ตอนที่ 41 .. “ อิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ ”

องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

-A A +A

ตอนที่ 41 .. “ อิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

     เป็นเพียงความบันเทิงในการฟังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพผู้ประพันธ์นิยาย .. มัชฌิมา              

เต่างอย - จินตหรา พูนลาภ

https://www.youtube.com/watch?v=ONEuYMYlChQ

ขอขอบคุณ คุณจินตหรา พูนลาภ จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 41 .. “ อิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ ”

    และเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในตอนนี้ก็คือ สะอิ้ง แม่ของธวัชได้เสียสติไปแล้ว เพราะช๊อกกับการที่เสียลูกชายไปต่อหน้าต่อตา ภาพที่ผ่านสายตาทุกคน หญิงชราคนหนึ่งซึ่งนั่งร้องไห้กอดศพลูกชาย เขย่าตัวอยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสารมาก

       ข่าวนี้ถ้าไม่ใหญ่ก็ให้มันรู้ไป ไม่นานข่าวการจับกุมองค์ชายโกมุทก็ดังไปทั่วประเทศในเวลาไม่ถึง 2 นาที ท่านพ่อท่านแม่ของโกมุทรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ นักข่าวบางกลุ่ม บางสำนักพิมพ์ ได้ไปออเพื่อรอทำข่าวกันอยู่ที่หน้าวังวรรณรัตน์เป็นที่เรียบร้อยแล้วในตอนนี้ ยังคงปิดประตูเงียบไม่ยอมเปิดประตูให้ใครเข้าไปทำข่าวใดๆทั้งสิ้น เพราะอายที่เกิดเรื่องขึ้น

       ส่วนทางวังบุษบง ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันกลับไปโดยปริยาย เพราะเสียงปืน เมืองรามให้ชาญชัยนำตัวโกมุทไปขังไว้ก่อนที่ สน.ในเขตนี้ซึ่งก็คือ สน.ที่ชาญชัยประจำอยู่นั่นเอง ส่วนตัวเขาจะเข้าไปดูความเรียบร้อยภายในวังถึงจะตามกลับไปสมทบ

       ริชาร์ดวิ่งเข้ามาหาเมืองรามหลังจากที่หลบพวกฝูงชนที่แตกฮือออกไปกว่าจะเข้ามาถึงได้ เพราะนึกว่าเกิดการจราจลขึ้น 

“มีอะไรที่จะให้ผมช่วยได้บ้างไหมครับคุณราม” ริชาร์ดอยากมีส่วนร่วม

“คุณมาก็ดีแล้ว ช่วยไปดูทางสนามด้านนอกให้ผมหน่อยได้ไหม ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยนำศพของธวัชไปไว้ที่วัด ที่เขาอยู่ให้หน่อย เดี๋ยวผมจะตามไป ขอ Clear อะไรบ้างอย่างที่นี่ก่อนแล้วจะตามไป ไป งามตาคงทำอะไรคนเดียวไม่ได้แน่ ผมฝากด้วย งานพวกเรายังมีอีกเยอะ จากนี้ต่อไป ช่วยทำเพื่อเพื่อนอย่างธวัชเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม” ริชาร์ดพยักหน้าและรีบวิ่งออกไป

       งามตาบอกให้จ้อย เอี้ยงและเพื่อนๆของธวัชที่ยังคงเหลืออยู่ไม่กี่คน นึกและแก้ว ค่อยๆช่วยกัน ริชาร์ดมาถึงรีบบอกทันที

“ทางนี้เลยครับ เอาไปไว้ที่รถผมได้เลย ทางนี้ครับ” ริชาร์ดช่วยประกองคอ

       นึกจับแขนซ้ายแก้วจับแขนขวาจ้อยประคองขาซ้ายและเอี้ยงประคองขาขวา งามตาเข้ามานั่งรอในรถ ทุกคนวางธวัชบนตักของงามตาและปิดประตูให้ ริชาร์ดรีบขับรถออกไป พวกเพื่อนๆก็รีบเดินทางกลับไป เพื่อช่วยกันที่วัดต่ออีก เพราะงานยังไม่จบลงง่ายๆ

***** +++++ *****

      เสด็จฯ มองร่างของธวัช ด้วยความเข้าใจ หลังจากที่ทุกคนพร้อมใจมาช่วยกันถึงขนาดนี้ และยอมให้อภัยในที่สุด ธวัชโดนยิงตาย อิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ ของธวัชก็คือ การจบชีวิตด้วยความขาวสะอาดและไร้มลทิน หลังจากที่ได้บอกความจริงทุกอย่าง ที่อยากบอกไปหมดแล้ว เมืองรามเดินขึ้นมาประจันหน้ากับเสด็จเจ้าฟ้าแบบไม่เกรงกลัวใดๆ

“ท่านทำอะไรลงไปท่านรู้บ้างไหม อำนาจบางอย่างก็ไม่สามารถซื้อความถูกต้องคืนมาได้ เพราะท่านไม่เคยฟังใคร ไม่ว่าจะองค์หญิงหรือธวัช ท่านเอาใจของท่านตัดสินคนแค่ด้านเดียว ท่านเชื่อคนที่ไม่น่าจะเชื่อถือ แล้วเป็นไง ผลที่ออกมา”

“คือ..ฉันขอโทษ” เจ้าฟ้าสำนึกผิด แต่มันก็ไม่ทันแล้ว

“ขอโทษเหรอขอรับ แล้วมันช่วยทำให้คนดีๆคนหนึ่ง ฟื้นคืนมาจากความตายได้ไหม ถ้าท่านใจเย็นสักนิดฟังคนอื่นสักหน่อย ไม่หูเบาฟังคำยุแหย่ผีพนันอย่างโกมุท มองคนแบบที่เท่าเทียมกันไม่ได้แบ่งชนชั้นวรรณะเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น” เมืองรามพูดแบบใช้สติ

“ฉันยอมรับนะเมืองรามว่าฉันหูเบาและเอาแต่ใจตัวเอง” เจ้าฟ้ายอมรับผิดทุกอย่างแต่มันจะช่วยอะไรได้ เมื่อมันสายไปแล้ว

“แล้วจะให้ฉันทำเช่นไร ในเมื่อทุกอย่างมันก็ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้อีกแล้ว” เจ้าฟ้าพยายามจะทำให้เมืองรามเข้าใจในตัวให้ดีขึ้นเมืองรามมองหน้าเจ้าฟ้า แล้วชี้ไปที่โกมุทคนผิด

“รู้ไหมว่าองค์ชายโกมุทหนะ ติดการพนัน มีหนี้สินรุงรัง ที่องค์หญิงถูกลอบทำร้าย ก็เพราะโกมุทต้องการเงินจากกองพระคลังกลาง เพื่อไปชำระหนี้สินพวกนั้น ถ้าองค์หญิงเป็นอะไรไป เขาจะได้ทรัพย์สินส่วนหนึ่งจากการที่เป็นพระคู่หมั้น เพราะคำมั่นสัญญาบ้าๆบอๆที่ท่านให้ไว้เมื่อหลายปีก่อน จำได้บ้างไหม นี่แหละจึงเป็นที่มาที่โกมุทไม่ชอบธวัช เพราะธวัชรู้ความลับนี้เข้า”

“จริงหรือนี่ ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยนะเมืองราม” เจ้าฟ้าตาสว่างก็ตอนนี้แหละ หลงเชื่อหลานชายที่ไม่ได้เรื่องมาตลอด

“ไม่รู้ก็รู้ไว้ซะ ยังไม่พอ ยังมีคดีอะไรที่ติดตัวอยู่บ้างเยอะแยะไปหมด จ้างวานฆ่า ซ่องสุม เลี้ยงโจรเอาไว้มากมาย ไอ้เมฆก็คือหนึ่งในนั้น เมื่อเดือนที่แล้วไม่ใช่ธวัชคนนี้หรอกเหรอ ที่ช่วยองค์หญิงเอาไว้ให้รอดตายจากฝีมือของโกมุทหนะ และทุกครั้ง ธวัชนั่นแหละ ที่เป็นฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือองค์หญิงตลอด ไม่ใช่ตำรวจที่ไหน ธวัชคนเดียวล้วนๆ เรื่องแบบนี้ทำไมท่านถึงไม่เอามาคิดเปรียบเทียบดูบ้าง ไม่ใช่พอโกมุทมาบอกท่านก็เชื่อทันที ว่าจะมีใครมาคิดปองร้ายท่าน หรือราชนิกูล ปืนสักกระบอกมันมีติดตัวมาไหม ท่านไม่คิดบ้างเหรอ คนเราถ้าคิดจะมาลอบปลงพระชนม์อย่างน้อยมันต้องมีอาวุธหรือไม่ก็ปืน นี่อาวุธสักอย่างมันก็ไม่มี เรื่องแบบนี้ท่านทำไมถึงคิดไม่ออก มองไม่ขาด ผมแค่อยากจะขอถามท่านเท่านี้แหละ ผมขอตัว ลาขาดจากวังนี้เสียที ต่อไปนี้อย่าได้มาหา และพึ่งพาอะไรจากผมอีกเลย เพราะผมคงไม่สามารถที่จะคบหาสมาคมกับคนระดับอย่างท่านได้อีกแล้ว” เมืองรามโทรบอกให้พิมพ์กลับออกมา

“อ้อผมลืมบอกไป ขอเตือนสติท่านไว้อีกสักนิดนะ” เมืองรามนึกอย่างหนึ่งขึ้นมาได้

“สิ่งที่ธวัชพูดไว้ก่อนตายนั่นแหละ คือความจริงทุกอย่าง คนที่คนบงการตามฆ่าองค์หญิงมาตลอด และคิดที่จะโค่นอำนาจท่านก็คือ เค้าคนนั้น องค์ชายโกมุทที่ท่านไว้ใจนั่นแหละจำเอาไว้ ตอนนี้ผมได้หลักฐานครบหมดแล้ว ยังไงก็ดิ้นไม่หลุด” เจ้าฟ้ายืนอึ้งเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“แต่สิ่งที่ผมเสียใจและเศร้าใจเป็นที่สุดคือ ท่านไม่ฟังใคร แม่แต่เสียงหัวใจของลูกสาวตัวเอง”

“ไม่จริงนะ เมืองราม ฉันฟังเสมอ” เมืองรามโต้กลับ

“ไม่จริง ถ้าจริงท่านคง ไม่ฆ่าลูกสาวท่านทางอ้อมหรอกจะบอกให้ ท่านคือฆาตกร เห็นไหมว่าท่านทำใครให้เสียใจบ้าง ไม่ใช่แค่องค์หญิงคนเดียว แต่มันมีผลกระทบกับอีกหลายต่อหลายชีวิตเลยทีเดียว” เจ้าฟ้ายังไม่รู้ตัวว่าทำผิด

