เริ่มต้นเป็นเรื่อง ลงท้ายเป็นรัก 4: คาดไม่ถึง (Rewrite)

เริ่มต้นเป็นเรื่อง ลงท้ายเป็นรัก (Rewrite14.09.2566)

-A A +A

เริ่มต้นเป็นเรื่อง ลงท้ายเป็นรัก 4: คาดไม่ถึง (Rewrite)

จบบริบูรณ์

“พอแล้วหรือครับ” กันตพัชร์เห็นคนไข้สาวกินอาหารเข้าไปได้ไม่กี่คำก็วางช้อน จึงถามขึ้นอย่างใส่ใจ

“ค่ะ...” ภิรมย์พรตอบกลับเรียบๆ คล้ายไร้ชีวิต

“อย่างนั้นดื่มนี่อีกหน่อยนะครับ ผมขอหมดแก้วนะ รับรองว่ากินไม่ยาก” มือหนายื่นแก้วน้ำทรงสูงมาตรงหน้าหญิงสาว ภายใน

จุของเหลวคล้ายนมเกือบเต็ม ภิรมย์พรมองมันอย่างลังเล ใจหนึ่งไม่อยากกินอะไรต่อแล้ว แต่อีกใจก็เกรงใจชายหนุ่ม

“อีกไม่กี่อึกเท่านั้นครับ น่าจะอร่อยถูกปากคุณนะ”

เขาพยายามโน้มน้าว

“ค่ะ...” เธอรับแก้วเครื่องดื่มมาดื่มได้ไม่เท่าไหร่ ก็อร่อยเพลินจนสามารถยกหมดแก้วได้ภายในเวลารวดเร็ว ทำให้คนชงเองกับมือเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกพอใจระดับหนึ่ง

“เป็นอาหารเสริมในรูปเครื่องดื่มน่ะครับ ผมเอามาปรุงรสให้กินง่ายขึ้นอีกนิดหน่อย” กันตพัชร์อธิบายให้ฟัง อีกฝ่ายก็พยักหน้าให้เป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะเอนตัวพิงหัวเตียงที่ปรับตั้งขึ้น เหม่อมองไปทางอื่น ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็แอบผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พลางตัดสินใจบางอย่าง

“เรื่องนั้น มันหนักมากเลยนะครับ ผมรู้ดี ผมก็เคยผ่านมันมาก่อน” คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวบนเตียงคนไข้ตื่นจากภวังค์

หันหน้ามามองด้วยความสงสัยทันที

“เมื่อสามเดือนก่อน ผมเข้าไปเจอแฟนที่กำลังจะหมั้นกันมีอะไรกับคนอื่นในคอนโดของเธอ” เขาเล่าเรียบๆ รอยเจ็บจางๆ ยังคงหลงเหลือ แต่ดีที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสเท่าช่วงแรกๆ อีกแล้ว คนนั่งฟังได้แต่ตาโต และอดสะเทือนใจลึกๆ ไม่ได้

“มันเจ็บมากๆ ครับ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเต็มตา

แต่ก่อนหน้านี้เธอก็มีเค้านอกใจผมมาแล้วสองสามครั้ง แต่ไม่เคยเจอจังๆ ก็ได้แค่สงสัย จนครั้งนั้น” เขาหยุดพักจังหวะนิดหนึ่ง ความทรงจำวันวานตีย้อนคืนแจ่มชัด

“ผมตัดสินใจเลิก มันยาก และทรมานมากครับ ทั้งที่คิดว่าผมอาจจะมีชีวิตต่อไปอีกไม่ได้ แต่ผมก็เลือกถอยออกมา ผมไม่ได้คิดทำร้ายตนเอง แต่แค่มันเจ็บเจียนตายเท่านั้น” รอยยิ้มบางๆ ผุดบนใบหน้าชายหนุ่ม ทว่ามันเป็นยิ้มเจือเศร้า

“เสียใจด้วยค่ะ...” ภิรมย์พรน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด

เรื่องที่เขาเล่ามันคล้ายกันมาก มากจนเธออดปวดใจไปด้วยไม่ได้

“ผมแค่จะบอกคุณว่า แล้วมันจะผ่านไป ทุกอย่างจะดีขึ้น ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นานวันมันจะมีผลกับเราน้อยลงเรื่อยๆ ตราบเท่าที่เราไม่กอดไว้กับใจแน่นหนา คนบางคนมีค่าแค่ให้เป็นบทเรียน หรือประสบการณ์ชีวิต แล้วผ่านไป แค่นั้นครับ” กันตพัชร์หันไปยิ้มกว้างให้เธอ รอยยิ้ม แววตาที่พยายามถ่ายทอดกำลังใจ และความอบอุ่นปลอบโยนให้เธอ ภิรมย์พรเห็นแล้วก็อดตื้นตันไม่ได้

