บทที่ 20 เริ่มฟลอร์
บทที่ 20 เริ่มฟลอร์
“เอไล เราจะเอายังไงต่อ!”
หลังจากที่พวกเขาจากไป เอไลและเฮอร์แมนก็อยู่กันตามลำพัง เฮอร์แมนจึงถามขึ้น
“แน่นอน เราก็จะกินและดื่มให้หน่ำใจ” เอไลมองเฮอร์แมนด้วยท่าทางแปลก ๆ จากนั้นมองไปที่โต๊ะอาหารที่ไม่ไกล
นี่เป็นโต๊ะที่ยาวมากและตอนนี้มันก็เต็มไปด้วยอาหารทุกประเภท
นอกจากไวน์แดงแล้ว ยังมีอาหารน่าอร่อยๆ หลายอย่างอยู่บนโต๊ะ เช่น ไส้กรอกย่าง เนื้อย่าง พายผลไม้ กุ้งอบเนย ห่านดอง ขนมปังขาว ของหวาน และอื่นๆ
“เอิ่ม…” เฮอร์แมนไม่รู้จะปฏิเสธเขาอย่างไร
ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปเขาพยายามทำความรู้จักกับขุนนางคนอื่น ๆ และสร้างความสัมพันธ์ในงานเลี้ยงของชนชั้นสูงไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาถึงมาที่นี่เพื่อกินล่ะ?
'ความคิดของเอไลนั้น... ไม่ธรรมดาเช่นเคย'
“ถ้าต้องการทำความรู้จักคนอื่นเจ้าก็ไปเลย ไม่จำเป็นต้องสนใจข้า ข้าแค่หิวนิดหน่อย” โดยธรรมชาติแล้วเอไลเข้าใจความคิดของเฮอร์แมนและโบกมือพร้อมบอกให้เขาจัดการตามความต้องการของตัวเอง
แม้ว่าเฮอร์แมนไม่น่าจะได้รับอะไรมากนักก็ตาม แต่เมื่อมาถึงสถานที่นีัแล้ว เขาต้องทำอะไรสักอย่างโดยธรรมชาติ เอไลไม่ต้องการขัดขวางเฮอร์แมน และเขาเองก็ไม่สนใจที่จะทำความรู้จักกับคนอื่น
สำหรับเขาแล้ว นั่นเป็นการเสียเวลาเปล่า
“ก็ได้ ตามนั้น” เฮอร์แมนดูผิดหวังและเดินไปทางอื่น เขาเห็นใครบางคนที่เขารู้จัก
ในขณะเดียวกันเอไลก็เดินไปที่โต๊ะข้างๆ ทันที เขาหยิบจานขึ้นมาและเริ่มที่จะรับอาหาร
อาหารที่เสิร์ฟในงานเลี้ยงมีคุณภาพสูงกว่าที่เขาเคยกินมากนัก ตั้งแต่ที่เขามาอยู่ที่นี่แล้วเขาต้องกินมากขึ้น มันฟรีอยู่แล้ว ดังนั้นมันคงจะเสียเปล่าถ้าเขาไม่กินมันจนอิ่ม
ในไม่ช้าเขาก็มีอาหารเต็มจานและแสดงสีหน้าพึงพอใจ
ห่างออกไปหลายสิบเมตร ไคลน์บังเอิญผ่านมาเห็นฉากนี้ ปากของเขากระตุกและสาปแช่ง “ช่างเป็นยาจกที่ตะกละตะกลาม เขาไม่สง่างามเอาซ่ะเลย”
โดยธรรมชาติแล้วเอไลไม่สนใจสายตาของคนอื่น
เอไลเดินไปที่มุมห้องจัดเลี้ยง เขาพบโต๊ะตัวหนึ่ง นั่งลง และเริ่มสวาปามอาหารของเขา
ยังมีบางคนอยู่ที่นี่ แต่เมื่อพวกเขาเห็นเอไล พวกเขาก็ถอยห่างออกไปโดยไม่รู้ตัว
เขามันไม่สง่างามเกินไปแล้ว!