“ไม่ต้องดูอื่นไกล ครอบครัวของเพื่อนผม ครอบครัวซึ่งสูญเสียเสาหลักของบ้านไปแบบไม่มีวันหวนกลับคืนมาอีก แม่กลายเป็นบ้า คนเสียสติ” เมืองรามเดินเข้ามามองหน้าเจ้าฟ้าใกล้ๆ

“ผมขอถามหน่อย แล้วทีบ้านนี้ ครอบครัวนี้ จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นไร เมื่อขาดคนที่หาเงินและรายได้เข้าบ้านสักคน อย่างธวัช ผมคงเตือนสติท่านได้แค่นี้” พูดจบเขาก็เดินจากไป พิมพ์เดินออกมาพอดี

“ไปพิมพ์เรามีงานที่ต้องทำกันอีกไปที่วัดกัน ปาดนี้ศพธวัชคงถึงที่วัดแล้วหละ” พิมพ์รีบเดินไปที่รถพร้อมเมืองราม พ่อและแม่นั่งรออยู่แล้ว พิมพ์มองเข้าไปแล้วก็สงสาร หดหู่ใจมาก ทุกคนเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย

“สงสารลุงกับป้านะพี่” เมืองรามพยักหน้า จากนั้นก็รีบขับรถออกไปเลยทันที ปล่อยให้เจ้าฟ้ายืนอยู่คนเดียวตามลำพัง

       ไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกันที่วัด บ่าย 4 โมงกว่าๆ ทุกคนช่วยนำร่างของธวัชมาวางไว้ที่ศาลาก่อนที่จะนำใส่โลง เพราะยังไม่ได้จัดเตรียมอะไรเลย เพราะมันเร็วจนเกินไป งามตาเปลี่ยนชุดให้สามีแบบน้ำตาซึมตลอด เปลี่ยนไปร้องไห้ไป จนพิมพ์ต้องเข้ามาช่วยปลอบ “พี่ราม” งามตาขอความช่วยเหลือจากเมืองรามและเพื่อนๆเท่าที่เหลืออยู่ ทุกคนก็เต็มใจช่วยกันเต็มที่ ไม่มีใครรังเกียจ

“หนูขอให้ยังไม่ทำอะไรนะพี่ ขอยังไม่เผา ขอเก็บศพไว้แบบนี้ก่อนสัก 90 วันอยากทำอะไรแบบง่ายๆ สวด แค่ 3 วันพอ นะพี่นะ นึกว่าช่วยชีวิตหนูด้วยก็แล้วกัน หนูขออยู่กับพี่วัชอีกสักระยะนะพี่ พี่อย่าว่าหนูนะ”

เพื่อนๆทุกคนต่างช่วยกันคนละไม้ละมือ เมืองรามยินดีทำตามที่งามตาขอทุกประการ

“ใจเย็นๆนะงาม เรื่องนั้นพี่จะจัดการให้ พี่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจ ตอนนี้งามไปพักผ่อนก่อนเถอะนะ เหนื่อยมามากแล้ว พิมพ์พี่ฝากด้วย ทางนี้เดี๋ยวพี่กับริชาร์ดจะจัดการและดูแลให้ ไป พาไปนั่งทางโน้น”

..... +++++ .....

       เรื่องการตายของธวัช ถึงแม้ว่าจะเป็นข่าวดัง แต่ยุ้ยก็ยังไม่รู้เพราะพ่อและแม่พยายามปิดข่าวเอาไว้อย่างลับสุดยอด เพราะถ้าขืนลูกรู้ว่าคนที่ตัวเองรักได้มีอันเป็นไป ตายไปไม่มีชีวิตบนโลกนี้แล้ว รับรองว่าบ้านแตกแน่ สั่งให้คนงานทุกคนเก็บหนังสือพิมพ์และบอกกับทุกคนว่าห้ามหลุดเรื่องนี้เข้าหูคุณหนูยุ้ยเป็นอันขาด ไม่งั้นโดนไล่ออก ทุกคนจึงต้องทำตาม

       ยุ้ยตื่นเช้าไปทำงานตามปกติ แต่สังเกตุว่าคนงานมีอะไรแปลกๆ

“มีอะไรกันเหรอน้า วันนี้หนูมีอะไรแปลกไปเหรอ จ้องกันอยู่ได้ ไงหนูสวยขึ้นรึไงหรือว่าหนูทำงานเร็วและดีกว่าเดิมแล้ว” ทุกคนเงียบไม่มีคำตอบ ยุ้ยเฉยๆไม่สนใจ ถามไม่ตอบก็ไม่สน

>>>>> @@@@@ <<<<<

       3 วันผ่านไป งานสวดศพของธวัชก็ผ่านไปด้วยดี งานวันแรกงามตาเป็นเจ้าภาพ วันที่สองเป็นของริชาร์ด และวันสุดท้ายเป็นของเมืองราม วันสุดท้ายสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือ เสด็จเจ้าฟ้า หม่อมมณีกุล ขอให้หญิงยุพามาเพื่อขอขมาในความผิดที่เจ้าฟ้าได้ตัดสิน

ใจผิดที่ได้กระทำลงไป แต่งามตาไม่ยอมให้เข้าไป จึงเกิดเรื่องขึ้นทันทีในคืนวันนี้ เรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้นตามมาทันที

“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ต้อนรับพวกคุณ ฉันไม่ให้พวกคุณเข้าไปด้านใน พวกคุณทำให้พี่วัชผัวฉันตาย กลับไป ออกไป”

       งามตาสาดน้ำใส่ทุกคน จนเมืองราม ต้องให้พิมพ์มาดึงตัวงามตาออกไปจากตรงนั้นก่อน จากนั้นริชาร์ดจึงเชิญทั้งสามคนเข้าไปด้านใน “เชิญฝ่าบาทพะยะค่ะ หม่อมฉันต้องขอโทษแทนงามตาด้วย” ริชาร์ดพาทั้งสามคนมานั่งที่เก้าอี้พิเศษด้านหน้าสุด

“อย่าได้ถือสาและเอาโทษนางเลยนะพะยะค่ะ เพราะนางพึ่งสูญเสียสามีไปอย่างกระทันหัน อาจจะยังทำใจไม่ได้”

       ริชาร์ดพยายามไกล่เกลี่ย “เลยแสดงพฤติกรรมแบบนั้นออกไป” ริชาร์ดพยายามพูดให้เสด็จเข้าใจ เจ้าฟ้าเข้าใจดี จึงไม่ว่าอะไร

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจดี ฉันเองก็มีส่วนผิด นี่นะ ฝากไปให้ภรรยาธวัชด้วย บอกว่า ฉันขอโทษจริงๆฉันไม่ได้มีเจตนา มีอะไรที่จะให้ฉันช่วยก็บอกมาได้เลย ฉันยินดี โดยเฉพาะเรื่องแม่ของธวัช ฉันยินดีที่จะออกค่ารักษาพยาบาลให้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเลย เอาเช็คนี่ 5 ล้านบาทไปให้เขา อย่าคิดว่าฉันเอาเงินมาฟาดหัวนะ ฉันอยากให้มากกว่านี้จริงๆ แต่มันตีราคาไม่ได้ เอาไปแค่นี้ก่อนนะ และช่วยอธิบายให้เค้าเข้าใจด้วยนะว่าฉันเสียใจจริงๆ” ริชาร์ดรับซองเงินไปและคลานออกไปทันที เมืองรามคลานเข้ามาตามมารยาท

“เชิญไหว้เคารพศพทางนี้ขอรับ” เมืองรามพาทั้งสามคนไปไหว้ศพธวัช เมืองรามขอให้ตำรวจสาวเพื่อนๆของพิมพ์มาช่วย 2-3 คน ทุกคนรับธูปที่เจ้าหน้าที่ส่งให้คนละอัน พิมพ์ลากงามตาออกมาไม่ไกลจากตรงนั้น

“ปล่อยฉันได้แล้วพิมพ์ ดึงฉันออกมาทำไม แล้วใครให้พวกนั้นเข้าไป ฉันเกลียดพวกมัน” งามตาโมโหมาก เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

“ฉันรู้ ฉันเข้าใจ แต่นี่มันเป็นมารยาท” พิมพ์พยายามอธิบาย

“ฉันไม่รู้ ใครที่ทำให้ผัวฉันตาย ฉันเกลียดแม่งหมดแหละ” งามตามองเข้าไปด้านใน

“จะจ้าวหรือใหญ่มาจากไหนฉันก็ไม่สน หลีกไป ฉันจะเข้าไปที่งาน พระใกล้สวดแล้ว” งามตาผลักพิมพ์แล้วเดินกลับเข้าไปที่งาน 1 ทุ่มหลวงตาบุญลงมาสวดตรงเวลา งามตาไม่นั่งที่เก้าอี้ เดินเลยไปที่หน้าโลง เอามือกอดโลงศพและเคาะโลง

“ฟังพระสวดนะพี่ คืนสุดท้ายแล้ว หนูรักพี่นะ” หลังจากสวดเสร็จ ทั้งสามคนอยู่จนจบงาน ระหว่างที่ยืนส่งแขก กลุ่มของเจ้าฟ้า ออกมาเป็นกลุ่มเกือบสุดท้าย คิดว่าจะหมดเรื่องแล้ว ก็เกิดเรื่องจนได้ งามตาเรียกให้เสด็จหยุด

“เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งไป” หญิงยุหันมา

“มีอะไรงามตา ให้เกียรติ์กันบ้าง นี่ใคร รู้ที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง ระวังเงาหัวจะไม่มี” แถมยังว่างามตาอีกด้วย

“อะไรไม่มีมารยาท” เสด็จยกมือซ้ายห้ามหญิงยุ

“ไม่เป็นไร” งามตาไม่สนใจอะไรอีกแล้วตอนนี้

“ทำไม อยากจะสั่งประหารฉัน แบบผัวฉันง่ายๆแบบนั้นเลยเหรอ ก็เอาซิ ฉันไม่กลัวหรอก ดีซะอีก ฉันจะได้ตายๆไปอยู่กับผัวฉัน”

“อ้าว มีอะไรรึหนู มีธุระอะไรกับฉันรึ หรือว่าเงินที่ให้ไปไม่พอ” เสด็จเจ้าฟ้ามองหน้างามตา งามตายื่นเช็คคืนให้กับเสด็จเจ้าฟ้า

“เอาเงินของท่านคืนไป ดิฉันไม่ต้องการ ถึงดิฉันจะจน แต่ดิฉันก็มีศักดิ์ศรีพอ อย่าตบหัวแล้วมาลูบหลัง ฆ่าคนตายแล้วเอาเงินมาปิดปากกัน พวกเราที่นี่เขาไม่ทำกัน” เจ้าฟ้าดันมือกลับไป

“ฉันไม่ขอรับคืน ฉันให้ด้วยความจริงใจนะหนู ฉันรู้ว่ามันตีและประเมินค่าไม่ได้ กับชีวิตของสามีเธอ” เมื่อเสด็จไม่รับ งามตาจึงฉีกเช็คใบนั้นต่อหน้าทุกคน