“ค่ะคุณฟีนิกซ์” เธอตอบด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้งปนเศร้า

“คุณพริ้งชอบอ่านพวกนิยายไหมครับ พอดีผมมีเรื่องหนึ่งที่ชอบมากๆ เรื่องนี้จะเน้นมิตรภาพ ความหวัง ความพยายาม และความฝันครับ ถ้าสนใจผมจะให้คุณยืมอ่านระหว่างพักฟื้นในโรงพยาบาล

แก้เบื่อ”

“ลองดูก็ได้ค่ะ เผื่อพริ้งจะชอบ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสดใสขึ้น ต่อเมื่อหนังสือเล่มนั้นวางตรงหน้าเธอ ดวงตากลมก็เบิกกว้างด้วยอาการคาดไม่ถึงทันที

“รู้จักหรือครับ?” เขาแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าตะลึงของ

หญิงสาว

“คุณฟีนิกซ์ไปได้หนังสือเล่มนี้มายังไงคะ!” เธอถามกลับเสียงปกติ แต่อกซ้ายกลับเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ไม่คิดว่าตนเองจะ

มีโอกาสเห็นหนังสือเล่มนี้อีกครั้ง

“ร้านเช่าหนังสือใต้หอพักสมัยที่ผมเรียนมหาลัยครับ”

“หอ....หรือเปล่าคะ?” ชื่อหอพักที่ภิรมย์พรเอ่ยออกมา เป็นผลให้คนฟังชะงักนิดหนึ่ง ก่อนเขาจะตอบ

“ครับ คุณพริ้งก็เคยพักอยู่หอนั้นเหมือนกันหรือ?”

“ค่ะ..พริ้งก็พักที่หอนั้นตอนเรียนมหาลัย และมักจะมาเช่าหนังสือที่ร้านใต้หอประจำ คุณฟีนิกซ์ก็ด้วยหรือคะ!”

“ครับ...” ชายหนุ่มรับคำง่ายๆ ชักสังหรณ์ว่าเดี๋ยวคงมีอะไรเซอร์ไพรซ์เขาอีกแน่

“หนังสือเล่มนี้เมื่อก่อนพริ้งชอบยืมมาอ่านบ่อยๆ ค่ะ แต่หลังจากร้านปิดไป พริ้งก็ไม่เห็นมันอีกเลย กระทั่งวันนี้ ตอนนั้นเจ้าของร้านบอกว่า ขายหนังสือบางส่วน รวมถึงเล่มนี้ให้คนอื่นไปแล้ว พริ้งมาไม่ทันค่ะ คลาดเขาไปแค่ไม่กี่นาที!” เธอหยุดพูดนิดหนึ่ง เพื่อรอดูว่า

คู่สนทนาของตนจะว่าอย่างไร แต่เมื่อเห็นฝ่ายนั้นยังเงียบ จึงตัดสินใจพูดต่อ

“หนังสือเล่มนี้ เจ้าของร้านบอกว่าเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนแต่ง เปิดพรีแค่กลุ่มแฟนคลับ หาซื้อทั่วไปไม่ได้ และที่ร้านมีแค่สองเล่ม เล่มหนึ่งเจ้าของร้านเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนอีกเล่มเปิดให้คนในหอได้เช่าทดลองอ่าน ไม่คิดเลยว่าคนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ในวันนั้นจะเป็นคุณฟีนิกซ์นะคะ” เธอพูดด้วยรอยยิ้มตื่นเต้นยินดี คาดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสได้จับหนังสือเล่มโปรดเล่มนั้นอีกครั้ง

“ผมชอบหนังสือเล่มนี้มากครับ เช่ามาบ่อยๆ เหมือนกัน วันนั้นไปเจอพี่เจ้าของร้านกำลังเก็บของ เห็นว่าหลังจากปิดร้าน พี่เขาจะคัดหนังสือบางส่วนขาย บางส่วนเก็บไว้ และถามผมว่าสนใจอยากซื้อเล่มนั้นต่อหรือเปล่า ผมเลยตัดสินใจซื้อมาครับ เพราะรู้ถ้าพลาดโอกาสไป คงไม่ได้เห็นมันอีก”

