บทที่ 7

ความรู้สึกนี้หรือ...คือรัก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 7

บทที่ 7

    วินวางมือจากงานที่กำลังทำมานานกว่าสามชั่วโมง เขายกแก้วน้ำเย็นๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลขึ้นมาจิบเพื่อดับกระหาย และเป็นการผ่อนคลายสมองซึ่งใช้งานหนักไปในตัว สายตาไล่มองข้อมูลบนหน้าจอเพื่อตรวจดูอีกรอบ ว่าโค้ดที่เขาเพิ่งพิมพ์ลงไปถูกต้องหรือไม่

    เด็กหนุ่มทยอยไล่อ่านข้อมูลที่มีแต่ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมตัวเลขแล้วถอนหายใจ เขาเอนกายลงไปพิงกับพนักก้าวอี้อย่างอ่อนล้า การที่อยู่กับโค้ดพวกนี้เป็นเวลานาน ก็ทำให้เหนื่อยเอาเรื่องเช่นกัน

    วินปิดโปรแกรมสำหรับทำงานลง เนื่องเพราะความคืบหน้าในวันนี้ถือได้ว่าน่าพอใจไม่น้อย เขาใช้โอกาสนั้นนำสมาร์ตโฟนขึ้นมาดู เผื่อช่วงที่เขามัวยุ่งๆ อาจจะมีเพื่อนคนไหนทักมา ปรากฏว่าในแอปแชทไม่มีอะไรใหม่มากนัก หลักๆ ก็มีแต่แชทห้องที่เพื่อนๆ ของเขาคุยกันเรื่องทั่วไป

    วินเปลี่ยนไปดูแถบการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชัน นาทีนั้น สายตาของเด็กหนุ่มก็ไปหยุดอยู่ที่ชื่อของใครคนหนึ่ง เขาเผยยิ้มบนริมฝีปาก พลางนึกถึงตอนที่เขาเดินไปส่งคนเป็นเจ้าของชื่อ นั่นเป็นครั้งแรกเลย ที่เขาเดินไปส่งเพื่อนผู้หญิงจนถึงหน้าบ้าน

    คิดแล้วก็รู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด จนวินเผลออดยิ้มกว้างเพิ่มขึ้นไปอีกไม่ได้

    “เป็นอะไรวะไอ้ลูกชาย ทำไมถึงได้นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์แบบนี้? อย่าบอกนะว่าที่บอกพ่อว่าทำงาน แต่จริงๆ แล้วแอบคุยแชทกับสาว”

    คำแซวจากผู้เป็นพ่อ ทำให้เด็กหนุ่มเก็บรอยยิ้มแทบไม่ทัน พลางรีบเอ่ยปฏิเสธ “เปล่านะครับพ่อ วินก็แค่รู้สึกดีใจ เพราะวันนี้วินเขียนโค้ดได้เร็วกว่าที่คิด งานเลยคืบหน้าไปได้เยอะเลย”

    “จริงเหรอ?” นพพลมองลูกชายอย่างจับสังเกต “ถ้าคุยก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังพ่อก็ได้ ยังไงวินก็เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะมีจงมีจีบสาวๆ บ้างพ่อก็ไม่ว่าอะไรนะ”

    “โธ่ พ่อครับ วินไม่ได้คุยกับใครจริงๆ” เด็กหนุ่มตอบปฏิเสธพลางลุกขึ้นยืน “วินว่าวินออกไปเดินคลายกล้ามเนื้อหน่อยดีกว่า นั่งนานๆ แล้วรู้สึกปวดๆ หลังยังไงไม่รู้”

    “ฮั่นแน่ จะรีบไปไหน คุยกับใครก็บอกพ่อได้น่า เพื่อนในห้องหรือเปล่า? พ่อเคยเห็นมั้ย? หรือว่าจะเป็นหนูแพมที่พ่อเจอตอนสายๆ? คนนั้นก็น่ารักดีนะ พ่อชอบ” นพพลส่งเสียงไล่หลังลูกชายไปอย่างอารมณ์ดี

