เข้าฟาร์มกับพ่อฮั่ว

ชาติสุดท้ายข้าจะทำฟาร์มเศรษฐี

-A A +A

เข้าฟาร์มกับพ่อฮั่ว

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เจียเหรินได้สวมวิญญาณชาวไร่ชาวส่วนอย่างเต็มตัว เขาสวมเสื้อผ้าสีซีดตัวเก่าเตรียมเปื้อนไว้อย่างดี บนหัวก็มีหมวกฟางที่ภรรยาของเขาได้ทำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ข้างตัวมีกระบอกไม้ไผ่ใช้เก็บน้ำกินติดตัวมาด้วย

 

“อ้าวท่านพ่อตา ท่านออกมาแล้วรึ ข้ากำลังจะไปหาท่านพอดี” เจียเหรินเดินออกจากเรือนมาพบพ่อฮั่วยืนอยู่หน้าเรือนเช่นกันเขาจึงทักขึ้น

 

“อ่าข้าพึ่งออกมาเช่นกัน” พ่อฮั่วมองไปที่การแต่งกายของบุตรเขยตัวเองแล้ว ช่างคล้ายคุณชายตระกูลใหญ่ที่มาตกระกำลำบากที่บ้านนอกเหลือเกิน แต่ท่าทางของเขาช่างกระตือรือร้นยิ่ง เหตุใดชายหนุ่มผู้นี้ช่างเหนือความคาดหมายของเขานักนะ เป็นผู้วิเศษที่สูงส่งอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ชอบทำให้ตนเองลำบากเช่นการทำฟาร์มเช่นนี้ หรือผู้ที่มีพรสวรรค์มักมีความคิดหรือความชอบที่แปลกแยกกว่าผู้คนธรรมดาเช่นนั้นหรือ พ่อฮั่วเข้าไม่ถึงจริงๆ

 

“เช่นนั้นพวกเราก็ไปดูที่ฟาร์มเถิดขอรับ” เจียเหขาดแคลนจึงพาพ่อฮั่วเดินไปตามเส้นทางระหว่างเรือนทั้งสองหลัง เจียเหรินได้ให้ช่างสร้างถนนยาวทอดไปทางหลังเรือน เดินอีกเล็กน้อยก็มาถึงห้องพักที่เจียเหรินสร้างไว้ให้คนงานของเขาพักอาศัย

 

“อ้าว น้องเหรินจะพาเฒ่าฮั้วไปที่ฟาร์มรึ” เหลียงซานที่กำลังหวีขนให้ม้าพร้อมพึมพำร้องเพลงอยู่ในคอกม้า ทักขึ้นเมื่อเขาเห็นเจียเหรินกับพ่อฮั้วกำลังเดินผ่านไป ตอนนี้ชีวิตของเขาอยู่ดีมีสุขยิ่ง ทำให้เหลียงซานนึกขอบคุณที่ตนเองเข้าไปทักทายเสนอตัวพาเจียเหรินเข้าเมืองวันนั้น จึงทำให้เขามีชีวิตดีขึ้นในวันนี้ เขานับว่าเป็นหนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านที่พอจะมีครอบครัวมีบุตรได้แล้ว หากแต่เหลียงซานกลับไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นนัก ซ้ำตนเองยังเป็นน้องเล็ก มารดา พี่ใหญ่พี่รองต่างรักใคร่ ตามใจเขายิ่ง แต่พี่สะใภ้ทั้งสองกลับไม่ใช่ ทำให้ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านสกุลเหลียงเขามักอึดอัดไม่น้อย เขาจึงหาเรื่องออกมาทำงานข้างนอก แต่ยังได้รับคำพูดกระทบกระเทียบตลอดเวลา เพราะม้าที่เขาซื้อเพื่อใช้รับส่งชาวบ้านนั้นต้องใช้เงินเก็บถึงสามปีของครอบครัวมาซื้อเลยทีเดียว เขาย่อมเข้าใจได้ในความโกรธเคืองเหล่าพี่สะใภ้ พอเขาได้งานจากเจียเหรินแล้วม้าตัวนั้นส่งต่อให้พี่ใหญ่กับพี่รองใช้หาเงิน ส่วนเขาก็ได้ย้ายออกทำให้ในเรือนลดความแออัด เขาได้ห้องพักของตัวเอง ซ้ำข้าวปลาอาหารก็ไม่ต้องจ่าย เจียเหรินบอกอีกด้วยว่าเป็นคนของฟาร์มนี้ สามารถซื้อผลผลิตของฟาร์มในราคาครึ่งหนึ่งเพื่อนำไปฝากครอบครัวข้างนอกได้ ดังนั้นสามวันที่แล้วเขาได้ซื้อปลาตัวอ้วนกลับเรือนไปฝากมารดา คราวนี้พี่สะใภ้ทั้งสองยิ้มแย้มต้อนรับเขาอย่างดี ช่วงนี้ชีวิตของเหลียงซานจึงมีความสุขยิ่ง