“งามตา” เมืองรามตกใจมากจึงอุทานออกมา

       งามตาฉีกเช็คใบนั้นขาดกระจุยไม่มีชิ้นดี ละเอียดจนไม่สามารถซ่อมได้เลย แล้วก็เดินหนีไปจากตรงนั้น เสด็จเห็นความใจเด็ดของงามตา จึงหยิบเช็คขึ้นมาและเขียนให้ใหม่แล้วส่งให้กับเมืองรามแทน หญิงยุเข้ามาห้ามเสด็จอา แต่หม่อมณีกุลห้ามเอาไว้และส่ายหน้า

“ฉันรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนรักของธวัช ฉันฝากด้วยนะ เอาเงินก้อนนี้ฝากไว้ให้กับครอบครัวนี้แทนฉันด้วย ฉันคงช่วยได้เท่านี้ ฉันเชื่อใจเธอนะเมืองราม” แล้วเจ้าฟ้ากับหม่อมก็เดินจากไป คงเหลือแต่หญิงยุที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

       เมืองรามยังไม่ได้มองตัวเลขในเช็คใบใหม่ เพราะหญิงยุทักเสียก่อน

“เดี๋ยวซิราม จะรีบไปไหน ยังโกรธหญิงอยู่เหรอ”

“เออ เปล่า” เมืองรามทำตัวไม่ถูกเช่นกัน เพราะ 1 เดือนที่ไม่ได้เป็นแฟนกัน ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ เหมือนคนแปลกหน้าที่มาเจอกัน หญิงยุเป็นฝ่ายยอมเดินเข้ามาหาเมืองรามเอง ยอมเสียศักดิ์ศรีกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพราะอยากขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา

“หญิงขอโทษนะราม กับเรื่องทุกๆอย่างที่ผ่านมา ตอนนี้หญิงเข้าใจอะไรดีแล้ว เรา..”

       หญิงยุเอื้อมมือจะเข้าไปจับมือเมืองราม

“คุณราม เชิญทางนี้ด้วยครับ” ริชาร์ดมาเรียกพอดี จึงต้องดึงมือกลับทันที

“ผมขอตัวก่อนนะ ต้องปิดงานแล้ว พรุ่งนี้ยังมีงานอีกเยอะ ขอตัวก่อนนะหญิง สวัสดี เดินทางปลอดภัยนะ”

       เมืองรามเดินกลับไปยังด้านใน หญิงยุมองตามหลังแล้วน้ำตาซึมเล็กน้อย เมื่อมองโลงศพของธวัช

“นี่ซินะที่เขาเรียกว่าความทุกข์หรือตายทั้งเป็น” ไม่ว่าจะงามตา หญิงรันหรือแม้กระทั่งตัวเธอเอง ก็เหมือนตายทั้งเป็น

       เพราะความทิฐิและเอาแต่ใจตัวเองไม่ฟังใคร เวลาไม่เคยเดินย้อนถอยกลับชีวิตที่เหลืออยู่จะเป็นอย่างไรมีลมหายใจไปวันๆอย่างนั้นหรือ เมื่อคนเราต้องการอยู่ด้วยกันและไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว อิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ มันอยู่ตรงไหนและวัดด้วยอะไร หญิงยุพึ่งเริ่มเข้าใจกับคำพูดของเพื่อนก็ในวันนี้เองที่ว่า

“เมื่อมีโอกาสจงตักตวงความสุขไว้ให้มากที่สุด อะไรไม่ดีก็ขอให้มองข้ามไป”

       หญิงยุเดินกลับไปที่รถพระที่นั่งซึ่งจอดรออยู่ หม่อมมณีกุลมองหน้าหลานสาวก็สามารถรู้ได้เลยว่าหญิงยุเป็นอะไร เพราะหม่อมเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดไม่มีตอนไหนเวลาใดที่จะเล็ดลอดสายตาของหม่อมไปได้กับสายตาที่หลานสาวมองเมืองราม

“ใจเย็นๆนะหญิงเชื่ออา ถ้าคนเราเป็นคู่กันจริงๆ สักวันต้องได้อยู่ด้วยกัน อาเชื่ออย่างนั้น ไปขึ้นรถเถอะ อย่าพึ่งคิดมาก”

       หญิงยุไหว้หม่อมแล้วขึ้นนั่งและปิดประตู รถพระที่นั่งเคลื่อนตัวออกไป งามตามายืนหลบร้องไห้ที่ข้างเมน พิมพ์เดินเข้ามาหาอีกครั้งและยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ งามตาหันไปและรับผ้ามาซับน้ำตา

“พิมพ์เข้าใจนะงามว่ามันทำใจยากแล้วตอนนี้จะทำยังไงต่อไป พี่วัชก็ไม่อยู่แล้ว แม่ก็ป่วย พ่อก็ร่างกายไม่ค่อยดี แล้วนี่แกจะไหวเหรอ มีอะไรที่จะให้ฉันช่วยก็บอกนะ ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน”

“ขอบใจมากนะพิมพ์ ที่จะช่วยฉัน ฉันยังไหว เงินเก็บที่พี่วัชให้ฉันไว้ก็ยังพอมี ไหนยังจะร้านของพี่วัชอีก ฉันว่าคงไม่เป็นไรหรอก ส่วนเรื่องแม่ ก็คงต้องรักษากันต่อไป ว่าจะเอาไปไว้ที่โรงพยาบาล แกก็ไม่ยอม แกไม่ไปไหนนอกจากบ้านและวัดสองที่นี่เท่านั้น ก็คงต้องอยู่กันไปแบบนี้แหละ ขอบใจเธออีกครั้งนะ แล้วนี่เธอมาหาฉันทำไม อย่าบอกนะว่า เอานี่มาให้ฉัน”

“เปล่า พี่รามให้มาตาม ไป ทางวัดเค้าจะปิดศาลาแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ไปตอนนี้พี่รามกำลัง Clear ค่าใช้จ่ายบางอย่างอยู่”

       แล้วทั้งสองสาวก็เดินกลับเข้าไปในงาน พอทุกอย่างที่วัดจบ ทุกคนก็แยกย้ายกันกับบ้านใครบ้านมัน ริชาร์ดไปส่งพิมพ์กลับแฟลตเหมือนเดิม เมืองรามเดินมาส่งงามตาที่หน้าบ้านธวัช ไม่ได้ขึ้นไปด้านบน หลังจากที่พ่อพาแม่ขึ้นไปพักผ่อนเรียบร้อย

“ดูแลตัวเองด้วยนะงามตา ถ้ามีอะไรที่จะให้พี่ช่วย ก็บอกมานะพี่ยินดี” เมืองรามกุมมืองามตาไว้ด้วยความห่วงใย

“ขอบคุณพี่รามมากๆเลยนะ ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในงานครั้งนี้ ถ้าไม่มีพี่ หนูทำอะไรไม่ถูกจริงๆ” งามตาเคว้งแล้วในตอนนี้

       เมืองรามอยากบอกงามตาตรงนี้เลยว่า ยังรักและอยากดูแลงามตาต่อ แทนจากธวัชแต่ก็ไม่กล้า เพราะอะไรก็ไม่รู้ได้ หรือเพราะว่ามันยังเร็วเกินไปก็เป็นได้ แต่ในใจหนะคิดไปไกลแล้ว ดีใจที่เพื่อนตาย เพราะงามตาจะได้โสด

       เมื่องามตา โสด เป็นแม่ม่าย เขาจะได้มีโอกาสมาจีบ และมาสานสัมพันธ์ได้แบบไม่น่าเกลียดอีกต่อไป จึงต้องห้ามใจไว้ก่อน ตอนนี้ก็คงต้องช่วยให้งานศพเสร็จลุล่วงไปด้วยดี รอมาตั้งนานยังรอได้ อีกสัก 3-4 เดือนคงยังไม่สาย เมื่อคิดได้ดังนั้น เมืองรามก็เผลอตัวทันทีไปชั่วขณะ ก่อนที่เมืองรามจะกลับออกไป เมืองรามดึงงามตาเข้ามากอด และหอมไปที่หน้าผากเบาๆ งามตาก็เคลิ้มไปพักใหญ่ พอตั้งสติได้ จึงสลัดตัวออกมา หน้าแดงเขินนิดๆ

“พี่ราม ทำอะไร พี่วัชยังนอนอยู่ในโลงนะ”

“พี่ขอโทษ ดูแลตัวเองด้วยนะ พี่ไปหละ” เมืองรามรีบหันหลัง แล้วเดินกลับออกไปเลยทันที

       งามตายืนอึ้งนิ่งไปพักนึงแล้วก็มีรอยยิ้มออกมา แบบเขินๆจากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นบ้าน ปิดประตูลงกลอนทันที ส่วนเมืองรามก็ขับรถตรงกลับบ้านทันที ตลอดทางก็ได้แต่คิดถึงหน้าของงามตาๆหลังจากอาบน้ำเสร็จก็มาล้มตัวลงนอน และก็พูดออกมาเบาๆกับตัวเอง

“ฝันดีนะพี่ราม ดูแลตัวเองด้วยนะ คิดถึงเช่นกัน” แล้วก็หลับตานอน ดึงผ้าห่มมาปิดตัว นอนยิ้มแบบมีความสุขอยู่คนเดียวเลยคืนนี้

$$$$$ ----- $$$$$

       องค์หญิงนอนสลบไปหลายวัน ถ้านับวันนี้ก็ 6 วันพอดี พอฟื้นตื่นขึ้นมา ก็ขอน้ำทาน

“ขอน้ำหน่อย ” นางกำนัล พิกุลและแขไข สองคนได้ยินชัด กำลังปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดห้องตามปกติ พิกุลอยู่ใกล้สุด กำลังจะน้ำหยิบส่งให้โดยไม่รู้ตัว ลืมไปว่า องค์หญิงเป็นใบ้ แต่ก็ยังไม่เอะใจอะไร แต่พอกลับมาคิดดูอีกที ก็นึกว่าหูตัวเองฝาด แต่พอองค์หญิง พูดขึ้นมาอีกครั้ง  

“น้ำ ขอน้ำหน่อย ใครอยู่แถวนี้บ้าง” เท่านั้นแหละ สองนางกำนัลตาเบิกโพง แล้วหันไปดู จะดีใจหรือตกใจดี ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ แขไขรีบวิ่งไปหาวรุณยุภาเพื่อนสนิทองค์หญิง ทันที ปล่อยให้พิกุล นั่งถือแก้วน้ำสั่นอยู่คนเดียว เพื่อให้ไปดูเป็นพยานว่าใช่องค์หญิงไหมที่พูด

“ท่านหญิงเพคะ ท่านหญิง ชะชะช่วย มากับหม่อมฉันที เดี๋ยวนี้เลย” แขไขรีบดึงแขนหญิงยุไปทันที

“อะไรของแก แขไข เบาๆฉันเจ็บนะ อะไรของแกนะ” แขไขชี้ไปที่องค์หญิงรัน ที่กำลังดื่มน้ำอยู่ตรงนั้น