ครู่หนึ่ง งานเลี้ยงทั้งหมดดูเหมือนจะมีเส้นเขตแดนเกิดขึ้น ด้านหนึ่งคือเหล่าขุนนางที่พูดคุยกันอย่างหรูหรา และอีกด้านหนึ่งคือเอไลซึ่งกำลังกลืนอาหารชิ้นโต
ขณะที่ไรอัสกำลังสนทนากับคนอื่นๆ เธอเห็นเอไลกำลังสวาปามอาหารอยู่ตรงมุมห้องและไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
'ผู้ชายคนนี้ไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นคิดเลยจริงๆ!'
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ด้วยเสียงเรอจากเอไล เขาก็รู้สึกอิ่ม
เขาเช็ดปาก ยืนขึ้นและมองไปรอบๆ ในขณะนี้เฮอร์แมนได้ผสานเข้ากับกลุ่มเล็กๆ แล้วและกำลังสนทนากับพวกเขาอยู่ พวกเขาดูเหมือนจะกลมกลืนกัน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น
ไรอัสยืนอยู่บนเวทีตรงกลางและเริ่มพูด อย่างแรกเธอมีความสุขที่ทุกคนอยู่ที่นี้ ดังนั้นเธอจึงพูดมากและในที่สุดก็ประกาศการเริ่มฟลอร์
สำหรับการล่าสัตว์นั่นเป็นกิจกรรมสุดท้าย
ปกติแล้วการเต้นรำจำเป็นต้องมีสถานที่ เอไลเห็นสาวใช้และคนใช้ชายหลายคนเข้ามาในงานเลี้ยงและย้ายโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารออกไป แน่นอนอาหารส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกแตะต้อง
อาหารส่วนใหญ่คงจะถูกทิ้งไปอย่างเสียเปล่า โดยไม่ต้องสงสัย
ยังมีพลเรือนจำนวนมากที่อดตายอยู่ข้างนอก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ค่าอาหารที่กินในงานเลี้ยงเพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอสำหรับคนธรรมดาทั่วไปหลายร้อยคนที่จะอยู่รอดตลอดฤดูหนาว
ขณะที่โต๊ะเคลื่อนออกไป วงดนตรีก็เข้ามาในห้องจัดเลี้ยงและเริ่มเล่นดนตรี
เพลงที่ไพเราะและเสนาะดังเข้าหูของเอไลซึ่งทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับเพลงที่มีเสียงดังตลอดเวลาบนถนนหลิวหยิง เพลงนี้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่เพลงเต้นเริ่มขึ้น ผู้ชายก็ชวนสาวๆ ไปที่ฟลอร์เต้นรำด้วย
เอไลยืนอยู่นอกฟลอร์เต้นรำ ดูคนเหล่านี้เต้นรำอย่างเงียบๆ ทันใดนั้น เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังเดินมาหาเขาทางด้านขวา
“เอไล ให้ข้าแนะนำเจ้า นี่คือเพื่อนใหม่ที่ข้าเพิ่งได้พบ” เฮอร์แมนเดินมาพร้อมกับขุนนางคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เขามีผมสีทองและดวงตาสีฟ้า จากแขนเสื้อดูเหมือนว่าเขาจะมาจากตระกูลบารอน
“เฮอร์แมน นี่ใคร?” ขุนนางที่เฮอร์แมนนำเข้ามาก็อยากรู้ว่าเฮอร์แมนจะแนะนำใครให้เขารู้จัก
“นี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า เขาเป็นนักเรียนของเคลเมนท์นักวิชาการของห้องสมุด” เฮอร์แมนแนะนำให้พวกเขารู้จักกัน แล้วก็ยักคิ้วใส่เอไล
เขารู้ว่าเอไลไม่ชอบเข้าสังคม แต่เฮอร์แมนรู้สึกว่าเอไลจำเป็นต้องทำความรู้จักกับผู้คนในระดับที่สูงขึ้น ในฐานะเพื่อนที่ดีของเอไลเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องช่วยเอไลให้ได้รับโอกาสดังกล่าว
“นี่คือเดวิด” จากนั้นเฮอร์แมนก็แนะนำชายคนนั้น
“สวัสดี ข้าชื่อเดวิด ข้าขอทราบได้ไหมว่าเจ้าอยู่ในตระกูลไหน” เดวิดผมสีทองยิ้มแล้วถามขึ้น
“สวัสดี ข้าไม่ได้อยู่ตระกูลขุนนางใดๆ” เอไลไม่คาดคิดว่าเฮอร์แมนจะทำเช่นนี้ แต่เขาก็ยังตอบอย่างสุภาพกลับไป
แม้ว่าเขาจะสุภาพมาก แต่เดวิดก็จับคำที่สำคัญได้อย่างแม่นยำ 'ไม่ใช่ขุนนาง?'
