บทที่ 368: ใครก็ตามที่ได้รับบาดเจ็บในอนาคตจะถือว่าโชคร้าย
หลังจากเฟิงเฉิงได้ยินความในใจของหูชิงซาน นางก็หยุดหายใจไปชั่วขณะ
เขาบอกว่า...เขาชอบข้า?
นางไม่ได้เกลียดผู้ชายคนนี้ แต่เป็นตัวนางต่างหากที่จำเป็นต้องปกปิดตัวตนไม่ให้คนในเผ่ารู้ ถ้าเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของนางขึ้นมา เขาจะยังมั่นใจว่าตัวเองชอบนางเหมือนอย่างตอนนี้ไหม?
ประเด็นข้างต้นทำให้หมอสาวขมวดคิ้วมุ่น และภายในจิตใจของนางก็ว้าวุ่นอยู่พักนึง
ตอนที่นางอยู่ในเผ่าหมาป่า นางใช้ชีวิตด้วยความระแวดระวังมาโดยตลอด แล้วหญิงสาวก็พึงระลึกไว้เพียงสิ่งเดียว
นั่นก็คือ ถ้าหลางซัวรู้จักตัวตนที่แท้จริงของนางเข้า นางจะต้องตายอย่างแน่นอน
นั่นเป็นเหตุผลที่เฟิงเฉิงตอบตกลงแบบไม่ลังเลในตอนที่หูเจียวเจียวยื่นข้อเสนอพาตัวนางออกมาจากเผ่าหมาป่า
แต่หูชิงซานจะรับได้หรือไม่?
ภูตของเผ่านี้จะรับได้หรือเปล่า?
ยามนี้หมอสาวไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรและไม่กล้าลองเสี่ยงด้วย
ภารกิจของนางคือการปกป้องสมบัติของเผ่า ตามหาคนในเผ่า และปลดปล่อยพวกเขาจากการควบคุมของคนทรยศ หากคนพวกนั้นรู้ความจริง จะไม่มีใครรับประกันได้ว่าพวกเขาจะมีเจตนาร้ายหรือไม่
ทันใดนั้น ความนุ่มนวลในดวงตาของเฟิงเฉิงก็หายไปก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา
“ขอโทษด้วย ข้าไม่ได้วางแผนที่จะหาคู่ในตอนนี้”
“หลังจากมีคู่ ความสามารถของหมอผีจะได้รับผลกระทบ ข้าไม่ต้องการให้คู่ของข้ามีผลกับข้า ดังนั้นเจ้าอย่าชอบข้าเลย ข้าคงเป็นคู่ครองของเจ้าไม่ได้” หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีฟ้ากล่าวอย่างตรงไปตรงมาด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
นางรู้แค่ว่าตัวเองกลายเป็นคนโกหกไปแล้ว
นางโกหกเขา จากนี้ไปเขาคงจะเปลี่ยนใจและไม่ชอบนางอีก
ทางด้านหูชิงซานตกตะลึง เขายืนขมวดคิ้วนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
ชายหนุ่มไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่หมอผีมีคู่มันจะส่งผลกับความสามารถของนางด้วย
“หวังว่าเจ้าจะเข้าใจสิ่งที่ข้าพูด หลังจากนี้ก็อย่ามาหาข้าอีก แล้วก็ไม่ต้องมาส่งเสบียงด้วย” เฟิงเฉิงไม่หยุดเพียงแค่นี้แล้วบอกให้ชัดเจน
นางไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่เพิ่งมีความรักอีกต่อไป
ความจริงแล้วนางอายุมากกว่าหูเจียวเจียว 2 ปี ถึงแม้ว่าภายนอกดูเหมือนว่านางจะไม่เคยมีประสบการณ์ แต่ความจริงแล้วนางได้พบเจออะไรมาเยอะกว่าที่หลายคนคิด
อีกทั้งหญิงสาวรู้ว่าการที่หูชิงซานมาส่งเสบียงให้นางในแต่ละวันนั้นเขาคิดอะไรอยู่
ตัวนางยังจำสถานะของตนเองได้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้นางจึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอีกฝ่าย
จนกระทั่งหูชิงซานรวบรวมความกล้ามาสารภาพทุกอย่างกับนางเอง ทันใดนั้นหมอสาวก็เข้าใจว่านางไม่สามารถทำผิดพลาดซ้ำ 2 ได้อีก
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าความสัมพันธ์นี้จะต้องจบลงในสักวันหนึ่ง นางก็ไม่ควรเริ่มมันตั้งแต่แรกจะดีกว่า