“อะไรของแก ทำไม ก็แค่เพื่อนฉันนั่งทานน้ำแล้วมันแปลกตรงไหน แล้วนั่นพิกุลแกเป็นอะไรทำไมนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เป็นอะไร พวกแกสองคนถ้าจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว ไร้สาระ เรียกฉันมาดูคนดื่มน้ำเนี่ยนะ” นกหันไปส่งแก้วน้ำคืนให้พิกุล

“แกมาทำอะไรที่นี่เนี่ยไอ้ยุ ว่างมาก ไม่มีงานทำรึไง” นกพูดออกมาเฉยเลย และลืมไปเลยว่าตัวเองหนะเป็นใบ้ แล้วนี่เสียงใคร

       หญิงยุกำลังจะเดินกลับออกไป ก็ต้องชะงักและหยุดเดิน หันไปตามเสียงที่เธอได้ยิน ถึงแม้จะแหบๆหน่อยกับครั้งแรกที่ได้ยินเสียงของเพื่อน 16 ปีแล้วผ่านมา ที่ไม่ได้ยินเสียงจากเพื่อนคนนี้

“ไอ้รัน แกพูดได้ แกพูดได้แล้ว” หญิงยุวิ่งเข้าไปกอดเพื่อน นกเองก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองเช่นกันว่า ตัวเองพูดได้ หายจากการเป็นใบ้แล้ว จึงเรียกแขไขกับพิกุลเพื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

“พิกุล ยกมือซ้ายซิ” พิกุลทำตาม

“แขไข ยกมือขวา” แขไขก็ทำตาม

“ไอ้ยุ ฉันหายแล้ว ฉันไม่แหบแล้ว ฉันพูดได้เป็นปกติแล้ว”

       ทั้งสามคนงงว่า หญิงรันพูดถึงเรื่องอะไร พูดเรื่องเดียวกันรึเปล่า จนทำให้หญิงยุต้องถามเพื่อนแบบสีหน้างงๆ

“เดี๋ยวไอ้รัน  แกหมายความว่ายังไง แกหายแหบแล้ว ฉันไม่เข้าใจ” หญิงรันมองหน้าเพื่อน แล้วยิ้ม

“เอ้ย ไอ้ยุ แกเป็นอะไรของแกเนี่ย ความจำไม่ดีรึไงวะ ก็นี่ไง ฉันไม่สบาย เจ็บคอ พูดไม่ชัดเสียงแหบมาเป็นอาทิตย์ๆแล้ว เพราะฉันไปตะโกนแหกปากอะไรเล่นมาสักอย่าง จนหมอบอกให้ฉันนอนพักผ่อน ทำให้คอฉันอักเสบและเจ็บ พูดไม่ชัดเหมือนคนเป็นใบ้ แล้วเนี่ยฉันก็มาไม่สบายอีกสงสัยจะโดนฝนเมื่อวันก่อน มันก็เท่านี้ นอนพักแล้วก็ตื่นขึ้นมา ก็เท่านี้ ทำไม”

       เอาหละซิงานนี้ หญิงรันจำเหตุการณ์อะไรต่างๆที่ผ่านมาไม่ได้เลยเชียวรึ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการพูดหรือใช้ชีวิตของตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้ายจิตใจเพื่อน หญิงยุ จึงขยิบตาให้กับพิกุลและแขไข ให้เออ ออ ตามหญิงรันไปก่อน งานจะได้ไม่กร่อย

       ทั้งสามคนจึงแกล้งดีใจมากที่ องค์หญิงรันพูดได้ พอ วรุณยุภา รู้ว่า เพื่อนพูดได้แล้วดีใจมาก รีบวิ่งไปบอก เสด็จฯ และ หม่อมทันที “เสด็จอาเพคะ ท่านอาคะ” ทั้งสององค์กำลังยืนชมสวนอยู่ด้านล่าง หญิงยุวิ่งมาส่งเสียงมาแต่ไกล

“อะไรกันหลานยุ อะไรใจเย็นๆ นั่งก่อนๆมีอะไร วิ่งส่งเสียงมาแต่ไกลดีใจอะไรมา ถูกหวยมารึหลาน”

“ยิ่งกว่าถูกหวยอีกเพคะเสด็จอา ท่านทั้งสองต้องไม่เชื่อแน่ถ้าไม่เห็นด้วยพระเนตรและได้ยินด้วยพระกรรณเองเพคะ”

“อะไรเหรอหลาน ไหนบอกอามาซิ ว่าเธอดีใจอะไร” หม่อมมณีกุลสงสัยว่าหญิงยุดีใจอะไรเบอร์นั้น

“ฟังดีๆนะคะ” ทั้งสองพระองค์ตั้งใจฟังหญิงยุอย่างเต็มที่

“หญิงรัน พูดได้แล้ว หญิงรัน หายจากการเป็นใบ้แล้วเพคะ”

       หญิงยุมองไปที่ทั้งสองคน และสังเกตุปฏิกิริยา

“จริงหรือ เจ้าหูไม่ฝาดนะวรุณยุภา” เสด็จเจ้าฟ้า พูดออกมาแบบดีใจมาก เจ้าฟ้าไม่อยากจะเชื่อ หาหมอรักษามาตั้งนาน ไม่หาย แล้วอยู่ดีๆจะมาหายเอาดื้อๆง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง แค่ธวัชตายเนี่ยนะ

“จริงเพคะ ไม่เชื่อเสด็จอาก็ต้องเสด็จไปดูให้เห็นด้วยพระเนตรและได้ยินด้วยพระกรรณของพระองค์เองเพคะ”

       ท่านทั้งสอง ไม่เชื่อ คิดว่าหญิงยุโกหก จึงรีบไปดูด้วยตา แต่พอถึงหน้าห้องก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวขาเข้าไป ใจเต้นตุบตับกับเขาเหมือนกัน จึงสอบถามพิกุลก่อนอีกสักครั้ง เพื่อความแน่ใจ ปาฏิหาริย์จากความตายเหรอ อะไรจะปานนั้น คนหนึ่งตาย แต่อีกคนกลับพูดได้ แทบไม่มีใครอยากจะเชื่อ นี่แสดงว่า ถ้าธวัชฟื้นขึ้นมาได้ องค์หญิงก็คงจะต้องกลับเป็นใบ้อีกครั้งซิเนี่ย .. จริงรึนี่

“พิกุล ตกลงหญิงรันธิดาฉัน พูดได้แล้วจริงๆเหรอ หญิงยุหลอกฉันให้ดีใจเล่นๆหรือเปล่า”

“จริงเพคะท่าน หม่อมฉันกับแขไขได้ยินกับหูมาแล้ว สองคนแรกเลย ทีแรกก็นึกว่าผีหลอก หม่อมฉันฉี่แทบลาดเลย”

       พอได้ยินคำยืนยันจากปากพิกุลอีกคนก็ ตั้งสติและเตรียมใจ ค่อยๆเดินเข้าไปที่ห้องนอนของลูกสาว และเอ่ยวาจาออกไป

“ลูกหญิงฟื้นแล้วหน้าตาสดใสจัง สบายดีไหมลูกเป็นยังไงบ้าง” ท่านสองท่านตั้งใจฟังว่าลูกสาวจะเปล่งเสียงหรือวาจาใดออกมาให้ได้ยินเพื่อความสบายใจ

“สบายดีเพคะ เสด็จพ่อ ท่านแม่ด้วย ทั้งสององค์มีอะไรกับหญิงเป็นพิเศษหรือเปล่าเพคะ”

       หม่อมแม่ดีใจมาก รีบเขาไปกอดและลูบหัวที่ลูกสาวหมดเคราะห์หมดโศกแล้ว หม่อมแม่หอมแก้มลูกสาว มีความสุขมาก

“ลูกแม่ พูดได้แล้ว” ท่านแม่เข้ากอดลูกสาว หญิงรันงง เหมือนจำอะไรไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง 6 วันที่หลับใหลไป มันทำให้ความทรงจำบางอย่างขาดหายไปเหรอถึงจำอะไรไม่ได้ แล้วเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาหญิงรันจำอะไรได้บ้างหละ

“เดี๋ยวค่ะท่านแม่ ท่านแม่เป็นอะไร หญิงก็แค่ไม่สบาย เจ็บคอ นอนพักแค่ 2-3 วันเอง แล้วทำไมทุกคนทำเหมือนว่า หญิงเป็นอะไรหรือหายตัวไปเป็นปีหรือนานมากอย่างนั้นแหละ หญิงแค่ไม่สบาย ป่วย ป่วยคะ หญิงพูดได้ แล้วนี่อะไร แล้วทำไมต้องพูดว่าลูกพูดได้แล้ว มันหมายความว่าอะไร นี่มีใครช่วยอธิบายให้ฟังสักคนจะได้ไหม หญิงงงไปหมดแล้ว ไอ้ยุ อะไร ฉัน..”

       และก็เป็นจริงอย่างที่สาวใช้และวรุณยุภาพูด เสด็จฯ จึงส่งแก้วน้ำให้ลูกสาวทานเองด้วยมือของท่านเองอีกครั้ง

“ทานน้ำก่อนลูกใจเย็นๆนะ เอาเป็นว่าไม่มีอะไรนะ ลูกหายป่วยก็ดีแล้ว งั้นลูกพักผ่อนก่อนแล้วกัน พ่อกับแม่ขอตัวก่อนนะลูก”

       หญิงรันยังคงมีอาการข้างเคียงในหูเธอยังมีเสียงวิ๊งๆก้องอยู่ ยังไม่หายสนิทดี หูดับไปพักนึง ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง จึงล้มตัวลงนอนอีกครั้ง หญิงยุบอกให้นางกำนัลทั้งสองออกไปก่อน ที่เหลือเธอจะดูแลต่อเอง เพราะมีหลายอย่างที่ต้องคุยและสะสางกับเพื่อน เมื่อหญิงรันพูดได้หญิงยุก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงรัน ว่าทำไมถึงยังจำบางอย่างหรือหัวสมองกำลังสับสนอะไรอยู่ เธอปล่อยให้เพื่อนนอนพักผ่อนอีกสักครั้ง เพราะพึ่งฟื้นขึ้นมาครั้งแรก อาจจะมีอาการข้างเคียงอะไรแทรกซ้อนแน่นอน เพราะเธอผ่านเหตุการณ์พวกนั้นมาจนชินแล้ว ต้องให้เวลาและการปรับตัวสักพัก นางกำนัลทั้งสองรับคำสั่งจึงรีบออกไปทันที

>>>>> ----- <<<<<

       เมืองรามลืมเรื่องเช็คใบนั้นไปเลยหลังจากวันนั้น 3 วัน ผ่านไป (17-19) วันนี้วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวา ได้เวลาเอาผ้าไปซักซะที เมืองรามหยิบๆเสื้อผ้าที่หล่นอยู่รอบๆตะกร้าขึ้นมา หยิบตรงนั้นเก็บตรงนี้ แล้วก็โยนใส่ตะกร้า ชายโสด 1 สัปดาห์ซักที นี่แหละชายไทย 55555+ เมืองรามผิวปากฮัมเพลงไปเรื่อยๆ ก่อนเอาผ้าใส่เครื่อง เขาจะต้องตรวจสอบอีกครั้งตบๆจับๆบีบเสมอ เผื่อมีตังติดอยู่เสียดาย อิอิ พอเสื้อหมด ก็เป็นชั้นใน จนถึงกางเกง ล้วงไปมาก็ไปเจอเอาเช็คใบสำคัญ เกือบแล้ว เกือบสูญเงิน