    “ไปใหญ่แล้วพ่อ” วินตอบพลางเร่งฝีท้าวเดินออกมานอกบริเวณตัวบ้าน

    เขาเลือกนั่งลงบนม้าหินอ่อนตัวหนึ่ง นิ้วมือปัดไปหารายชื่อของคนที่เขาอยากคุยด้วย จำได้ว่าเขาและมายด์เพิ่มเพื่อนกันมาได้พักใหญ่แล้ว หากแต่ตอนนั้นเขาไม่รู้จักเธอเป็นการส่วนตัว เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าคงเป็นแค่เพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกันส่งคำขอมางั้นๆ เขาจึงกดรับอย่างไม่คิดอะไรมาก

    หากทว่าเมื่อวินได้พูดคุยและทำความรู้จักกับเด็กสาวในช่วงเวลาสั้นๆ มันทำให้วินรู้ว่า มายด์เองก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักและอัธยาศัยดีคนหนึ่ง

    ...และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ตั้งแต่ผ่านวันนั้นมา เขามักจะมีภาพของเด็กสาวผุดขึ้นมาในความคิดอยู่เสมอ

    ‘สวัสดี นี่วินนะ มายด์ทำอะไรอยู่เหรอ ว่างคุยหรือเปล่า?’

    วินกดส่งข้อความไป ในใจรู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก เขาไม่เข้าใจเลยว่าแค่ส่งข้อความหาเพื่อนคนหนึ่ง ทำไมถึงได้กลัวผสมกับความกังวลแบบนี้...ทำไมกันนะ ทำไมวินถึงกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบ ทำไมวินถึงกลัวว่าเธอจะตอบมาว่า ‘ไม่ว่าง’

    เสียงแจ้งเตือนอันคุ้นเคย ทำให้วินรู้สึกชาวาบในหัวใจ เขานั่งนิ่งแบบนั้นอยู่เกือบนาที ก่อนจะตัดสินใจกดเข้าไปอ่านคำตอบที่ส่งมา

    ‘ว่างสิ’

    คำตอบแค่สั้นๆ แต่ทำให้คนที่ได้อ่านถึงกลับเผลอถอนหายใจ แล้วยิ้มกว้างจนตาหยี ในเวลานี้เด็กหนุ่มดีใจจนลืมข้อสงสัยในความรู้สึกของตัวเองไปหมด กระทั่งเสียงแอปพลิเคชันดังขึ้นอีกครั้ง วินจึงได้รู้สึกตัว แล้วรีบอ่านตัวอักษรบนหน้าจอ

    ‘วินมีอะไรเหรอ?’ เพราะวินยังไม่ตอบ ฝ่ายนั้นคงเห็นเขาเงียบไปนานเลยแชทมาถามกระมัง

    วินนั่งนึกหาเหตุผล ทว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก กระทั่งจำได้ว่าวันนั้นเด็กสาวกลับบ้านช้าพอสมควร เขาเลยตัดสินใจพิมพ์ถามเรื่องนี้ไปก่อน

    ‘วันนั้นกลับบ้านช้า โดนที่บ้านว่าอะไรหรือเปล่า?’

    ‘ไม่นะ’ มายด์ตอบกลับโดยใช้เวลาไม่นาน

    ‘อ๋อ’ วินพิมพ์กลับไปเป็นเชิงรับรู้สั้นๆ เขายกมือเกาหัวด้วยความหงุดหงิดตัวเอง...ทำไมกันหนอ สมองถึงต้องมาตื้อตันนึกหาเรื่องชวนฝ่ายตรงข้ามคุยไม่ออกเอาเวลานี้ ทั้งที่ก่อนน่านั้นก็อยากจะคุยกับเธอแท้ๆ

    ‘แล้ววินทำอะไรอยู่เหรอ?’ มายด์เป็นฝ่ายถามกลับบ้าง

    ‘เรานั่งรอทานข้าว มายด์ล่ะ?’ เด็กหนุ่มถือโอกาสนั้นถามกลับไป นอกจากเรื่องทั่วไปในกิจวัตรประจำวัน เขาก็ไม่รู้จะหาเรื่องอะไรที่ดีกว่านี้มาชวนคุยอีกแล้ว

    ‘เหมือนกัน...แม่เค้าเรียกพอดีเลย งั้นเดี๋ยวมายด์ไปทานข้าวก่อนนะ’

