หลังจากนี้

โอเปอร์เรชั่น เกรย์วูล์ฟ

-A A +A
อ่านต่อ

หลังจากนี้

          “ทุกท่าน   พวกเรามาถึงแล้วครับ”   คนขับรถมองผ่านกระจกหน้ารถด้วยแววตาเรียบนิ่ง   เบื้องหลังคือผู้โดยสารที่แต่ละคนหน้าตึงเครียดจนน่าฉงนใจ   “เอ่าละไปกันเถอะ”   เพรนิควีลงจากรถเป็นคนแรก   สายตามองเห็นอาคารสูงอย่างชัดเจน   พร้อมกับสัญลักษณ์ที่คุ้นตานั่น   “ฮึ่ม!   เสื้อบ้านี่มันอึดอัดชะมัด”   อนานำบ่นไปขยับเสื้อสูทไปมา   จะว่าไปแล้วมันก็ดูจะฟิดเกินหุ่นจริงๆ   “บ่นไปก็เท่านั้น   ทำตัวให้ชินซะ”   กรีแฟนดึงหัวเนกไทด์ไปมา   “เจ้าเองก็ใช่ย่อยนะ”   อนานำส่งเสียงหัวเราะชอบใจ   ไม่ทันสังเกตว่ามีชายสองคน   แต่งกายผิดแปลกจากกลุ่มพวกเขา   กำลังเดินตรงมาจากอาคาร   “ทุกท่าน   เชิญตามพวกเราเข้ามาได้เลยครับ”   ถ้าเป็นช่วงแรกที่มาถึงคงมีอาการตื่นตกใจกับประตูอัตโนมัติที่เพิ่งก้าวข้ามไป   แต่ตอนนี้แม้แต่ท่อแก้วเคลื่อนย้ายก็ไม่ได้ทำให้สะดุ้งได้มากเท่าไหร่

                “ก่อนอื่น   ผมขออธิบายทุกอย่างคร่าวๆ   นะครับ”   ชายปริศนาชี้นิ้วไปที่ประตูบานคู่สองจุดซึ่งอยู่แทบจะติดกันด้วยซ้ำ   “ห้องที่มีสัญลักษณ์   Operation Greywolf   คือห้องสำหรับการเข้าทดสอบ   Trail   ทั้งสิบครับ   ส่วนอีกห้องคือห้องพักใหม่ของพวกคุณครับ”   “ห้องพักใหม่ที่ว่าคืออะไร   Trail   ด้วย?”   เพรนิควีเอ่ยแทบจะทันที   “เป็นบ้านหลังใหม่ของพวกคุณครับ”   เจ้าหน้าที่อีกคนเอ่ยแทน   “ใช่ครับ   เนื่องจากการฝึก   Trail   ใช้เวลาสิบห้าชั่วโมงต่อหนึ่งวันดังนั้นเพื่อความสะดวกของผู้ฝึกจึงมีการเตรียมห้องพักให้อยู่ใกล้กับห้องฝึกมากที่สุดครับ   ส่วน   Trail   คือการฝึกความถนัดพิเศษทั้งสิบ   เพื่อค้นหาความถนัดที่เหมาะสมกับคนคนนั้นครับ   หลังจากนั้นก็ต้องจะต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อเพิ่มความถนัดให้ถึงขีดสุดก่อนที่คนคนนั้นจะสามารถรับใช้ประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบครับ”   เจ้าหน้าที่คนแรกกล่าวเสริม   “ตารางการฝึก   Trail   เริ่มที่เจ็ดโมงเช้าถึงสี่ทุ่มตรงครับ   ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าห้องฝึกได้เลยครับ”   บานประตูที่เปิดออกทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง   แสงที่ลอดออกมาจากห้องนั้นมันให้ความรู้สึกที่แสนประหลาด   ราวกับถ้าเหยียบเข้าไปภายในแล้วจะออกมาไม่ได้เป็นครั้งที่สอง   แต่ก็นะ...

