ตอนที่ 38 .. “ ความจริงที่ปรากฏ ”

องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

-A A +A

ตอนที่ 38 .. “ ความจริงที่ปรากฏ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย องค์หญิงใบ้ กับ เจ้าชายยาจก

     เป็นเพียงความบันเทิงในการฟังเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพผู้ประพันธ์นิยาย .. มัชฌิมา

ไม่หลับไม่นอน - มาช่า วัฒนพานิช

https://www.youtube.com/watch?v=ocdRi1lkSh4

ขอขอบคุณ คุณมาช่า วัฒนพานิช จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 38 .. “ ความจริงที่ปรากฏ ”

       18.30 น.ของเย็นวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พิกุลและแขไข สองพี่เลี้ยง สั่งให้นางสนมรุ่นน้องทั้งหลายลำเลียงอาหารคาว 6 อย่างและของหวาน 2 อย่าง มาตั้งไว้ที่โต๊ะอาหารเพื่อเตรียมเสวยพระไกยาหารมื้อค่ำอย่างดี ฝาปิดยังคงปิดอยู่ ทั้ง 8 ถาด กลิ่นอาหารเนี่ยหอมฉุยมาตั้งแต่ภายนอกเข้ามาถึงภายในห้องเสวยเลย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยลูกหญิง” เสด็จเจ้าฟ้าถาม

“ทำไมอาหารมันถึงได้เต็มโต๊ะและเยอะมากมายขนาดนี้ วังเราจะมีงานอะไรรึ” หญิงรันยังไม่ตอบ ได้แต่ส่งยิ้มให้กับทุกคน

“นั่นซิลูกหญิง แม่งง ไปหมดแล้ว” หม่อมแม่ ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด

       หญิงรันเอามือขวาแตะไหล่ซ้ายเพื่อน ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆและพยักหน้า

“เออๆ รู้แล้ว..” หญิงยุ รีบลุกขึ้นแล้วบอกเสด็จเจ้าฟ้าและหม่อม มณีกุล

“คือยังงี้เพคะท่านอาทั้งสอง วันนี้หญิงรันอยากจะแสดงฝีมือการทำพระไกยาหาร ทั้งคาวและหวาน ถวายให้เสด็จอาทั้งสอง และข้าราชบริพารในวังทานกันสักครั้ง เพื่อเป็นการตอบแทน ที่ได้ทำการจัดการต้อนรับการกลับมาของเธออย่างดี ก็เท่านั้นเองหละเพคะไม่มีอะไรมาก ถ้าเสวยแล้วไม่ถูกปากอย่างไร ก็ช่วยติชมกันมาได้เลยนะเพคะ เพราะอาหารที่เห็นเนี่ย เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หญิงรันเค้าเลือกแล้วว่าอะไรที่ท่านพ่อและท่านแม่ทรงโปรดเป็นพิเศษ เชิญเสวยได้เลยเพคะ” เสด็จเจ้าฟ้าพูดต่อ

“จะไหวเหรอหญิงยุ เสด็จอาของเธอ ท้องไส้ยิ่งไม่ดีอยู่ด้วยเล่นอะไรกันเนี่ยเด็กสองคนนี้ รู้ทั้งรู้ว่าหญิงรันกับข้าว และอาหารไม่เป็น” หม่อม มณีกุล ยังคงแครงใจ

“นั่นซิหญิงยุ” ท่านพ่อหันไปที่ลูกสาว

“นี่ถ้าคืนนี้พ่อต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วอย่ามาเสียใจภายหลังนะ เจ้าตัวแสบ” หม่อมมณีกุลพูดขึ้น

“แล้วนี่อย่าบอกนะว่า จะให้พวกข้าราชบริพารในวังทานด้วยกันเหมือนกันหมด กับมื้อนี้หนะ” หม่อมยังไม่อยากเสี่ยง

“แล้วแม่ครัวในวังเราไปไหนทำไมถึงไม่ทำเอง ไหนไปตามมาซิ แขไข” หญิงยุรีบเบรกทันที        

“ท่านอาคะ ยังไม่ได้ลองชิม อย่าพึ่งตัดสินใจจากความรู้สึกซิคะ หนูขอรับรองเอาเกียรติ์ของหนูเป็นประกันค่ะ หนูทานมาแล้ว ก่อนนั้นหนูก็คิดแบบท่านอาหละค่ะ แต่พอได้ลิ้มรสคำแรก จากนั้นคำต่อไปท่านอาและเสด็จอาจะวางช้อนและส้อมไม่ลงอย่างแน่นอน”

“แหม ถ้าหญิงยุ พูดมาถึงขนาดนี้แล้วฉันก็ชักอยากจะลิ้มรสในฝืมือของลูกสาวฉันเสียแล้ว เอ้า ว่าไป ไหนดูซิว่าทั้ง 8 อย่างนี่มีอะไรบ้าง จัดไป ไหนๆก็ทำมาแล้วนี่ ไม่ลองไม่รู้จริงไหมหม่อม จะท้องเสียเพราะลูกสาวเราเองจะเป็นไรไป ลูกจะได้ภูมิใจ”

       หญิงยุ ปรบมือนางกำนัลทั้ง 8 เดินเข้ามาประจำที่ พิกุลเดินเข้ามายืนใกล้ๆ

“เปิดได้” นางกำนัลทั้ง 8 เปิดฝาชีที่ครอบอยู่พร้อมๆกันทั้ง 8 อย่าง กลิ่นควันที่เตะจมูกฟุ้งไปทั้งวัง พวกข้าราชบริพานที่อยู่ภายนอกยังต้องหลงมนต์ในกลิ่นหอมของอาหารในวันนี้ พิกุลรีบเล่าแจ้งแถลงไขบอกชื่อรายการอาหารทันที

“ถาดแรก มัสมันไก่ แกงแก้วตา ถาดที่สอง พะแนงหมู ถาดที่สาม น้ำพริกปลาทู ถาดที่สี่ ต้มจืดเต้าหู้เหลืองลูกดิ่ง ถาดที่ห้า คอหมูย่าง และถาดที่หก ไข่ต้มยางมะตูมราดด้วยน้ำปรุงรสขลุกขลิก”

“กลิ่นหอมน่าทานมากเลยนะหม่อม แค่รายชื่ออาหารก็น่าทานแล้วนะ” เสด็จเจ้าฟ้า เริ่มเปลี่ยนความคิด

       พวกข้าราชบริพาร แอบสูดกลิ่นเข้าปอดตามๆกัน เริ่มกลืนน้ำลายแล้ว ถ้าท้องจะเสีย เพราะอาหารมื้อนี้ก็เอากันหละ

“ส่วนที่เหลืออีก 2 อย่างเป็นของหวาน ถาดแรก สลิ่มน้ำตาลสด พร้อมเครื่องปรุง มีให้เลือกใส่เพิ่มได้อีกถึง 5 อย่าง มีเผือก ถั่วแดง ทับทิมกรอบ มันและวุ้นมะพร้าว ส่วนถาดที่สอง บัวลอยไข่หวาน เพคะ” หลังจากที่พิกุลเจรนัยจบเป็นที่เรียบร้อย

       แขไขก็ตักข้าวให้เสด็จเจ้าฟ้าและหม่อม มณีกุลทันที จากนั้นก็เดินอ้อมไปตักให้กับองค์หญิงและหญิงยุ ทุกคนลุ้นว่าคำแรกจะเหมือนกับที่หญิงยุพูดพร่ำพรรณนาออกมาไหม ทุกคนเล็งจะดูทีท่าของทั้งสองพระองค์ คำแรกที่เสด็จพ่อเลือกคือ แพนงหมู ส่วนคำแรกที่ท่านแม่เลือกคือ มัสมันไก่ ทั้งสององค์หลังจากที่ได้ลิ้มรสคำแรกเข้าไป ต้องนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ จนทุกคนที่อยู่ในวังต้องคอยลุ้นกันจนตัวเกร็งไปหมด สักพักเสด็จเจ้าฟ้า หันไปมองหน้าภรรยาสุดที่รักและยิ้มออกมาพร้อมกัน แล้วหันไปหาหญิงยุ

       จริงๆครับหลังจากคำแรกแล้วคำต่อๆไปไม่สามารถวางช้อนและส้อมได้เลยจริงๆ ไม่มีคำตอบจากทั้งสององค์เพราะการกระทำเป็นการบอกอยู่แล้วกับสายตาทุกคนว่า ท่านทั้งสององค์ทานไม่หยุดเลยในค่ำคืนนี้ จนทั้งสององค์ต้องขอเติมข้าวเป็นครั้งที่สอง

       เพราะรสชาดฝีมือของลูกสาวในค่ำคืนนี้อร่อยจริงๆ แม่ครัวในวังยังทำไม่อร่อยถึงขนาดนี้ เมื่อนกและหญิงยุเห็นว่าทั้งสองท่านทานได้จึงสบายใจ เมื่อเห็นดังนั้นพวกเหล่านางกำนัลรีบวิ่งกลับเข้าครัวกันเป็นการใหญ่ รีบไปหาอาหารที่องค์หญิงทำมาทานกัน แต่ไม่ทันเสียแล้ว พวกนางกำนัลบางคนที่เฝ้าอยู่ทานกันจนหมดแล้ว ขณะที่นกและหญิงยุนั่งทานกันอย่างมีความสุข แต่อีกพวกนึงวิ่งแย่งกัน

“เฮ๊ยไปไหนหมดหละแก ไม่เหลือสักนิดเลยเหรอ ไม่เหลือติดก้นหมอเลย สักนิดก็ไม่มี” นางกำนัลคนนึงเอ่ยออกมา

“ช่วยไม่ได้ ข้าหิวนี่ เห็นน้ำพริกปลาทูเหลืออยู่หน่อยนึง ข้าก็จัดการเลย อร่อยมากใครทำวะ ข้าทำสวนกลับมาหิว เห็นมีฝาชีปิดอยู่ ข้าก็เลยเปิดดู มีปลาทูเหลือครึ่งตัว น้ำพริกโขลกกำลังดีเลย ก็เลยทานเพลินไปหน่อยข้าวมีเยอะแยะเห็นมีต้มจืดเหลืออยู่ในหม้อโน่นแหนะ ลองไปดูดิ อาจจะยังทันนะ”

       นางกำนัลคนนั้นกล่าวหลังจากที่อิ่มแล้ว  ความจริงที่ปรากฏก็คือ อาหารที่องค์หญิงทำมันอร่อยจนต้องหาทานกันให้วุ่น นางกำนัลคนนั้นอิ่มแล้วก็เดินออกไป นางกำนัลทั้ง 5 คน รีบวิ่งไปดูเปิดหม้อดู โชคดียังเหลืออยู่บ้าง ถ้าเทใส่ถ้วยแล้วคงได้สักครึ่งถ้วยใหญ่พอแบ่งกันกินได้ อีกคนก็ลองไปดูทางหม้อมัสมันไก่ “เฮ๊ยนี่ก็เหลืออยู่น่องเล็กๆหลายน่องเลยหวะ ฉันเอานี่แล้วกัน” ส่วนที่เหลืออีก 2-3 คนก็ค้นหาเท่าที่พอจะหาได้

