บทที่ 7...1/3

ใจดวงนี้สื่อถึงรัก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 7...1/3

         

          โมกข์มารอที่รถแล้วตอนที่ภามออกมาจากงานพร้อมกับเนตรา ทั้งสองพยักหน้าอย่างรู้กันก่อนที่ภามจะเปิดประตูให้แม่เข้าไปนั่งที่เบาะหลัง แล้วเขาก้าวตามเข้าไปนั่งก่อนจะปิดประตู ภายในรถจึงกลับมาสงบสุขแล้ว เนตราหันมาหรี่ตามองลูกชาย

“ผู้หญิงที่ภามบอกว่าเป็นแฟนใช่หนูเมหรือเปล่า”

ภามแกล้งขมวดคิ้ว “ผมยังไม่ได้หมายถึงใครหรอกครับ ในตอนนี้ถ้าให้ผมเลือกระหว่างเมษากับวีดา ผมคงเลือกเมษาก็แค่นั้น ผมเบื่อน่ะที่ป้าลินมาวุ่นวายในเรื่องที่ผมไม่ได้ร้องขอ”

          “ป้าลินก็แค่หวังดี” เนตรารู้สึกแบบนี้จริงๆ ตอนนี้อายุของภามก็ไม่น้อยแล้ว หลังจากถูกขวัญจิราถอนหมั้น ภามก็ทำแต่งาน จนผู้เป็นแม่ชักเป็นห่วง แต่ตอนนี้นางควรเป็นห่วงเมษามากกว่า ถ้าพี่นลินรู้ว่าแฟนที่ภามอ้างถึงเป็นเมษาแล้วล่ะก็ “แต่ถ้าภามไม่ได้คิดจริงจังกับหนูเมก็อย่าไปทำให้เดือดร้อน”

          “ทำไมหรือครับ” เขาไม่ใช่ผู้ชายมากรักเผื่อเลือกสักหน่อย

          “พี่ลินน่ะลองคิดว่าไม่ชอบใครแล้ว จะตามราวีไม่เลิก แล้วยิ่งหมายมั่นอยากได้หนูวีดาให้มาแต่งกับภามแบบนี้ คงสืบจนรู้ว่าหนูเมอยู่ที่ไหน”

          ภามกอดอกอยากเขกหัวตัวเองเพราะเขาคิดแต่ว่าไม่อยากถูกจับคู่ ไม่ทันคิดว่าป้านลินคงไม่อยู่เฉย ถ้าเมษาได้พบป้าของเขาจะออกมาสภาพไหน ขนาดเขา เธอยังไม่กลัวจะเอาไม้เบสบอลมาฟาดหัว ถ้าป้าของเขาไปหาเรื่อง บางทีเขาก็อยากรู้ว่าเมษาจะแก้ปัญหาอย่างไร ผู้หญิงที่เขาวาดฝันไว้ต้องไม่อ่อนแอ สู้เพื่อตัวเองได้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็พร้อมจะปกป้องเธอ

          โมกข์ขับรถเข้ามาในบริเวณของบ้านสองชั้นกลางที่ดิน 1 งาน โดยครึ่งหนึ่งของที่ดินเป็นสวนผลไม้และที่พักผ่อนในวันหยุดของภาม โดยคนที่ออกแบบสวนคือคุณภัทร หากไม่ได้ไปไหนเนตรามักจะมานั่งเล่นอยู่ในสวนซึ่งมีบ้านต้นไม้อยู่ด้วย อีกทั้งสระน้ำกลางสวนก็ทำให้เย็นสบายและสดชื่น

          เนตราลงจากรถแล้วเข้าบ้านไปก่อนเพราะภามบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับโมกข์สักหน่อย พอเห็นแม่เข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้ว ภามจึงถามเรื่องที่เขาอยากรู้ตั้งแต่กลับมาที่รถ ความที่กลับเร็วกว่าที่คิดทำให้เขากลัวว่าจะทำให้แผนที่วางไว้กับโมกข์ล้มเหลว