 

“ใช่พี่เหลียง เดียวอีกสองสามวัน พี่เขยข้าจะเอาม้าไปใช้หนึ่งตัวนะพี่เหลียง คัดเลือกตัวที่แข็งแรงที่สุดไว้ให้เขาด้วย” เมื่อมองเห็นม้าเจียเหแปรงขนจึงนึกขึ้นมาได้ เอาไว้เมื่อเขาฝึกฝนเค่อสิงเสร็จ ไม่นานคงต้องส่งเขาออกไป เมืองหลวงนั้นอยู่ไกลนัก หากจะรวดเร็วจำเป็นต้องใช้ม้าพวกนี้สักตัว ม้าตัวดำกล้ามเนื้อที่แข็งแรงชัดเจนพวกนี้เป็นผลมาจากการได้กินน้ำพุแห่งสวรรค์เพียงหนึ่งหยดเท่านั้น ดังนั้นไม่แม้แต่ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้น ความเร็วของพวกมันก็ไม่แพ้ผู้ใด แม้แต่ม้าที่ใช้ทำศึกสงครามคงเทียบมันไม่ได้ รับรองว่ามันจะช่วยลดเวลาในการเดินทางไปกว่าครึ่ง เขาหวังว่าเค่อสิงจะไปถึงก่อนเวลาเข้าสอบของติงหยู

 

“ได้ มั่นใจได้ ม้าพวกนี้มันแข็งแรงทุกตัว” เหลีขาดแคลนซานยืดอกรับรอง ม้าที่เขาดูแลพวกนี้แข็งแรงยิ่ง เวลาว่างวันใดที่เจียเหรินไม่ได้ไปที่ใด นอกจากจะให้อาหารและอาบน้ำ แปรงขนให้ม้าแล้ว เขายังพาม้าพวกนี้วิ่งออกกำลัง หลังโรงม้ายังมีสนามซ้อมของพวกมันด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้เขาแทบจะชำนาญการขี่ม้ายิ่ง และรู้ว่าม้าพวกนี้มันวิเศษขนาดไหน

 

“อืม เช่นนั้นก็ดี” เมื่อเป็นเช่นนี้เจียเหรินเเวะพูดคุยกับเหลียงซานเล็กน้อย จึงพาพ่อฮั่วเดินเข้าพื้นที่ของฟาร์มส่วนต่อไป

 

 

 

“เจ้ายังไม่ได้ปลูกอันใดเลยรึ” พ่อฮั่วมองพื้นที่กว่าสิบไร่ที่ยังดูโล่งเตียนไม่มีพืชผักแม้สักต้นจึงเอ่ยขึ้นมา

 

“ตอนนี้มีเพียงต้นนุ่นสิบต้น ปลูกไว้ให้หลานเอ๋อขอรับ ส่วนเมล็ดผักข้าได้มาจากพ่อค้าของทางหลงเจี้ยนว่าจะปลูกมันหลังจากนี้” เขากะว่าได้พ่อฮั่วมาช่วยดูแลก่อนจึงจะลงมือปลูกพืชต่างๆ ตอนนี้มีเพียงต้นนุ่นที่ย้ายมันมาจากบนภูเขาเพียงสิบต้นเท่านั้น

 