“แสดงว่าบางครั้งที่พริ้งจะมาเช่าหนังสือเล่มนี้ไปอ่าน แล้วมีคนยืมไปก่อน หนึ่งในนั้นเป็นคุณฟีนิกซ์สินะคะ”

“ครับ” รอยยิ้มน้อยๆ ผุดบนหน้าชายหนุ่ม คิดไม่ถึงเหมือนกันจะได้เจอใครคนนั้น ที่มักแข่งกับเขายืมหนังสือเล่มโปรดไปบ่อยๆ

 ในที่สุด

ความดีใจที่ได้พบหนังสือที่ตามหามานานหลายปีทำให้ภิรมย์พรลืมเรื่องปวดใจไปช่วงเวลาหนึ่ง เธอดีใจจนอยากหยิบมันขึ้นมาอ่านยาวๆ คืนนี้ให้หายคิดถึง แต่ก็รู้ดี พยาบาลคงไม่อนุญาต ร่างกายเธอยังต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องยั้งใจตนเองไว้ก่อน หลังจากพยาบาลเข้ามาฉีดยาแก้อักเสบให้ ความง่วงจะเข้าครอบคลุมสมอง บังคับให้ต้องหลับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างนั้น เมื่อกันตพัชร์ให้เธอยืมหนังสือแล้ว ก็จะนอนกอดมันทั้งคืนเลย

 

 

 

ภาพโลมาสีชมพูสามสี่ตัวเล่นน้ำกลางทะเลสีฟ้าใสอยู่ห่างออกไปไม่ไกล เรือยนต์ยาวจอดนิ่งให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักของสัตว์เจ้าถิ่นอย่างเต็มที่ ปวีรารีบยกสมาร์ทโฟนขึ้นเก็บภาพราวกลัวพลาดอะไรไป ครั้งก่อนมาเที่ยวแล้วทีหนึ่ง ตอนนั้นมาคนเดียว แต่กลับต้องผิดหวังเล็กๆ เมื่อได้เห็นเด็กๆ เพียงไม่กี่ตัว คราวนี้เธอมาพร้อมเพชรกานต์ แม้เวลานี้โลมาสีชมพูจะยังมาไม่มาก แต่นานเข้านักท่องเที่ยวก็ต้องพากันตื่นเต้นยินดี เมื่อวันนี้พวกเขาพบโลมาปรากฏตัวหลายฝูงทีเดียว

นอกจากเรือเหมาลำของสองหนุ่มสาว ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนักก็มีเรือยนต์ยาวของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จอดลอยลำอยู่ด้วย หลายคนยกโทรศัพท์เก็บภาพแทบทุกฉ็อต ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กต่างใบหน้าเปื้อนยิ้มส่งเสียงทักทายเจ้าถิ่นอย่างมีความสุข บ้างก็ส่งเสียงเฮฮาสนุกสนานเมื่อโลมาน้อยกระโดดเล่นน้ำกินปลา มันเป็นภาพที่วิเศษมากในสายตาทุกคน ยังจะเสียงร้องน่ารักของพวกมันอีกเล่า เกินกว่าที่คาดไว้จริงๆ ทริปนี้

เสร็จจากที่นี่ สองหนุ่มสาวก็พากันกลับขึ้นฝั่ง ขับรถเที่ยวที่อื่นต่อ เกือบสัปดาห์ที่ปวีราอยู่อำเภอแห่งนี้ เธอเดินทางเที่ยวชมหลายสถานที่เช็กอินสำคัญหลายแห่งแล้ว ทว่าก็ยังเหลืออีกจำนวนไม่น้อยที่วางแผนจะเยือนในวันถัดๆ ไป กระทั่งเพชรกานต์ออกปากชวนเที่ยวด้วยกัน และเสนอให้เธอบอกสถานที่ที่อยากไป โดยมีเขารับหน้าที่เป็นไกน์ให้หนึ่งวันเต็ม จริงๆ บริเวณชมดูโลมาสีชมพู ไม่ใกล้ไม่ไกลกันยังมีอีกสองสามจุดให้เที่ยวถ่ายรูป ทว่าครั้งก่อนหญิงสาวมาเก็บภาพไปแล้ว และชายหนุ่มก็เป็นคนในพื้นที่ได้เห็นบ่อยครั้งแล้ว ดังนั้นหลัง