“เออ ลืมไปเลย เกือบแล้วเรา ไอ้วัชกูขอบใจมึงนะที่ดลจิตดลใจกู ให้กูไม่ทำให้เช็คเปียก ไหนดูซิว่าเท่าไหร่”

       เมื่อเมืองรามเห็นก็ต้องตกใจ ว่าตัวเลขที่เขียนไปใหม่นั้นมันมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว

“8 ล้าน” เมืองรามตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาเข้า ธนาคารยังไงดี และชื่อใคร เพราะธวัชก็ตายไปแล้ว จะฝากให้งามตาก็ไม่รู้เลขที่บัญชี จะบอกงามตาก็คงไม่ยอมรับอีก พอตั้งสติได้ จึงรีบโยนผ้าเข้าเครื่องและเปิดเครื่องซักทันที จากนั้น ก็รีบขับรถกลับไปที่วัดหาหลวงตาบุญ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องนี้

“อ้าวมีอะไร หน้าตาตื่นมาเชียวโยม ใจเย็นๆนั่งพักก่อน” เมื่อเมืองรามตั้งสติได้ จึงเล่าเรื่องทั้งหมดทุกอย่างให้หลวงตาฟังทันที

***** ^^^^^ *****

       ร้านของธวัชต้องปิดลงโดยปริยาย หลังจากที่ธวัชเสียชีวิตลง ถ้านับวันนี้ก็ครบ 6 วันแล้ว งามตาบอกจ้อยกับเอี้ยงให้ปิดร้านไปก่อน และเอางานบางอย่างที่ค้างอยู่ไปให้ร้านอื่นทำแทน เพราะกำลังยุ่งไม่มีเวลาทำอะไร และไม่รับงานที่ไหนอีกเลยปิดป้ายไปเลยว่าปิดกิจการ จากนั้นค่อยว่ากันใหม่ ส่วนเงินเดือนเดือนนี้งามตาก็จ่ายให้จ้อยและเอี้ยงตามปกติ แต่เป็นครั้งสุดท้าย

“พี่จ้อย พี่เอี้ยง อย่าหาว่าหนูใจดำนะพี่ ตอนนี้พี่วัชก็ไม่อยู่แล้ว หนูก็ไม่มีความรู้ทางนี้ คงไม่สามารถทำร้านต่อได้ ต้องขอปิดร้านแบบถาวรนะ หวังว่าพี่สองคนคงจะเข้าใจหนูนะพี่ อีกอย่าง ถ้าเปิดต่อหนูก็คงไม่มีปัญญาจ้างพี่ทั้งสองเช่นกัน นี่เงินเดือนของพี่ทั้งสองคน เดือนนี้ สุดท้ายแล้วนะพี่ เงินก้อนนี้ก็เป็นก้อนสุดท้ายของหนูพอดี หลังจากหักลบกลบหนี้จ่ายค่านั่นค่านี่”

“ข้าเข้าใจงาม ขอบใจมาก ที่ยังมีน้ำใจให้เงินเดือนเดือนนี้กับข้าสองคน ขอบใจมาก” จ้อยนั่งน้ำตาซึม

       เอี้ยงยืนมองร้านขณะที่กำลังดึงประตูปิดและติดป้ายไว้ทั้งสองด้าน งามตาและจ้อยเดินออกมาจากร้าน

“หนูขอให้พี่สองคน ไปหางานที่อื่นทำก็แล้วกัน ขอให้พี่ทั้งสองหางานทำได้ไวๆนะพี่ เมื่อร้านปิดแล้ว หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปเหมือนกัน ขอตั้งสติก่อน ไหนจะแม่และพ่ออีก มันมีอีกหลายอย่างที่ต้องคิดหนะพี่ หนูก็พยายามทำให้ดีที่สุด หนูขอตัวไปก่อนหละ พ่ออยู่บ้านคนเดียว แม่ไม่รู้ว่าเป็นไงบ้าง หนูไปก่อนนะพี่ โชคดี ว่างๆถ้าผ่านมาก็อย่าลืมมาทักทายกันบ้างนะพี่”

       งามตาเดินกลับเข้าบ้าน จ้อยและเอี้ยงกอดคอเดินกลับที่พักของตัวเองเช่นกัน เดินคอตก อนาคตต่อจากนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้

----- ***** -----

“เอาอย่างนี้แล้วกันโยมเมืองราม ถ้าไม่อยากให้โยมงามตาลำบากใจ และเจ้าเองก็ไม่อยากลำบากใจ อาตมาจะขอเก็บเงินก้อนนั้นไว้ให้เอง โดยให้โยมไปเปิดบัญชีไว้ในนามมูลนิธิ อะไรสักอย่างก็แล้วกัน แล้วเอาสมุดบัญชีมาฝากไว้ที่อาตมา แบบนี้ก็คงพอจะช่วยครอบครัวของธวัชได้ อย่างน้อยถ้าบ้านนั้นเดือดร้อนจริงๆ เจ้าก็มาถอนและเอาเงินไปช่วยเป็นระยะๆก็แล้วกัน เจ้าว่ายังไงแบบนี้ดีไหม” หลวงตาบุญชี้ทางสว่างให้กับเมืองราม แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า จะเปิดในนามอะไรดีนี่ซิ แล้วเมืองรามจะว่างทำให้ได้ไหมหละ

“และที่สำคัญนะโยมเมืองราม โยมต้องหาใครสักคนเพื่อมาเปิดชื่อร่วมกันสองคน เวลาจะเบิกหรือถอนก็ต้องมีสองลายเซ็น แบบนี้จะรัดกุมดีและไม่สามารถที่จะเกิดการโกงหรือผิดใจกันได้ ว่าไงดีไหม ตอนนี้อาตมาก็คงจะช่วยโยมได้แค่นี้แหละ แต่ถ้าโยมมีความคิดและทางออกที่ดีกว่านี้ อาตมาก็ไม่ขัดข้องนะ” เมืองรามต้องกลับมาคิดหนักอีกเป็น 2-3 เท่าหละคราวนี้ มันก็ดีนะตามคำนะนำของหลวงตา เมืองรามเดินลงมาจากกุฏิ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเดินเข้าไปหางามตาที่บ้านหรือตรงขึ้นรถกลับเข้าบ้านตัวเองดี

       เมื่อตัดสินใจไม่ถูก จึงนึกถึงตัวช่วยคนสุดท้ายคือ ริชาร์ด ตัดสินใจโทรหาริชาร์ดก่อน ถ้าริชาร์ดมา พิมพ์ก็ต้องเป็นแซนวิสติดมาด้วยอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็มีอีก 2 หัว มาช่วยกัน เมื่อไม่มีหนทางใดที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ก็ต้องพึ่งบริการของริชาร์ดจนได้ครางนี้

***** ..... *****

       หลังจากนอนพักผ่อนอีกครั้งนานเหมือนกัน ตื่นมาอีกทีก็ช่วงบ่ายๆประมาณบ่าย 2 ตื่นมาคราวนี้ความทรงจำบางอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติเกือบหมดแล้ว นกตื่นขึ้นมาไม่เห็นใคร จึงลุกเข้าไปอาบน้ำ นอนแช่น้ำอุ่นในอ่างน้ำอย่างมีความสุข ร้องฮัมเพลงอยู่คนเดียวในห้องน้ำ และหลับตาลง ระหว่างนั้นเธอก็ได้นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาเท่าที่จะจำได้

       เริ่มตั้งแต่ตอนที่ธวัชเข้ามาช่วยเธอจากเมฆที่เกาะเกร็ด เรื่อยมาจนถึง ธวัชร้องเพลงให้เธอฟัง จนถึงจุดสำคัญคือตอนที่เธอกับธวัชมีเพศสัมพันธุ์กัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก นกนอนยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว ผ่านมาจนถึงธวัชโดนจับมัดเอาไว้กลางแดดกลางสนาม เธอก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปไม่ดีเอาซะเลย และสุดท้ายตอนที่ธวัชโดนยิง นกตกใจตื่นทันที

“พี่วัช” นกรีบลุกออกจากอ่างและออกมาแต่งตัวทันที

องค์หญิง เมื่อหายดี พูดได้ปกติดังเดิมแล้วจึงรีบแก้ไขและดำเนินการทีละเรื่องเท่าที่จำได้ อันดับแรก นกหยิบสมุดเก่าที่เคยใช้เขียนโต้ตอบมาเขียน รายชื่อคนที่เกี่ยวข้องกับเธอทั้งหมดเท่าที่จำได้ เรื่องที่สอง พยายามเขียนถึงเหตุการณ์ และเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวเธอให้ได้มากที่สุด เรื่องที่สาม พยายามนึกถึงสถานที่ที่เธอคิดว่าจำได้ และเคยไปมา เรื่องที่สี่ ความสัมพันธ์ของตัวเองกับใครสักคน โดยเฉพาะธวัช และสุดท้าย เรื่องสำคัญที่สุดที่จะลืมไม่ได้เลย คือเงินทองที่ใช้จ่ายผ่านมาในทุกๆวัน เธอดำรงชีวิตผ่านมาได้ยังไง นกจำได้ว่าไม่ใช่ที่นี่แน่นอน และจำได้อีกว่า มีกระเป๋าใบใหญ่ใบหนึ่งติดมาด้วยตอนที่อยู่วังเพื่อน มันอยู่ไหน น่าจะติดมาที่วังนี้ด้วยตอนเดินทางกลับมา นกจึงเริ่มค้นหากระเป๋าใบนั้นให้เจอ

       เธอมั่นใจว่าต้องมีหลักฐานสำคัญอะไรอยู่ในนั้นแน่ นกตัดสินใจเดินหาทุกซอกทุกมุมที่คิดว่าจะเจอ แต่หาเท่าไหร่ในห้องนี้ เธอก็หาไม่เจอ จึงเรียกนางกำนัลสนองพระโอษฐ์ทั้งสองคนเข้ามาหาทันที

“พิกุล แขไข มีใครอยู่บ้างเข้ามาหาฉันหน่อยซิ พิกุล แขไข ไปไหนกันหมดนะ” ไม่นานทั้งสองคนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน

“เพคะองค์หญิง มีอะไรให้หม่อมฉันสองคนรับใช้เพคะ”

“เธอสองคนเห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่ๆสีเขียวขี้ม้าของฉันบ้างไหมตอนที่กลับมาจากวังหญิงยุหนะ” ทั้งสองคนส่ายหน้า

