บทที่ 8...2/3

ขอเพียงรักนี้นิรันดร

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 8...2/3

เรื่องร้ายผ่านพ้นเพื่อให้รู้ว่าต่อให้พบเจอเรื่องอะไรก็ตาม วันรุ่งขึ้นก็ต้องออกไปใช้ชีวิตตามหน้าที่ของแต่ละคนดังเดิม ธามิณียิ้มให้ตัวเองในกระจกเพื่อบอกกับตัวเองว่าจงดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้

การสอบได้เริ่มต้นขึ้น อนาคตนักศึกษาปี 4 อยู่อีกไม่ไกลแล้ว ขอเพียงแค่สอบผ่านไฟนอลของครั้งนี้ไปได้ ตลอดหลายสัปดาห์นั้นหญิงสาววุ่นอยู่กับการสอบจนเวลานอนแทบไม่มีด้วยซ้ำ อีกทั้งยังต้องทำงานพิเศษควบคู่ไปด้วย มารู้ตัวอีกทีก็ถึงวันสุดท้ายของการสอบแล้ว

มีบางเวลาที่ธามิณีนึกถึงพระเสาร์ เทพกึ่งมนุษย์คนนั้นหายเงียบไปเพราะเธอไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง แม้จะมีเบอร์โทรศัพท์ที่เขาให้ไว้ แต่เธอก็ไม่กล้าโทรไป เพราะที่ผ่านมาเธอรบกวนเขามากพอแล้ว

ธามิณีเดินเรื่อยๆ มารอกัลยากับรวิชญ์ที่ม้าหินอ่อนใกล้ตึกกิจกรรม ถ้าลงนอนไปกับเก้าอี้ยาวได้ตอนนี้เธอคงทำไปแล้ว สภาพของคนสอบเสร็จวันสุดท้ายดูไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ แทบจะหลับตาเดินกันแทบทุกคน

“สอบเสร็จแล้ว ไปหาอะไรกินก่อนไปนอนให้สาแก่ใจกันไหม ตั้งแต่สอบมา กัลแทบไม่ได้นอนเลย ง่วงชะมัด” กัลยานั่งลงปุ๊บก็แทบฟุบหลับไปอีกคน

“ถ้าง่วงขนาดนี้ไปนอนก่อนก็ได้นะ ตื่นแล้วค่อยไปหาอะไรกิน” รวิชญ์หัวเราะเพราะกัลยาชอบมาอ่านหนังสือตอนใกล้สอบมันจะไปทันได้ยังไง

คนที่เตรียมตัวพร้อมกับสำหรับการสอบต้องมีชื่อของรวิชญ์อยู่แน่นอน ธามิณีปิดปากหาวทำให้กัลยาหาวตาม กลายเป็นหัวเราะกันเองเสียอย่างนั้น

“ถ้างั้นกัลขอกลับหอพักก่อนแล้วกัน แล้วธามกับวิชญ์ล่ะ”

“เดี๋ยวธามจะไปทำงานพิเศษต่อน่ะ คงไปหาอะไรกินที่ร้านเลย” ธามิณีตอบไม่ทันเห็นสีหน้าผิดหวังของรวิชญ์ ทั้งที่กัลยาเปิดทางแล้วเชียว

“วิชญ์ไปส่งดีไหม”

“ไม่เป็นไรหรอก วิชญ์ไปพักเถอะ ธามไปก่อนนะ”

กัลยาสะกิดรวิชญ์ให้พูดต่อ แต่ธามิณีเดินลิ่วๆ ไปแล้ว ทั้งสองมองกันแล้วถอนใจ กัลยาตบไหล่เพื่อนที่เพิ่งพลาดโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับธามิณี เขาไม่รู้ว่ามันประจวบเหมาะหรือธามิณีจงใจไม่ไปไหนกับเขาเพียงแค่สองคนกันแน่ เพราะพอนึกย้อนกลับไปแทบไม่มีเลยที่เขาจะได้อยู่กับเธอตามลำพัง

 

ภายในร้านอาหารที่มีเครื่องดื่มหลายชนิดให้เลือก บรรยากาศสบายๆ เหมือนได้มานั่งผ่อนคลายยังมีลูกค้าไม่มากนักเพราะเพิ่งเปิดร้านเมื่อ 10 นาทีก่อน ทำให้ธามิณีมีเวลาไปจัดม่านและดอกไม้ในแจกันให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนเพื่อนอีกคนเข้าไปในห้องเก็บของเพื่อเช็คสต็อค ในขณะที่เจ้าของร้านกำลังตรวจบัญชีของเมื่อวาน พอมีเสียงกรุ๊งกริ๊งเบาๆ จากโมบายที่ประตู ธามิณีจึงเดินไปหยิบเมนูมาให้ลูกค้ารายล่าสุดซึ่งน่าจะเป็นคู่รักเพราะเดินกอดเอวกันเข้ามา เธอยิ้มให้ลูกค้าแม้จะตกใจอยู่บ้าง หญิงสาวที่กอดซุกอกชายหนุ่มหน้าตาดีเงยหน้าขึ้นมาแล้วชะงัก

