ตอนที่ 1 : อธิฐานให้จอมมารหมั่นทำดี

The Regressed Demon Lord is Kind จอมมารผู้ถ่อมตนและเมตตา

-A A +A

ตอนที่ 1 : อธิฐานให้จอมมารหมั่นทำดี

หมวดหนังสือ: 

' อา ให้ตายสิ '

ในหนังสือนิทานเรื่องหนึ่งที่เขาเคยอ่านในวัยเด็ก มีข้อความหนึ่งบรรยายถึงตอนที่เหล่าวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่กำลังทยอยล้มหายตายจาก ในตอนนั้นแม้แต่สรวงสวรรค์ยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเม็ดฝนจะค่อยๆเริ่มโปรยลงมาจากท้องฟ้า 

แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันทั้งที่เวลาผ่านล่วงเลยมาหลายปีแล้ว ข้อความนี้ก็ยังติดอยู่ในใจเขา

‘ แต่ว่านะ ดูเหมือนสวรรค์จะไม่ได้รักข้า ’

ลองมองดูที่ดวงอาทิตย์ตอนนี้สิสดใสเหลือเกิน ไม่มีเมฆครึ่ม อาจจะคิดไปเองแต่เขารู้สึกเหมือนว่าสวรรค์กำลังดูถูกเยาะเย้ยเขาแทน อย่าว่าแต่สรวงสวรรค์เลยคนที่โดดเดี่ยวอย่างเขานั้น…

' ก็เข้าใจดีนะว่าทำไม '

ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ ซีคไม่สามารถนับจำนวณคนที่ทุกข์ทรมาณเพราะเขา หรือ จำได้ว่าเขาฆ่าไปแล้วกี่คน ผู้คนเรียกเขาว่าจอมมาร เป็นตัวตนที่นำความโกลาหลและความสิ้นหวังสู่โลกใบนี้ เขาก็ไม่ได้ชอบการฆ่าล้างฉลองสังเวยด้วยเลือดเนื้อเป็นพิเศษหรอกนะ 

แต่ถ้ามันถูกหยิบยื่นมาหรือจากผู้ท้ายข้าก็ไม่ได้ปฎิเสธมัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอย่างการทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย

ก็ถ้าสวรรค์รักข้าจริง ก็คงจะมาตบหน้าข้าแล้วบอกให้ข้าเปลี่ยนเส้นทางชีวิตไปแล้ว

" มันกำลังจะจบแล้ว "

ซีคได้ยินเสียง ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความกล้าหาญดูสูงส่งจนเขาเอียน ซีคละสายตาจากท้องฟ้ามองไปข้างหน้า ชายสวมชุดเกราะแวววาวกำลังมองลงมาที่ซีคด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง ไอเวรนี่คงถูกเรียกว่า ตัวเอกท่ามกลางเหล่าวีรบุรุษละมั้ง

ด้วยฉายาที่น่าอ้วกฟังดูเลี่ยน อย่างผู้กล้าแห่งดวงตะวัน เขาเป็นมนุษย์ชื่อว่า เกล็น เซนาร์ด

' หน้าตาที่ดูดีสมบูรณ์แบบนั้น '

ซีค อยากจะลองถุยน้ำลายใส่หน้าแบบนั้นดู อย่างน้อยซักครั้ง

' เราควรลองดูไหม '

ซีค พิจารณาองศา,ความแข็งแกร่งที่เหลือของเขา, ความเร็วในการหลบหลีกของผู้ชายคนนั้น และอื่นๆ—แม้ในสภาพที่อาการมึนงง ซีคยังสามารถคำนวณสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว

‘ ไม่ ไม่น่าลองเท่าไหร่ ’

นี่เป็นจุดจบของเขา ซีคไม่อยากเสียความเท่ในนาทีสุดท้ายกับอะไรแบบนี้ อยากน้อยความภูมิใจก่อนตายผู้คนยังจดจำเขาในฐานะ ‘จอมมารแห่งการทำลายล้าง’ 

' อ่าแต่เดี๋ยวก่อน ข้าแคร์เรื่องอะไรแบบนี้ด้วยหรอ ? '

ซีคแอบกลั้วปากเงียบๆ จนเกล็นเดินเข้ามาและ พุ่งง! ปืนใหญ่น้ำที่เตรียมไว้สัมฤทธิ์ผลเข้าเป้าเต็มๆโดนจมูกดูสมบูรณ์แบบนั้น จนเกล็นสบถเงียบๆ— จู่ๆเกล็นก็พูดขึ้น