“ไม่เป็นไร ๆ” จิ้งจอกหนุ่มดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาจึงพยักหน้าแบบจริงจังและพูดว่า
“ความสามารถของเจ้ามีความสำคัญมากจริง ๆ การที่จะให้คู่ครองของเจ้ามีผลต่อมันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย” ในฐานะหมอผี นางย่อมมีความกังวลมากมายเกี่ยวกับประเด็นนี้
ชายหนุ่มคิดไตร่ตรองเรื่องดังกล่าว แล้วในที่สุดเขาก็ยอมรับมัน
เมื่อเฟิงเฉิงเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าใจนาง และเขาไม่ดึงดันที่จะพยายามทำให้ตัวเองสมปรารถนา นั่นทำให้นางคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างใจกว้าง…
นางนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อว่า
“เจ้าช่วยข้าไว้ ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้ามาก ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้า”
หมอผีสาวเหลือบมองหนังหมีขาวที่ถูกย้อมจนเป็นสีแดงในมือของชายหนุ่ม ก่อนที่นางจะก้มลงหยิบไม้เท้าขึ้นมา ดึงแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปยังถ้ำที่หมออาศัยอยู่โดยไม่พูดอะไร ซึ่งท่าทางที่นางแสดงออกยังคงใจแข็งและแน่วแน่ไม่เปลี่ยน
ไม่นานทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงถ้ำของหมอในเผ่า
ในขณะนี้ หมอหนูกำลังถูกหลงหลิงเอ๋อกับหยินชางทรมาน พอพวกเขาได้ยินว่ามีแขกกำลังจะมา พวกเขาก็ทิ้งเด็กทั้ง 2 แล้ววิ่งออกจากถ้ำไป
“มีคนป่วยหรือ?”
“ใครต้องการให้เราช่วยรักษา!”
นี่เป็นครั้งแรกที่หมอ 2 คนจะได้รักษาคนในเผ่านี้ พวกเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก
“ท่านอาจารย์ อย่าเพิ่งหนีไปไหนสิ ข้าเพิ่งหัดใช้ยาห้ามเลือด ข้ายังไม่ได้ลองใช้กับท่านเลย…” หลงหลิงเอ๋อถือมีดในมือข้างหนึ่งและถือสมุนไพรไว้ในมืออีกข้างพลางวิ่งไล่ตามหมอทั้ง 2 ไปติด ๆ
“เอ๊ะ ลุงใหญ่ แม่หมอ ทำไมพวกท่านมาอยู่ที่นี่?” เด็กหญิงวิ่งออกไปก่อนจะเห็นหูชิงซานเดินตามเฟิงเฉิงเหมือนสุนัขตัวใหญ่ที่มีสายจูง เด็กน้อยจึงอดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“เขาได้รับบาดเจ็บต้องห้ามเลือดและรักษาบาดแผล แล้วข้าจะนำเสบียงมาให้พวกเจ้าเป็นค่าตอบแทนเอง”
ทุกคนในเผ่ารู้ว่าหมอต้องการเสบียงเพื่อแลกกับการรักษา
“ไม่ ๆ ไม่ต้องหรอก! เราจะรับของของหมอผีได้ยังไง!”
“หลิงเอ๋อ เจ้าอยากลองฝึกฝีมือไม่ใช่หรือ มานี่สิ ตอนนี้มีคนมาให้เจ้าลองฝึกฝีมือแล้ว อาจารย์จะช่วยดูแลเจ้าเอง เจ้าสามารถทดลองได้ตามสบายเลย”
เมื่อหมอหนูทั้ง 2 เห็นเช่นนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกาย
จากนั้นหมอคนหนึ่งก็ก้าวเข้าไปดึงจิ้งจอกหนุ่มมา ส่วนหมออีกคนดันตัวลูกศิษย์ไปทางคนไข้อย่างกระตือรือร้น
ทั้งคู่ไม่รอช้าที่จะส่งหลงหลิงเอ๋อไปรักษาผู้ป่วยทันที
ในที่สุดพวกเขาก็รอดแล้ว!
หมอหนูทั้ง 2 จะต้องขอบคุณหูชิงซาน มิฉะนั้นพวกเขาอาจจะต้องยอมผ่าท้องเพื่อให้ลูกศิษย์ตัวน้อยได้ฝึกฝนวิชา
“จริงหรือ?” เด็กหญิงกะพริบตามองไปที่คนไข้อย่างมีความหวัง “หลิงเอ๋อช่วยลุงใหญ่รักษาได้ด้วยหรือ?”