“รับอะไรคะ” ธามิณีถามสีหน้าไม่เปลี่ยน

“เธอเองหรือ มาทำงานที่นี่เองสินะ” กาญเกล้าทักทายแล้วยิ้มเหยียด เธอได้ยินพี่ชายคุยโทรศัพท์ถึงได้รู้ว่าธามิณีทำงานพิเศษอยู่ที่นี่ แฟนขับรถผ่านมาแถวนี้พอดี เธอเลยขอแวะเข้ามาสักหน่อย

ธามิณีไม่ลืมสิ่งที่เตวินได้ทำไว้กับเธอ ทำให้เธอระแวงกาญเกล้าไปด้วย แม้ตอนหลังเธอจะเห็นจากข่าวว่าเตวินถูกซ้อมจนเข้าโรงพยาบาล แต่เจ้าตัวบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งจริงๆ แล้วคงไม่พ้นถูกเจ้าหนี้กระทืบ ลุงของรวิชญ์ได้ตามสืบสิ่งที่เตวินทำ แต่ยังไม่พบหลักฐานที่จะสาวไปถึงตัวการ ทำให้เธอต้องรอแบบระแวงแบบนี้ไปอีกสักพัก

“ใช่ เธอจะรับอะไรล่ะ”

กาญเกล้ามองธามิณีตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้หน้าตาของธามิณีจะจัดว่าใช้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมาทำงกๆ ในขณะที่เธอนอกจากได้แฟนรวยแล้ว งานนางแบบและพริตตี้ก็กำลังไปได้สวย ทำให้เทอมนี้เธอต้องดรอปเรียนไว้ก่อน ส่วนจะเรียนต่อให้จบไหมเอาไว้เธอค่อยคิดอีกที ชีวิตของเธอกำลังรุ่งเรืองสวยหรูจนบางทีธามิณีอาจอิจฉาด้วยซ้ำ

ของพี่วัตเป็นอเมริกาโน่ หวานปกติ ส่วนของฉันเป็นมัคคิอาโต้”

“อเมริกาโน่ หวานปกติ 1 ที่ กับมัคคิอาโต้ 1 ที่ รับเค้กด้วยไหมคะ”

กาญเกล้าเปิดเมนูเค้กก่อนจะหันไปถามแฟน “พี่วัตอยากกินเค้กไหม กาญจะได้สั่งให้”

“สั่งๆ มาเถอะน่า รีบกินจะได้รีบไป พี่นัดกับเพื่อนไว้”

สีหน้าของกาญเกล้าเจื่อนไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มเหมือนไม่มีอะไร ก่อนจะสั่งเค้กให้ตัวเองกับแฟนไป ธามิณีจดแล้วส่งรายการให้เจ้าของร้าน เพียงครู่เดียวธามิณีก็ยกจานที่ใส่เค้กมาให้กาญเกล้ากับแฟน ส่วนกาแฟเพื่อนพนักงานอีกคนยกมาเสิร์ฟพอดี

โชคดีมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ธามิณีไม่รู้สึกอึดอัดนัก กาญเกล้าไม่ได้ก่อกวนให้เกิดเรื่องแบบเมื่อก่อน แต่สายตาของกาญเกล้ากลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับติดค้าง แม้ว่าการตายของลุงกับป้าจะเป็นเรื่องที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ แต่มันกลับเป็นเหมือนสิ่งเตือนใจว่าหากเธอพยายามห้ามพยายามเตือนมากกว่านั้น ลุงกับป้าอาจจะไม่ตายก็ได้

กาญเกล้านั่งถ่ายรูปพลางจิบกาแฟอยู่ไม่นานก็ยกมือให้มาเก็บเงิน ธามิณีเดินไปหาพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าเรียบเฉยก็ตาม ความที่กาญเกล้ากำลังมองแฟนที่ดูเหมือนอยากไปเต็มทีแล้ว ทำให้ระหว่างที่รับเงินมาจากแฟนเพื่อส่งให้ธามิณี มือของกาญเกล้าจึงไปปัดแก้วกาแฟจนตกลงมาพร้อมๆ กับโทรศัพท์มือถือ

“บ้าจริง” กาญเกล้ารู้สึกเสียหน้าจึงลืมตัวไม่ทันระวังมือของตัวเอง

“ระวังเศษแก้วที่แตก” ธามิณีรีบคว้ามือของกาญเกล้าไว้เพราะกลัวเศษแก้วจะบาดมืออีกฝ่าย

ฉับพลันนั้นเธอกลับเห็นนิมิตบางอย่างวาบเข้ามาในสมองว่ากาญเกล้าถูกใครบางคนผลักจนตกตึก!