          “ไม่พบหลักฐานอะไรที่น่าสงสัย ยกเว้นโทรศัพท์ 3 เครื่อง ผมดึงข้อมูลออกมาทั้งหมดแล้ว”โมกข์บอกพลางโชว์แฟลชไดร์ฟให้ภามเห็น โชคดีที่เขาโหลดข้อมูลจากโทรศัพท์จากทั้ง 3 เครื่องมาได้ทั้งหมด ก่อนที่ภามกับเนตราจะกลับมาถึงรถ ไม่อย่างนั้นได้ความลับแตก

          ภามชักสงสัย ป้าของเขาเป็นคนค่อนข้างประหยัด อะไรก็ตามที่ใช้หากไม่เสียก็ไม่ทิ้ง แต่กลับมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ถึง 3 เครื่อง

          “น่าแปลกอยู่ ป้าลินเก็บโทรศัพท์เอาไว้ 3 เครื่องทำไม ถ้าจัดข้อมูลเสร็จแล้ว ส่งมาให้ผมทันทีนะครับ”

          “ได้ครับคุณภาม” โมกข์รับปากก่อนจะขับรถคันนั้นออกไป

          ภามกลับเข้ามาในบ้านโดยเนตรามองอย่างสงสัยว่าลูกชายกับบอดี้การ์ดมีลับลมคมในอะไร ตอนที่เดินมาถึงรถก็ทีหนึ่งแล้ว นางเป็นห่วงกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกชายที่เหลือเพียงเดียว การที่ภูมิจากไปอย่างกะทันหันทำให้นางใจสลายกว่าจะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมก็ 2 ปีผ่านไป เพราะฉะนั้นอะไรหรือใครที่จะมาทำให้ภามอยู่ในอันตราย นางไม่มีทางยอมเด็ดขาด

 

เมษาถอดรองเท้าแล้วย่อตัวลงเมื่อพระกำลังเดินบิณฑบาตมาถึงหน้าร้านของเธอแล้ว หญิงสาวนำของที่เตรียมมาใส่ในบาตรแล้วรับพรจากพระ แต่แล้วภามก็ย่อตัวนั่งลงใกล้ๆ แถมยังพนมมือเหมือนเธออีกด้วย หญิงสาวหันไปมองอย่างงงๆ ว่าเขามาทางไหน แต่ยังไม่สะดวกถามตอนนี้

เมษารอจนพระท่านเดินไปแล้วจึงขยับลุกจะเก็บถาด แต่คนที่จู่ๆ มานั่งรับพรกับพระด้วยกัน ทั้งที่ไม่ได้ใส่บาตรมาตั้งแต่แรกกลับยิ้มอ้อนๆ พลางยกมือมากุมท้อง

“ผมหิวข้าว”

          เมื่อคืนเมษาแน่ใจว่าไม่ได้ยินอะไรจากห้องข้างๆ และตอนนี้ภามเพิ่งลงจากรถโดยใส่สูทมาเรียบร้อยแล้ว จึงคิดได้อย่างเดียวว่าเขาขับรถมาถึงที่นี่เพื่อมาหาข้าวทาน

          “บ้านคุณไม่มีใครทำกับข้าวให้ทานหรือไงคะ”

          ภามหัวเราะชอบใจเพราะอย่างนี้ไงเขาถึงอยากมาหาเมษามากกว่าไปนั่งทานอาหารเช้าที่โรงแรมคนเดียว

“ผมอยากเป็นลูกค้าข้าวของคุณ คนแรกและคนเดียว คุณจะตกลงไหม”