%%%%% ----- %%%%%

       เมืองรามนัดริชาร์ดมาเจอกันที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง แถวๆสะพานพระราม 5 ฝั่งธนฯ เมื่อเจอกันจึงเล่าทุกอย่างให้ริชาร์ดฟังรวมถึงเรื่องที่ไปขอคำปรึกษาจากหลวงตาบุญ จึงทำให้ริชาร์ดคิดหนักเช่นกัน เพราะปัญหานี้ใหญ่มากจริงๆ เงินก็ไม่ใช่ของเรา แถมงามตา ก็ยังมีทิฐิกับเจ้าฟ้าอีก แต่พิมพ์กับมองเป็นเรื่องง่าย พวกผู้ชายอาจจะคิดมากจนเกินไป จนมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆหยุมหยิมบางอย่างไป

“พี่ทั้งสองคนจะมามัวนั่งคิดมากทำไม หนูว่า มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย ง่ายนิดเดียว”

       เมืองรามหันไปมองหน้าพิมพ์ ริชาร์ดก็เช่นกัน

“มันใช่เวลามาเล่นไหมเนี่ยพิมพ์ พวกพี่กำลังซีเรียสกันอยู่นะ” เมืองรามกล่าว

“จริงๆ หนูไม่ได้พูดเล่น ง่ายนิดเดียวจริงๆ” ริชาร์ดก็ยังไม่เข้าใจที่แฟนตัวเองพูดออกมา

“ไหนหนูลองพูดมาให้พี่สองคนฟังซิ เอาเข้าใจแบบง่ายๆเลยนะ” พิมพ์ยิ้ม แล้ววางแก้วน้ำดื่มลง

“ฟังนะ ที่พี่กังวลกันคือว่าเงินจำนวนนี้ พี่ไม่รู้ว่าจะให้งามตายอมรับยังไงใช่ไหม”

“ใช่” ริชาร์ดกับเมืองรามตอบพร้อมกัน “ก็ไม่เห็นยาก พี่ก็แค่เอาเช็คใบนี้ฝากเข้าธนาคารในชื่อบัญชีของงามซะก็เท่านั้น”

“ตรงนั้นหนะพี่รู้ แต่พี่ไม่มีเลขที่บัญชีงาม ไอ้ครั้นจะไปขอ งามก็ต้องถามอีกว่าขอไปทำไม แล้วพี่จะตอบยังไง”

“พี่นี่เก่งแต่เรื่องวางแผนจับผู้ร้ายจริงๆเลยเนาะ ทีเรื่องง่ายๆหญ้าปากคอกแค่นี้ก็ทำไม่ได้เนาะ เลิกเป็นตำรวจเหอะ”

“อ้าว ไอ้เด็กคนนี้ ชักเอาใหญ่แล้วนะ” เมืองรามเอามือเคาะกบาลพิมพ์เบาๆ

“เจ็บนะพี่” พิมพ์เอามือจับหัว

“คืองี้ เรื่องที่จะเอาเลขที่บัญชีธนาคารจากงามตามามันไม่ใช่เรื่องยาก หนูมีวิธี”

       พิมพ์ใช้นิ้วกระดิกให้สองหนุ่มเข้ามาหาและฟังเธออย่างใกล้ๆ สองหนุ่มทำตามขยับเข้าไป

“พี่จำได้ไหมว่าตอนงานศพพี่ธวัช ส่วนใหญ่ใครเป็นคนเก็บซอง” สองหนุ่มมองตากัน

“ที่แน่ๆไม่ใช่งามตาแน่” พิมพ์บอก สองหนุ่มชี้มาที่พิมพ์

“ใช่หนู..เพราะฉะนั้น ตอนนี้หนูรวบรวมและทำบัญชี หักลบรายรับรายจ่ายเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเอาเงินสดทั้งหมดไปให้งามตา แต่หนูเปลี่ยนใจแล้ว จะไม่ไปให้ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าติดราชการ และจะโทรไปขอเลขที่บัญชี ของงามตา เพื่อจะโอนเงินจำนวนนี้ให้ ก็เท่านี้ พวกพี่หายกังวลใจรึยัง เก็ตไหม มันก็แค่นี้ ไงเลิกกลุ้มกันรึยัง”

“สุดยอดเลยพิมพ์ ทำไมแฟนพี่ถึงได้เก่งและฉลาดแบบนี้ สุดยอดมากจริงๆแฟนพี่ แยบยลมาก มามะมาให้พี่ชื่นใจที”

“พอเลย หยุดเลยไม่ต้องมาลักไก่ ไม่ได้แอ้มหนูหรอก วิธีนี้ อดอยากปากแห้งมาจากไหนพี่ริช ไปเลยหนูไม่หลงกลหรอก”

“แล้วพิมพ์จะทำยังไงต่อ” เมืองรามเริ่มสบายใจ

“ก็ไม่ต้องคิดมาก พี่ก็แค่เอาเช็คใบนั้นมาให้หนู เดี๋ยวไม่เกินสองวัน หนูจัดการให้ เงิน 8 ล้านกับเงินที่เหลือจากงานศพพี่วัชจะเข้าไปอยู่ในบัญชีของงามตาอย่างปกติเองเงียบๆเลย สบายใจได้ ไว้ใจหนูได้เลย” พิมพ์ยิ้มให้ทั้งสองหนุ่ม

“งานหมูๆแบบนี้ ถ้าพี่ไม่เชื่อ เดี๋ยวหนูจะเอาเลขที่บัญชีของงามตา มาให้พี่เก็บไว้ดูต่างหน้าอีกด้วย เครไหม สบายใจขึ้นมาบ้างรึยัง พ่อหนุ่มทั้งสอง” เมืองรามและริชาร์ดยิ้มออกมาได้ มันเป็นหญ้าปากคอกจริงๆสำหรับสองหนุ่ม

       แต่สำหรับพิมพ์ มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากหมูๆ พิมพ์รู้สึกโล่งยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูกที่สามารถช่วยเหลือครอบครัวของธวัชได้จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ทั้งหมดนั่งทานอาหารแบบมีความสุขและสบายใจ โดยเฉพาะเมืองราม ที่สามารถหาทางออกช่วยเหลือครอบครัวเพื่อนได้ในครั้งนี้ จึงทำให้เขาหายเครียดไปได้เยอะเลยทีเดียว แต่อีใจนึงก้ยังคิดถึงเรื่องของงามตาพ่วงไปด้วย

xxxxx ===== xxxxx

       นกพยายามหากระเป๋าเป้ใบนั้นให้ได้ บอกให้สองสาวนางกำนัลไปหาให้เจอทุกห้องที่เป็นห้องเก็บของ ไม่เจอไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้า หญิงยุเดินเข้ามาพอดีเห็นเพื่อนกำลังอารมณ์เสียจึงตะโกนถามไป

“ไอ้รันแกทำอะไร ทำไม หน้าถึงดูยุ่งจังแก” นกยังไม่สนใจเพื่อน

“แหมพอฟื้นไข้ขึ้นมา ก็ทำตัวยุ่งเลยนะแก เดี๋ยวไข้ก็กลับอีกหรอก”

“เออน่า นั่นมันเรื่องของฉัน ฉันหาของอยู่ ไอ้ยุแกเห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่ๆสีเขียวขี้ม้าบ้างไหม ฉันจำได้ว่าตอนที่มาจากวังแก ฉันติดมันมาด้วยนะ”

        หญิงยุจำได้ลางๆ “เดี๋ยวนะ อะไรนะแกหาอะไรอยู่นะ” หญิงยุไม่ได้สนใจตั้งแต่ครั้งแรก จึงถามกลับไป

“โอ๊ยแกนี่ยังไงวะ ฉันบอกว่า แกเห็นกระเป๋าเป้ใบใหญ่ๆสีเขียวขี้ม้าบ้างไหม ฉันจะเอาของสำคัญมันอยู่ในนั้น หูแกไม่ดีรึไง”

       หญิงยุรีบวิ่งลงไปดูที่หลังรถเพราะไม่แน่ใจว่าใช่ไหม หญิงรันไม่สนใจเพื่อน อยู่ดีๆก็วิ่งลงไปเฉยเลย ส่ายหัวแล้วก็หาของต่อ

“อันนี้ใช่ไหมที่แกหาอยู่หนะ” ไม่นาน หญิงยุก็เอาสิ่งที่หญิงรันต้องการมาโยนให้ตรงหน้า

“เออ ใช่ๆ ใบนี้แหละ” นกดีใจมาก รีบวิ่งไปเอามาทันที

“แกเจอมันที่ไหนไอ้ยุ ขอบใจมากเพื่อน” นกกอดเพื่อนรักที่หาของรักของหวงเธอจนเจอ

“อยู่หลังรถฉันนะซิ ดีนะที่ฉันไม่โยนมันทิ้งไปเสียก่อน เห็นมันอยู่นานแล้ว ไม่รู้ว่าของใคร กำลังคิดว่าจะเอาไปโยนทิ้งพอดี ถ้าเป็นของแกก็เอาไป แค่นี้ใช่ไหม” หญิงยุทำท่างอน

“ทีมีปัญหาหนะเรียกใช้ พอไม่พอใจก็ตัดเพื่อน เออฉันมันคนไม่ดี”

“เออๆ ฉันขอโทษ ใครจะไปตัดเพื่อนอย่างแกได้ลงวะ สุขก็อยู่กับฉัน ทุกข์ก็อยู่ด้วยกัน” หญิงรันมองหน้าและส่งยิ้มให้เพื่อน

“ฉันตัดแกไม่ลงหรอกเพื่อนขอบใจมากนะเพื่อนรัก” แล้วนกก็กระโดดเข้ามาหอมแก้มเพื่อนทั้งสองข้าง

“บ้าไอ้รัน เดี๋ยวฟ้าผ่าตายห่ากันพอดี” หญิงรันไม่สนใจ ยังคงหอมไม่เลิก หญิงยุผลักเพื่อน แล้วรีบวิ่งหนีทันที

“ก็ฉันรักแกนี่ จะกลัวไปทำไม มา เอาอีก” นกรีบแกล้งเพื่อนต่อวิ่งตามหอมแก้ม จนหญิงยุจำต้องวิ่งหนีมีความสุขกันไปตามอัตภาพ

+++++ ***** +++++

       ทุกวันประมาณ 5 โมงเย็น งามตาจะมาดูแลหลุมฝังศพของสามี มาทำความสะอาดเก็บกวาดใบไม้ที่ล่วงหล่นลงมา และตอนเช้าจะเอาอาหารมาวางรวมถึงพวงมาลัย ทำอย่างนี้เป็นประจำและมานั่งร้องไห้พร่ำพรรณนาแบบนี้เสมอประมาณ 15 นาทีแล้วก็กลับบ้านไป ทดสภาพร่างกายก็ไม่ค่อยดีมีโรคประจำตัว ไหนจะต้องมาดูเมียที่สติไม่ดีและบางครั้งก็ต้องไปหาหมอ เรื่องทุกอย่างในบ้านไม่ว่าหุงข้าว ทำกับข้าว ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า จึงต้องมาตกหนักที่ลูกสะใภ้อย่างงามตาแล้วในตอนนี้