“ ความชั่วร้ายของเจ้าถึงคร่าวสิ้นสุดลงแล้ว  ' จอมมาร ซีค มัวร์ ' "

' ช่างเป็นคำพูดที่… เออเลี่ยนเกินไปไหม '

มันไม่สร้างสรรค์ ไม่สร้างสรรค์จริงๆ เหมืือนเขาเป็นตัวเอกในหนังสือนิทานโบราณเก่าๆสักเล่มหลุดออกมา ประโยคที่เขาพูดออกมาเชยแบบไม่มีที่ติ

‘ เขาโตขนาดนี้แล้วนี้ควรหยุดอ่านนิทานเด็กสำหรับเด็กได้แล้วนะ ’

แต่ถึงยังไงตอนนี้ซีคไม่มีพลังจะตอบโต้เขาเลย ทำได้แค่กระพริบตาไปที่วีรบุรุษดาวรุ่งหน้าด้านเอ๋ยด้านหน้าเขาและจ้องมอง

“ รีบฆ่าเขาเร็วเขา! หมอนั้นคือ ‘ จอมมารแห่งการทำลายล้าง ’ เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะฟื้นพลังของเขา! ”

"  ใช่! ถูกตัองรีบฆ่าเขาซะ! "

‘ ไม่ เราไม่มีพลังเหลือแล้ว ร่างกายบาดเจ็บจนขยับไม่ได้แล้ว ’ 

ซีค อยากจะอธิบายเรื่องนี้ออกไปกับสหายวีรบุรุษทั้งหลายที่บอกให้ตัวเอกจัดการเขาทันที แต่มันก็เหนื่อยที่จะเปิดปากเขา อย่างว่าอธิบายอะไรกับพวกโง่นี้ไปก็เสียเวลาป่าว

‘ พวกแกอยากระวังกันก็ตามสบาย ’

เขาว่ามันก็ตลกดีที่เห็นพวกนั้นเอะอะกันขนาดนี้ กับ สภาพร่างกายที่กำลังจะตายของเขา

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกดีนิดหน่อยเหมือนกัน ไม่ใช่หมายความว่าพวกนั้นหวาดกลัวเรากันแบบสุดๆงั้นหรอ

“ ไม่ เขาไม่มีพลังจะทำร้ายอะไรพวกเราได้แล้ว ”

ความเพลิดเพลินของซีค หายไปทันทีพร้อมกับคำพูดของเกล็น

' ไอ้หมอนี่มันขัดความสนุกจริงๆ '

' ข้าน่าจะพยายามทำลายมันก่อน แทนที่จะใช้เวลาทำเรื่องไร้สาระตั้งนาน '

ซีค ไม่ได้คิดแก้ตัวอย่าง ' ถ้าฉันกำจัดผู้ชายคนนี้ออกไปได้ หรือ ถ้าแค่ไม่คนอย่างมันสักคน ฉันบราบราบรา...!'

เขาแค่อยากฉีกหน้าทำลายความเชื่อมั่นของไอ้คนน่ารำคาญแสนยียวนนั่น เขาแค่อยากให้เวลากับมันแล้วค่อยทำลายมันอย่างสมฐานะ

ตึงง!

ตัวเอกนั้นยกดาบของตัวเองขึ้นจ่อมาที่ซีค คมดาบศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังมากพอจะทำลายวิญญาณเขาเป็นสองส่วนได้

“ จงฟัง ซีค มัวร์! ก่อนที่เจ้าจะตาย ข้าจะสาธยายความชั่วทุกอย่างที่เจ้าทำลงไป!”

' นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย '

ตัวเอกเวรนั้นเริ่มพูดพล่ามไร้สาระ ส่วนซีคเหลียวมองดูเหล่าสหายวีรบุรุษทั้งหลาย

‘ พอคิดว่าคนพวกนี้ที่ต้องมาตัวติดอยู่กับผู้ชายอย่างเกล็น พวกเขาดูน่านับถือขึ้นทันที ’

เทียบกับลูกไฟยักษ์ที่คอยประเคนใส่เขา โล่ที่รวมกันเพื่อต้านทานเขา ลูกธนูที่จ้องแต่จะเล็งจุดอ่อนเขา แม้แต่พรที่คอยเพิ่มค่าสถานะทักษะหรือรักษาบาดแผลได้ทันทีอีก นี่ยังไม่น่านับถือเท่ากับการที่พวกเขาต้องคอยอยู่ใกล้กับผู้ชายแบบเกล็น เซนาร์ด ได้เลย สุดยอดจริงๆ

' ก็ช่วยไม่ได้นะก็แพ้นิ เราคงต้องทนฟังไป '