       สรุปเย็นนั้น ในค่ำคืนนั้นบางคนก็ได้ทานฝีมือนก บางคนก็อดและหมดสิทธิ์ เพราะผลของการแครงใจ คนที่ได้ทานก็มีบุญมีความสุขไปและมีเรื่องที่ไปเล่าขานให้กับเพื่อนๆนางกำนัลด้วยกันฟังว่า มีบุญที่ได้กินและทานฝีมือขององค์หญิง เป็นบุญของท้องจริงๆ นานๆองค์หญิงถึงจะเสด็จลงมาทำ คืนนั้นครอบครัวขององค์หญิงมีความสุขมาก แบบไม่เคยมีมาก่อน เพราะทุกคนที่ได้ทานฝีมืออาหารของหญิงรัน มีความสุขกันทุกคน รวมถึงข้าราชบริพารทุกคนที่ได้มีโอกาสทาน หลังจากที่ยกสำรับไปเก็บ พวกเหล่านางกำนัลและทหารราชองครักษ์นั้น ต้องมาแย่งกันเองว่าเหลืออะไรบ้าง เท่าที่จะแย่งกันได้ ทั้งคาวและหวาน

+++++ ***** +++++

       ธวัชเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากวันที่ไปส่งนกกลับวังจากคนที่ไม่ชอบดื่มของมึนเมา กลับกลายเป็นคนขี้เหล้าหยำเปไปได้ ไม่ใช่เจ้าชายยาจกที่แสนสุภาพคนเดิมอีกแล้ว หลังจากปิดร้านบางวันก็เข้าบ้านเร็ว บางวันก็เข้าบ้านช้า หนีบเหล้าติดตัวไปด้วยเสมอทุกหนแห่ง จนพ่อและแม่ รวมถึงจ้อยและเอี้ยง เป็นห่วงสุขภาพของธวัชมากเหลือเกิน เพราะไม่เหมือนเดิม  

       ธวัชเสียใจที่รู้ความจริง และความจริงก็ถูกเปิดเผยขึ้น คนร้ายถูกจับหมด แต่ไม่ได้ซัดทอดผู้วงการอยู่เบื้องหลัง ธวัชเอาชีวิตช่วยหญิงคนรักได้ในวินาทีสุดท้าย บาดเจ็บ สะบักสะบอมแทบตาย แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นเมื่อ ธวัช รู้ความจริงว่านกเป็นใคร เขาทำตัวไม่ถูก และปรับใจ ทำใจไม่ทัน จึงได้แต่ทานเหล้าของมึนเมาทุกชนิดและเกิดอาการเมามายขาดสติอย่างแรงในวันต่อมา

<<<<< ***** >>>>>

       6 วันผ่านไปกับสิ่งที่ธวัชได้ประชดตัวเองด้วยการดื่มเหล้าต่างน้ำ งามตาตามมาดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเห็นว่าธวัชยังบาดเจ็บอยู่ ไม่หายดี จึงประคองธวัชกับอาการเมาไปที่บ้านตัวเอง ฝนหลงฤดูตกพรำๆเพราะอากาศแปรปวน งามตากลัวคนที่เธอรักไม่สบาย ด้วยความที่เธอรักธวัชมาก จึงไม่ได้ระวังตัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ในคืนวันนี้ วันที่ซึ่งธวัชเอง ก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป

       งามตาถอดเสื้อถอดชุดของธวัชออกหมดทั้งเสื้อ กางเกงนอก กางเกงใน เอาผ้าถุงมาบังตัวธวัชไว้และเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวเช็ดผมให้ เพราะเปียกฝน นำผ้าห่มมาคลุมอีกชั้นอากาศเริ่มเย็น ระหว่างที่กำลังเช็ดตัวให้กับธวัช งามตาไม่คิดว่าธวัชจะกล้าทำถึงขนาดนี้ ธวัชเผลอปล้ำงามตาในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 4 ทุ่มและคราวนี้ธวัชได้งามตาเป็นเมียอีกคนจริงๆในคืนนี้

+++++ ***** +++++

       ธวัชลืมตาขึ้นมาอย่าช้าๆ เอาสองมือฉีกเสื้อคอกระเช้าของงามตาที่อยู่ตรงหน้าเขา และพลิกตัว จับงามตานอนลงกับที่นอน ตัวเองอยู่ด้านบนระดมจูบลงไปที่แก้มและซอกคอ เลื่อนลงมาที่ปทุมถันทั้งสองข้าง งามตาต่อสู้ขัดขืนยังไงก็ไม่รอด

“พี่วัชอย่าคะพี่ พี่อย่า” พอเอาเข้าจริงๆงามตาก็เกิดอาการกลัวขึ้นมาทันที ร้องขอความเห็นใจจากชายคนที่เธอรัก

       ธวัชไม่สนใจ ปล่อยมือทั้งสองข้างที่จับแขนงามตาอยู่ ถลกผ้าถุงงามตาขึ้นแล้วรีบยัดจ้าวโลกของเขาเข้าสู่ร่างกายของงามตาทันที และมีความสุขจนเขาพอใจ งามตาไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ถามว่าชอบไหม เธอก็ชอบ มีความสุขไหม มีมาก เพราะเธอวิ่งไล่ตามไขว่คว้ามาตั้งนาน อยู่ดีๆก็ได้มาเองโดยที่ไม่ได้วางแผนอะไรเลยเหมือนเมื่อก่อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธออยากได้จากธวัชมานานแล้ว จากนั้นงามตาจึงปล่อยตัวปล่อยใจไปเลย ไหนๆก็เสียตัวให้กับธวัชไปแล้วในคืนนี้ เธอจึงเก็บเกี่ยวความสุขและความต้องการอย่างเต็มที่ไม่รู้ว่ากี่รอบ ที่ทั้งสองคนมีให้กันในคืนนี้ ความจริงที่ปรากฏก็คือทั้งสองมีความสุขมากโดยไม่มีใครรบกวนใจเลยแม่แต่น้อย

>>>>> ***** <<<<<

       คืนนี้ฝนตกหนัก เพราะมีพายุเข้า ลมแรงมากพัดมาโดนรูปของธวัชตกลงมาแตกเป็นครั้งที่สอง ยุ้ยซึ่งนอนอยู่ที่บ้านในสวน ต้องลุกออกมาปิดหน้าต่าง เก็บเศษกระจกที่แตกไปทิ้งและหยิบรูปคนที่เธอรักขึ้นมาดู

“พี่วัชหนูคิดถึงพี่นะ หนูสัญญาว่า หนูจะกลับไปหาพี่และเราจะต้องได้อยู่ด้วยกันอีก หนูจะพยายามให้พี่ยกโทษให้หนูให้ได้ เพราะหนูรักพี่ ไม่เคยรักใครมากอย่างนี้มาก่อนเลย ไม่รู้ทำไม รอหนูนะพี่ คนดีของหนู คนผิดคนนี้จะกลับไปให้พี่ทำโทษตลอดชีวิตเลย ขอเวลาหนูอีกสักนิดนะพี่ หนูขอเวลาทำตัวและทำใจให้ดีและเข็มแข็งมากกว่านี้ก่อน แล้วเราเจอกันเร็วๆนี้”

***** ///// *****

       ทางนก ก็นอนไม่หลับเช่นกัน ฝนตก ฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างเหมือนเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ฟ้าฝ่าลงมาทีนกก็เอามาผ้าคลุมตัวคลุมหัวนอนขดอยู่บนเตียง แต่ใจก็ยังคงคิดถึงสามีสุดที่รัก นอนน้ำตาไหลนองทุกคืน แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ จึงได้แต่เฝ้ารอโอกาส

       1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่กลับเข้ามาอยู่ในกรงทองเธอดูเหมือนจะไม่มีความสุขเอาเลย ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก ถึงจะมีเตียงนุ่มๆให้นอน หมอนข้างนุ่มๆให้กอด แต่มันก็ไม่เหมือนที่ได้นอนกอดคนที่เรารัก ถึงที่นอนจะแข็งไปบ้าง ไม่ดีเลิศขนาดนี้ แต่มันก็มีความสุข นกได้แต่นอนมองดูเพดานในเงามืด นึกถึงพัดลมเพดานที่เคยเห็นที่บ้านของสามี มันดูมีความสุขมาก

       พอเสียงฟ้าเบาลง ฝนตกเบาลง นกก็ลุกออกมาจากที่นอน มาหยิบเสื้อคลุมใส่กันหนาว นกไม่ได้เปิดแอร์ เพราะชินกับการเปิดหน้าต่าง นกมองผ่านมุ้งลวดออกไปดูภายนอก เธอนึกถึงภาพเหตุการณ์เก่าๆนึกแล้วก็มีรอยยิ้มปรากฏออกมาที่มุมปากของเธอได้ แต่ความจริงที่ปรากฏต่อหน้าเธอในตอนนี้ก็คือความว่างเปล่า ไม่มีธวัชอยู่เคียงข้างเธออีกแล้ว นกกลับมาคิดว่า เธอคิดถูกหรือผิดที่ตัดสินใจแบบนี้ ถ้าทำตามใจตัวเองคือไม่สนใจพ่อแม่ มันก็เหมือนว่าจะเป็นการเห็นแก่ตัวและอกตัญญูจนเกินไปไหม

       ทุกคนจะคิดว่าเราบ้าผู้ชาย แต่ถ้าทำตามสังคมกับชนชั้นที่เป็นอยู่ มันก็เหมือนกับว่าเป็นการโกหกใจและความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองยังรวมถึงการหลอกลวงคนภายนอกว่าตัวเองยังสะอาดบริสุทธิ์ เป็นองค์หญิงที่สาวสวยไม่เคยต้องมือชายที่ไหน

       ทั้งๆที่ตัวเองก็แต่งงานและผ่านการมีสามีมาแล้ว นกไม่อยากหลอกลวงใคร แต่สังคมก็คือสังคมหน้าตาของพ่อแม่ เกียรติ์และศักดิ์ศรีของตระกูลบุษบงที่เธอต้องแบกรับอีกหละ นกกลุ้มใจมาก บางครั้งการเกิดมาสูงศักดิ์จนเกินไปจะทำอะไรมันก็ไม่สะดวก

       ไม่เหมือนตอนนี้ที่เป็นนก นางสกุณา จะทำอะไรก็ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม นกหันไปหยิบรูปของธวัชชายคนที่เธอรักสุดชีวิตมาดู เอามือลูบหน้าที่มีรอยยิ้ม ร้องไห้ เอารูปแนบอก เอนตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาปิดตัว ข่มใจหลับตานอน พร้อมๆกับนอนกอดรูปของธวัช