ทางด้านหูชิงซานกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอโดยไม่รู้ตัว และเขากำลังจะถอยหลังออกไปเมื่อเฟิงเฉิงดันแผ่นหลังตนเอาไว้
“เจ้าเป็นหมอหรือ?” คนเป็นหมอผีมองลงไปที่หลงหลิงเอ๋อผู้ไร้เดียงสา
หญิงสาวจำได้ว่านี่คือลูกของหูเจียวเจียว
เด็นคนนี้มีแววตั้งแต่อายุยังน้อย และรูปร่างหน้าตาของนางค่อนข้างคล้ายกับแม่จิ้งจอก
“ใช่ หลิงเอ๋อกำลังเรียนรู้วิธีการเป็นหมอกับเรา นางฉลาดมาก และเรียนรู้ได้เร็ว” หมอหนูตอบพร้อมกับกล่าวชื่นชมลูกศิษย์
พวกเขาแน่ใจว่าเด็กหญิงจะต้องเติบโตไปเป็นหมอที่มีคุณภาพในอนาคตแน่นอน
ถัดมา เฟิงเฉิงมองไปทางอื่นและพยักหน้า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ให้นางช่วยรักษาเขา”
นางคิดว่าหลงหลิงเอ๋อกำลังเรียนรู้ที่จะเป็นหมอตั้งแต่อายุยังน้อยและมีความทะเยอทะยานสูง
ก่อนที่หูชิงซานจะทันได้ปฏิเสธ เขาก็ถูกหมอหนูทั้ง 2 คนลากเข้าไปในถ้ำโดยมีคนตัวเล็กตามมาไม่ห่าง
“...”
ในวันนี้นอกจากเขาจะสารภาพรักแล้วถูกสาวปฏิเสธ เขายังจะต้องประสบอุบัติเหตุที่ทำให้เลือดตกยางออกอีกด้วย!
“ลุงใหญ่ บาดแผลของท่านลึกมากพอดูเลย!” ภายในถ้ำ หลงหลิงเอ๋อยกหนังสัตว์ที่กดอยู่ตรงแขนของจิ้งจอกหนุ่มออก
เนื่องจากบาดแผลนี้ได้รับการปฐมพยาบาลทันเวลา ประกอบกับอากาศเย็น เขาจึงเสียเลือดไปไม่มากเท่าที่ควร แต่แผลนี้ลึกอย่างน้อย 2 นิ้ว
“ไม่เป็นไร แค่ทายาก็หายแล้ว” ฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บกล่าวแบบสบาย ๆ
เขาพูดจบแล้วก็นึกเป็นห่วงว่าสาวน้อยจะไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวเลือด เขาจึงปลอบโยนอีกคนว่า
“ถ้าเจ้ากลัว เจ้าก็แค่สั่งยาให้ลุงก็พอแล้วเดี๋ยวลุงไปจัดการทำแผลเองก็ได้”
ทว่าเด็กหญิงทำหน้าเสียดายก่อนจะเก็บมีดกลับเข้าไปในฝักหนัง
นางบ่นพึมพำกับตัวเองว่า
“น่าเสียดายที่มันไม่มีหนอง ไม่อย่างนั้นหลิงเอ๋อจะลองใช้มีดที่เพิ่งขัดเมื่อวานมาเจาะขับหนองออกให้ และใช้วิธีที่ท่านแม่บอกว่ามันคือการเย็บแผล เพียงแค่นี้ก็หายแล้ว...”
เด็กน้อยบ่นอุบอิบเสียงเบาราวกับไม่พอใจกับบาดแผลเล็ก ๆ ของลุงใหญ่
เพราะมันไม่ช่วยให้นางได้แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา
เมื่อหูชิงซานได้ยินเช่นนั้นก็หยุดพูดไปทันที
“...”
เขา... เพิ่งได้ยินเด็กน้อยน่ารักพูดว่าอะไรนะ?
มีดอะไร เย็บอะไร นี่มันอะไรกันเนี่ย!?
ส่วนหมอหนูทั้ง 2 คุ้นเคยกับคำพูดพวกนี้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะลอบกลืนน้ำลายและถอยกลับไปที่มุมกำแพงถ้ำอย่างเงียบ ๆ
เดิมทีพวกเขาคิดว่าหยินชางเป็นปีศาจผู้ชั่วร้าย
แต่ใครจะรู้ว่าสาวน้อยคนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเด็กชายคนนั้นเป็นร้อยเท่า นางเป็นเหมือนกับนางมารร้ายที่มักจะตื่นเต้นยามได้เห็นเลือด!
ในเวลาเดียวกัน หลงหลิงเอ๋อบ่นพึมพำขณะบดยาสมุนไพรห้ามเลือดและยาต้านอักเสบในมือ เสร็จแล้วก็เอาตัวยาไปวางลงบนแถบหนังสัตว์แล้วผูกมันไว้กับบาดแผลของลุงใหญ่
ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ หูชิงซานก็มีโบว์ผูกไว้อย่างสวยงามที่แขนของเขา
“เรียบร้อย!” หมอฝึกหัดกล่าวพร้อมกับปรบมือ
“ลุงใหญ่ คราวหน้าอย่าลืมมาหาข้าอีกน้า~” ตอนนี้นางเป็นหมอตัวน้อยที่ช่วยคนเจ็บได้แล้ว!