ไม่ว่าเหล่าศัตรูของเขาจะรวมตัวกันเพื่อมารุมยำเขา ซีคก็ไม่ปฎิเสธว่าเขาในฐานะ ‘ จอมมารแห่งการทำลายล้าง ’ ได้พ่ายแพ้แล้ว

‘ ผู้แพ้ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้ผู้ชนะทำตามที่พวกเขาพอใจ ’

ซีค รู้สึกเซ็งที่จะต้องง้างเปลือกตาตัวออกเพื่อมองไอ้หมอนั้นที่กำลังหมกมุ่นในบทบาทตัวเอกอยู่ ขณะที่เกล็นก็พ่นน้ำลายต่อไปไม่มองทางซีคเลย 

‘ นี่ก่อนมาสู้กันเขาไปนั่งท่องบทมาก่อนไหมเนี่ย ’

เพราะถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ เขาต้องปรบมือให้เกล็นในความพยายาม

‘ แต่จะว่าไป พอคิดดูแล้ว เขาคงคิดว่าจะเอาเรื่องพวกนี้มาทำร้ายจิตใจเราละมั้ง ที่ผ่านมาคงคิดแต่จะเอาชนะเรา ' ’
         แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขารู้สึกอยากระเบิดมันมันออกมา แต่ก็อดกลั้นไว้  

' ลืมมันไปเถอะ เป็นความจริงที่ข้าแพ้แล้ว '

ถ้าเขาชนะ เหตุการณ์มันคงแตกต่างออกไป แต่ถ้าต้องมารู้สึกโกรธกับอะไรแบบนี้มันจะทำให้ดูเหมือนคนขี้แพ้ที่ไม่ยอมรับความเป็นจริง ถ้างั้นเขาขอเป็นผู้แพ้อย่างภาคภูมิใจดีกว่า ที่เขาทำจึงแค่นอนลงและฟัง ‘ ผลงานชั่ว’ ของตัวเอง

' โห้ เออ ใช่ๆ มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เออนั่นด้วย ทำให้เรานึกถึงเรื่องเก่าๆเลย ไอ้หมอนี่ทำการบ้านมาดีจริงๆ'

เหมือนเป็นชายชราใกล้ฝั่งที่กำลังติดอยู่ในความทรงจำในอดีต ซีคฟังทุกเหตุการณ์ที่เขาทำ เกล็นบรรยายเส้นทางของเขาที่ผ่านการนองเลือดการฆ่าฟันช่างเหมาะที่ผู้คนเรียกเขาว่า ‘จอมมาร’

“…ด้วยความผิดทั้งหมดเหล่านี้ ในนามข้าผู้กล้าแห่งดวงตะวันขอมอบคำพิพากษาลงทัณฑ์ต่อจอมมาร ซีค มัวร์!”

' อะไร อ่อจบแล้วเหรอ? '

ซีค ได้ตื่นขึ้นจากห้วงความทรงจำ ด้วยการสาธยายของเกล็นพาเขาย้อนกลับไปในวันเก่าๆที่พอนึกถึงเขาก็เม้มริมฝีปากอย่างรู้สึกเสียดาย

' ก็ดี อย่างน้อยก่อนไปโลกหน้าเขาก็ได้รับของขวัญดีๆ '

ครั้งนี้คงเป็นจุดจบของเขา มองไปรอบด้าน นักเวทย์หนุ่มมองมาที่เขาอย่างเหยียด นักดาบคอยปกป้องตัวเอกจากเหตุฉุกเฉิน นักธนูคอยเฝ้าระวังด้วยใบหน้าเย็นชา และนักบวชหญิงที่กำลังร้องไห้สวดอ้อนวอนให้คนแปลกหน้าอย่างซีค 

ดาบของเกล็นถูกยกขึ้นลอยเหนือร่างซีค เขาจะตายทันทีที่ดาบนั้นตกลงมา เขารู้ว่าเขาไม่มีแรงที่จะหลบมันเขาไม่คิดเรื่องนี้เลย

' แต่ '

ซีคเริ่มรวบรวมพลังที่เหลืออยู่เฮือกสุดท้ายที่เขามี

‘ ข้าเป็นถึงจอมมาร ข้าไม่ทางตายไปเฉยๆแน่ ’

เหมือนในหนังสือนิทาน จอมมารมากมายต่างสาปส่งเหล่าผู้กล้าก่อนตาย

ท่ามกลางเครื่องมือเวทย์มนตร์มากมายที่เขารวบรวมไว้ตอนเดินทางทั่วโลก มีของชิ้นหนึ่งที่มีผลคล้ายคำสาปพวกเขาเหมือนจะเรียกชื่อของมันว่า ‘กุญแจแห่งการพลิกผัน’ 