“สิบต้น จะพอรึ เห็นมารดาของหลานเอ๋อนางบอกว่าจะเอานุ่นไว้ใช้ทำพวกหมอนผ้าห่มหรอกไม่ใช่รึ และทำแต่ละอย่างต้องใช้นุ่นไม่น้อยเลยนะ ข้าทดลองใช้พวกมันแล้วนอนหลับสบายดีทีเดียวหากทำขายต้องขายดีแน่ ไม่ปลูกเพิ่มอีกสักหน่อยเล่า”

 

“เท่านี้ก็พอแล้วขอรับ” เจียเหรินไม่คิดปลูกไปมากกว่านี้ด้วยเขามีน้ำพุแห่งสวรรค์อยู่แม้เขาใช่มันลงไปผสมกับน้ำในบ่อแล้วก็ตามมันยังเป็นของวิเศษ อย่างไรต้นนุ่นพวกนี้ก็มีมากพอให้ใช้แน่

 

“นั้นสินะ” พ่อฮั่วลืมไปว่าบุตรเขยของเขาเป็นผู้วิเศษ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้วิเศษแม้แต่เรื่องแบบนี้เขาคงสามารถทำได้โดยที่พวกเขาคาดไม่ถึงแน่นอน พ่อฮั่วได้แต่คิดในใจจะเอามุมมองของคนของคนธรรมดามาใช้กับที่นี่ไม่ได้แล้ว เขาต้องทำตัวให้ชินเข้าไว้

 

“เราไปดูตรงนั้นเถิดขอรับ” เจียเหรินเดินแนะนำส่วนต่างๆให้พ่อฮั่วทราบ หลายวันมานี้เขาคลุกอยู่ในฟาร์มทำนั่นทำนี่ไป กลับพบว่าแม้เหนื่อยแต่กลับเป็นความสุขของเขา หากเป็นไปได้เขาแทบไม่อยากออกไปที่ใดเลย แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นไปได้ยากยิ่ง ดังนั้นเวลาเขาไม่อยู่ก็จำเป็นจะต้องมีผู้ดูแลฟาร์มแทนเขา และพ่อฮั่วก็เป็นคนแรกที่จะมาช่วยเขา แม้เขาจะให้ภรรยาของเขาใส่น้ำพุแห่งสวรรค์ลงไปในอาหารเพื่อบำรุงครอบครัวฮั่วก็ตาม อย่างไรพ่อฮั่วเพียงแค่แข็งแรงกว่าคนปกติไปเล็กน้อยเท่านั้น หากให้ดูแลฟาร์มทั้งหมดเห็นทีจะตึงมืออยู่บ้าง ต่อไปเขาต้องหาคนมาเพิ่มอีกแน่นอน

 

“อ่าไก่พวกนี้ ออกไข่แล้ว เราต้องรีบเก็บไข่มันเสียแล้วยังมีข้างๆ นั่นเป็นเล้าเป็ด ไข่มันช่างใหญ่โตยิ่ง” พ่อฮั่วมองเข้าไปในเล้าไก่และเล้าเป็ดที่อยู่ข้างๆ กันจะให้เรียกว่าเล้าก็น่าละอายนักเพราะมันกว้างขวางยิ่ง พ่อฮั่วรู้สึกตื่นเต้นคิดอยากจะลงมือเก็บไข่ที่ใหญ่โตพวกนี้ที่มีอยู่เกลื่อนพื้นเหลือเกิน

 

“ข้าว่าอีกหน่อยจะขยายเพิ่มขึ้น เป็ดไก่พวกนี้มีตัวผู้ปนมาด้วยสองสามตัว ข้าจึงจับตัวที่แข็งแรงผสมพันธุ์กับตัวเมีย คิดว่ารุ่นถัดไปคงจะรออีกไม่นานขอรับ” ในเล้ายังสามารถเลี้ยงได้อีกหลายตัว ตอนนี้เป็ดมีสามสิบตัว ไก่มีเพียงยี่สิบตัว เขาได้ไข่ที่มีเชื้อแล้ว ตอนนี้เขานำเข้าโรงเพาะพันธุ์เรียบร้อย โรงเพาะพันธุ์นี้เขาได้ใช้เวทเพื่อจำลองมันให้คล้ายเครื่องฟักไข่ในยุคอนาคต แม้จะออกมาเป็นตัวผู้ เลี้ยงไปสักระยะเขาก็จะขายออกไป ตัวเมียเขาจะเอาไว้ให้มันผลิตไข่ เพื่อนำไข่ไปขายอีกที เขาไม่ห่วงเลยว่าจะไม่มีคนซื้อในเมื่อยุคนี้พวกเนื้อหายากเหลือเกิน และในเมื่อมีน้ำพุวิเศษก็ไม่ต้องกลัวว่าพวกมันจะไม่พอขายด้วย