ร่างของกาญเกล้าร่วงลงมากระแทกพื้นถนน เพียงเสี้ยววินาทีพื้นก็เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากร่างที่แตกหัก ธามิณีชักมือกลับแล้วมองกาญเกล้าด้วยความตกใจ ในขณะที่อีกฝ่ายชักสีหน้าใส่เมื่อเข้าใจว่าธามิณีแสดงท่าทีรังเกียจตน

“มันจะมากไปแล้วนะ แค่นี้ต้องสะบัดมือฉันด้วยหรือไง”

ธามิณีมองกาญเกล้าแล้วอยากจะร้องไห้ เธอไม่เคยคิดว่าการสัมผัสมือเพียงเสี้ยววินาทีจะเห็นภาพพวกนั้น สิ่งที่ไม่เกิดขึ้นกับเธอมานาน ทำไมมันถึงเกิดขึ้นอีกแล้ว แม้ว่าจะไม่ชอบหน้ากัน แต่การที่รู้ว่ากาญเกล้าจะถูกฆ่ามันน่าเศร้าเกินไป ในสิ่งที่เห็นนั้น เธอไม่รู้เลยว่าใครคือเจ้าของมือที่ผลักกาญเกล้า ใช่ผู้ชายนี้หรือเปล่า อีกทั้งเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีอะไรบอกเธอได้สักอย่าง

“อย่าขึ้นตึกสูง ยิ่งดาดฟ้าก็อย่าขึ้นไปนะ” ธามิณีเตือนเท่าที่เห็น หากบอกกาญเกล้าว่าตัวเองจะถูกผลักตกตึกแล้วตาย รายนี้คงไม่เชื่อ

กาญเกล้าถอนใจสีหน้าบอกชัดว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี “พูดอะไรของเธอเนี่ย อยากเตือนฉัน เหมือนที่เตือนแม่ฉันหรือไง ไม่ได้เจอกันมานานเลยอยากปั่นประสาทฉันเพื่อแก้แค้นเรื่องคราวก่อนล่ะสิ”

ธามิณีไม่ใส่ใจคำพูดร้ายๆ ของกาญเกล้านัก แม้ไม่ชอบหน้าก็ใช่ว่าจะสาแก่ใจหากอีกฝ่ายตายเพราะถูกใครบางคนฆ่า

“ตอนนั้นเธอบอกว่าฉันพยายามไม่พอ คราวนี้เธอต้องเชื่อฉันนะ”

สายตาเอือมๆ คือคำตอบของกาญเกล้า ในสายตาของเธอ ธามิณีไม่เคยหวังดีต่อเธอและครอบครัวของเธอเลย ในตอนนั้นที่ผิดนัดไม่ได้กลับบ้านพร้อมกัน เธอเคยรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่พอเห็นธามิณีไม่เป็นอะไร เพราะฉะนั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดต่อธามิณีอีก

“อย่ามาหลอกให้ฉันกลัว อยากเอาคืนที่ฉันเคยว่าเธอไว้ก็บอกมาตรงๆ”

“ไปได้หรือยัง นี่ช้ามากแล้วนะกาญ” ณวัตเร่งน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเพราะใกล้เวลานัดแล้ว

กาญเกล้ารีบลุกตามแฟนไป ธามิณีมองตามก่อนคว้ามือของกาญเกล้าไว้ คราวนี้เธอจะไม่พลาดอีก

“ฉันขอเบอร์โทรศัพท์ของเธอไว้ได้หรือเปล่า”

กาญเกล้าสะบัดมือออกไม่คิดจะให้เบอร์โทรศัพท์กับธามิณี หญิงสาวรีบเดินตามแฟนหนุ่มไปที่รถ แม้จะรู้สึกว่าหากธามิณีต้องการแค่ให้เธอกลัวก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้ เธอกำลังมีอันตรายอาจถึงชีวิตจริงๆ หรือ กาญเกล้าคิดแล้วก็ส่ายหน้า แต่พอคิดย้อนไปในอดีตที่พ่อกับแม่ตาย เธอก็ชักลังเลหากว่าการเตือนของธามิณีเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตล่ะ เธอจะทำอย่างไร

ธามิณีรีบถ่ายเลขทะเบียนรถแฟนของกญเกล้าไว้ไม่รู้ว่าทำอะไรได้บ้าง แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้หาตัวกาญเกล้าได้ง่ายขึ้น เธอไม่รู้ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เธอจำได้ว่านิมิตที่เห็นกาญเกล้าใส่ชุดแบบไหน สีอะไร หากเตือนโดยมีข้อมูลตรงนี้ กาญเกล้าอาจจะเชื่อเธอบ้าง การตายที่เห็นอาจจะไม่เกิดขึ้น...ใช่ไหม?

 

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ

อัมราน_บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.