ดูโลมาเรียบร้อยพวกเขาจึงรีบกลับขึ้นฝั่งไปสถานที่เป้าหมายอื่นทันที

จากอำเภอหนึ่งมายังอีกอำเภอหนึ่งใช้เวลาพอประมาณ เป้าหมายที่สองของพวกเขาคือ พื้นที่อุทยาน อันอุดมด้วยพืชพรรณไม้และสัตว์นานาชนิด ยูธูปเบอร์สาวอยากเดินป่าระยะสั้น ผู้กองหนุ่มจึงจัดให้ตามคำขอ ด้วยความที่เขามีเพื่อนทำงานอยู่อุทยานแห่งนี้ จึงให้ช่วยจัดทริปเดินป่าครึ่งวันจบให้เป็นกรณีพิเศษ และไม่ผิดหวังเลย

เมื่อก้าวไปตามทางที่เพื่อนเจ้าหน้าที่อุทยานนำมา ได้เจอทั้งสัตว์สงวนน่าสนใจ ส่องนกหายาก และชื่นชมกับพรรณไม้แปลกตา สำรวจถ้ำ

มีชื่อบางถ้ำ เดินผ่านวิวที่สามารถมองน้ำตกในอีกมุมสวยๆ ซึ่งน้อยคนเคยเห็น งานนี้คนที่ตื่นเต้นยินดีสุดๆ คงเป็นปวีรา เพราะได้เก็บภาพเด็ดชวนตื่นตาตื่นใจไปหลายภาพ

“วันนี้แป๋วต้องขอบคุณผู้กองมากจริงๆ ค่ะ เป็นทริปที่หนำใจแป๋วมากเลย” ปวีราหันมากล่าวกับผู้กองหนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม ระหว่างทั้งคู่กำลังเดินมาขึ้นรถตนเอง

“ผมดีใจครับที่คุณแป๋วแหววชอบ เสียดายที่วันหยุดผมมีน้อย และช่วงนี้ยังลาไม่ได้ ไม่งั้นผมจะจัดโปรแกรมเที่ยวให้คุณแป๋วแหววได้จุกกว่านี้” เพชรกานต์พูดยิ้มๆ รู้สึกดีเหลือเกินที่ได้ใช้เวลาร่วมกับหญิงสาวที่เดินด้วยกันตอนนี้

“แค่นี้ก็คุ้มค่ากับหนึ่งวันที่ผ่านไปเหลือเฟือแล้วค่ะ ว่าแต่ วันนี้พาแป๋วเที่ยวทั้งวัน พรุ่งนี้ทำงานต่อคงเหนื่อยแย่เลย” เธอชวนคุย พลางก็อดเป็นห่วงอีกฝ่ายขึ้นมาไม่ได้ แต่เขายืนยันอยากพาเธอเที่ยวให้เต็มที่ เกรงใจก็เกรงใจอยู่หรอก แต่พอเจออะไรน่าตื่นเต้นตรงหน้า

ก็แทบลืมสิ่งรอบข้างจนหมด

“เล็กน้อยครับ อย่ากังวลมากเลย ตำรวจอย่างผมอึดพอๆ กับทหารที่ฝึกทุกวันนะ” เขาพูดติดตลก เพื่อให้คนฟังคลายใจลงบ้าง

เขาเป็นตำรวจทำงานในออฟฟิศส่วนใหญ่ก็จริง แต่ก็ออกกำลังกาย

ไม่เคยขาด

“แหม แข็งแรงขนาดนั้นเชียว” เธอทำเสียงเย้าเขา อีกฝ่าย

ก็เพียงหัวเราะรับ

หลังจากขึ้นรถขับออกจากอุทยานได้ สองหนุ่มสาวก็มุ่งตรงกลับอำเภอของพวกเขาทันที ก่อนจะแวะหาอะไรกินตามรายทางง่ายๆ โดยไม่มีใครขัดข้อง ชายหนุ่มพอทราบจากการติดตามยูธูปเบอร์สาวมานานเหมือนกันว่าจริงๆ เธอเป็นลูกคนมีฐานะ แต่พอเห็นว่าเธอทำตัวง่ายๆ ไม่มากเรื่องอย่างที่แอบกังวลไว้ก็รู้สึกประทับใจ ฝ่ายหญิงสาวก็สังเกตตนเองเหมือนกันว่านานวันยิ่งอดรู้สึกดีและชอบผู้ชายคนนี้ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันบ่อย ถึงอย่างนั้นก็คุยกับเขาทุกวันผ่านโลกออนไลน์ อาจเพราะสนใจอะไรคล้ายกันด้วยกระมัง

สองฝ่ายจึงมีเรื่องมาแลกเปลี่ยนเสมอ

ขณะยูธูปเบอร์สาวและผู้กองหนุ่มกำลังนั่งกินข้าวเพลินๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมา แต่เมื่อเขาเหลือบมาเห็นหญิงสาวเข้าก็มีสีหน้าแปลกแต่ยังเดินผ่านไป เธอสะดุดใจอาการนั้นก็ชะงักนิดหนึ่งจนชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามสังเกตได้ และหันมองตามสายตาเธอ ก่อนหันกลับมาถาม