“พี่วัช หนูคิดถึงพี่นะ หนูรักพี่นะ อดทนรอหนูนะพี่ หนูอยากจะไปหาพี่จนใจแทบจะขาดแล้ว รอหนูนะพี่ พี่วัช หนูรักพี่ที่สุด”

***** >>><<< *****

       รุ่งเช้าวันใหม่ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พอธวัชตื่นมาเห็นสภาพที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเขาได้ คือสภาพที่เขานอนเปลือยกอดงามตาซึ่งมีสภาพเปลือย กอดเขาอยู่ข้างกายเช่นกัน งามตารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดี ไม่พูดอะไร จะลุกออกไปจากเตียง แต่มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดี เพราะรักเธอจึงยอมพลีกายให้กับคนที่เธอรัก โดยที่ไม่ได้ขัดขืนอะไร ธวัชเอามือซ้ายดึงมือขวางามตาไว้ แล้วดึงลงกลับมานอนกอด

“งามไม่ต้องไปไหนหรอกนะ พี่จะรับผิดชอบงามเอง” คราวนี้ธวัชยึดอกรับเองไม่บ่ายเบี่ยงเลย

“ไม่ต้องหรอกพี่ หนูรู้และเข้าใจพี่ดีทุกอย่าง สิ่งที่มันเกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดจากความรัก พี่ไม่ได้รักหนู มันเกิดจากความเมา แต่หนูเองเป็นฝ่ายที่ยอมพี่เอง พี่ไม่ต้องฝืนใจที่ต้องรับผิดชอบอะไรหรอก หนูไม่เหมือนยุ้ยหรอก หนูเข้าใจดีทุกอย่างว่าทุกลมหายใจพี่มีแต่พี่นก ไม่ใช่หนู พี่สบายใจได้ และหนูจะไม่เรียกร้องอะไรด้วย อีกอย่างเรื่องนี้ จะไม่มีใครรู้ เพราะหนูจะไม่บอกใคร หนูขอตัว พี่ก็กลับบ้านพี่ไปได้แล้ว” งามตาลุกออกจากธวัชไปทันที ธวัชสังเกตุเห็นเลือดที่เปื้อนอยู่บนเตียงและขางามตา

       หลักฐานคาตาจริงๆ เมื่อเขาเห็นความจริงและความบริสุทธิ์ของงามตา ธวัชจึงไม่ยอมที่จะเสียเมียคนนี้ไปอย่างแน่นอน เพราะเขาเองก็ไม่มีใครอีกแล้ว ทุกคนหนีจากเขาไปหมด แล้วยิ่งมาเจอความเวอร์จิ้นของงามตาอีก ทำให้ธวัชมั่นใจว่างามตาไม่เคยต้องมือชายคนใดจริงๆอย่างแน่นอนแม้กระทั่งเมืองราม งามตาเป็นคนแรกสำหรับเขาจริงๆ

       ธวัชวิ่งไปหางามตา ก่อนที่เธอจะเปิดประตูห้องออกไป ขณะที่ทั้งสองยังคงเปลือยอยู่ ธวัชกอดเอวงามตาทางด้านหลัง ไม่อยากให้เมียจากเขาไปไหน งามตายังคงดื้อจะหนีออกให้ได้ เมื่อเมียดื้อ ธวัชจึงต้องจัดการลงโทษ เขากดหลังงามตาลง ตัวเธอจึงโก้งโค้ง เขารีบยัดจ้าวโลกของเขาเข้าด้านหลังของงามตาทันทีแล้วยืนทำรักต่อตรงหน้าประตู เพื่อไม่ให้งามตาหนีออกไปจากห้องนี้

“พี่วัช ทำอะไรหนะ พี่ โอ๊ว พี่ อู๊ย พี่..ผัวขา อืม พี่” งามตาพยายามแกะมือธวัชออกจากเอว แต่ไม่เป็นผล ยิ่งแกะ ธวัชยิ่งซอย ถี่ขึ้นๆ

       งามตาไม่แกะเพราะไม่ไหวแล้ว อารมณ์ความสุขมาแบบไม่ทันตั้งตัว เสียวก็เสียวจึงได้แต่เอามือเกาะประตูไว้อย่างเดียว ก็ผัวเล่นแบบนี้ ก็ต้องปล่อยให้ผัวทำไปจนเสร็จ ไม่นานหลังจากเสร็จกิจ ธวัชก็อุ้มเมียขึ้นไปนอนกกต่อบนเตียง จะขอต่อ งามตาขอไว้

“ไม่ไหวแล้วพี่ขอเถอะ หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่ใช่ว่าหนูไม่ให้นะ แต่ถ้าพี่จะขอเอาต่อเพื่อมีความสุขอีก หนูคงจะตายก่อนแน่ๆ”

“แล้วตกลงจะหนีพี่ไปอีกไหม” งามตาไม่พูดอะไรมาก เมินหน้าหนีไปทางซ้ายและพูดออกมาเบาๆไม่ดังมาก

“ก็อย่างที่บอกหละพี่ พี่ไม่ต้องฝืนใจ ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรหนูหรอก อะไรที่ทำให้พี่มีความสุข หนูให้พี่ได้เสมอ อยากเมื่อไหร่ก็มาเอาได้ตลอดเวลา หนูไม่ชอบเอาเปรียบ ไม่อยากผูกมัดใคร ถ้าใครคนนั้น เขาไม่ได้มีใจหรือเต็มใจให้กับหนู”

       พูดจบงามตาก็ลุกออกไปอีกครั้ง หลังจากที่ธวัชเก็บเกี่ยวความสุขที่ปทุมถันทั้งสองข้างอยู่พักใหญ่ ธวัชดึงแขนขวาเมียเอาไว้

“ไม่นะ ถึงงามจะไม่ยอมรับ แต่คราวนี้พี่ยอมรับ พี่ถือว่างามเป็นเมียพี่แล้ว พี่จะไม่ยอมเสียเมียพี่คนนี้ของพี่ไปแน่”

       ธวัชลุกขึ้นจากที่นอนแล้วกอดเมีย งามตาอยู่ในอ้อมแขนอ้อมกอดของสามีแล้ว มีเหรอที่คนอย่างธวัชจะปล่อยโอกาสแบบนี้ไปง่ายๆ ธวัชอุ้มเมียไปวางไว้ที่เตียงแล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงรักบทต่อไปจากเมื่อกี้แบบทนุถนอม คราวนี้เขากระซิบที่หูงามตาว่า

“ตอนนี้พี่ไม่เมานะ เพราะฉะนั้น อย่ามาดื้อกับพี่ ผัวอย่างพี่ มีสติดีอย่างแน่นอน” โชคดีที่งามตาใกล้มีเมนต์พอดีจึงไม่ท้อง

“พี่หนะ หนูก็อายเป็นนะพี่” หลังจากที่กระซิบที่หูเมียแล้วเขาก็เริ่มทำหน้าที่สามีอย่างถูกต้องแบบมีสติสัมปชัญญะทันทีอีกครั้ง

       ธวัชไม่รีรอที่จะมีความสุขกับเมีย แบบไม่มีใครรบกวนอีกครั้ง งามตาจึงยอมธวัชแบบไม่มีเงื่อนไข ยอมให้ธวัชทำทุกอย่างตามความพอใจ ความสุขที่เธอได้รับมีมากเต็มที่เกิน 100 เพราะเธอเชื่อและมั่นใจว่า ธวัชรักเธอจริงๆ เพราะตอนนี้ธวัชไม่มีใครแล้ว ยุ้ยก็ขอเลิกไปนานแล้ว นกก็ไม่อยู่แล้ว เธอจึงมีสิทธิ์ในตัวของธวัชอย่างเต็มที่ คราวนี้งามตาจึงยิ้มออกแบบเต็มที่เสียที

\\\\\ ----- /////

       ทางองค์หญิงก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าธวัช เมื่อความจำของเธอกลับมาครบทุกอย่างนานแล้ว รู้ว่าตัวเองคือใคร ภาพในความทรงจำที่ขาดๆหายๆ มันเริ่มประติดประต่อ จนปรากฏออกมาเป็นภาพ เพื่อนที่อยู่ตรงหน้า ท่านพ่อ ข้าราชบริพารทั้งหลาย และวังบุษบงของเธอ เธอจำได้หมด แม้กระทั่งเรื่องของเธอกับธวัช เธอก็ไม่เคยลืม หลายคนหวังเอาไว้ว่า องค์หญิงจะกลับมายิ้มและสดใส สดชื่น เช่นเดิมเหมือนตอนที่พบครั้งสุดท้าย และที่สำคัญที่สุดก็คือ จะสามารถกลับมาพูดได้อีก แต่ก็เหมือนเช่นเดิมคือ เงียบไม่มีอะไรออกมาจากปากของเธอ วันนี้ องค์หญิงขอให้ ธวัชมาหา โดยวานให้หญิงยุ เพื่อนของเธอไปเป็นธุระให้

“แกคิดอะไรของแกรัน ถ้าใครรู้เข้า ว่าแกนัดผู้ชายเข้าวัง คนอื่นเขาจะคิดยังไง ไม่เอาฉันไม่ช่วย ยังไงฉันก็ไม่”

“ได้ ถ้าแกไม่ช่วย ฉันจะจำไว้ว่าแกไม่รักฉัน ฉันให้คนอื่นช่วยก็ได้ แล้วต่อไปนี้แกกับฉัน ไม่ต้องมาคุยกันอีก”

       คุยจบนกก็รีบส่งข้อความหาเมืองรามทันที หญิงยุ นั่งนิ่งเงียบเอาไงดีวะ แต่ที่รู้ๆ รีบส่งข้อความไปบอกเพื่อน

“ไอ้รัน แค่เรื่องนี้แกถึงจะตัดเพื่อนเลยเหรอไอ้รันตอบฉันด้วยแก ไอ้รัน”

       นกไม่สนใจอ่านข้อความ รีบพิมพ์ข้อความส่งไปบอกเมืองราม

“พี่ราม หนูรบกวนพี่หน่อย หนูอยากเจอพี่วัชหนะพี่ ช่วยหนูหน่อยจะได้ไหม หนูไหว้หละ หนูทนไม่ไหวแล้ว มารับหนูที่วังก็ได้ พาหนูไปหาพี่วัชหน่อย ขอแอบดูห่างๆก็ได้” นกหมดยางอายจริงๆแล้วในตอนนี้ อยากเห็นหน้าคนที่เธอรักมาก