มันคือชื่อของกริชเล็กๆเล่มหนึ่ง ที่เขาแอบมันไว้ในนิ้วชี้ ทำเขายุ่งยากอยู่ในชีวิตประจำวันก็รู้สึกรำคาญมากเหมือนกัน แต่ก็เพราะเรื่องนี้ที่มอบโอกาสนำของขวัญให้ไอ้น่ารำคาญนี้เป็นครั้งสุดท้าย เขารู้สึกมันคุ้มค่า

' แค่นี้มันไม่ได้ทำให้มันตายหรอก '

ของสิ่งนี้ไม่ได้มีเพื่อเรื่องนั้น สำหรับคนอย่างซีคที่รักในการปั่นหัว และชอบทำให้ศัตรูพังทลาย มันเหมาะกับเขาจริงๆ

‘ กริชเล็กๆเล่มนี้มีตำนานว่าจะทำให้โชคชะตาในอนาคตของใครสักคนเปลี่ยนไป ถึงข้าจะไม่ได้เห็นก็เถอะว่าไอ้หมอนี้จะเป็นยังไงต่อไป ’

แต่สิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ยังไงจอมมารคนอื่นๆก็ตายกันหมด โดยไม่ต้องทำนายก็รู้ว่าอนาคตของไอ้หมอนี่จะต้องมีอนาคตที่รุ่งโรจน์แค่ไหนที่สังหารจอมมารคนสุดท้ายอย่างเขาได้ ต่อให้ผลของ‘กุญแจแห่งการพลิกผัน’ นี้จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแต่มันก็ดีขึ้นอีกแค่เล็กน้อย แต่กลับกันถ้าอนาคตเขาถูกสลับให้แย่ลง…

‘ มาทดสอบกันเถอะพ่อวีรบุรุษ หากต่อไปแกยังคงเดินในเส้นทางวีรบุรุษได้อย่างภาคภูมิใจ นั่นก็เป็นชัยนะของแก แต่ถ้าต่อไปสิ่งที่รอแกอยู่ในอนาคตมีแต่ความมืดมน แกจะต้องทนทุกข์ทรมาณมากกว่าใครๆ ’

ซีค กำลังหวังให้เกล็นพบเจอคืออย่างหลัง  สิ่งเดียวที่เขาเสียใจคือเขาไม่มีโอกาสได้เห็นมัน

“ ถ้าเจ้าได้เกิดใหม่ ข้าอธิษฐานให้เจ้าหมั่นทำความดีมีเมตตามากขึ้น ”

เป็นเหมือนผู้พิพากษาที่ตัดสินโทษครั้งสุดท้าน เกล็นตะโกนพร้อมเหวี่ยงดาบลง

ซีค ที่นอนอยู่เหมือนไร้ชีวิตลุกพรวดขึ้นทันที

“ ถ้าข้ามีโอกาส ข้าจะทำ!”

" แต่ไม่ใช่ตอนนี้! "

ฉั้ว!

ดาบของเกล็นได้เฉือนเข้าร่างกายของซีคให้แยกออกจากกัน เริ่มจากไหล่

ต่อให้ร่างกายของเขากำลังจะถูกฟันจนแยกออกจากกัน แต่ซีคยังสามารถเพ่งสมาธิไปที่นิ้วชี้ของเขา ที่ตอนนี้มีชิ้นส่วนปลายแหลมสีทองกำลังโผล่ออกมา

เกล็นดูตั้งตัวไม่ทัน เหล่าสหายวีรบุรุษก็พยายามจะเข้ามาช่วย

' แต่ข้าเร็วกว่า! '

พุชช!

มันไม่ใช่การโจมตีที่ทรงพลัง ซีคกำลังอยู่ในสภาพร่อแร่ ด้วยบาเรียรอบตัวเกล็นมันแข็งแกร่งมากการโจมตีที่รุนแรงไม่มีประโยชน์ในตอนนี้

แต่ด้วยความกระทันหันเกล็นตั้งตัวไม่ทัน ใบมีดเล็กๆนี้ที่รวมพลังเฮือกสุดท้ายจนหมดรวมกันเป็นจุดเดียวคมพอที่จะทะลุผ่านการป้องกันของเกล็นในตอนนี้ได้

“ ไอ้เxี้ยยยย! ”

ใบหน้านิ่งขรึมของเกล็นกลายเป็นบิดเบี้ยว

' ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! '

สลับกับเกล็น ซีคอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แต่เหมือนหุ่นกระบอกที่เชือกบังคับขาดออกหมด เขาไม่สามารถขยับร่างกาย หรือ แม้แต่ใบหน้าได้

สวิงงง! 