รอยยิ้มของเขาหายไปทันที และวิธีที่เขามองเอไลก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากเสมอภาคเป็นเชิงเหยียดหยาม
“ข้าขอโทษ ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำ” เดวิดพูดอย่างตรงไปตรงมาและจากไปโดยไม่สนใจเฮอร์แมนเลยแม้แต่น้อย
เขาจ่ายเงินไปมากเพื่อได้มางานเลี้ยง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเสียเวลากับคนธรรมดาสามัญได้ สำหรับเฮอร์แมนเขาอาจจะไม่ได้สูงส่งขนาดนั้นเพราะเขาเป็นเพื่อนกับสามัญชน
เฮอร์แมนตกตะลึงขณะเฝ้าดูเดวิดจากไป เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
“ข้าขอโทษ เอไล” แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็เข้าใจและพูดขอโทษกับเอไล
"ทุกอย่างปกติดี" เอไลส่ายศีรษะ
ใครจะไปสนใจคนที่ไม่สำคัญแบบนั้น?
“เจ้าจะไม่วิ่งตามเขาหรือ?”เอไลถามและมองดูเฮอร์แมนด้วยความสนใจ เขาเพิ่งเห็นเฮอร์แมนสนทนากับขุนนางผู้นั้นเป็นเวลานาน
“หึ อย่าล้อเล่นสิ” เฮอร์แมนรู้สึกอายเล็กน้อย “แต่ข้ามาที่นี่เพราะเจ้า ข้าต้องอยู่ข้างเจ้าสิ!” เขาหัวเราะเบา ๆ
“ก็แล้วแต่เจ้า!” เอไลพยักหน้า และความประทับใจของเขาที่มีต่อเฮอร์แมนก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย
ทันใดนั้นก็มีอีกคนเดินเข้ามา
ไรอัสในชุดสีม่วงของเธอเดินมาหาด้วยรอยยิ้มและเชื้อเชิญ "เอไลเจ้าอยากเต้นไหม"
ตอนนี้การเต้นรำบนฟลอร์เต้นรำเป็นการเต้นรำแบบมาตรฐานของขุนนาง ซึ่งเป็นการเต้นรำแบบคลาสสิก มันยาก แต่มันก็ดูสวยงามมาก
เขาไม่ควรปฏิเสธคำเชิญของผู้หญิง แต่เขาไม่รู้วิธีเต้นแบบนั้นจริงๆ
“ข้าไม่รู้วิธีการเต้นแบบนี้” เอไลปฏิเสธอย่างตรงๆ
“ไม่เป็นไร ข้าสามารถเต้นนำเจ้าได้”ไรอัสพูดด้วยรอยยิ้มสดใส
เธอมาที่นี่เพื่อแก้แค้นเขา เธอได้รับการสอนหลายครั้งโดยเอไลเมื่อเธอถามคำถามที่ห้องสมุด
ตัวอย่างเช่น "มันง่ายมากแค่นี้เจ้าก็ไม่รู้หรือ" “เจ้าเคยเรียนรู้สิ่งนี้มาก่อนจริงๆ หรือป่าวเนี่ย” “ข้าคิดว่าเจ้าต้องปรับปรุงตัวเองอย่างมาก”
สำหรับเธอแล้ว ช่วงเวลานั้นเหมือนฝันร้าย และตอนนี้เธอสามารถเชิญเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ในที่สุด เธอต้องการทำให้เขารู้ว่าเธอซึ่งเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์มีความแข็งแกร่งในด้านอื่น ๆ เช่นกัน