    วินอ่านประโยคที่ปรากฏบนหน้าจอสมาร์ตโฟน แล้วตอบกลับ ‘ทานให้อร่อยนะ’

    ‘อื้ม...วินก็เหมือนกันนะ’

    วินยิ้มกับวลีที่ได้อ่าน ถึงแม้สำหรับคนอื่นคำเหล่านี้อาจเป็นแค่คำธรรมดาทั่วไป แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกดีอย่างหาเหตุผลไม่ได้

    ‘คงเป็นเพราะว่าเราไม่คุ้นเคยกับการคุยกับเพื่อนผู้หญิงแบบนี้ละมั้ง พวกไอ้บอมไอ้ภูมิก็เป็นผู้ชาย เลยไม่เคยคุยกันในลักษณะนี้มาก่อน คงเป็นเพราะเรายังไม่ชินนั่นแหละ เลยรู้สึกแปลกๆ’ เด็กหนุ่มหาเหตุผลให้ตัวเอง แม้ว่าในส่วนลึกยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่

    “วิน กับข้าวใกล้จะเสร็จแล้วนะลูก ล้างมือรอทานข้าวได้แล้ว”

    เสียงผู้เป็นมารดาแว่วออกมาจากในครัว ทำให้วินหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง เขาเร่งเก็บสมาร์ตโฟนเข้ากระเป๋า แล้วไปล้างมือเพื่อรอทานข้าวในห้องนั่งเล่น

 

 

 

    มายด์จ้องมองข้อความแชทในสมาร์ตโฟนแล้วยิ้มกับตัวเอง เด็กสาวยกส่วนหน้าจอขึ้นมาแมบแก้มด้วยความเผลอไผล ในที่สุดวันที่เธอรอคอยก็มาถึง ถึงแม้ว่ามายด์จะกดหัวใจส่งไปให้เขาในวันนี้ แต่เด็กสาวเองก็ไม่คาดคิดเลยว่า สุดท้ายแล้วเธอจะได้คุยกับวินจริงๆ

    ความตื่นเต้นทำให้มือของมายด์ชื้นไปด้วยเหงื่อ เธอทำถูกแล้วที่เลือกเดินไปขอนั่งข้างๆ เขาในวันนั้น เพราะหากวันนั้นมายด์ยังยืนมองเขาอยู่ห่างๆ อย่างที่เคยทำ วันนี้อาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้

    เด็กสาวปิดเปียโนไฟฟ้าที่ใช้ซ้อมประจำ พลางถอดปลั๊กไฟให้เรียบร้อย ก่อนที่เธอจะเดินออกไปทานข้าวกับครอบครัวที่กำลังรอเธออยู่

    ...มันอาจจะเป็นเพราะรสชาติอาหารที่แม่เธอทำ มันอาจจะเป็นเพราะตัวเธอเอง หรือมันอาจจะเป็นเพราะประโยคที่ว่า ‘ทานข้าวให้อร่อยนะ’ ของใครอีกคน แต่มันก็ทำให้มายด์รู้สึกว่า การทานข้าวในวันนี้ ช่างดูอร่อยเป็นพิเศษกว่าทุกวัน

    ไม่น่าเชื่อเลยว่า คำที่ไม่ ‘พิเศษ’ แต่เมื่อมันถูกมอบให้โดยคนที่เรารู้สึกว่า ‘พิเศษ’ มันจะทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกมีความสุขได้ขนาดนี้

    มายด์คิดอย่างเหม่อลอย สายตาทอดมองผ่านหน้าต่างห้องออกไปอย่างปราศจากจุดหมาย ดวงหน้าหวานเผยยิ้มละไม ก่อนที่เด็กสาวจะเดินไปปิดไฟแล้วเข้านอน

 


 

ทำไมรู้สึกอิจฉาคนมีใครให้คุยแบบนี้ละเนี่ย

 

อาจจะมาช้าไปบ้าง แต่ก็มาน้า 55+

 

ป.ล. ผู้อ่านโปรดระวัง หากท่านเผลอ อาจจะตกหลุมรักน้องมายด์ของไรต์โดยไม่รู้ตัว

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.