“องค์หญิง พี่ก็อยากช่วยนะ แต่ตอนนี้พี่ไม่ว่างจริงๆ เอางี้ เดี๋ยวพี่จะติดต่อไปบอกมันให้ก็แล้วกันนะ ว่าให้มันไปหาน้องที่วัง เพราะน้องคิดถึงอยากเจอ พี่คงช่วยได้เท่านี้แหละนะ ได้เรื่องยังไงแล้วพี่จะบอกอีกทีก็แล้วกัน ตอนนี้พี่ขอตัวทำงานก่อนนะ”

“ขอบคุณมากเลยค่ะพี่ หนูฝากด้วยนะ” นกเริ่มมีความหวัง เมื่อเมืองรามเอ่ยปากช่วย นกจึงต้องรออีกต่อไปด้วยความหวัง

<<<<< ===== >>>>>

       หลังจากวันนั้น ธวัชจึงให้งามตาย้ายเข้าไปอยู่กับเขาที่บ้านในฐานะเมียคนล่าสุด ธวัชพางามตามาไหว้พ่อและแม่ เพื่อบอกว่าเขาและงามตาเป็นอะไรกันแล้ว เพื่อให้พ่อแม่รับรู้และรับงามตาเป็นลูกสะใภ้อย่างถูกต้องตามประเพณี งามตาดีใจมาก ตอนนี้สถานะงามตาได้เปลี่ยนไปแล้ว ขอให้ทั้งสองคนอภัยให้เขาด้วย ธวัชถือพานมาขอขมาพ่อและแม่ งามตาก้มลงกราบเท้าทดและสะอิ้งในเช้าวันต่อมา

“หนูขอโทษด้วยนะคะ คุณลุง คุณป้า ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา หนูผิดเองที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้”

“ช่างมันเถอะ ไหนๆมันก็เกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว ธวัชมันทำถูกแล้วหละ ที่มาบอกแบบนี้ ไม่ใช่หลบๆซ่อน ไหนๆแกก็เป็นเมียเจ้าธวัชแล้วก็มาอยู่ด้วยกันซะที่นี่แหละ ข้ายินดีต้องรับ แล้วเลิกเรียกลุงเรียกป้าได้แล้ว ตอนนี้ก็เรียกพ่อและแม่ได้แล้วนะงาม”

       ทดลูบหัวลูกสะใภ้คนล่าสุด สะอิ้งก็ไม่มีท่าทีรังเกียจอะไรเพราะเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย

“เอาเถอะ ก็อย่างที่พ่อเขาพูดก็ถูกตอนนี้เจ้าวัชมันก็ไม่มีใคร แกมาอยู่กับมันก็ดีแล้ว มันจะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาขึ้นมาบ้าง”

“หนูขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากที่ไม่รังเกียจหนู หนูขอรับปากนะคะว่าจะดูแลพี่วัชให้กลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ หนูขอเวลาสักนิด รับรองพี่วัช เจ้าชายของพวกเราคนเดิมจะกลับมาแน่ค่ะ หนูให้สัญญา”

       ธวัชคลานเข้าไปกราบเท้าพ่อและแม่อีกครั้งกับความผิดในครั้งนี้ ทุกคนก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีใครว่าอะไร

“ในเมื่อกล้าทำและกล้ารับ พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไร นี่แหละเค้าเรียกว่าลูกผู้ชายที่แท้จริง พ่อภูมิใจแกนะธวัช”

       ทดเอื้อมมือลงไปจับลูกชายขึ้นมากอด ธวัชสวมกอดพ่อที่เอว สะอิ้งกวักมือเรียกงามตาเข้ามาใกล้ๆ สะอิ้งเตรียมเลสทองเส้นสุดท้ายหนัก 1 บาท ที่เหลือเก็บไว้ ใส่ให้ที่ข้อมือขวาของงามตา และทดก็ตัดใจถอดสร้อยคอ หนัก 1 บาท เส้นสุดท้ายเช่นกันรับขวัญให้กับลูกสะใภ้คนนี้ เป็นเป็นการรับขวัญทดแทนให้กับความผิดของลูกชายตัวเองที่ได้กระทำการอุกอาจปล้ำงามตา

“ขอให้ลูกทั้งสองคนมีความสุขมากๆนะ จากนี้ไป ก็ขอให้กลับมาตั้งใจทำมาหากินกันนะลูก เรื่องเลวร้ายต่างๆมันก็ได้ผ่านพ้นไปหมดแล้ว อดทนนะลูกนะ แม่คงจะอวยพรได้เท่านี้” สะอิ้งเข้าใจกับสภาพจิตลูกชาย

“ส่วนพ่อ ก็คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่า ความเข้าใจหนักนิดเบาหน่อย ก็ให้อภัยกันนะลูก เวลาทะเลาะกันก็ขอให้นึกถึงวันที่เรารักกัน ถ้อยที ถ้อยอาศัยกันนะลูก ขอให้เจริญๆทั้งสองคนนะ ส่วนเรื่องยายกุล เอาไว้ให้แกกลับมาจากนั่งวิปัสสนาก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยว่ากันอีกที เอาเป็นว่าตอนนี้พ่อกับแม่รับรู้เรื่องราวของเจ้าทั้งสองคนแล้วก็แล้วกัน ไปลูกแยกย้ายไปทำมาหากินกันได้แล้วนะ”

       จากนั้นทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปตามปกติ งามตาเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บยังที่ของเธอ ธวัชก็ออกไปทำงานที่ร้าน ส่วนงามตาก็เริ่มทำหน้าที่แม่บ้าน เก็บกวาดห้องเก็บเสื้อผ้าไปซัก สบายอยู่แล้ว เพราะเคยทำมาหมดแล้ว จึงไม่ยากที่จะทำ งามตามีความสุขมาก ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีรอยยิ้มออกมาได้ ธวัชก็เช่นกันเมื่อถึงร้าน ก็ตั้งหน้าตั้งตากลับมาขยันทำงานดังเดิมเหมือนดังแต่ก่อนเลยไม่มีผิด

***** ----- *****

       ยุ้ยในเมื่อตัดใจกลับมาอยู่บ้านแล้ว ก็ลองเข้าไปทำสวนยางของพ่อและแม่ดูบ้างเผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้นมาบ้าง ตื่นแต่ตี 4 ออกไปกรีดยาง ที่ทำเพราะจะได้ลืมอะไรๆได้บ้าง ความทุกข์ที่มันถาโถมประดังเข้ามาจะได้ลดทอนหายไปบ้าง

       จริงครับ คนไทยอะไรๆก็ลืมง่าย ไม่นานข่าวของธวัช ยุ้ยและองค์หญิงใบ้ ก็เงียบหายไปจากสังคมไทย สองอาทิตย์ผ่านไปหลังจากที่ข่าวเริ่มจางหายไป ชีวิตของธวัชก็กลับมาเป็นปกติ ไม่มีใครมาวุ่นวาย ไม่มีใครโทรมากวนใจยุ้ยและโทรศัพท์ที่วังก็เงียบหายไปในชั่วพริบตาเมื่อไม่มีใครตามเรื่องนี้อีกทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติสุขได้เสียที นี่แหละคนไทยอะไรๆก็ลืมง่าย เมื่อมีข่าว

อื่นข่าวใหม่ที่น่าสนใจกว่า ก็จะไปอินกับข่าวนั้นๆ เพราะคนไทยชอบเสพดราม่า ความทุกข์ของชาวบ้านไงครับ

<<<<< ***** >>>>>

“ไอ้วัช มึงหาเวลาไปพบนกที่วังด้วยนะ เขาคิดถึงมึงมาก แต่ออกมาไม่ได้ กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละ”

       เมืองรามส่งข้อความมาบอกธวัช เพราะโทรไปเท่าไหร่ธวัชก็ไม่ยอมรับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ธวัชเมื่อได้อ่านแล้วก็เฉยๆ นั่งทำงานต่อไป งามตาเดินเอาปิ่นโตอาหารกลางวันมาส่งให้ตามปกติ

“พี่จ้อย พี่เอี้ยง นี่ของพี่ แล้วพี่วัชหละ” งามตามองหาสามีไม่เจอ

“โน่นแหนะ อยู่ใต้ท้องรถคันนั้นหนะ ขอบใจมากนะงาม สำหรับอาหารมื้อนี้”

จ้อยรับกล่องข้าวแล้วส่งให้เอี้ยงกล่องนึง แยกไปหาที่นั่งทาน งามตาเดินไปหาสามี เธอก้มลงไปเรียกธวัช

“พี่วัช เที่ยงกว่าแล้ว ออกมาทานข้าวก่อน จะได้ทานยา อย่าดื้อเร็ว”

       ธวัชเลื่อนตัวออกมา แล้วหอมแก้มซ้ายเมียอย่างไว

“จร้า” งามตาเขินเลย เจอแบบนี้ อยู่ดีๆธวัชก็มาหวานใส่ตอนเที่ยงๆ

“บ้าพี่เนี่ย ทำอะไร หนูอายเขานะ” งามตาเขินหน้าแดง จ้อยกับเอี้ยงโห่แซว

“ฮิ้ว” งามตาเอามือชี้หน้าทั้งสองคน

“กินข้าวไปเลย ขืนพูดมาก จะอดกิน” จ้อยกับเอี้ยงรีบก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างเดียว

       ธวัช เอียงตัวมาหอมแก้มขวาอีก

“พี่วัช เอาอีกแล้วนะ หนูอายเค้า ถ้าเป็นที่บ้าน หนูจะไม่ว่าเลย นี่มันข้างนอก”

“ดี ถ้างั้นเข้าบ้านเลย” ธวัชรีบลุกขึ้นแล้วเอามืออุ้มงามตาเดินเข้าบ้านทันทีไม่รีรอหลังจากสิ้นคำงามตา

“พี่วัช จะทำอะไร หนูพูดเล่น พี่วัช ไม่เอานะพี่ พี่วัช” ไม่ทันแล้ว ธวัชรีบอุ้มงามตาแล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน ปิดประตูล๊อคห้องแล้วทำตามที่งามตาบอกทันที ไม่รู้ว่างามตาโดนธวัชจัดไปกี่ยกกี่รอบ เพราะปากแท้ๆเลยงามตา  

“เห้ย ไอ้จ้อย มึงพนันกะกูไหม กูว่าเย็นนั่นแหละกว่าพี่แกจะออกมา” เอี้ยงอยากได้ตังกินขนมฟรีๆ

“นั่นหนะดิ ไม่อะ กูยังไม่อยากเสียเงินฟรีๆ ไปทำงานต่อเถอะ เรื่องของเจ้านาย ผัวเมียกัน เรื่องนี้กูจะไม่ยุ่ง” จ้อยรีบออกตัว

“เออ ไปไป แกทำคันของพี่วัชต่อแล้วกัน กูจะไปทำคันโน้น” แล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานต่อ