          เมษาฟังแล้วสะดุดหูไม่แน่ใจว่าภามพูดเรื่องข้าวในตอนเช้าหรือว่าแฝงความนัยบางอย่างด้วย คนแพรวพราวทั้งดวงตาและคำพูดแบบนี้ ไม่น่าจะต้องให้ป้าช่วยหาคู่นัดบอดให้กระมัง ลำพังหาจีบเองน่าจะไม่ยากสำหรับเขาหรอก

          “ไม่ตกลงค่ะ ฉันทำให้เพราะน้ำใจ แต่ถ้าไม่ว่างทำให้ คุณก็ต้องไปหาข้าวทานร้านอื่น ร้านฉันขายขนม”

          ทำไมภามจะไม่รู้ว่าที่นี่ร้านขนม แต่เขามาหาแม่ค้าร้านขนมไงถึงต้องหาข้ออ้างที่เธอจะจำเขาเพราะแปลกไม่เหมือนคนอื่น

          “แต่ผมเลือกแล้วว่าจะมาทานข้าวที่ร้านของคุณ ไม่รู้ล่ะ ผมจะนั่งรอที่โต๊ะตัวเดิม”

          ภามไม่พูดพร่ำแย่งถาดที่เมษาถือมาไว้ในมือ แล้วเดินนำเข้าร้านไปเลย ป้าพิสมัยอย่างกับรู้งานมาช่วยรับถาด ชายหนุ่มบอกขอบคุณแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะตัวเดิมตามที่เพิ่งบอกหญิงสาวไป เมษาล่ะหมั่นไส้อยากมองเมิน แต่ป้าพิสมัยนี่สิมาจับมือเธอให้เข้าครัวทำอาหารเช้า นี่ภามซื้อตัวผู้ช่วยมือหนึ่งของเธอไปเป็นพวกตั้งแต่เมื่อไหร่

          ภายนอกร้านเมนา ใครบางคนกำลังถ่ายรูปภามตั้งแต่มานั่งรับพรจากพระ จนกระทั่งถือถาดเข้าไปในร้าน ก่อนจะส่งรูปสำคัญไปให้คนที่ว่าจ้าง แล้วไปหากาแฟแถวๆ นั้นดื่มเพื่อรอว่าภามจะออกมาจากร้านเมนาตอนไหน

 

          ภามได้กลิ่นหอมๆ ของขนมที่เพิ่งอบผสมกลิ่นเครื่องเทศจางๆ ของอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้คำตอบ เรียวปากหนายิ้มบางเพราะรู้แล้วว่าวันนี้เมษาทำอะไรให้เขาทานในยามเช้า เขาได้ยินเสียงเปิดประตูเบาๆ แล้วเพียงครู่เดียวป้าพิสมัยก็เดินออกมาพร้อมจานอาหารเช้า 2 ใบ ไม่ใช่เจ้าของร้านเมนา ป้าพิสมัยยิ้มร่าพลางวางจานลง

          “หนูเมบอกว่าทานไปก่อนได้เลยค่ะ”

          ภามยกมือไหว้ผู้มากวัยกว่าพลางยิ้มกว้างด้วยความสบายใจ การยิ้มในโลกธุรกิจของเขาเหมือนดาบสองคม การเผยความรู้สึกยินดีหรือเสียใจต่อหน้าคนที่เขาไม่อาจแน่ใจว่าเชื่อใจได้ล้วนแล้วอันตรายทั้งนั้น แต่สำหรับการมาที่นี่ เขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย

          ผ่านไปไม่กี่นาทีเมษาก็เดินออกมาจากประตูที่เชื่อมระหว่างห้องครัวกับร้านพร้อมกับน้ำลำใยหอมๆ ที่เธอใส่แก้วมาเผื่อเขาด้วย

          “ทำไมไม่ทานล่ะคะ ไม่มีมะเขือเทศสักหน่อย” เมษาสงสัยจึงถามพลางนั่งลง เธอรอให้เขาทานไปก่อน เพื่อที่ตอนมานั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน เขาจะได้ใกล้ทานเสร็จแล้ว