 

“อ่า หากทำเช่นนั้นได้พวกชาวเมืองคงไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหารแล้ว” พ่อฮั่วพบว่าไม่เพียงเจียเหรินจะเป็นผู้ที่ฉลาดหาทางทำเงินได้เท่านั้น หากประสบความสำเร็จ ชาวบ้านหรือแม้แต่แค้นสุยอาจจะมีแนวทางลดการขาดแคลนอาหารได้ พ่อฮั่วมองไปที่เจียเหรินอย่างชื่นชมเขา

 

“ส่วนคอกหมูนั้นข้าเพียงทำไว้รอเฉยๆ ขอรับ หมูเลี้ยงช่วงนี้หายากนัก ไม่กี่วันข้าว่าจะเข้าเมืองไปลองหาซื้อดู” ระหว่างที่พวกเขาให้อาหารไก่อยู่ เจียเหรินก็พูดคุย แนะนำสิ่งต่างๆ ภายในฟาร์มไปด้วย ตอนนี้เขาจำต้องรอไปก่อน หมูป่านั้นแทบจะไม่มีผู้ใดนำมาเลี้ยงเลย นอกจากล่ามันมาเท่านั้น ซ้ำยิ่งลูกหมูนับว่าหายากยิ่ง ในตลาดช่วงที่ขาดแคลนเนื้อเช่นนี้ไม่มีสัตว์ให้เลือกซื้อแม้แต่น้อย เจียเหรินจึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศออกไปหากปูใดจับลูกหมูป่าตัวเป็นๆ ได้ให้นำมาขายให้เขา เขาจะให้ราคาที่น่าพอใจแน่นอน

 

“อ่าได้ๆ ระหว่างนี้ข้าจะดูแลเป็ดไก่พวกนี้ไปก่อน” เพียงเก็บไข่กับให้อาหารพวกมันไม่มีอะไรยากนักสำหรับพ่อฮั่ว เขายินดีทำงานยิ่ง

 

“ได้ขอรับ ส่วนอาหารของมันเก็บอยู่โรงเก็บข้างๆ อีกโรงเป็นยุ้งฉาง เอาไว้เก็บผลผลิตต่างๆ ที่เราได้จากฟาร์ม ข้างในข้าได้ปรับแต่งเรียบร้อยมันกว้างขวางกว่าที่ตาเห็นนัก และสามารถเก็บได้นานคล้ายแหวนมิติ” เจียเหรินได้นำแบบแปลนของเทคโนโลยีสมัยใหม่มารวมเข้ากับการใช้เวทเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น ในอนาคตการให้อาหารกับน้ำแก่สัตว์ในฟาร์มเขาอาจจะไม่ต้องใช้แรงคนเลยก็ได้

 

“อ่าผู้วิเศษช่างน่าเหลือเชื้อนัก น่าเสียดายที่ข้าเป็นเพียงคนธรรมดา ยังโชคดีที่ได้เจ้าเป็นบุตรเขย และสิงเอ๋อยังเป็นต้นกล้าที่ดี แต่ไม่รู้ว่าเขาจะก้าวหน้าได้เท่าใด” พ่อฮั่วฟังแล้วรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เขาต้องใช้เวลาในการจัดการข้อความต่างๆ ที่เขาได้มา ยังมีอีกมากที่ทำให้พ่อฮั่วตกใจ ดังนั้นเขาต้องทำใจให้เย็นๆ มีบุตรเขยที่น่าภูมิใจเช่นนี้เขาก็ไม่ทำให้บุตรเขยเสียหน้า ซ้ำพอคิดถึงบุตรชายของตน เขาก็เป็นผู้วิเศษเช่นกันใช่หรือไม่ พ่อฮั่วรู้สึกมีความหวังขึ้นมาสามชั่วอายุคนที่ผ่านมาพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดามาตลอดกลับให้กำเนิดบุตรชายเป็นผู้วิเศษขึ้นมาหนึ่งคนนับว่าบรรพบุรุษคุ้มครองพวกเขาแล้ว