***** \\\\\ *****

       หญิงยุ ไม่สบายใจ กับการทะเลาะกับเพื่อนในวันนั้น เย็นนี้หลังจากเลิกงานจึงขับรถมาหาเพื่อนที่วัง

“แขไข องค์หญิงอยู่ไหน” หญิงยุเดินเข้ามาในวังหน้า

“อยู่ในสวนหลังวังเพคะ” แขไขกำลังถือถาดอาหารมื้อค่ำมาตั้งโต๊ะ

“ไม่มี ฉันเดินไปดูมาแล้ว ส่งข้อความมาตั้งหลายครั้งแล้ว ก็ไม่ตอบ เป็นอะไรของเขานะ เบื่อมาก หญิงรันงอแงใหญ่แล้ว”

       พูดจบ บ่นจบ ก็รีบเดินขึ้นด้านบนไปยังห้องนอนของเพื่อน พอเปิดเข้าไปก็เห็นว่า ห้องมืดสนิท หญิงยุเปิดไฟ และสำรวจดูรอบๆห้อง เดินไปดูบนที่นอน ก็ไม่มี

“เค้าไปไหนของเค้านะโทรศัพท์ก็อยู่ที่นี่” หญิงยุเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ดู ว่านกทำอะไรบ้างวันๆตอนนี้ เปิดไลน์ดู ก็เห็นมีข้อความเมื่อ 3 วันที่แล้วที่ส่งไปขอความช่วยเหลือกับเมืองราม

“ไอ้รัน จนได้ แกทำเรื่องอีกจนได้ แล้วนี่ไปไหนอีกเนี่ย” หญิงยุเดินลงมาจากบนห้อง อารมณ์เสีย ตะโกนเรียก แขไขอีกครั้ง

“แขไข เจ้านายเธอไปไหน บนห้องก็ไม่มี” แขไขจนด้วยเกล้า ไม่รู้จะตอบหญิงยุยังไงดี เพราะไม่รู้จริงๆ มันจนด้วยเกล้า

       เสด็จเจ้าฟ้าและหม่อมมณีกุล เดินลงมาจากข้างบน เพราะได้เวลาทานมื้อเย็นแล้ว

“อ้าวหลานยุ มาหาหญิงรันเหรอ” เจ้าฟ้าทักหลานสาว

“แล้วเจอกันรึยังหละ” หม่อมมณีกุลทักเช่นกัน

“ยังเลยเพคะเสด็จอาทั้งสอง ไปไหนก็ไม่รู้ ถามใครก็ไม่มีใครเห็น”

       หญิงยุบ่นออกมาแบบสีหน้าไม่ดี สักพักพิกุลเดินแบบรีบร้อนเข้ามา แขไขจึงวิ่งเข้าไปถาม

“พิกุลแกเจอองค์หญิงบ้างไหม” พิกุลพยักหน้า

“แล้วตอนนี้องค์หญิงอยู่ไหน นี่ก็ใกล้เวลาเสวยพระไกยาหารค่ำแล้วไปพาตัวมาได้แล้ว”

       พิกุลโบกมือ พูดอะไรไม่ออก เพราะเหนื่อย

“ทำไมหละ” ทุกคนงง หญิงยุเดินเข้ามาถามพิกุล

“ทำไมมันเกิดอะไรขึ้นเหรอพิกุล” พิกุลยกมือไหว้หญิงยุ

“ว่าไง” พิกุลยังไม่ตอบอะไร รีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง เพื่อไปหยิบมือถือขององค์หญิงลงมา แล้วรีบวิ่งหายไป จนทำให้พวกนั้นต้องรีบวิ่งตามพิกุลไป ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

       พิกุลวิ่งไปถึงเรือนรับรองด้านหลัง และรีบส่งมือถือให้กับองค์หญิงแสนซนของเรา ภาพที่ทุกคนเห็นในตอนนี้คือ เรือนรับรองหลังนี้กลายเป็นสถานที่สอนพวกนางกำนัลทำอาหารไปเสียแล้ว องค์หญิงของเรารีบเก็บบรรยากาศพวกบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ที่อยากทำอาหารคาวหวานและพวกเบเกอรี่เป็น ใครอยากเรียนอะไร นกจัดไว้ให้คนละมุม แยกประเภทให้ด้วย

       บรรดาพวกสาวๆนางกำนัลชอบมาก ที่องค์หญิงของพวกเธอไม่ถือตัว เปิดคอร์สหลักสูตรพิเศษสอน แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสักสตางค์แดงเดียว จนหญิงยุกลุ้มใจมาก เพื่อนเปลี่ยนไปมาก เป็นถึงขนาดนี้แล้วเหรอ

       เสด็จพ่อและท่านแม่ ก็ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นต่อหน้า ไม่นึกว่า ลูกสาวจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้หลังจากหายออกจากวังไปตั้ง 9 เดือน แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะพื้นที่เหลือเยอะแยะ อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน ก็ทำไปเถอะ

>>>>> ----- <<<<<

       พิมพ์หลังจากที่หมดภาระกิจหน้าที่ ที่ได้มอบหมาย เธอก็กลับเข้ามารายงานตัวที่ศูนย์ เพื่อทำงานประจำหน้าที่ของเธอที่กองปราบตามปกติ จึงไม่ค่อยได้เจอกับริชาร์ดอีกเลยตั้งแต่วันนั้น จะกดโทรศัพท์ไปหาเขาก่อนก็ไม่กล้าเพราะเป็นผู้หญิง พิมพ์ได้แต่นึกถึงภาพเหตุการณ์เก่าๆที่ผ่านมา พิมพ์ดูมีความสุข ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับริชาร์ด จนมาถึงวันสุดท้ายวันที่ปราบและจับเมฆได้ พิมพ์นึกถึงหน้าริชาร์ดทีไรก็มีรอยยิ้มออกมาทุกที สงสัยคง Fall In Love จึงทำให้เพื่อนๆที่อยู่แถวนั้นแซว

“พิมพ์แกเป็นอะไร นั่งยิ้มอยู่คนเดียวก็เป็นด้วย ไปกลับบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้าอย่าลืมนะ ฉันไปหละ”

       พิมพ์ยกมือบ๊ายบายเพื่อน แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของบนโต๊ะ เก็บไปเก็บมา เห็นรูปของริชาร์ดที่วางทับๆอยู่บนแฟ้มคดี

“พี่ริช ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่นะ พี่จะรู้ไหมว่ามีคนเค้าคิดถึงพี่อยู่ โทรมาซิพี่ หนูรออยู่ มัวทำอะไรทำไมถึงไม่โทรมานะ นี่หนูผิดมากเลยเหรอที่ปิดบังซ่อนเร้นเนี่ย มันจำเป็นนะพี่ แยกให้ออกด้วยนะ พี่หนูขอร้องหละ”

       สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามือถือพิมพ์ดีใจมากนึกว่าคำขอของเธอเป็นจริงแต่เธอต้องผิดหวังเพราะไม่ใช่ ความจริงที่ปรากฏก็คือ กลายเป็นเจ้านายเรียก ให้ไปช่วยเตรียมงานที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้ “ค่ะนาย เดี๋ยวพิมพ์จะเข้าไปค่ะ” พิมพ์ทำหน้าจ๋อยเลย

***** ^^^^^ *****

     ยุ้ยทำแบบนี้อยู่ได้ประมาณ 4-5 วัน ตื่นตี 4 ออกไปกรีดยางสายๆก็เก็บยาง ช่วงบ่ายก็รีดยาง ทำอยู่แบบนี้จนพ่อและแม่สงสาร

“ยุ้ยถ้าไม่ไหวแกก็อย่าทำเลยพ่อเข้าใจว่าแกทำเพราะอยากที่จะลืมอะไรบางอย่าง ถ้าแกไม่ไหวก็อย่าฝืนนะเชื่อพ่อ”

“หนูไหวพ่อ หนูทำได้ หนูต้องทำให้ได้ ความผิดในครั้งนี้หนูก่อขึ้นมาเอง หนูต้องทำได้ หนูอยากจะรู้ว่าถ้าหนูทำแบบนี้ หนูจะลืมพี่เค้าได้ไหม พ่อ แต่ทำไมมันลืมยากจังหละ พ่อหนูเจ็บมากเลยนะ ช่วยหนูที หนูไม่อยากที่จะเป็นแบบนี้อีกแล้ว”

“โธ่ ลูกเอ๊ย ถ้ารู้ว่าเจ็บแล้วจะทำทำไม อย่าฝืนเลยนะลูก เชื่อพ่อ” แม่เดินเข้ามาลูบหัวลูกสาว

“แกทำเต็มที่แล้วยุ้ย แม่ยอมแพ้แกแล้ว ตอนนี้แกไม่ได้เป็นเด็กอีกแล้วนะ แกเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ ไปเถอะลูก ไปทำตามหัวใจที่เราต้องการ” พริ้มเพราเข้าใจว่าลูกต้องการอะไร

“อย่ามาฝืนแบบนี้เลย หยุดทรมานตัวเองได้แล้ว ทำเท่าที่เราทำได้นะลูก”

“แม่ หนูขอโทษ หนูพยายามแล้ว แต่มันลืมไม่ได้จริงๆ หนูคิดถึงพี่เค้ามากจริงๆ หนูผิดมากใช่ไหมแม่ที่หนูทำในครั้งนี้”

“ไม่ผิดหรอกลูก” พ่อเดินเข้ามาปลอบ “ความรักไม่มีคำว่าแพ้หรือชนะ ถ้ามันใช่ มันก็คือใช่ ตามเวลาของมันเองแหละลูก”

“ลองดูอีกสักครั้ง แม่เชื่อว่า ถ้าลูกมีความตั้งใจ สักวันสิ่งดีๆ มันก็จะกลับมาหาตัวเราเอง แม่เชื่ออย่างนั้น พอเถอะนะลูกตรงนี้พอแล้ว พ่อกับแม่จะไม่บังคับอะไรลูกอีกแล้ว นะ ไปพักผ่อนแล้วกลับไปตามหาสิ่งที่ลูกปรารถนาและต้องการ”

       ยุ้ยกราบลงแทบเท้าของพ่อและแม่ที่เข้าใจถึงความรู้สึกของเธอ แม่ก้มลงลูบหัวลูกสาว มอบความรักและความห่วงใยให้ด้วยใจจริง พริ้มเพราดึงตัวยุ้ยขึ้นมา เช็ดหน้าเช็ดตาให้ลูกสาว “แม่กับพ่อขอให้ลูกโชคดีนะ ไป ไปจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย”

       ยุ้ยดีใจมากที่พ่อและแม่เข้าใจ จึงมีพลังในการที่จะต่อสู้กับความรู้สึกในครั้งนี้อีกต่อไป ยุ้ยกลับไปอาบน้ำสระผมและทำตัวเอง ปรับความรู้สึกเสียใหม่ เมื่อตั้งสติได้จึงรีบจัดชุดและเก็บเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็นลงกระเป๋าทันที เตรียมเอาไว้ก่อน