          “ผมรอคุณ” ภามมองเมษาอย่างรู้ทัน เขาไม่ได้รีบสักหน่อย

          เมษาคนสุกี้แล้วพยักพเยิดให้เขาทานได้แล้ว แม้ตอนนี้จะยังไม่ 7 โมงเช้า แต่ลูกค้าประจำก็เริ่มมาซื้อขนมกันหลายคน ป้าพิสมัยช่วยขายขนมให้เธออยู่

          “เมื่อคืนผมไปงานวันเกิดของป้าลินมา แล้วพูดบางอย่างออกไปที่อาจจะมาเกี่ยวกับคุณ” ภามเล่าอย่างน้อยควรให้เมษาได้รู้ไว้ก่อน

          “ยังไงคะ อย่าบอกนะว่าคุณไม่อยากให้ป้านัดบอดให้แล้วเลยอ้างว่าฉันเป็นแฟนของคุณ”

          ภามยิ้มกว้างไม่คิดว่าเมษาจะเดาใจเขาถูก “ก็...ทำนองนั้น แต่ผมไม่ได้พูดชื่อคุณหรอกนะ สบายใจได้”

          เมษาถอนใจรู้สึกเหมือนการช่วยภามในคราวนี้นอกจากเพราะเธออยากช่วยเขาเรื่องพี่ชายแล้ว ที่เหลือเหมือนเธอหาเรื่องใส่ตัวอย่างไรอย่างนั้น

          “ช่างเถอะค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว ต่อให้ป้าของคุณ กิ๊กของคุณ แฟนของคลับคุณมาราวีฉัน ฉันก็ไล่กลับไป สบายมาก แต่ขอเลยนะคะ ต่อไปคุณห้ามทำแบบนั้นอีก”

          ภามผิดคาดคิดว่าเมษาอาจไม่พอใจ โวยวายหรือดีใจ แต่ไม่เลย เธอไม่ได้ดีใจที่เขาเอ่ยอ้างถึง ไม่โวยวาย ไม่แสดงท่าทีไม่พอใจ แต่ความนิ่งของเธอทำให้เขาคิดว่าผู้หญิงที่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ยิ่งน่าสนใจ ชายหนุ่มยกกล่องที่เตรียมมาวางแล้วเลื่อนให้เมษา

          “ผมซื้อของบำรุงมาให้คุณ ที่ผมเคยบอกว่าจะดูแลคุณให้ดี ผมไม่ได้พูดส่งๆ หรอกนะ ถ้าใครที่ผมบอกว่าจะดูแล ผมจะตามมาดูแลจริงๆ”

          “ขอบคุณค่ะ” เมษายิ้มชอบใจ หากใครมาได้ยินที่ภามพูดคงคิดว่าถูกขู่ มากกว่ารู้สึกปลอดภัย “เอาเป็นว่ามื้อนี้ฉันไม่คิดเงินคุณ แลกกันนะคะ ไม่งั้นฉันจะไม่รับ”

          “คุณก็ถนัดเรื่องต่อรองเหมือนกันนี่ ก็ได้ ผมจะรอจ่ายเงินมื้อถัดไป” ภามยิ้มกริ่ม

          เมษาเม้มปากเพราะกลายเป็นว่าภามจะได้มาทานอาหารเช้ามื้อต่อไปได้อีก เขาช่างเป็นคนเจ้าเล่ห์ หากเขามาที่นี่บ่อยๆ ที่ป้าของเขาไม่รู้ว่าแฟนปลอมๆ ที่เขาอ้างถึงเป็นใคร อีกไม่นานคงได้รู้แน่ๆ ภามยิ้มชอบใจที่ถูกดวงตาละมุนคู่นั้นค้อนใส่ ในการต่อรองเขาไม่ยอมเสียโอกาสที่น่าสนใจเช่นกัน

         

เมษารับจบแบบไม่รู้ตัว ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.