       เมืองรามแอบมาดูงามตาโดยที่ไม่ให้เธอรู้เสมอ อยากเข้าไปช่วยแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันจะดูน่าเกลียด กลัวชาวบ้านจะว่าเอาได้ว่า ผัวตายยังไม่ถึงอาทิตย์ ก็มีผู้ชายคนใหม่เสียแล้ว ทำให้เมืองรามต้องอดทนต่อไปกับความรัก ความคิดถึงของเขาในครั้งนี้

<<<<< $$$$$ >>>>>

       คืนนี้นกเริ่มค้นกระเป๋าเป้ใบนั้นเพียงลำพัง อย่างมีความหวัง นกเทกระเป๋าเป้ใบนั้นออกมาลงกับพื้นห้อง แล้วคุ้ยเขี่ยหาสิ่งที่ตนเองต้องการ เจอตุ๊กตาหมีน่ารักขนาดกลางจากงานวัดตัวแรก กระเป๋าสตางค์เก่าๆขนาดกลาง 1 ใบ โทรศัพท์ที่ใช้สำหรับร้านค้าตอนขายอาหาร 1 เครื่อง ผ้าเช็ดหน้าสีชมพู 1 ผืน ผ้าขนหนูสีฟ้าอ่อน ตอนที่นอนโรงพยาบาลและเจอจนได้ สมุดฝากเงินของธนาคารแห่งหนึ่งที่ ธวัชเปิดให้เธอ เปิดภายใต้ชื่อ ธวัช และวงเล็บไว้ว่า สกุณา รุจิศม เพราะนกไม่มีบัตรประชาชน

“เจอแล้ว..จริงๆด้วย ฉันไม่ได้ฝันไป มันเป็นความจริง พี่วัช ฉันแต่งงานแล้วกับพี่วัชจริงๆ ฉันจำได้แล้ว”

       นกกอดสมุดบัญชีเล่มนั้น และมีความหวังว่า เธอคงจะได้เจอสามีในเร็ววัน เพราะนกยังไม่รู้ว่าสามีตายไปแล้วตั้งแต่วันนั้น

>>>>> ##### <<<<<

       รุ่งเช้าวันที่ 21 ธันวาคม พิมพ์เริ่มทำตามแผนที่ได้วางเอาไว้ โดยโทรไปบอกงามตาตามแผนทุกอย่าง

“งาม นี่พิมพ์นะ ที่ว่าจะเข้าเอา ยอดสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปให้ ฉันคงเข้าไปไม่ได้แล้วหละ”

“อ้าวทำไมหละ วันนี้ฉันนัดพวกร้านต่างๆที่ซื้อของไว้ ต้องเอาเงินไป Clear ให้กับเขาด้วยนะพิมพ์”

“ต้องขอโทษจริงๆ มีงานด่วนเข้ามากระทันหัน ฉันต้องไปราชการด่วนที่ลำพูนตอนนี้ เอางี้ ไม่เป็นไร งามเอาเลขที่บัญชี มาให้ฉันนะ เดี๋ยวเราจะฝากให้ ไม่เห็นจะยากเลย ได้ไหม” พิมพ์พยายามหลอกล่อให้งามตาเชื่อ ว่าแต่งามตาจะฮุบเหยื่อตามแผนหรือเปล่า

“มันจะดีเหรอ กว่าเงินจะเข้ามันช้านะ นี่ฉันกำลังจะออกไปแล้วนะ ไม่เป็นไร เอาไว้ให้เธอกลับมาแล้วค่อยให้ฉันก็ได้ อีกอย่างฉันจำเบอร์บัญชีไม่ได้ สมุดอยู่ไหนก็ไม่รู้ ต้องใช้เวลาหาก่อน ไม่เป็นไร ยังพอมีเงินเก็บเหลืออยู่บ้าง เธอกลับมาแล้วรีบเอามาให้ฉันก็แล้วกัน แค่นี้นะ” งามตารีบวางเพราะต้องรีบไปจริงๆ

“เดี๋ยว” ไม่ทันแล้ว “ตายละวา เอาไงหละเนี่ยทีนี้ ผิดแผนหมดเลย”

       แต่พิมพ์ยังไม่หมดความพยายาม กันเหนียวจึงข้อความทิ้งไว้ในไลน์ งามตาจะอ่านหรือไม่ อันนี้ไม่รู้

“ถ้าเจอเลขที่บัญชีแล้ว อยาลืมส่งให้เรานะ จะได้รีบโอนส่วนที่เหลือให้ เราไม่อยากเก็บไว้นาน”

<<<<< $$$$$ >>>>>

       ด้วยความดีใจอย่างเป็นที่สุด เช้าวันนี้นกรีบวิ่งมาหาพระบิดาและถามถึง ธวัช จากพระบิดา ด้วยรอยยิ้มที่สดใส

“อรุณสวัสดิ์ค่ะเสด็จพ่อ ท่านแม่” ทั้งสองคนยิ้มรับลูกสาวด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

“มีอะไรหรือลูกหญิง วันนี้ถึงดูสดใสจัง มามาให้แม่กอดหน่อย” หม่อมมณีกุลอ้าแขนรอรับลูกสาวที่น่ารัก

“นั่นซิ พ่อก็สังเกตุมาสักพักแล้ว ตั้งแต่เช้าเนี่ย ลูกหญิงอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะ อะไรน้อ ทำให้ลูกสาวพ่อเป็นแบบนี้”

       หญิงรันเดินเข้าไปกอดท่านแม่และหอมแก้มทั้งสองข้าง

“ไหนบอกแม่ซิ ว่าอารมณ์ดีอะไร” หญิงรัน หันไปบอกด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใส

“หญิงจำเรื่องราวต่างๆได้หมดแล้วนะค่ะ ท่านแม่” ท่านแม่ยิ้มแล้วเอามือลูบหัวลูกสาว

“ดีแล้ว แม่ดีใจด้วย”

“พระบิดาเพคะ พี่วัชหละ พระสวามีหนูอยู่ไหน” หญิงรันพูดแบบไร้เดียงสา

“นี่ก็หลายวันแล้ว ทำไมหญิงไม่เห็นพี่เค้าเลย” ท่านพ่อ ท่านแม่ ไม่รู้จะบอกลูกยังไง

“หนูจำได้ลางๆว่า พี่วัชอยู่กับหนูครั้งสุดท้ายเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พอหนูไม่สบาย..” หม่อมมณีกุล สะกิดพระสวามี พยักหน้าเล็กน้อย ว่าต้องบอกความจริงให้ลูกรับรู้แล้วหละ ปิดบังเอาไว้ไม่ได้แล้ว

“อะไร ตกลง มันมีอะไรเกิดขึ้นกับสามีหญิงหรือ พระบิดาท่านแม่ บอกหญิงมาเดี๋ยวนี้นะ ท่านทั้งสองเอาสามีหนูไปไว้ที่ไหน”

       พระบิดาจึงยอมบอกความจริง

“ธวัช ตายแล้ว” หลังจากที่บอก หญิงรันนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ จากหน้าที่มีรอยยิ้มกลับกลายเป็น บูดบึ้งทันที

“พี่วัชตายได้ยังไง ก็เมื่อวันก่อนยังนอนกอดหญิงอยู่เลย พระบิดาโกหก ท่านแม่ พระบิดาหยอกหญิงเล่นใช่ไหม”

“พ่อเสียใจด้วย พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ธวัชเสียชีวิตจริงๆ พ่อขอโทษนะลูกหญิง”

“ไม่จริง ไม่จริง สามีหญิงต้องไม่ตาย พี่วัชแข็งแรง พี่วัชยังอยู่ พระบิดาทรงเล่นแรงไปแล้ว หญิงรู้ว่าหญิงผิด ที่มีสามีเป็นแค่สามัญชนคนธรรมดาพระบิดาเลยไม่ชอบไม่เป็นไรหญิงทนได้ แต่เรื่องแบบนี้ หญิงไม่สนุกด้วย บอกหญิงมาเถอะค่ะว่าสามีหญิงอยู่ไหน”

“พระบิดาไม่ได้หลอกหญิงหรอกลูก พวกเราไปงานศพธวัชมาแล้วจริงๆ เมื่อ 3 วันที่แล้วธวัชเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ 7 วันแล้วนะลูกหญิง ถ้าลูกไม่เชื่อ ลูกก็ไปถามหญิงยุเพื่อนลูกซิ หญิงยุเป็นคนพาพ่อกับแม่ไปเอง เรื่องแบบนี้จะมาโกหกทำไมกัน”

“อะไรนะ นี่ทุกคนรู้เรื่องกันหมด แล้วปิดบังเรื่องสำคัญนี้กับหญิงเหรอ แล้วทำไมมีใครบอกหญิง ไม่..หญิงต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าพี่วัชตายแล้วจริงๆ”

       หญิงรันวีนแตกแล้วตอนนี้ “หญิงยุนะหญิงยุ อยู่ด้วยกันก็ตั้งหลายวัน ทำไมถึงไม่บอก เลิกคบซะดีไหมเนี่ย” พูดจบหญิงรันรีบวิ่งออกไป กลับห้องทันที และรีบโทรหาเพื่อนรักเพื่อ Clear เรื่องนี้อย่างไว

##### ^^^^^ #####

       งามตาตระเวนไปจ่ายค่าข้าวของเครื่องใช้ที่เอามาใช้ในงานศพ ถึงจะเป็นเพียงบริเวณใกล้ๆ แต่ก็เหนื่อยเอาการเพราะหลายร้าน ที่ทุกร้านยอมให้ติดและจ่ายช้า เพราะธวัชมีบุญคุณกับทุกคนแถวนั้น เขาจึงเชื่อใจว่างามตา คงจะไม่เบี้ยว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะเงินที่งามตาเก็บไว้หมดจริงๆ ไหนจะค่าน้ำแข็ง ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายปลีกย่อย 2 พันจะไปพออะไร และสุดท้ายค่าโลงที่บรรจุธวัช งามตาจ่ายได้แค่ 2 แห่งก็หมดแล้ว ค่าดอกไม้ที่มาจัดในงานก็ยังไม่พอ งามตาเปิดกระเป๋าดูเหลือแค่ 52 บาท

“อ้าวว่าไงงามตา จะมาจ่ายค่าดอกไม้ในงานใช่ไหม นี่ก็สามวันแล้วนะ 3,200 ฉันคิดแค่ 3 พันถ้วนก็แล้วกัน นี่เห็นว่าแกเป็นเมียพี่วัชหรอกนะ ฉันถึงให้ เอ้าว่าไง” งามตายกมือไหว้เจ๊ร้านดอกไม้