“เจ้าบอกข้าว่าชีวิตเป็นเรื่องของประสบการณ์” ราวกับกังวลว่าเอไลจะปฏิเสธเธอ ไรอัสจึงพูดอย่างมีเลศนัยโดยยืมคำพูดของเขามา
ด้วยความทรงจำของเขาในฐานะนักเวทย์ เอไลสามารถรับประกันได้ว่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเคยพูดมาก่อน
“ก็ได้” เขาพูดขึ้น อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธ เขาพูดเพียงว่า “แต่ขอข้าดูและเรียนรู้สักนิดก่อนได้ไหม”
"แน่นอนเจ้าสามารถ"ไรอัสพูดขึ้นอย่างสง่างาม แต่ในใจเธอกำลังหัวเราะ แต่เธอทำได้เพียงรักษาท่าทางที่สง่างามในงานเลี้ยงเท่านั้น
'ในที่สุดเจ้าก็มาอยู่ในกำมือของข้า'
เอไลมองไปที่ฟลอร์เต้นรำ และการเคลื่อนไหวทุกประเภทพุ่งเข้ามาในความคิดของเขาราวกับเศษชิ้นส่วนของจิ๊กซอ และทำให้เขาสามารถจับการเคลื่อนไหวของการเต้นรำได้อย่างรวดเร็ว
ไรอัสที่มองจากด้านข้างเห็นว่าเอไลกำลังจ้องมองไปที่ฟลอร์เต้นรำราวกับว่าเขากำลังเรียนรู้จริงๆ เธอเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ 'เสแสร้งต่อไป'
สามนาทีต่อมาเอไลก็หยุด
“เจ้าเรียนรู้มันได้หรือยัง” ไรอัสแกล้งถาม
ข้ารู้ว่าเจ้าเรียนเก่ง แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเต้นเก่งด้วย
การเต้นเป็นเรื่องของความสามารถทางร่างกาย
“ข้าได้เรียนรู้แล้ว”เอไลพยักหน้าอย่างใจเย็นและยื่นมือออกไปพร้อมๆ กันเป็นการเชื้อเชิญว่า “ข้าสงสัยว่าคุณผู้หญิงสวยคนนี้จะเต็มใจเต้นรำกับข้าไหม?”
ไรอัสตกตะลึง เมื่อมองไปที่ชายชุดดำตรงหน้าเธอ ผู้ซึ่งมีสีหน้ามั่นใจอยู่เสมอ จู่ๆ เธอก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากลับมาอยู่ในห้องสมุด และความรู้ของเอไลก็ท่วมท้นมาใส่เธออีกครั้ง
'มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!' ไรอัสส่ายหัว เธอไม่เชื่อว่าเอไลจะเต้นรำได้
"ได้แน่นอน!" ไรอัสจับมือของเอไลแล้วทั้งสองก็เดินไปที่ฟลอร์เต้นรำ
เฮอร์แมน “…….”
พวกเจ้าไม่สนใจข้าอย่างเป็นธรรมชาติขนาดนี้ได้อย่างไร?
เขาเอามือจับไปทั่วร่างกายของตัวเองราวกับสงสัยว่ามันเป็นอากาศธาตุหรือป่าว
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 142
แสดงความคิดเห็น