คำพูดของหลานสาวทำให้มุมปากของหูชิงซานกระตุก เขาไม่คิดว่ามันจะมีครั้งต่อไป!
หลังจากจิ้งจอกหนุ่มรักษาบาดแผลเสร็จแล้ว เขาก็เดินออกมานอกถ้ำ
ซึ่งเฟิงเฉิงยังคงรอเขาอยู่ที่ปากทางเข้าออกถ้ำ
เมื่อหมอผีสาวเห็นว่าหูชิงซานมีผ้าพันแผลพันไว้ตรงแขน ประกอบกับมีหูกระต่ายที่สวยงามด้วย นางจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจก่อนจะมองไปที่หลงหลิงเอ๋อ
“สาวน้อย เจ้าทำได้ดีมาก”
สมแล้วที่นางเป็นลูกของหูเจียวเจียว นางเก่งมากจริง ๆ
จิ้งจอกสาวเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมและเป็นแม่ที่ดีมาก
พอหลงหลิงเอ๋อได้รับคำชมก็ยิ้มหวานจนดวงตาหรี่ลง “แม่หมอ ขอบคุณที่ชม ข้าจะพยายามฝึกฝนต่อไป!”
หมอหนู 2 คนและหูชิงซานที่ได้ยินสิ่งนี้ก็รู้สึกมึนศีรษะอย่างช่วยไม่ได้
พวกเขารู้สึกได้ถึงลางร้ายขึ้นมาในทันใดว่า ในอนาคตหากใครก็ตามที่ได้รับบาดเจ็บ จะถือว่าคนคนนั้นโชคร้าย!
“เฟิงเฉิง ให้ข้าพาเจ้าไปส่งแล้วกัน” หูชิงซานเดินไปที่ด้านข้างของหญิงสาวและเปลี่ยนเรื่องพูด
เจ้าของเรือนผมสีฟ้ามองไปที่จิ้งจอกหนุ่มด้วยท่าทางที่ซับซ้อน ก่อนหน้านี้นางพูดออกไปตรง ๆ ขนาดนั้นแล้ว ตกลงว่าเขาเข้าใจนางจริง ๆ ใช่ไหม?
ทำไมนางถึงรู้สึกว่าเขายังปฏิบัติต่อนางเหมือนเดิม?
“ไม่ต้อง ข้ากลับเองได้” หญิงสาวปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
เมื่อหูชิงซานเห็นเช่นนี้ก็ไม่ดื้อรั้นที่จะไปส่งอีกฝ่ายให้ได้
ขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังจะจากไป จู่ ๆ หลงหลิงเอ๋อก็วิ่งตามหลังเฟิงเฉิง และคว้าแขนเสื้อของนางไว้
“แม่หมอ รอสักครู่” เด็กหญิงร้องเรียกอีกฝ่าย
เฟิงเฉิงหันไปมองคนตัวเล็กอย่างสงสัย “มีอะไรหรือ?”
“แม่หมอ ข้ามีอะไรจะบอกท่าน” หลงหลิงเอ๋อยิ้มโชว์ฟันน้ำนมที่เกลี้ยงเกลา ก่อนจะกวักมือเรียกให้คนตรงหน้าเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ตน
นั่นทำให้หญิงสาวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่นางก็ยอมก้มตัวลงให้ความร่วมมือ และโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เด็กหญิง
ต่อมา หลงหลิงเอ๋อเอามือป้องปากแล้วกระซิบข้างหูนางเสียงเบาเพื่อให้ได้ยินเพียง 2 คนเท่านั้น
“แม่หมอ มันบอกมันว่าเหนื่อย ให้มันได้พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นมันจะต้องหลับใหลเป็นเวลา 1 ปีก่อนที่มันจะสามารถตื่นขึ้นมาได้”
เมื่อเฟิงเฉิงได้ยินเช่นนี้ รูม่านตาของนางก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว
เด็กคนนี้รู้ได้ยังไง!?
-------------------------------------------------
หมายเหตุ: เสี่ยวเถียวขออนุญาตแก้ไขเนื้อหาบางจุดในบทที่ 288 จากประโยคที่เฟิงเฉิงพูดว่า ‘เขาโจมตีเผ่าของข้าแล้วจับข้ามาที่นี่ คร่าชีวิตลูกของข้า’ เป็น ‘ข้าบังเอิญเจอเขาระหว่างทาง เขาจับข้ามาที่นี่และแยกข้าออกจากคนของข้า’ แทนนะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 88
แสดงความคิดเห็น