----- ***** -----

       ริชาร์ด บินกลับมาจากต่างประเทศ หลังไปรับรางวัลผู้กำกับโฆษณาและนักธุรกิจดีเด่นที่นั่น หลังจากที่เสร็จเรื่องทาง กทม. คดีของเมฆนั่นแหละ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ริชาร์ดไม่สามารถติดต่อพิมพ์ได้

       เมื่อเท้าของริชาร์ดเหยียบลงถึงพื้นแผ่นดินไทย เขาอยากเอารางวัลที่ได้ไปโชว์ให้เห็นแล้วส่งให้ถึงมือ คนแรกที่ริชาร์ดอยากจะเห็นหน้าที่สุดไม่ใช่ใคร นั่นก็คือพิมพ์นั่นเอง หลังจากที่เอาของมาเก็บที่บ้าน บ่ายวันนั้นริชาร์ดก็มาหาเมืองรามที่ สน.ทันที

“อ้าวคุณริช ทำไมไม่โทรมาก่อนหละครับ ดีนะที่วันนี้ผมอยู่ ไม่งั้นไม่เจอกันแล้ว”

      เมืองรามยิ้มให้ “แล้วนี่หายไปไหนมาครับเนี่ย เกือบ 10 วัน”

“พอดีผมมีงานด่วนที่ฝรั่งเศสหนะครับ เลยไปแบบไม่ได้บอกใคร”

“แล้วตกลงที่มาหาผมตอนนี้เนี่ยมีอะไรจะให้ผมช่วยครับ”

“ผมอยากเจอพิมพ์หนะครับ” ริชาร์ดบอกไปตรงๆ

“แล้วทำไมไม่โทรไปหาน้องเค้าเองหละ”

“ผมอยากที่จะเซอร์ไพร์ส น้องเค้าหนะครับ และอีกอย่าง ผมไม่รู้ว่าที่ทำงานน้องเค้าอยู่ไหนด้วย”

“ตอนนี้พิมพ์อยู่กองปราบครับ อยู่ฝ่ายปราบปรามและคดีพิเศษพวกทุจริตหนะครับ นี่ครับ ชั้น 4 นะ ผมช่วยคุณได้เท่านี้”

“ขอบคุณมากครับ แค่นี้ก็ถือว่า เป็นพระคุณมากแล้ว ผมขอตัวก่อนครับ นี่ครับของฝากจากฝรั่งเศส น้ำหอมอย่างดี บาย”

       หลังจากที่ได้ข้อมูลจากเมืองรามที่ถือว่าเป็นเพื่อนรักไปแล้วคนหนึ่ง ริชาร์ดก็รีบไปสั่งดอกไม้ช่อใหญ่พิเศษสุด เพื่อให้ไปส่งยังที่ที่ต้องการพร้อมชื่อและนามสกุลของผู้รับ หลังจากที่พิมพ์ประชุมเสร็จออกมาในช่วงบ่าย ก่อนที่จะกลับบ้าน เธอต้องตกตะลึงว่า ทำไมถึงมีช่อดอกไม้ที่สวยงามช่อใหญ่ช่อโตอยู่บนโต๊ะทำงานเธอได้ เพื่อนๆที่เดินออกมาพร้อมกันถึงกับอิจฉาและแซวพิมพ์ทันที

     คนที่ 1 พูดออกมาอย่างดัง “โอ๊ยแก น่าอิจฉาไอ้พิมพ์มันเนาะ กลับมาประจำสำนักงานที่กองปราบได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็มีช่อดอกไม้มาวางแล้วหละ”

    คนที่ 2 นี่แซวแรง “นั่นดิแก โคตรอิจฉาเลย สงสัยงานหน้าฉันคงต้องยอมรับทำบ้างแล้วแหละ จะได้มีแบบนี้บ้าง จบงานปุ๊บ ได้แฟนปั๊บ” คนนี้แซวแรงมากจนพิมพ์หน้าแดง ทำตัวไม่ถูกเลย พอทุกคนเดินเลยไป พิมพ์จึงหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาดูว่าใครส่งมาให้ มีการ์ดเสียบอยู่หนึ่งใบเธอจึงหยิบขึ้นมา

“ขอให้มีความสุขมากมาย คิดถึงนะ To You With Love”

       แต่ไม่ได้ลงชื่อ ยิ่งทำให้พิมพ์ งงหนัก เข้าไปอีก จนพิมพ์ลงมาจากชั้น 4 ถือช่อดอกไม้ช่อนั้นกลับบ้านด้วย จะเดินออกไปขึ้นรถเมล์เพื่อกลับที่พัก พิมพ์ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอก่อนที่จะก้าวลงบันไดนั้นคือคนที่เธอคิดถึงที่สุด

“พี่ริช” พิมพ์บ่นเบาๆ ริชาร์ดเดินเข้าไปหาพิมพ์อย่างช้าๆ

“สวัสดีครับน้องพิมพ์” ริชาร์ดยิ้มให้พิมพ์ พิมพ์เขินหน้าแดงเลย เพราะไม่คิดว่าคำขอของเธอเมื่อวานจะมาสัมฤทธิ์ผลวันนี้

“สวัสดีค่ะ พี่ริชมาได้ยังไงคะ” พิมพ์พูดอะไรแทบไม่ออก

       เพื่อนๆที่เดินตามมาแกล้งเดินชนไหล่ขวาจนพิมพ์เซ หล่นจากบันได ริชาร์ดมารับไว้ทัน พิมพ์จึงอยู่ในอ้อมกอดของริชาร์ด

“เป็นอะไรรึเปล่าครับ” พิมพ์ส่ายหน้า “มาครับพี่ช่วย ให้พี่ไปส่งบ้านนะ”

“เออ..” พิมพ์เขินจนพูดอะไรไม่ออก ใจหนะก็อยากบอกว่า Ok แต่ปากมันอ้าไม่ออก

“ตกลงนะ” พิมพ์คงได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว เป็นอันรู้ว่าตกลง ริชาร์ดถือดอกไม้ให้และรีบจูงมืองขวาพิมพ์ไปที่รถเขาทันที

       พิมพ์เหมือนต้องมนต์สะกด ทำอะไรไม่ถูก ริชาร์ดลากเธอไปไหนเธอก็ไปหมด นี่ถ้าลากเข้าห้องแล้วปล้ำ ก็คงจะยอมด้วยหละมั้ง 55555+ จากนั้น ริชาร์ดก็ออกรถพาพิมพ์ออกจากที่ทำงานทันทีแล้วไปไหนหละ

       คงยังไม่ได้กลับแฟลตตำรวจหละมั้ง เพราะยังหัววันอยู่เลย แต่เท่าที่รู้ริชาร์ด ขับรถออกไปนอกเมืองแน่นอน แต่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ได้ พิมพ์ได้นั่งมองดูวิวธรรมชาติข้างทางไปเรื่อยๆ

***** ..... *****

       หลายวันผ่านไป หลังจากที่ธวัชกับงามตาได้เป็นผัวเมียถูกต้องตามประเพณี ธวัชก็เริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมจริงๆ งามตาทำได้ตามคำพูดที่ให้กับทดและสะอิ้งไว้ ชีวิตของทั้งสองเป็นไปได้ดี กำลังไปได้สวย ร้านและกิจการก็เริ่มกลับมาดีดังเดิม

       ลูกค้าเริ่มมีมากขึ้น เช้า บ่าย ค่ำ ธวัชก็ดื่มนมสดจากเต้าพันธ์สลัมตามปกติ รสชาดแตกต่างกันไป ถึงจะไม่ใหญ่เท่าของนกและยุ้ย แต่ก็ถือว่าเบ้อเร่อเหิ้มเหมือนกัน งามตาถือว่าเป็นคนซ่อนรูปเอาการคนนึงเลยติดใจ กิจกรรมของผัวเมียงามตาก็ปรนนิบัติและทำให้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง เวลานอนก็กอดกันอย่างดีมีความสุขอบอุ่น ไม่ต้องนอนกับพื้นและจัดเวรเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

       นี่แหละชีวิตของคนชนชั้นสลัมอย่างเราๆ ที่เท่าเทียมกัน ธวัชดวงตาเห็นธรรมแล้วว่า อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ เช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้านมานอนกับเมีย มีความสุขไปวันๆ ไม่ต้องคอยกังวลว่าใครจะมาคอยยักยอกเงินทองที่ไหนอีก เหมือนตอนที่ยุ้ยอยู่

%%%%% ----- %%%%%

       คืนนี้หญิงยุตัดใจมานอนคุยกับเพื่อน ให้มันหายข้องใจ ถ้ามันจะแตกหักและขาดจากความเป็นเพื่อนกันก็ให้มันรู้ไป

“ไอ้รันฉันถามแกจริงๆเถอะ แกทำอย่างนั้นทำไม ฉันห้ามแก แกก็ไป..ไปให้คนอื่นช่วย แล้วยังไง ตกลงมันมาหาแกไหม มันก็ไม่มา มันลืมแกแล้ว มันไม่ได้รักแก อย่างที่แกรักมันหรอก อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วไอ้คนแบบนั้นหนะ”

       นกไม่พูดไม่ตอบอะไร ได้แต่นอนหันหลังให้เพื่อน จนหญิงยุต้องตามไปสะกิด หญิงยุเอามือขวาดึงไหล่เพื่อนลงมา

“ทำไมรัน ทำไมไม่ตอบโต้หละ เพราะมันเป็นความจริงใช่ไหม แกถึงพูดอะไรไม่ออก”

“ไม่รู้ ฉันไม่รู้ นี่ก็หลายวันแล้ว ทำไมพี่วัชถึงไม่ยอมมาหาฉันนะ ทีตอนไม่ให้มาก็อยากจะมา ทีตอนให้มาก็ไม่ยอมมา ฉันไม่เข้าใจหนะแก แกอย่ามาเซ้าซี้ฉันได้ไหม” นกส่งข้อความให้เพื่อนอ่าน และไม่หันกลับไป จนเพื่อนไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

“โอ๊ย ไอ้รัน แกหันมาคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน ถ้าเป็นแบบนี้นะ แกตัดใจเลิกกับมันไปเลย แล้วหาเอาใหม่ คนในราชนิกูลมีอีกตั้งเยอะแยะหลายร้อยคนพันคน มันต้องมีสักคนที่ดีกว่าไอ้กุ๊ยอย่างมันและเจ้าพี่โกมุทแน่นอน”

       คราวนี้นกหันมาได้แล้วมองหน้าเพื่อน “อย่ามาว่าพี่วัชของฉันเป็นกุ๊ยนะแก ฉันไม่ชอบ”

