บทที่13 ฝึกงาน

คุณหมอที่รัก

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่13 ฝึกงาน

8โมงเช้า ณ มหาวิทยาลัย RT

“รดา อาจารย์ศิระเรียกแกไปพบ” รดาที่พึ่งลงจากรถเดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะประจำใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกคณะ

“มีอะไรเหรอ แล้วอาจารย์เรียกฉันคนเดียว” รดาถามกลับอย่างสงสัยเพราะปกติถ้างานมีปัญหาอาจารย์จะเรียกเข้าพบทั้งกลุ่ม แต่วันนี้กลับเรียกเธอแค่เพียงคนเดียว

“หล่อนคนเดียวค่ะชะนี และพวกฉันก็ไม่รู้ว่าอาจารย์เรียกแกไปพบเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องด่วนอยู่นะเพราะอาจารย์เดินหน้าตื่นมาแต่เช้าเลย”

“โอเค งั้นพวกแกรอฉันแป๊บหนึ่งนะฉันขอไปพบอาจารย์ก่อน” เท้าเรียวเล็กบนรองเท้าผ้าใบก้าวฉับ ฉับ ฉับ อย่างกระฉับกระเฉงมุ่งหน้าไปยังห้องพักอาจารย์ที่ปรึกษา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตค่ะ” เมื่อมาถึงก็เคาะประตูห้องก่อนเอ่ยขออนุญาตอย่างมีมารยาท

“สวัสดีค่ะอาจารย์”

“มาแล้วเหรอ นั่งก่อนไอรดา” อาจารย์หนุ่มประจำสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาสาขานี้ด้วย

“หนังสือตอบรับเรื่องการฝึกงานของเธอ ทางบริษัทพึ่งส่งเอกสารตอบรับกลับมาเมื่อเช้านี้เอง” ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกยื่นไปวางลงตรงหน้าเด็กสาวด้วยใบหน้า ปลื้มปริ่มและภูมิใจ

“จริงเหรอคะอาจารย์ หนูนึกว่าจะต้องหาที่ฝึกงานใหม่ซะอีก” มือเรียวเล็กหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาเปิดอ่านเอกสารที่บรรจุอยู่ด้านในทันที

“อาจารย์คะ ทางบริษัทรับหนูเข้าฝึกงานจริงๆ ด้วยค่ะ” ใบหน้าเรียวเล็กยิ้มร่าเจนเห็นฟันขาวทั่วทั้งปาก ตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยความดีใจ

“ปกติทุกปีเขาจะรับ5คน โดยพิจารณาจากประวัติและผลการเรียนซึ่งปีนี้อาจารย์ส่งเรื่องไปทั้งหมด10คนแต่ทางบริษัทรับแค่เธอคนเดียว โดยให้เหตุผลแนบท้ายว่าเธอมีเกรดเฉลี่ยที่ค่อนข้างดีมีคุณสมบัติตรงตามที่บริษัทต้องการ อีกอย่างเธอเป็นนักเรียนทุนในโครงการของบริษัทอีกด้วยและที่สำคัญถ้าระหว่างฝึกงานเธอแสดงความสามารถให้เขาเห็นเขาก็อาจรับเธอเข้าทำงานต่อหลังจากเรียนจบด้วย เพราะฉะนั้นอย่าทำให้อาจารย์ผิดหวัง”

“ขอบคุณค่ะอาจารย์ หนูสัญญาว่าจะตั้งใจทำให้เต็มที่ค่ะ” มือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นไหว้ขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาอีกครั้งโดยไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่ ใบหน้าเรียวเล็กที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลาเดินออกจากห้องอย่างมีความสุข

ข่าวดีในเช้าวันนี้บวกกับอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายทำให้รดาเดินยิ้มร่าไปตลอดทาง ซองเอกสารสีน้ำตาลเข้มถูกกอดไว้แนบอกอย่างหวงแหนราวกับว่ามันคือเอกสารพินัยกรรมมอบมรดกร้อยล้าน

“ยิ้มหน้าบานมาแต่ไกลเลยนะชะนี อาจารย์ศิระสุดหล่อขอเธอเป็นแฟนหรือไง” เชอรี่จีบปากจีบคอถามรดาออกไปเมื่อเพื่อนสาวเดินยิ้มมาแต่ไกล