 

“ท่านพ่อตาไม่ต้องห่วงพี่เขย มีความมุ่งมั่นไม่น้อย ซ้ำร่างกายของเขามีความพิเศษยิ่ง เขาต้องก้าวหน้าแน่นอน” เมื่อพูดถึงเค่อสิง แน่นอนว่าบุตรของพระเจ้าเช่นเขาต้องก้าวหน้าแน่นอนจนพ่อฮั่วคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ไม่แน่เข้าเมืองหลวงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสของเขาก็ได้ใครจะไปรู้

 

“นั่นสินะ ได้เจ้าเป็นอาจารย์ให้เขา ข้าก็วางใจแล้ว” เมื่อได้ยินผู้อื่นชมบุตรชายของตนพ่อฮั่วได้หน้าไม่น้อย แต่เขายังไม่ลืมยกความดีทั้งหมดให้เจียเหรินหากไม่ได้เขา เคอสิงอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เค่อสิงไม่เพียงมีชีวิตอยู่เขายังก้าวไปในเส้นทางที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้อีก

 

“เราไปดูที่ต่อไปเถิดขอรับ” เมื่อให้อาหารสัตว์เสร็จและเก็บไข่ทั้งหมดแล้ว เขาก็พาพ่อฮั่วเดินรอบฟาร์มอีกครั้ง

 

“ทำเช่นนี้ดีไม่น้อยมีสายน้ำอยู่รอบหากจะรดน้ำพืชผักที่เราปลูก จะได้ไม่เสียเวลาไปเอาน้ำที่บ่อย่างเดียว” พ่อฮั่วมองไปรอบพื้นที่ มีคลองน้ำเชื่อมกันหลายสายไม่ลึกมากนักและมีบ่อใหญ่อยู่ตรงกลาง

 

“ใช่ขอรับ” เจียเหรินก็คิดเช่นนั้นเขาจึงทำเป็นคลองไส้ไก่เพื่อจะได้สะดวกมากขึ้น

 

“ข้ามองดูแล้วปลาพวกนี้ตัวใหญ่ไม่น้อยเลย หากไม่บอกว่าเจ้าพึ่งเลี้ยงมันได้ไม่นานนี้ข้าคงคิดว่าเจ้าเลี้ยงมันมานานเป็นปีแล้ว” พ่อฮั่วมองไปยังคลองที่น้ำใสยิ่งพบปลายตัวใหญ่หลายชนิด เขาไม่ได้เห็นปลาตัวใหญ่เช่นนี้มานานแล้ว รอบๆ ยังมีกุ้ง และหอยเกาะอยู่เต็มไปหมด นับว่าอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าแหล่งน้ำธรรมชาติเสียอีก

 

“ฮ่าๆ ลูกเขยของท่านไม่ธรรมดานะขอรับ วันนี้เราจะจับพวกมันกลับไปให้หงเอ๋อทำอาหารอร่อยๆให้ แต่ข้าว่าจับบ่อใหญ่น่าสนุกกว่า” เจียเหรินได้พูดคุยกับพ่อตามากว่าครึ่งวันให้ความสนิทสนมมากขึ้น จึงยินดีจะพูดคุยล้อเล่นกับเขามากขึ้น

 

“ดี” พอฮัวถูกใจยิ่งเมื่อมองเจียเหรินนำเบ็ดสองคันออกมา พร้อมกับถังใส่ปลาพวกเขาพร้อมหาที่นั่งเอาเหยื่อใส่เบ็ดเตรียมตกปลานี่คือสงครามระหว่างลูกผู้ชาย พ่อฮั่วมุ่งมั่นที่จะชนะ

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.