“คนรู้จักหรือเปล่าครับ”

“ไม่นะคะ” ปวีราตอบตามปกติ ทว่ารอยแปลกใจในสีหน้าของผู้ชายคนนั้นยังไม่เลือนไปจากแววตา และเนื่องจากชายหนุ่มนั่งหันหน้าไปทางที่ผู้ชายคนนั้นเดินไป จึงมองเห็นได้ว่าฝ่ายนั้นหลังจากสั่งรายการกับแม่ค้าอาหารตามสั่งเสร็จก็หันมามองหน้าเขาด้วยท่าทาง

ไม่ค่อยพอใจอีก

“แปลก..” เขาละสายตาจากฝ่ายนั้นแล้วเอ่ยกับเธอ

“ทำไมหรือคะ?” เธอสงสัย รู้อยู่ว่าเมื่อกี้ชายหนุ่มมองไปด้านหลังเธอ ซึ่งผู้ชายคนนั้นอาจกำลังยืนคุยกับแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งและมองมาก็ได้ แต่เธอไม่กล้าหันไปดูบ้าง

“เขาทำเหมือนไม่พอใจที่ผมมานั่งกินข้าวกับคุณเลยนะครับ” เขาสันนิษฐานตามที่เห็น

“แต่แป๋วไม่รู้จักเขาจริงๆ นะคะ” ได้ฟังอย่างนั้นเธอก็อดหวั่นใจไม่ได้ เขาคนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องแสดงอาการแบบนั้นออกมาจน

ผู้กองหนุ่มพูดอย่างนี้ได้

“ครับ ถ้าอย่างนั้นเราอาจต้องเข้าไปถามเขาให้เคลียร์”

ชายหนุ่มเสนอความเห็น

“ดีค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจ เธอไม่ชอบอะไรค้างคาใจเหมือนกัน ถามให้รู้เรื่องไปเลยจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อีกอย่าง มีผู้กองหนุ่มอยู่ด้วยก็ไม่น่าห่วงเท่าไรนัก

เพชรกานต์รอจนฝ่ายนั้นเดินมาทางนี้อีกครั้ง แต่เกิดเรื่องผิดความคาดหมายเสียก่อน เมื่อมีรถกระบะสี่ประตูคันใหญ่ขับมาเทียบหน้าร้าน บริเวณที่แม่ค้าตั้งกระทะทำครัวอยู่ ทำให้พอชายคนนั้นได้อาหารที่สั่งเรียบร้อยก็เดินจากตรงนั้นขึ้นรถไปเลย ซึ่งโต๊ะที่สองหนุ่มสาวนั่งห่างจากจุดดังกล่าวมาราวสี่โต๊ะ

“หรือจะเป็นพวกขบวนการลักเด็กคะ?” ปวีราถามเขาระหว่างนั่งรถกลับมาที่โรงแรม สีหน้าคนถามดูไม่ค่อยสบายใจอย่างชัดเจน ตอนนั้นเพชรกานต์ทำได้เพียงปลอบเธอให้คลายวิตก ทั้งที่ในใจก็กังวลอยู่พอควร แต่มันอาจไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิดก็ได้

“ทางเจ้าหน้าที่ปิดเรื่องผู้ให้เบาะแสเป็นความลับ และยังไม่ได้แพร่งพรายเรื่องที่คุณเป็นพยานสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ให้คนนอกทราบสักคนเลยครับ ผมว่าคุณแป๋วแหววอย่าเพิ่งวิตกไปไกลดีกว่าครับ ผมไม่ยอมให้ใครทำอะไรคุณแน่นอน ผมรับปากด้วยเกียรติของดาวสามดวงบนบ่าครับ” เขาพูดจากใจ ก่อนบอกเธอให้สบายใจอีกว่าจะรีบส่งตำรวจมาคอยสังเกตการณ์ทางเธอจนกว่าจะรู้ชัดว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร ด้วยความเป็นห่วงหญิงสาว แม้จะส่งเธอเข้าโรงแรมเรียบร้อย เขาก็ยังไม่ได้ขับรถกลับบ้านทันที รอกระทั่งตำรวจที่เขาขอให้ช่วยมาเฝ้าระวังความปลอดภัยเธอมาถึงนั่นล่ะจึงยอมกลับไปพักผ่อน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.