“เปล่า แต่เป็นข่าวดียิ่งกว่านั้น” เอกสารกระดาษA4 ถูกดึงออกจากซองและวางลงตรงหน้ากลุ่มเพื่อน ข้อความขนาดตัวอักษร16 พอยท์ พิมพ์ด้วยหมึกสีดำและมีลายเซ็นรองกรรมการผู้จัดการเป็นคนเซ็นอนุมัติเอกสาร หัวกระดาษเรื่อง [หนังสือตอบรับเรื่องรับนักศึกษาเข้าฝึกงาน]

“กรี๊ด..ชะนีแกได้ฝึกงานที่นี่จริงๆ เหรอ ฉันดีใจด้วยนะแกเก่งมากๆ” ทุกคนต่างกรีดร้องขึ้นด้วยความดีใจเมื่ออ่านแค่ชื่อเรื่องของเอกสารเพียงเท่านั้น

“ฉันจะตั้งใจ และจะก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนี้ให้ได้ นางสาวไอรดาจะต้องมีชื่อบนบัตรพนักงานบริษัทGTให้ได้” ความฝันหนึ่งเดียวของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำงานส่งตัวเรียนมาตั้งแต่เด็ก เพราะฐานเงินเดือนที่นี่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ทั่วไป ถ้ารดาได้ทำงานที่นี่เธอก็จะมีเงินสำหรับดูแลตัวเองและดูแลแม่ได้อย่างสบาย

“แกเก่งอยู่แล้ว แกต้องทำได้” ฝ่ามือเล็กถูกกุมด้วยมืออีกหลายคู่ กำลังใจเต็มเปี่ยมถูกส่งมาให้เธอ

ตู๊ด……..

เมื่อกลับมาถึงห้องพักในช่วงเย็นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาพี่ชายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์เครื่องของตนเสียและยังไม่ได้โทรบอกแม่กับพี่ชายเลย ระหว่างนั่งทานข้าวที่แวะซื้อตรงใต้ตึกขึ้นมาด้วย ข้าวผัดกุ้งเมนูโปรดที่ชอบสั่งสลับกับข้าวต้มปลากะพง

“สวัสดีครับ” เมื่อเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลก ปลายสายกดรับด้วยถ้อยคำสุภาพ

“พี่ธนานี่รดาเองนะคะ” เสียงใสเอ่ยบอกพี่ชายออกไปทันทีเมื่อได้ยินเสียง

“ว่ายังไงยายตัวแสบ แล้วนี่เอาโทรศัพท์ใครโทรมา”

“โทรศัพท์เพื่อนค่ะ พอดีว่าโทรศัพท์รดาพังเลยยืมเครื่องเก่าของเพื่อนมาใช้ก่อน”

“แล้วได้ที่ฝึกงานหรือยัง เห็นคราวก่อนโทรมาบ่นกับพี่ว่าเขายังไม่ตอบกลับมานี่” ธนาที่พูดและแสดงความรักไม่ค่อยเก่ง แต่รดารู้สึกได้ว่าพี่ชายรักและห่วงเธอมาก

“ได้แล้วค่ะ เขาพึ่งส่งเอกสารตอบรับกลับมาเมื่อเช้านี่เอง”

“พี่ดีใจด้วยนะ น้องพี่เก่งขนาดนี้เขาจะไม่รับได้ยังไง”

“ขอบคุณค่ะ แล้วแม่เป็นอย่างไรบ้างคะช่วงนี้รดายุ่งเลยไม่มีเวลากลับบ้านเลย” เมื่อพูดถึงแม่เสียงแหลมสดใสก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยลงทันที

“แม่ก็เรื่อยๆ ไปโรงพยาบาลตามหมอนัดและได้ยากลับมากินเหมือนเดิมนั่นแหละ” เสียงทุ้มต่ำตอบกลับน้องสาวไปทั้งที่พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด

“รดาฝากดูแลแม่ด้วยนะคะ ไว้รดาทำงานแล้วเก็บเงินได้เยอะๆ แล้วจะพาแม่มารักษาที่โรงพยาบาลดีๆ หมอเก่งๆ นะคะ” รดารับตัดบทก่อนที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