ปฎิกิริยาโต้ตอบของเกล็นตอบสนอง เขาขยับดาบฟันเข้าที่คอของซีคขาดออก ทัศนวิสัยของซีคกลายเป็นมืดบอด แต่แวบหนึ่งก่อนที่เขาจะหมดสติไปเลย เขารู้สึกว่าเห็นบางอย่างกำลังส่องแสง

" อะไร! นี่…คือ… ไม่เป็นไปไม่ได้ …ในที่สุด ที่นี่…ครั้งนี้…สมบูรณ์แบบ…!”

เกล็นกำลังพึมพัมบางอย่างด้วยความหวาดกลัว แต่จิตสำนึกของซีคได้จากหายไปในความมืดแล้ว

 *    *    *

เจี๊ยบ เจี๊ยบ เจี๊ยบ

"  อะไรวะ…"

เสียงที่ดังจากข้างนอก ทำซีคหน้าบึ้งจนต้องหันหน้าหนี

“อา เสียงบ้านี้! ดังขนาดนี้จะให้หลับได้ไงวะ…!”

หลังจากบ่นด้วยความรำคาญเขาก็หยุดนิ่ง

ซีครีบลุงขึ้นอย่างไว้ มองสำรวจสิ่งของรอบตัวด้วยใบหน้าที่ดูเหรอหรา เขาดูกลายเป็นคนโง่จริงๆ มองยังไงก็ไม่เหมือน ‘จอมมารแห่งการทำลายล้าง’ เลยสักนิด

เขาเริ่มสำรวจร่างกายตัวเองเอามือจับไปที่คอ รอยที่ฟันเขาแยกเป็นสองส่วนหายไป ร่องรอยที่เกินคำว่าสาหัสจากการต่อสู้ก็ไม่มี ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ผิวที่เคยหยาบกร้านจากการเอาชีวิตรอดอ่อนเยาว์กว่าเก่ามาก

'  นี้มันเกิดอะไรขึ้น '

ไม่ว่าเขาจะเคยเห็นมาเกือบทุกอย่างบนโลกแม้แต่ผ่านประสบการณ์ดีร้ายอย่างโชกโชนจนกลายเป็นจอมมาร แต่อะไรแบบนี้เขาไม่เคยเจอมาก่อน เขากำลังคิดอยู่หรือว่าพลังของเขาหายไป เขาทำใจให้เย็นลงเพื่อคิดถึงสถานการณ์ตอนนี้

' อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังมีชีวิตอยู่ '

ต่อให้เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อแค่ไหน แต่เป็นมันเรื่องสำคัญที่สุด เส้นทางอนาคตของเขาที่น่าจะปิดไปแล้วได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ถึงตอนนั้นที่เขายอมรับการตายของตัวเองไปแล้วอย่างเข้าใจ แต่ไม่ได้หมายว่าการที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาจะไม่มีความสุข ซีครู้สึกดีขึ้นหลังจากที่เขาสำรวจตัวเอง

พึง!

ซีคสลัดสิ่งที่คลุมตัวเขาอยู่ออก

' มันคือผ้าห่ม '

เป็นผ้าห่มแบบหนานุ่มคุณภาพดี

เขาเริ่มสำรวจมองไปรอบอย่างละเอียดขึ้นอีกครั้ง เตียงที่เขานอน เฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรู สิ่งของมีราคามากมายในห้องกว้าง มันดูไม่เหมือนห้องสามัญชนทั่วไป

' ทำไมรู้สึกคุ้นเคยมากขนาดนี้ '

ซีคเดินลงจากเตียงเริ่มมองสำรวจห้องและเขาเดินผ่านกระจกที่แขวนอยู่บนผนัง

"เห้ย?"

ซีคเดินไปที่กระจกให้ใกล้ขึ้น

' นี้! '

เป็นโคร่งหน้าของซีคแน่นอน แต่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ เขาถูแก้มตัวเองและเกาสิวเม็ดหนึ่งที่มันเด่นชัดที่สุดบนหน้าเขา

“ ข้ากลายเป็นเด็กงั้นหรอ? ”

ตอนที่ซีคโวยวายขึ้น ในหน้าที่อยู่ในกระจกเลียนแบบท่าทางตามเขาทุกอย่าง นี่มันเขาตอนอายุยังน้อยอยู่ไม่ใช่หรือไง!

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.