“เออๆ ไม่แตะก็ได้ เทิดทูนกันเข้าไป ถ้ามันรักแกจริงปาดนี้มันต้องรีบมาหาแกตั้งแต่วันแรกที่ส่งข่าวไปแล้ว จริงไหม”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ เขาอาจจะไม่สบายก็ได้ พี่ราม พี่ราม ต้องถามพี่ราม ฉันเชื่อว่า พี่วัชเขารักฉัน นี่แสดงว่าต้องเกิดเรื่องกับพี่วัชแน่ แก ต้องถามพี่ราม ต้องถาม” แล้วนกรีบส่งข้อความไปหาเมืองรามทันที

“พี่ราม พี่วัชเป็นบ้าง ทำไมถึงหายไปเลย นี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วนะที่หนูบอกพี่ ทำไมพี่วัชถึงไม่ติดต่อมาหาหนูเลยหละพี่”

       ยังไม่ทันที่เมืองรามจะตอบ หญิงยุรีบดึงมือถือของนกและโทรไปหาเมืองรามทันที

“สวัสดีครับ” เมืองรามรีบรับ เพราะไม่รู้ว่าใคร เพราะเบอร์ไม่คุ้น

“ฉันขอเตือนนายไว้ก่อนนะราม ว่าอย่ามายุ่งกับชีวิตของเพื่อนฉันอีก” เมืองรามงงเลย

“ตั้งแต่นี้ไป ไม่ว่าจะนายหรือเพื่อนของนาย ไม่งั้นได้เห็นดีแน่แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน เข้าใจไหม”

       หญิงยุขู่อีก “แล้วถ้ายังไม่อยากเดือดร้อนรีบพาเพื่อนนายออกไปจากชีวิตเพื่อนของฉันได้แล้ว จำไว้”

“หญิง แล้วหญิงมายุ่งวุ่นวายอะไรกับชีวิตคนอื่นเค้าด้วยหละ เรื่องของเรายังไม่ Clear เลยนะ ผมขอร้องหละ เรื่องของไอ้วัชกับนกก็ต้องปล่อยให้เขาตกลงและจัดการกันเอง ไม่ใช่เอาตัวเราเป็นศูนย์กลางแล้วตัดสินแทนคนอื่น มันไม่ดี เข้าใจไหม”

“ไม่มีนกอีกแล้วเข้าใจไหม ต่อไปนี่ นกหรือสกุณา จะไม่มีตัวตนบนโลกใบนี้อีกแล้ว กรุณาเข้าใจไว้ด้วย แค่นี้นะ”

“เดี๋ยว หญิง หญิง” พอพูดจบหญิงยุก็ปิดเครื่องนกทันที แล้วเอาวางไว้บนหัวเตียง นกเอื้อมมือจะไปหยิบ หญิงยุห้ามชี้หน้าเพื่อน

“อย่านะไอ้รัน ถ้าแกหยิบมัน แกกับฉันขาดกัน” นกทำอะไรไม่ถูกได้แต่ขยับตัวนอนลงที่เดิมและนอนมองเพดาน

“ให้มันรู้ไปว่าฉันกับไอ้ผู้ชายเลวๆคนนั้น แกจะเลือกใคร เออ..มันต้องแบบนี้ นอนซะ”

       นกไม่รู้จะทำยังไงหันซ้ายหันขวานอนไม่หลับกระสับกระส่าย

“แกเชื่อฉัน นอนซะ ผู้ชายคนเดียวไม่ตายก็หาใหม่ได้”

แล้วหญิงยุก็เดินไปปิดไฟใหญ่และเดินออกไปหยิบนมสดอุ่นๆเดินกลับเข้ามาส่งให้เพื่อน

“เอ้า ทานซะ ทานให้หมดนะ แล้วนอน” หญิงยุพยายามเอาใจเพื่อน

“นมอุ่นๆทานแล้วจะได้คล่องคอ” พอทานหมด นกก็ยังหน้าตาไม่ค่อยยิ้ม หญิงยุมีความคิดแผลงๆลองทำแกล้งเพื่อนดู ดูซิว่าจะทำให้เพื่อนยิ้มออกได้ไหมในคืนนี้ หญิงยุยืนจ้องเพื่อนอยู่นานจนนก งง ว่าทำไมเพื่อนไม่ยอมมานอน

       นกนั่งนิ่งๆมองหน้าเพื่อน หญิงยุเอื้อมมือขวามาบีบนมข้างซ้ายนก

“แกทำอะไรหนะ” นกมองหน้าเพื่อน ไม่พอเอามือข้างซ้ายมาบีบและขยำที่นมของนกข้างขวาอีก

“แกทำอะไรไอ้ยุ” นกเอามือทั้งสองข้างยกมาปัดป้อง

“ฉันไม่เล่นนะโว๊ย” เท่านั้นแหละ หญิงยุแกล้งโถมเข้าหาเพื่อน ฟัดเพื่อน จักกะจี๋ นัวเนียกันอยู่บนที่นอน นกอ้าปากยิ้มหัวเราะออกมาทั้งๆที่ไม่มีเสียงนั่นแหละ รอยยิ้มได้บังเกิดขึ้นมาอีกครั้ง นกเอามือดันเพื่อนออกไปให้ห่างจากตัว

“พอแล้วๆ ฉันไม่ไหวแล้วแก แกอย่าทำแบบนี้อีกนะ เดี๋ยวถ้าฉันห้ามใจไม่ได้แล้วเกิดชอบผู้หญิงขึ้นมาแล้วมันจะยุ่งนะแก พอพอ ต่อไปนี้ฉันขอสัญญาว่าฉันจะไม่อมทุกข์อีกแล้ว ฉันจะยิ้ม Ok ไหมเพื่อน” หญิงยุชี้หน้าเพื่อน

“แน่นะ แกสัญญากับฉันแล้วนะ ฉันไม่ทำก็ได้”

       พอพูดจบ ทั้งสองคนก็เอาผ้าห่มคลุมหัวแล้วเล่นกันต่ออีกนิดหนึ่งจนเสียงหัวเราะเงียบหายไปตอนไหนก็ไม่รู้

xxxxx ===== xxxxx

       เมืองรามโทรหาธวัชทันทีในค่ำคืนนั้น หลังจากที่อาบน้ำเสร็จประมาณ 4 ทุ่ม ธวัชออกไปเดินตรวจตรารอบบ้านตามปกติ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอยู่นาน งามตานอนอยู่น่ารำคาญจึงเอื้อมมือมารับแทน

“โหล ใครคะ” เมืองรามงง โทรหาเพื่อน แล้วทำไมเสียงรับกับเป็นผู้หญิง ดูชื่ออีกครั้งก็ใช่เพื่อนตัวเอง

“ใครคะ โทรมาทำไมไม่พูดหละไม่พูดหนูวางแล้วนะ” งามตากำลังจะวางสาย

“ธวัชอยู่ไหม” เมืองรามเสี่ยงดวง ใครรับก็ช่างมัน

“พี่วัชไม่อยู่ในห้อง ออกไปปิดบ้านรอบนอก ใครคะเนี่ย” งามตาถาม

“ทำไมถึงโทรมาตอนนี้หละ ช่างไม่รู้เวล่ำเวลาเอาซะเลย” เมืองรามขึ้นทันที อะไรวะเคยโทรได้นี่หว่า

“อ้าว เห้ย แล้วนี่หนูเป็นใครทำไมถึงมาพูดแบบนี้กับพี่เนี่ย เมื่อก่อนพี่ก็คุยกับมันแบบนี้แหละ 5 ทุ่มก็ยังเคย”

“เมีย หนูเป็นเมียได้ยินชัดไหม เมื่อก่อนยังไงหนูไม่รู้ แต่ตอนนี้หลัง 3 ทุ่ม มันเป็นเวลาส่วนตัว งดรับงานและปิดโทรศัพท์ นี่กฎใหม่ ผัวเมียจะจู๋จี๋กัน มันต้องมีเวลาส่วนตัว เรื่องงานเอาไว้ตอนเช้าเข้าใจไหมคะพี่ หนูง่วงขอตัวนอนก่อน แค่นี้นะ”

“เดี๋ยว ใครวะเมียมัน มันมีเมียใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เสียงมันคุ้นๆยังไงไม่รู้แฮะ” เล่นเอาเมืองรามงงมากๆ คิดอะไรไม่ออกเลย

       งามตาวางสายและกำลังจะปิดเครื่องกลัวมีคนโทรมารบกวนอีก จะนอนกอดผัวให้สบายสักหน่อย ธวัชเดินเข้ามาพอดี

“อ้าวใครโทรมาเหรองาม แล้วเค้าว่ายังไงบ้าง ไหนเอามาให้พี่ซิคนดี” ธวัชยังคงอารมณ์ดี

“ไม่รู้ หนูลืมถามชื่อ เห็นมันดังตั้งนานแล้ว พูดจาไม่เข้าหู หนูกำลังจะปิดเครื่อง เอ้า พี่เอาไปดูเอง” ธวัชรับโทรศัพท์จากงามตา

“หนูง่วงแล้วมาพี่ มานอนได้แล้ว มาให้หนูกอดก่อนเร็ว ตาหนูจะปิดแล้ว วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย ใครก็ไม่รู้ดูดเอาดูดเอา ทั้งบนทั้งล่าง” ธวัชดูรายชื่อ

“ไอ้รามนี่ มันโทรมาทำไมดึกๆดื่นๆวะ” แล้วก็โทรกลับไปหาเพื่อน

“ว่าไงวะ มึงมีอะไรวะ ถึงโทรมาหากูซะดึกเลย เห็นหายไปเป็นชาติ แล้ววันนี้มีอะไร”

“เมื่อกี้ใครรับวะ เห็นเค้าบอกว่าเป็นเมียมึง ใครวะ นี่ไม่ทันไร มึงได้เมียใหม่อีกแล้วเหรอวะ กูนี่อิจฉามึงฉิบ”

“เออๆ เมียกูเองแหละ อย่ารู้เลยว่าชื่ออะไรหรือใคร ว่าแต่มึงเถอะมีเรื่องอะไรว่ามา”

“ที่มึงไม่ยอมไปหาองค์หญิงเพราะมึงมีคนใหม่กกแทนเขาแล้วใช่ไหมวะไอ้วัชบอกมา”

“ไม่ใช่ แต่ก็มีส่วนบ้าง แล้วมึงจะโทรมาหากูทำไมวะ” ธวัชพูดแปลกๆ

“ถ้าองค์หญิงเขาไม่รัก ไม่คิดถึงมึง เขาคงไม่วานให้กูมาบอกมึงหรอกไอ้โง่ ถุย” เมืองรามด่านิดหน่อย

“เออ กูมันโง่ไง กูถึงโดนเขาหรอก” ธวัชสวนกลับไปแบบไม่เกรงใจกันแล้วหละ

“แล้วทำไม มึงจะให้กูไปหาเขาทั้งๆที่เขาหลอกและโกหกกูเนี่ยนะ ความจริงมันได้ปรากฏออกมาแล้วโว๊ยว่าอะไรคืออะไร”