                “ไปกัน   พวกเรา”   เพรนิควีเดินนำไปก่อน   ตามด้วยอนานำและคนอื่นๆ     

               

                นับจากวันนั้นมาก็ครบหนึ่งเดือนพอดี   เป็นช่วงเวลาหนึ่งเดือนอันยาวนานและเหนื่อยล้า   ที่สุดแล้วเมื่อจบวันสุดท้าย   ก็ไม่ได้มีโอกาสมากมายที่จะเจอกันอีก   ต่างก็ถูกแยกย้ายไป ตามความถนัดของแต่ละคนในชั้นเรียนของมหาวิทยาลัย   มารู้ตัวอีกทีก็ผ่านมาครบสี่ปีพอดี   เสียงทีวีที่เปิดอยู่รายงานข่าวประจำวันช่วงเช้า   ความล้มเหลวของการวิจัยการดัดแปลงร่างกายมนุษย์ด้วยเซลล์เพาะเลี้ยงของสิ่งมีชีวิตในตำนานเอดเฮโต   “ร่างกายของผู้ถูกทดสอบที่ถูกฉีดเซลล์เปลี่ยนแปลงของเอดเฮโตส่งผลให้ร่างกายของคุณโรเบิร์ต คาร์สัน   เกิดการต่อต้านที่นำไปสู่การหลอมละลายด้วยพิษร้ายจากภายใน   สภาพศพไม่สามารถระบุตัวตน....”   หน้าจอดับไปทันใด   ชายร่างกำยำเดินออกจากห้องสี่เหลี่ยมใสด้วยร่างกายที่เปียกปอน   ไร้ผ้าขนหนูปกปิดขนตามร่างกาย   เขาหยุดยืนไม่ไกลจากห้องอาบน้ำ   ลมอุ่นๆ   ปล่อยลงมาจากด้านบนที่ยืน   ปัดเป่าไอน้ำตามเนื้อตัวระเหยไปหมด   โทรศัพท์บนเตียงส่องแสง   ตามด้วยเสียงกริ้งเพียงชั่วอึดใจ   “เจอกันที่ร้าน   Aimim   สามทุ่มตรงนะครับ   คุณเพรนิควี”   เพรนิควีขมวดคิ้วกับข้อความเสียงนั่น   รู้สึกหัวเสียขึ้นมาแปลกๆ   “พีโซ   นี่เจ้าเปลี่ยนไปทั้งสำเนียงและวิธีการพูดเลยรึ?”   เขากล่าวในขณะที่กำลังสวมชุด

               

                ช่วงเวลาของการนัดหมายมาถึง   ณ   ร้านอาหารทรงโบราณ   ไม่ต่างจากสิ่งก่อสร้างโดยรอบ   สมาชิกแปดคนนั่งลงบนโต๊ะไม้ยาวที่ต่อกันสามตัว   ต่างก็รอการมาถึงของสมาชิกที่เหลือ   “ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะพวกเจ้า”   โนวินโพร่งเสียงขึ้นอย่างตื่นเต้น   จะว่าไปแล้วดูจะเป็นคนเดียวที่ออกอาการตื่นเต้นที่สุดในกลุ่ม   “แคคเอ็นพิฟ   เจ้าทำงานอะไรรึ?”   เซสลาหันไปถามคนที่นั่งข้างกัน   “คนทำนาน่ะ   แกล่ะ?”   “ข้าเป็นครูว่ะ”   แคคเอ็นพิฟหน้าตึงขึ้นมาทะแม่งๆ   ไม่รู้เพราะคำถามหรืออะไร   

                อาหารถูกทยอยมาเสิร์ฟ   เป็นพวกอาหารเรียกน้ำย่อยตามลำดับ   กรีแฟนลิ้มลองอาหารเป็นคนแรกแม้เพื่อนจะห้ามไว้   คงเพราะจิตวิญญาณกุ๊กกำลังเรียกร้องละมั้ง   “เจ้าเนี่ยนะ   กรีแฟน   เป็นถึงกุ๊กแต่กลับระงับความอยากอาหารไม่ได้”   ดีวอซที่ได้ยินถ้อยคำเหน็บแนมของแคคเอ็นพิฟแอบหัวเราะในลำคอ   “จมูกพวกเจ้าคงดับเป็นแน่ที่ไม่ได้กลิ่นอันเย้ายวนของครีมชีสถ้วยนี้”   เพียงใช้ช้อนตัดเนื้อครีมก็ทำให้กรีแฟนรับรู้ถึงความนุ่มสุดยอด   เขาตักมันเข้าปากคำโต   สีหน้าสุขีราวกับได้ขึ้นสวรรค์        