“เจ๊ ฉันขอผลัดอีกสักวันสองวันได้ไหม” เจ๊มองหน้าเลยทันที

“คนที่เก็บเงินพอดีเขาไม่อยู่ นะนะเจ๊นะ” พอขอผลัดผ่อน เจ๊โวยทันที

“โอ๊ย อะไรกัน จะผลัดไปถึงไหน ทีร้านอื่นแกไปจ่ายเขาหมด ทีร้านฉันแกบอกไม่มี ไปไป จะไปไหนก็ไป ยิ่งนานดอกก็ยิ่งขึ้นนะจะบอกให้ ไปไป บังหน้าร้านฉัน อารมณ์เสีย ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ฉันไม่ให้ติดหรอก”

แล้วก็เดินหนีไปเลย งามตาเดินกลับออกมาด้วยความผิดหวัง เสียใจที่เกิดมาจน จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา บ่ายสองกว่าแล้ว และเหลือบไปเห็นข้อความที่พิมพ์ทิ้งไว้ให้ งามตาจึงเปิดอ่าน

“ถ้าเจอเลขที่บัญชีแล้ว อยาลืมส่งให้เรานะ จะได้รีบโอนส่วนที่เหลือให้ เราไม่อยากเก็บไว้นาน”

       เมื่อเป็นแบบนี้ ความหวังเดียวที่จะต่อชีวิตได้ในตอนนี้ก็คือ ต้องยอมกลับไปหาสมุดบัญชีที่ธวัชเคยเปิดไว้ให้ทันที

///// +++++ /////

“ไอ้ยุทำไมแกไม่บอกฉันว่าพี่วัชเสียแล้ว แกปิดฉันทำไม” หญิงรันใส่เพื่อนเป็นชุด

“นี่แกจำเรื่องทุกอย่างได้หมดแล้วเหรอ” หญิงยุตั้งตัวไม่ติด

“ก็เออ ซิวะ ผัวทั้งคนทำไมฉันจะจำไม่ได้ ทำไมแกถึงทำกับฉันแบบนี้วะ ผัวตายแล้วแกไม่บอกอะไรฉันเลย แกนี่ใจร้ายกับฉันมากเลยนะยุ ฉันจะไปหาพี่วัช แกต้องพาฉันไป ตอนนี้พี่วัชอยู่ไหน ฉันจะไปหาผัวฉัน ถึงตายไปแล้วฉันต้องเห็นกับตา” นกไม่สน

“ไม่ทันแล้วมั้ง ไม่รู้ว่าปาดนี้ งามตามันเผาผัวแกไปรึยัง นี่มันก็หลายวันแล้วนะแก แกตัดใจเสียเถอะนะ เชื่อฉัน”

“ไม่ ถ้าแกไม่ช่วย ฉันไปเองก็ได้ แค่นี้นะ” พูดจบหญิงรันก็วางสายทันที

“ไอ้รัน เดี๋ยว ไอ้รันแกจะทำอะไร”

       ไม่ได้การณ์แล้ว หญิงยุรีบออกจากห้องและขับรถไปหาหญิงรันที่วังทันที ไม่รู้ว่าจะทันการณ์หรือเปล่า เพราะนี้มันยังเช้าอยู่

***** ฿฿฿฿฿ *****

       งามตาเมื่อกลับถึงบ้านก็รีบค้นหาสมุดบัญชีทันที ไม่รู้ว่าเอาไปซุกไว้ที่ไหน เพราะมัวแต่วุ่นๆกับงานศพธวัช เลยลืมไปหมดว่าเก็บเอกสารสำคัญๆไว้ที่ใด ที่บ้านหรือที่ร้านก็ไม่รู้ พอค้นหาทั่วห้องไม่เจอ ไม่ว่าจะหัวเตียง ในตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อไม่เจอเธอรีบวิ่งไปที่ร้านเปิดดูที่ลิ้นชักทันที สุดท้ายก็เจอจนได้ งามตารอดตายแล้ว จึงรีบปิดประตูร้าน และรีบส่งเลขที่บัญชีไปให้พิมพ์ทันทีในเย็นวันนั้น แต่โชคยังไม่เข้าข้างงามตา เพราะพิมพ์กำลังสวีทจี๋จ๋ากับริชาร์ดอยู่ตามประสาคนมีแฟน

----- ^^^^^ -----

       สายๆของวันนี้ หญิงรันตัดสินใจเดินเข้ามาพูดความจริงทุกอย่าง กับพระบิดา และท่านแม่แบบเปิดอก เพราะไหนๆธวัชก็ได้เสียชีวิตจากโลกนี้ไปแล้ว หญิงรันไม่อยากที่จะปกปิดความจริงที่มีอยู่ เมื่อตัดสินใจว่าจะไปก็ต้องไป ใครก็ห้ามไม่ได้

       เมื่อทั้งสองรู้ความจริงทั้งหมดจากปากลูกสาวว่าธวัชเป็นใครสำคัญกับเธอแค่ไหน ในเมื่อคนที่ลูกสาวรักได้เสียชีวิตไปแล้ว ท่านพ่อก็ยอมให้องค์หญิงรันเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ส่วนเรื่องของโกมุทนั้น หญิงรันก็ไม่ติดใจ ไม่เอาเรื่อง ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฏหมายไป เพราะโกมุทก็ได้ถูกจับและชดใช้กรรมไปแล้ว เธอขอท่านพ่อกลับไปยังบ้านของธวัช ที่เธอเคยอยู่โดยมีข้ออ้างที่ดี “หญิงขอกราบประทานอภัยพระบิดานะเพคะ หญิงกราบขอความกรุณาอนุเคราะห์ให้หญิงไปเถอะ หญิงขอไปทำหน้าที่ลูกสะใภ้ ให้กับพ่อแม่ของสามี ขอไปทำหน้าที่ดูแล และทดแทนให้กับคนที่เคยมีบุญคุณกับหญิงมาตลอดเกือบปี”

“ไปเถอะลูก ถ้าลูกหญิงคิดว่ามันดี และจะสามารถทดแทนกับสิ่งที่พ่อได้กระทำลงไปแบบไม่ได้ยั้งคิด โดยขาดการไตร่ตรอง ถ้ามันเป็นความสบายใจของลูกหญิง พ่ออนุญาต ไปเถอะ ไปทำให้ถูกต้อง มีอะไรขาดเหลือก็บอกพ่อได้เลย พ่อยินดีเสมอ”

     ท่านพ่อทรงยอม เพราะเพื่อเป็นการไถ่โทษความผิดของตัวเองไปในตัวด้วย หญิงยุวิ่งเข้ามาพอดีแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วกับการตัดสินใจของเพื่อน “ไม่นะรัน แกต้องไม่ทำแบบนั้น” นี่ก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ขององค์หญิงทันที 

***** +++++ *****

     งามตา นั่งรอปาฏิหาริย์จากพิมพ์คนเดียวเท่านั้น รอแล้วรอเล่าทั้งคืนก็ยังไม่มีข้อความหรือ Message อะไรส่งกลับมาให้เห็นเลย รอจนรอไม่ไหวเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ จนรุ่งเช้า 7 โมง งามตาตื่นขึ้นมาตามปกติ เธอลุกไปอาบน้ำก่อนทันทีโดยยังไม่ได้ดูโทรศัพท์ หลังจากอาบน้ำเสร็จงามตาก็มานั่งแต่งตัว หันไปจับโทรศัพท์และเปิด Net ตามปกติ สักพักพอระบบทำงาน ก็เห็นว่า มีภาพสลิปการโอนเงินจากพิมพ์ จำนวน 59,986 บาทส่งเข้ามาให้ งามตาดีใจมากกระโดดโลดเต้นตัวลอยลืมตัว จนผ้าเช็ดตัวที่ใส่อยู่หลุดออกจากตัว งามตารีบดึงผ้าขึ้นมาห่มเช่นเดิม เธอดีใจสุดๆ อย่างน้อยยอดเงินที่เห็นก็มีมากพอที่จะใช้หนี้

“ฉันรอดตายแล้ว ขอบใจมากนะพิมพ์ โห ทำไมมันถึงมากแบบนี้เนี่ย พี่วัชขอบคุณมาก เพราะพี่เป็นคนดี เมียอย่างหนูถึงไม่อดตาย ขอขอบคุณความดีของพี่ที่ทำเอาไว้นะพี่ ทุกคนจึงได้เต็มใจมาช่วยพี่มากมายถึงขนาดนี้ หนูรักพี่นะ ชาตินี้หนูคงจะรักใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจากพี่คนเดียว หนูขอสัญญาว่าจะไม่หวั่นไหวแม้มีใครจะมาจีบก็ตาม หนูจะมีพี่คนเดียว เพราะหนูรักพี่ นะพี่วัช”

<<<<< ----- >>>>>

       สุดท้ายหญิงยุก็ต้องพาเพื่อนกลับมาที่เดิมคือบ้านของธวัช กระเป๋าใบใหญ่ยังคงอยู่หลังรถยังไม่เอาลง เมื่อองค์หญิงไปถึงที่นั่น ก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะว่าคนแถวนั้น ไม่มีคนพูดกับเธอเลยหรือบางคนก็ตอบบ้างแล้วก็รีบเดินหนีไป

“พี่คะ น้า ลุง จำหนูได้ไหม หนูนกไง เมียพี่วัชหนะ” ทุกคนแถวนั้นมองหน้าแล้วเดินหนีไป ที่สำคัญทุกคนจำได้ว่านกเป็นใบ้พูดไม่ได้ แล้วนี่อะไรมาอ้าปากถาม มีเสียง คนแถวนั้นยิ่งไม่เชื่อใหญ่เลย

“น้า นี่หนูจริงๆนก เมียพี่วัชไง ลุงจำหนูไม่ได้เหรอ” นกพยายามอธิบายให้คนแถวนั้นเข้าใจ ว่าฉันนี่แหละ นกคนที่เคยเป็นใบ้

“อย่ามาตอแหลกับฉันเลยนังหนู นังนกเมียเจ้าวัชมันเป็นใบ้ แล้วนี่แกพูดได้ แกเป็นใคร อย่ามาสวมรอยเป็นเมียเจ้าชายเลย ไหนๆมันก็ตายไปแล้ว กลับไปซะ ระวังคนแถวนี้ไว้ด้วยแล้วกัน ถ้ายังมัวมาแอบอ้างอยู่อีก ฉันไปหละ ไม่อยากจะยุ่งด้วย”

“ลุง..โอ๊ย” นกเอามือกุมหัว ทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่มีใครเชื่อเธอเลยสักคน หญิงยุเดินเข้ามาเตือนสติ

“ลุงเขาก็พูดถูกนะแก ทุกคนจำภาพในอดีตว่านกเป็นใบ้พูดไม่ได้ ยิ่งแกมาทำแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อแกหรอก อีกอย่างตอนนั้นแกโทรมยังกะอะไรดี แล้วดูแกตอนนี้ซิสวยสะพรั่งออกขนาดนี้ มีสง่าราศี ยังไงก็ไม่มีใครเชื่อแก กลับเถอะรันมันสายไปแล้ว”

>>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 42 .. “ ดอกไม้ที่ไร้แจกัน ”

ตอนที่ 41 .. “ อิสระภาพที่ยิ่งใหญ่ ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.