“ไม่ต้องห่วงพี่กับแม่ พี่จะดูแลแม่ให้ดีที่สุด ส่วนเราก็ตั้งใจฝึกงานและดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ” ความอบอุ่นและความห่วงใยถูกส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เปรียบเสมือนยาชูกำลังที่เมื่อเวลาอ่อนแรงแล้วดื่มเครื่องดื่มนี้เข้าไปจะมีพลังขึ้นมาทันที

เมื่อวางสายจากพี่ชายเสร็จก็เก็บจานไปล้างและเตรียมตัวอาบน้ำและอ่านหนังสือ ปกติเวลานี้เมื่อครั้งเธอยังขับไรเดอร์ก็คงยังวิ่งวุ่นอยู่บนท้องถนนกับรถมอเตอร์ไซต์คู่ใจที่ตอนนี้จอดอยู่ที่อู่เพราะพังเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งก่อน และตอนนี้เธอก็ยังไม่มีเงินจ่ายสำหรับค่าซ่อมบวกกับช่วงนี้ไม่มีเวลาว่างพอที่จะไปทำงานนั้นจึงตัดสินใจยังไม่ซ่อมเลยเข็นไปจอดไว้ที่อู่ใกล้ๆ หอพักซึ่งเป็นอู่ของรุ่นพี่ที่รู้จัก

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

23:00 น.

ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนไลน์กลุ่มดังขึ้น

เชอรี่ : {พรุ่งนี้ฝึกงานวันแรก ขอให้พวกแกสู้ๆ นะ}

รดา : {สู้ๆ นะ อีกแค่3เดือนก็ได้กลับมาเจอกันแล้ว}

กิ่งแก้ว : {ฉันต้องคิดถึงพวกแกมากแน่ๆ ทำไมพวกเราไม่มาฝึกงานที่เดียวกันนะ}

อิงเอย : {อย่าดรามายัยกิ่ง..แค่3เดือน ถ้าคิดถึงก็คอลกรุปหากันก็ได้}

กิ่งแก้ว : {ก็ฉันคิดถึงพวกแกนี่ เราไม่เคยห่างกันเลยนะ}

เชอรี่ : {@กิ่งแก้ว ชะนี แล้วเวลาหนีไปอยู่กับผู้ชายครั้งละเกือบเป็นอาทิตย์ตอนนั้นไม่เห็นคิดถึงพวกฉัน แยกย้ายไปนอนค่ะพรุ่งนี้ต้องไปรายงานตัวแต่เช้า}

7 โมงเช้า ณ บริษัทนำเข้ารถหรู

รดาในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเท้าเรียวลงจากรถเมล์ เท้าเรียวเล็กบนรองเท้าส้นสูง5นิ้วเดิน ฉับ ฉับ ฉับ มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือที่บริษัทนำเข้ารถหรูตั้งอยู่ กระจกด้านหน้าบริษัทโซนด้านซ้ายที่เป็นโซนฝ่ายขายและบริการมีรถยนต์ยี่ห้อหรูระดับโลกนับสิบคันจอดอยู่ มูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนปลีกทางขวาเป็นโซนออฟฟิศฝ่ายการตลาดและฝ่ายบริหารที่เป็นตึกสูงสีฟ้าน้ำทะเลนับสิบชั้นซึ่งรวมถึงห้องทำงานของกรรมการผู้จัดการและรองกรรมการผู้จัดการที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกก่อนจะถึงชั้นดาดฟ้า

“สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัย RT ชื่อไอรดาค่ะ” เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็เจอเข้ากับพนักงานต้อนรับสาวสวยที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์

“น้องไอรดา เชิญขึ้นไปที่ชั้น10 ห้องทางด้านซ้ายมือได้เลยค่ะ มีคนรออยู่ด้านบนแล้วค่ะ” รดายืนงงอยู่สักพักก็เดินไปขึ้นลิฟต์และกดหมายเลข10 ชั้นที่พนักงานสาวบอกเมื่อสักครู่

