรียบเทียบให้ฟัง เมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อคราวตอนที่ท่านเป็นสาวๆ

 

เธอเคยผ่านมาก่อนทำไมเธอถึงจะไม่รู้...

 

“ถ้ามีอยู่ก็ลุยเลยนะลูก ผลจะเป็นยังไงไม่สำคัญ แต่ถ้าเราได้ลองลุยสักตั้งแล้วเราจะได้ไม่กลับมานั่งเสียดายทีหลังอีก” คำพูดของแม่เหมือนของแหลมคมที่จี้เข้ามาที่กลางใจของผม

 

ผมนิ่งอึ้งไปสักพักเมื่อได้ฟังคำพูดจากแม่ ก่อนความทรงจำของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจะฉายเข้ามาในโสตประสาททันที ภาพของหญิงสาวที่ทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแรง ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ

 

“มันไม่มีแม้แต่โอกาสนะซิครับ” เสียงพูดที่แผ่วเบาคล้ายจะพูดกับตัวเอง แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้คนเป็นแม่ได้ยิน

 

แม่มองผมด้วยสายตาที่อ่อนโยน...

 

“แม้จะไม่มีโอกาสได้ครอบครอง แต่เราก็ยังสามารถทำเพื่อเขา ช่วยเขาได้นะลูก” แม่เอ่ยปลอบเพราะรับรู้ได้ว่ารู้มีบางอย่างอยู่ภายในใจของลูกชาย แต่เจ้าตัวยังไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกมา

 

ผมมองใบหน้าสวยของแม่ด้วยสายตาที่มีความเศร้าอยู่ในนั้น เมื่อเห็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดส่งมาให้ ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านเข้ามาเต็มหัวใจ จนทำให้ขอบตาร้อนผ่าวด้วยความตื้นตันใจ แม่มักจะมีคำพุดดีๆ ที่ทำให้ผมได้ฉุกคิดและดึงสติกลับมา

 

“มาร์ครู้ใช่ไหมลูกว่าแม่รักมาร์คยิ่งกว่าชีวิตของแม่เสียอีก แม่อยากเห็นมาร์คมีคนที่รัก มีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่นนะลูก แต่แม่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เห็นภาพเหล่านั้นไหม” แม่พูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แต่ภายใต้รอยยิ้มสวยนั้นกลับมีความเศร้าแฝงอยู่ในนั้น แม่เอื้อมมือมากุมมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

 

หัวใจผมกระตุกวูบทันที ที่ได้ยินประโยคเหล่านี้ออกจากปากผู้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวในชีวิตของผม ความรู้สึกโหวงเหวงเกิดขึ้นภายในใจ ผมไม่อยากจะนึกถึงวันที่ไม่มีแม่อยู่เลย...

 

“แม่ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ แม่ต้องอยู่กับมาร์คไปนานๆ นะ” ผมพูดกับแม่พร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปนั่งข้างๆ ท่าน แล้วเข้าไปโอบกอดที่เอวของท่าน พร้อมกับเอาแก้มแนบหนุนตักอันอบอุ่นของท่าน

 

“แม่ก็แค่พูดเผื่อๆ ไว้นะ พอแม่ได้พูดแม่ก็สบายใจ” แม่เอามือลูบหัวทุยของผมอย่างแผ่วเบา ด้วยความรักและเอ็นดู

 

เราสองแม่ลูกกอดกันอยู่นาน จนถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล จากนั้นผมก็ได้เอ่ยอำลาแม่แล้วขับรถออกไป

 

คำพูดของแม่ที่พูดกับผมในวันนี้ เป็นเหมือนสัญญาณเตือนหรือความนัยบางอย่าง ที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเป็นแค่ความเป็นห่วงของคนที่กำลังเข้าสู่วัยชรา

 

ระหว่างที่ผมขับรถเพื่อจะไปทำงาน ข้อความก็แจ้งเตือนขึ้นมา

 

ตึ๊ง!!