                “จะว่าไปแล้ว   มีใครที่ยังมายังไม่ถึงอีกนะ   ตอนนี้มีผม   คุณดีวอซ   คุณอิกเฮียอิ   คุณโนวิน   คุณเซสลา   คุณแคคเอ็นพิฟ   คุณกรีแฟน   และคุณกิเพ็น   ยังขาดคุณ....”   “นี่เจ้า   อยู่ที่ประเทศนี้นานจนสำเนียง   และถ้อยคำเปลี่ยนไปเยอะเลยนี่   กลมกลืนเก่งเชียวนะ”   แคคเอ็นพิฟหันมาจิกพีโซบ้าง   แต่กลับไม่สะเทือนหรือจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกอะไร   ความเงียบกลับเข้ามาครอบงำโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วภายหลังจากสิ้นเสียงสุดท้าย   “อนานำกับท่านเพรนิควีไงที่ยังไม่มา”   อิกเฮียอิเอ่ยเสียงเรียบ   มือกอดอกแน่นอย่างกับกำแพงที่ไม่อยากให้ใครทลายเล่น   “ราชาของพวกเรากับเจ้าเด็กแก่แดดรึ?”   แคคเอ็นพิฟเอ่ยเสียงแผ่ว   เริ่มเกิดกังวลเล็กน้อย   แต่แล้วทั้งหมดต่างต้องหันไปมองที่ต้นเสียง   คล้ายกับเครื่องไอพ่นที่ดังมาแต่ไกล   "ตายยากจริง"   เซสลามองออกไปในความมืดของถนนไร้ไฟ   แสงไฟจากเล็กเป็นใหญ่   กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว   และหยุดที่ด้านล่างร้านอาหาร   ร่างปริศนาในสวมชุดทหารเต็มยศ   กำลังวิ่งขึ้นบันไดอย่างร้อนรน  

                “เฮ๊ย!!”   อนานำตะโกนลั่นร้าน   ดีที่ทั้งร้านถูกจองโต๊ะเพื่อพวกเขาทั้งหมด   “เรื่องโชว์ออฟนี่ต้องยกให้มันจริงๆ”   เซสลาเบ้ปากอย่างหมั่นไส้   ร่างสูงกำยำ   ผมสั้นเกรียนมะฮอกกานี   “ขอโทษที่มาสายว่ะพวก!!”   อนานำตะเบ็งเสียงพร้อมรอยยิ้ม   คงเพราะไม่ได้เจอกันนานมาก   ยืนยิ้มอยู่ได้แป๊บเดียวก็เหมือนจะจับความผิดปกติได้   “เดี๋ยว!!   ท่านเพรนิควียังไม่มารึ?!!”   “เลิกแหกปากแล้วนั่งลงสักทีไอ้บ้านี่”   กรีแฟนใช้ช้อนที่ตัวเองเพิ่งจะดูดครีมออกจนหมดฟาดลงกบาลของอนานำอย่างจัง   เสมือนได้ย้อนวันวานที่ทำให้เพื่อนคนอื่นต่างพากันหัวเราะชอบใจ   แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะความกังวลที่เริ่มเบิกบาน