“ทำไมให้เราขึ้นมาที่ชั้น10 ฝ่ายทรัพยากรบุคคลน่าจะอยู่ชั้นล่างไม่ใช่เหรอ” รดาพูดกับตัวเองระหว่างโดยสารลิฟต์ขึ้นไปด้านบน ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม แต่ยังไม่ทันหาคำตอบให้ตัวเองได้ลิฟต์ก็ขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการแล้ว

ตึก ตึก ตึก ขาเรียวยาวบนรองเท้าส้นสูงสีดำ กระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าเผยให้เห็นเรียวขาสวยเล็กน้อย เสื้อนักศึกษาสีขาวขนาดพอดีตัว ผมยาวสีน้ำตาลเข้มถูกปล่อยยาวและดัดเป็นลอนจัดทรงสวย ใบหน้าเรียวสวยได้รูปถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ขนตางอนยาวที่ถูกปัดด้วยมาสคาราเสริมให้ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตดูโดดเด่นมากขึ้น เดินมาหยุดหน้าห้องที่มีเพียงห้องเดียวที่อยู่ด้านซ้ายของลิฟต์

ก๊อก ก๊อก ก๊อก มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูสามครั้ง โดยไม่ทันสังเกตป้ายที่ติดอยู่หน้าห้องเพราะมัวแต่ตื่นเต้นเมื่อได้มาเหยียบบริษัทที่ใฝ่ฝันมาตั้งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยว่าเธออยากมาทำงานที่นี่

“เชิญ” เสียงทุ้มคุ้นหูดังออกมาจากด้านใน

มือเล็กด้านขวายกขึ้นผลักประตูหน้าห้องและเดินเข้าไปด้านใน ภายในห้องมีโต๊ะทำงานอยู่สองโต๊ะ อีกโต๊ะมีคนนั่งอยู่และมีแฟ้มเอกสารวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ส่วนอีกโต๊ะเป็นโต๊ะว่างไม่มีเอกสารอะไรวางอยู่ด้านบนเลย มีเพียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเครื่องเล็กกะทัดรัดวางอยู่ ชายหนุ่มนั่งพิงเก้าอี้หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างที่เปิดม่านไว้เผยให้เห็นวิวด้านนอกที่เป็นตึกตั้งเรียงรายอยู่มากมาย

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อไอรดาเป็นนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัย RTค่ะ” รดาเอ่ยแนะนำตัวกับชายหนุ่มตรงหน้ามือสองข้างประสานกำเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่าบวกกับตื่นเต้นเล็กน้อย อากาศภายในห้องเย็นเฉียบเพราะเครื่องปรับอากาศปรับอุณหภูมิไว้ที่18องศา ไรขนอ่อนบนแขนเล็กทั้งสองข้างลุกชูชันขึ้น ฝ่ามือเล็กลูบแขนตัวเองปอยๆ เพื่อไล่ความเย็น

“นั่งสิ” เก้าอี้ที่ชายหนุ่มนั่งอยู่นั้นถูกหันหมุนกลับมาเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งหันหลังให้เธอเมื่อสักครู่ เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกด้วยเนกไทสีกรมลายขวางเข้ากับชุด กระดุมแขนเสื้อถูกคลายออกจากรังดุมพับขึ้นเพื่อไม่ให้อึดอัดขณะทำงาน ใบหน้าคุ้นเคยที่เธอไม่ได้เจอมาหลายวันกำลังนั่งทำหน้านิ่งเผยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ขอบคุณ..คะ..คุณหมอ” รดาร้องอุทานด้วยความตกใจ ที่เจอคุณหมอหนุ่มนั่งอยู่ที่นี่ ขณะเดียวกันสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายสีน้ำเงินเข้มตัวหนังเสือสีขาวซึ่งข้อความบนป้ายเขียนว่า นายเธียรวิชญ์ เศรษฐบุตรกุญชร รองกรรมการผู้จัดการ คิ้วโค้งเรียวยาวขมวดเข้าหากันแทบผูกเป็นโบไม่รู้ว่าจะตกใจเรื่องไหนก่อนดีระหว่างเรื่องเจอคุณหมอหนุ่มที่นี่หรือป้ายชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.