 

(หน้าจอโชว์) มีข้อความจาก ท่านผู้นำ

 

เมื่อกดเข้าไปอ่าน ~~

 

ไปหาสถานที่เปิดร้านเล็กๆ ที่ใกล้กับเพนท์เฮ้าส์ของไอ้เซบาสเธีย แกจะเปิดทำอะไรก็ได้ แต่ทุกอย่างต้องเสร็จภายในวันนี้ แล้วใช้โอกาสนี้หาจุดอ่อนของมันให้เจอ

 

ผมมองดูข้อความด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย ทำไมผมจะต้องมาข้องเกี่ยววุ่นวายเรื่องราวภายในตระกูลที่เขาไม่เห็นว่าผมมีตัวตนอยู่ด้วย แต่ถึงผมจะไม่พอใจยังไง ก็ยังคงต้องก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งของเขาต่อไป เพราะแม่ผมจะได้ไม่ต้องลำบากใจ หรือถูกต่อว่ากระแนะกระแหนเวลาที่ผมไม่ทำตาม

 

ผมปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเหวี่ยงไปเบาะด้านข้าง อย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเลี้ยวรถกลับไปยังคฤหาสน์ที่ผมเพิ่งจากมา...

 

ผมกลับมาเปลี่ยนรถอีกคันที่คฤหาสน์หลังเดิม เพราะผมไม่อยากเอาสมบัติส่วนตัวของผมไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งของเขาเพราะมันอาจจะสร้างศัตรูในอนาคตให้กับผมได้ เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมก็ออกมากับสมุนมือขวาของผู้เป็นพ่อเพื่อให้ขับรถพาผมไปยังจุดที่เขาจะให้ผมทำงานให้ โชคดีที่ถัดจากเพนท์เฮ้าส์เซบาสเธียไม่ไกลนักมีตึกประกาศให้เช่าพอดี ผมไม่รอช้าสั่งให้ผู้เป็นลูกน้องลงไปจัดการให้เสร็จเรียบร้อย...

 

และร้านที่ผมคิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับผมที่สุดในการปลอมตัวเพื่อทำภารกิจครั้งนี้ก็คือ... ร้านขายยา

 

ทุกอย่างถูกเซทขึ้นอย่างรวดเร็วเสร็จสรรพทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ เงินช่างบันดาลทุกอย่างได้จริงๆ ผมไม่รอช้าเข้าทำหน้าที่เป็นเภสัชทันที ขอให้ได้ข้อมูลสำคัญเร็วๆ ด้วยเถอะ ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติของผมสักที

 

และแล้วโชคชะตาก็ไม่ทำให้ผมต้องรอนาน...

 

“เอ่อ...ฉันมาซื้อยาคุมฉุกเฉินค่ะ” น้ำเสียงหวานที่มีความประหม่าเอ่ยพูดขึ้นขณะที่ผมยืนหันหลังอยู่

 

เมื่อผมหันกลับไป ลักษณะที่คลับคล้ายคลับคลาของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นมาทันที หรือว่าจะเป็นเธอ...คนที่ผมปรารถนา

 

ผมพยายามควบคุมสติและอาการใจเต้นให้สงบลง ในเมื่อยังไม่แน่ใจว่าใช่เธอคนนั้นหรือไม่ งั้นผมก็ต้องทำหน้าที่เป็นเภสัชที่ดีเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย แล้วโต้ตอบเธอกลับไป

 

แต่เมื่อยิ่งพูดคุยสอบถามข้อมูลและให้คำแนะนำเบื้องต้นไป ผมก็ยิ่งสงสัยเพราะดูเธอคนนี้จะมีอาการลุกลี้ลุกลนหวาดระแวงยังไงพิกล ก้มหน้าก้มตาตลอดเวลา ซึ่งในฐานะหมอผมก็อดห่วงไม่ได้ว่าเธอจะโดนทำร้ายมาหรือเปล่า แต่เมื่อลองหยั่งเชิงถามออกไปเธอก็ปฏิเสธ ในเมื่อเธอไม่อยากบอกและดูตามร่างกายก็ไม่ได้มีบาดแผลอะไรผมก็เลือกที่จะไม่เซ้าซี้ถามต่อไป นอกจากแค่ถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายยาเท่านั้น

 

เมื่อให้คำแนะนำเสร็จเรียบร้อย ผมก็จ่ายยาให้เธอตามที่เธอต้องการไป แต่อาการที่ดูรีบร้อนจนผิดสังเกต แถมบางครั้งยังเหลือบไปมองผู้หญิงสูงวัยที่รอด้านนอกเป็นระยะ มันยิ่งกระตุ้นให้ผมอดที่จะสงสัยและเป็นห่วงไม่ได้ ก็ผมมันเป็นหมอนี่น่า เรื่องแบบนี้มันอยู่ในมโนสำนึก อยู่ในจรรยาบรรณอยู่แล้ว เมื่อจ่ายยาเสร็จเมื่อเธอยื่นเงินมาให้โดยไม่รอรับเงินทอน ในขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับออกไป ผมก็ตัดสินใจ...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.