                อนานำลุกพรวดจากเก้าอี้   วิ่งหน้าตั้งลงบันไดร้านไป   แต่ก่อนที่เพื่อนคนอื่นจะลุกขึ้นห้าม   ทั้งหมดต่างชะงักกับภาพตรงหน้า   ชายผมสั้นสีน้ำตาล   กำลังวิ่งตรงมาที่ร้านอย่างน่าสะพรึงกลัว   และคนๆ   นั้นก็น่าจะเป็น   “ท่านเพรนิควี!!!”   อนานำวิ่งลงไปก่อนใคร   จะมีก็แต่กรีแฟนกับพีโซที่ยังนั่งอยู่กับที่   ยิ่งกรีแฟน   เขาแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนที่สุดว่าไม่ได้ห่วงอะไรเพื่อนคนสุดท้ายเลย   ออกจะไปทางเบื่อหน่ายมากกว่าด้วยซ้ำ   “วิ่งมาจากบ้านอีกแล้วสินะครับ   คุณเพรนิควี”   พีโซยิ้ม   มองดูเพรนิควีนั่งลงอย่างใจเย็น   ใบหน้าเรียบเฉยพยักรับ   พานให้เหงื่อปลายคางหยดกระทบเสื้อที่ดูยังไงก็หลุดคอนเซ็ปต์ของเพื่อนคนอื่นสุดๆ   “นี่ท่านคิดว่างานเลี้ยงส่งท้ายก่อนเข้าเครื่องแช่แข็งคืองานการแสดงชนพื้นเมืองรึท่าน?”   อนานำจอมกวนประสาทกล่าวจบเพียงครู่เดียวก็ถูกของแข็งตีเข้าให้   “ไอ้บ้านี่   โตแต่ตัวจริงๆ   จะเล่นอะไรก็ให้มันถูกคนด้วย”   กรีแฟนเอ็ดตามระเบียบ   “เอาเถอะๆ   พวกเจ้ามาวันนี้ก็เพื่อการฉลองไม่ใช่รึ?   อย่าได้ทำให้บรรยากาศครื้นเครงต้องจบลงเร็วเกินจำเป็นเลย”   ไม่มีเสียงหัวเราะจากเพรนิควี   แต่ก็มีคนบางคนทันเห็นอมยิ้มเล็กๆ   นั้น   “ถ้างั้นพวกเราก็”   พีโซยกแก้วเบียร์ขึ้น   เพื่อนคนอื่นทำตามอย่างรู้งาน   มีแค่เพรนิควีเท่านั้นที่ออกอาการตอบสนองช้าสุด

 

                สามวันหลังจากนั้น   พวกเขามาเจอกันอีกครั้งที่อาคารหลังใหม่   รูปทรงประหลาดพอสมควร   “สวัสดีครับ   ทุกท่าน   ขอต้อนรับสู่ศูนย์ข้ามอนาคต”   ชายหนุ่มในชุดวิทยาศาสตร์สีขาวส่งยิ้มให้พวกเขาอย่างเป็นมิตร   กระนั้นเพรนิควีก็ยังไม่วายมองสำรวจทุกอย่างโดยรอบอย่างสุขุม   “ต้องนอนกี่ปีรึ?”   โนวินตั้งคำถาม   ตามองตู้ใสคล้ายโลงศพยังไงยังงั้น   “50   ปีครับ”   นักวิทยาศาสตร์หนุ่มตอบ   “กระบวนการนี้นอกจากพวกเรา   คนอื่นก็ได้เหมือนกันใช่ไหม?”   แคคเอ็นพิฟชำเลียงมองไปที่นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม   เสียงหัวเราะในลำคอยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย   “ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคร้ายขนาดนั้นหรอกครับ”   นักวิทยาศาสตร์หนุ่มยิ้มหลังกล่าวจบ   “ปฏิบัติการข้ามอนาคตจะเริ่มขึ้นในอีกห้านาที   ขอให้ผู้เข้าร่วมประจำที่ที่เครื่องข้ามอนาคตค่ะ”   เสียงประชาสัมพันธ์ตามสายทำให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังเอ้อระเหย   เปลี่ยนท่าทีในทันใด   “ถ้างั้น   ขอเชิญทุกท่านประจำที่ข้างเครื่องข้ามอนาคตได้เลยครับ”   นักวิทยาศาสตร์หนุ่มกล่าว   

                ต่างคนต่างทยอยกันเข้าไปนอนในแคปซูลประหลาด   และก่อนถึงตาของเพรนิควี   “เจอกันอีกห้าสิบปี!!”   อนานำตะโกน   เรียกรอยยิ้มของเพื่อนๆ   ได้ทุกคน   “เออ   ไอ้เด็กบ้า”   กรีแฟนตอบแบบยิ้มๆ    ภายในแคปซูลให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับเข้าห้องฝึก   Trail   อีกครั้ง   แสงภายในแคปซูลเริ่มเลือนราง   ไม่สิเป็นดวงตาของเขาต่างหากที่กำลังหมดแรงจนอยากจะปิดตาเสียให้ได้  

                เจอกันพรุ่งนี้....

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.