       ธวัชยังคงเคืองนกอยู่ “ถ้าเขาจริงใจกับกูจริง อยู่ด้วยกันมาตั้ง 8-9 เดือน ทำไมเขาถึงไม่บอกกูว่าเขาเป็นใคร จะมามัวปิดบังกันไว้ทำไม ผัวเมียกัน มันต้องไว้ใจกัน ไม่ใช่อยู่ด้วยกันแบบระแวงหรือปิดๆบังๆ มึงก็รู้นิสัยกู ว่ากูไม่ชอบ”

“มึงก็ไปอธิบายให้องค์หญิงฟังเองซิวะ ถ้ามึงมัวแต่หลบเขาอยู่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่มันถึงจะเข้าใจกันสักทีหละวะ เชื่อกู มึงไปหาเขาซะ อยากบอก อยากจะอธิบาย อยากจะระบายอะไร มึงบอกเขาไปเลย มันจะได้จบๆกันเสียที โอเครไหม แค่นี้นะ กูจะบอกมึงแค่นี้แหละ จะทำอะไรก็รีบทำซะ อยากจะบอกอะไรก็บอกกันไป มึงเชื่อกู ทำตามที่กูบอกแล้ว เรื่องทุกอย่างจะจบลงด้วยดีเอง”

       แล้วเมืองรามก็วางสายทันที ธวัชวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง งามตาขยับมากอดสามีทางด้านซ้าย

“มีอะไรเหรอพี่ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องที่พี่ไม่สบายใจเอาเลย” ธวัชปฏิเสธิ

“ไม่มีอะไรหรอก หนูอย่าเอามันมาใส่ใจเลย มาว่าเรื่องของเราดีกว่า”

พูดจบธวัชก็ดึงผ้าห่มมาปิดหัวปิดตัวเมียและตัวเองทันที สักพักธวัชก็โยนเสื้อเมียออกมาจากผ้าห่มอีก เสื้อตัวเองด้วย ไม่นานก็ดึงกางเกงขาสั้นเมียโยนออกมาอีกและสุดท้ายก็ผ้าขาวม้าตัวเอง จากนั้นก็ไม่ต้องคิดนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นใต้ผ้าห่มนั้น

+++++ ***** +++++

       เกือบ 5 ทุ่ม ที่ริชาร์ดพาพิมพ์ออกมาท่องราตรี ทั้งพาไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลงและขับรถชมกรุงเทพในยามราตรี คืนนี้พิมพ์ประทับใจริชาร์ดมากที่ทำให้เธอเซอร์ไพร์สจริงๆ วันนี้เป็นวันแรก ที่พิมพ์ได้อยู่กับริชาร์ด กับความรู้สึกนี้ได้ยาวนานที่สุด ตั้งแต่ 17.00 น. - 23.00 น. 6 ชั่วโมงเต็มๆ ริชาร์ดมีความในใจที่อยากจะบอกพิมพ์มาก จึงขับรถมาจอดที่สถานที่สวยงามแห่งหนึ่งก่อนที่จะพาพิมพ์กลับไปที่แฟลตตำรวจ น้ำพุสวยงามตัดกับแสงไฟในยามค่ำคืน เวลาที่มันพุ่งขึ้นมาสลับกับไฟแสงสี

“แต่งงานกับพี่นะน้องพิมพ์” ริชาร์ดคุกเข่าขอพิมพ์แต่งงาน เป็นเซอร์ไพร์สครั้งที่สอง หลังจากเอารางวัลที่ได้ให้พิมพ์เห็นแล้ว

       ริชาร์ดในชุดสูทสีขาวบริสุทธิ์ นั่งชันเข่าขวาขึ้นขาซ้ายแนบยาวไปกับพื้น ชูแหวนต่อหน้าคนที่เขารักในชุดเครื่องแบบตำรวจสีกากีในค่ำคืนนี้ ทำให้พิมพ์ตั้งตัวไม่ติดปรับใจไม่ทันสำหรับเด็กสาวอย่างเธอ พิมพ์เอามือปิดกล่องแหวนเหมือนปฏิเสธิทางอ้อม จนทำให้ริชาร์ดหน้าเสียไปเลย พิมพ์วิ่งหนีไปอีกทาง ริชาร์ดวิ่งตามไปกอดพิมพ์ทางด้านหลัง

“พี่รักน้องพิมพ์จริงๆนะ น้องพิมพ์ไม่รักพี่เหรอ” พิมพ์ส่ายหัวแล้วร้องไห้ออกมาเล็กน้อย

“มันเร็วไปพี่ แค่ 5 เดือน ที่เราได้รู้จักกัน สำหรับหนูมันเร็วไป ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากอยู่กับพี่นะ”

       พิมพ์หันมาหาริชาร์ด เอามือเช็ดน้ำตาของริชาร์ดที่ไหลออกมาเช่นกัน พิมพ์สงสารและเห็นใจริชาร์ด

“อย่าร้องนะคนดี ไม่ใช่หนูไม่รักพี่นะ” พิมพ์ยอมเปิดใจ

“หนูก็รักพี่เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้หนูมาใช้ชีวิตกับพี่ทุกวันในตอนนี้ มันยังเร็วเกินไป ให้เวลาหนูอีกหน่อยนะพี่ ขอให้เราศึกษากันให้มากกว่านี้ก่อนจะได้ไหม หนูสัญญาว่าหนูจะไม่หนีพี่ไปไหน ถ้าพี่ยังมั่นคงกับหนูจริงๆ รอหนูได้ไหม” พิมพ์ต่อรอง

“ทำไมหละ ก็ในเมื่อเรารักกัน ถึงอยู่ด้วยกัน เราก็สามารถจะทำอะไรทุกอย่างได้เหมือนเดิมนะ” ริชาร์ดอธิบาย

“หนูเข้าใจว่าพี่รักหนู หนูขอบใจที่พี่อยากอยู่กับหนู คนจนๆคนหนึ่ง” ริชาร์ดยังไม่เข้าใจพิมพ์

“แต่หนูไม่อยากเป็นเหมือนใครอีกหลายคน” พิมพ์ชี้แจง

“ดูอย่างพี่วัช พี่นก ยุ้ยและงามตาซิ กระทั่งพี่ราม ก็มีปัญหาทั้งนั้น สุดท้ายทุกคนก็ต้องเลิกรากันไป ไม่ได้มีใครอยู่ด้วยกันสักคน หนูกลัวพี่เข้าใจไหมว่าหนูกลัว ขอให้เราศึกษากันให้มากกว่านี้ก่อนได้ไหม” พิมพ์พยายามอธิบายให้ริชาร์ดเข้าใจถึงอนาคต

“พี่ดูหนู หนูดูพี่ ถ้าเราไปกันได้จริง เมื่อถึงเวลานั้น แล้วค่อยมาพูดอีกที มันก็ยังไม่สายนะพี่ ไม่ต้องรีบผูกมัดตัวเอง เผื่อพี่อาจจะเจอใครที่ดีกว่าหนูก็เป็นได้ หนูเป็นคนง่ายๆ เข้าใจอะไรที่มันไม่ซับซ้อน พี่เข้าใจหนูใช่ไหม”

พิมพ์พยายามดึงใจตัวเองกลับมา ก่อนที่จะห้ามใจรับแหวนวงนั้นที่ริชาร์ดให้ไว้

“พี่เข้าใจ แต่พี่มั่นใจแล้ว ไม่งั้น พี่คงไม่ขอหนูแต่งงานหรอก” พิมพ์เอามือของเธอมาจับมือริชาร์ดไว้

“พี่ฟังหนูนะ เวลามันจะเป็นตัวบอกเราเองว่า ใครที่มั่นคนคงและคงมั่นกับเรา” ริชาร์ดฟังแล้ว ยังคงไม่สบายใจ

       พิมพ์เว้นระยะและบอกเพื่อให้ริชาร์ดสบายใจขึ้น

“เพื่อความสบายใจในวันนี้ หนูให้พี่ได้แค่คำว่าแฟนเท่านั้น สบายใจขึ้นมาไหม กับคำๆนี้หนะ จะเอาไหม ถ้าพี่คิดว่ามันยังไม่ดีพอ เพราะรอหนูไม่ได้ ต่อไปนี้เราก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก”

       ริชาร์ดรีบดึงมือพิมพ์มากุมไว้ก่อนที่มือพิมพ์จะหลุดออกไป

“ครับๆ ได้ครับ แฟน ต่อไปนี้น้องพิมพ์เป็นแฟนพี่แล้วนะ ถ้างั้นพี่ขอหมั้นและจองหนูไว้ก่อนจะได้ไหม”

       ริชาร์ดรีบดึงแหวนขึ้นมาแล้วรีบใส่ให้กับนิ้วนางข้างซ้ายของพิมพ์ทันที พิมพ์ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะเธอก็รักริชาร์ดอยู่แล้ว ริชาร์ดจูบไปที่นิ้วนางข้างซ้าย หน้าผากของพิมพ์ด้วย พิมพ์ลุกขึ้นแล้วโอบกอดเอวของริชาร์ดและให้คำมั่นสัญญาด้วยการหอมแก้มซ้ายและขวาของริชาร์ดอีกครั้งเพื่อให้ริชาร์ดมั่นใจว่า พิมพ์ยอมรับเขาเป็นแฟนอย่างเต็มตัวแล้ว

“ไชโย ฉันมีแฟนแล้ว” ริชาร์ดดีใจมากจนลืมตัว กอดพิมพ์แล้วหมุนพิมพ์ไปรอบๆตัวเขาอย่างช้าๆ “ฮู้ๆ”

..... +++++ .....

       1 สัปดาห์ผ่านไป นกรอแล้วรอเล่าจากวันที่ติดต่อเมืองราม ธวัชก็ไม่ปรากฏกายมาให้เธอเห็นสักทีจนบ่ายของวันนี้ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน โดยการช่วยเหลือของเมืองรามเพื่อนรักอีกตามเคย ธวัชยอมมาตามคำเชิญพร้อมกับงามตาเมียคนล่าสุดของเขา

       เขามาเพื่อพูดและอธิบายให้องค์หญิงฟัง บอกให้เข้าใจว่าเราสองคนนั้นไปกันไม่ได้อีกแล้ว ความจริงที่ปรากฏในวันนี้ มันต่างจากวันนั้นโดยสิ้นเชิง ควรยอมรับกับปัจจุบันและชนชั้นที่มันต่างกัน..เมืองรามจะไปส่งข้างใน ธวัชไม่ยอม ขอลงที่หน้าประตูใหญ่

>>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 39 .. “ คนละฟากฟ้า ”

ตอนที่ 38 .. “ ความจริงที่ปรากฏ ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.