บ้านไร่สายสมรตอนที่ 1

บ้านไร่สายสมร

-A A +A

บ้านไร่สายสมรตอนที่ 1

หญิงสาววัยประมาณ 22  หุ่นเพรียวบาง ผิวขาว  ลงจากรถมินิสปอร์ตสีดำดุดัน หล่อนสวมกระโปรงชีฟองสีหวาน  เสื้อเข้าชุดกับกระเป๋าถือแบรนด์เนม  แว่นสีชานั่นทำให้มาดของหล่อนดูมั่นจนใครต่อใครในสำนักงานสีโทนทึบของกรมส่งเสริมการเกษตรอดเหลียวมองไม่ได้

หน้าห้องอธิบดี...

“ไม่ได้ค่ะ  ท่านชลิตยังมีแขกอยู่ค่ะ” เสียงของเลขาฯหน้าจืดพยายามจะอธิบาย  ถึงแม้ว่าอธิบดีจะไม่มีแขก  ก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบถ้าไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า  หญิงสาวผู้มาใหม่ดึงแว่นออก  ดวงตาคู่นั้นมีประกายของความดื้อรั้นเอาแต่ใจ   น้ำเสียงที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบ  เต็มไปด้วยอาการหยิ่งทะนง 

“ช่วยเรียนให้ท่านอธิบดีทราบอีกครั้งจะได้ไหมคะว่า  คุณไหมตะวันขออนุญาตเข้าพบ”

“ไม่...”

“ทำตามที่ฉันบอก”

“เอ้อ... ค่ะ” เลขาฯหน้าจืดยอมจำนน  เมื่อเห็นท่าทีเอาเรื่องของหญิงสาว  แต่ก่อนเลขาฯจะทันได้รายงาน  ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของชายวัย 50 ปี ในชุดสูทขรึมก้าวออกมา

“ลูกไหม”

“คุณพ่อคะ” หญิงสาวโผเข้าสวมกอดอธิบดี  ทำเอาเลขาฯหน้าจืดกลืนน้ำลายเหนียวคอ  เพราะงานเข้าจังเบอร์  แต่สายตาของผู้เป็นนายที่มองข้ามไหล่ของหญิงสาวชื่อไหมตะวันนั้นไม่ได้มีแววตำหนิ  จึงทำให้เจ้าตัวแอบโล่งใจ

“จะมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า” 

“ก็ไม่คิดว่าการเข้าพบท่านอธิบดีจะยากขนาดนี้นี่คะ”  ไหมตะวันทำเสียงตัดพ้อ  จนผู้เป็นพ่อต้องดึงร่างนั้นเข้ามาสวมกอด 

“ที่นี่เป็นสถานที่ราชการ  เจ้าหน้าที่เค้าทำงานตามหน้าที่น่ะ  ไม่ใช่ว่าเข้าพบไม่ได้  แต่มันต้องมีกฎกติกาเอาไว้บ้าง”

“ไม่รู้ละ  ไหมจะฟ้องคุณแม่”

ชลิตหัวเราะให้กับความไม่รู้จักโตของไหมตะวัน  ขณะเดียวกันใจก็กระหวัดถึง สุรีย์ฉายผู้เป็นภรรยา  ยี่สิบกว่าปีแล้วสำหรับการครองคู่กับไฮโซสาว ลูกสาวของอดีตอธิบดีซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับเขาในเวลานี้  ชลิตไม่เคยลืมว่าลำพังแค่ความรู้ความสามารถของนักการเกษตรเล็กๆจากต่างจังหวัดอย่างเขา  ไม่มีวันเจริญก้าวหน้ามากนัก  ถ้าไม่มีเส้นสายระดับการเป็นเขยของท่านอดีตอธิบดี  แต่ก็นั่นแหละ  สุรีย์ฉายอาจมีส่วนสำคัญทำให้เจริญก้าวหน้าก็จริง  แต่นางก็ใช้ความเหนือกว่า  ข่มให้เขาอยู่ในโอวาทจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง  ภาพของสุรีย์ฉายถูกแทนที่ด้วยภาพอันลางเลือนของผู้หญิงอีกคน   เป็นผู้หญิงที่เขาทำผิดอย่างมหันต์ชนิดที่ว่าไม่อาจจะแก้ตัว  ถึงแม้ในก้นบึ้งของความรู้สึกแล้ว  ชลิตยังรักผู้หญิงอีกคนนั้น  รักไม่เคยจาง  ไม่เคยเปลี่ยน  แต่เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดด้วยซ้ำ

“คุณพ่อคะ...”  เสียงของไหมตะวันกระตุกชลิตจากห้วงอดีต  “คิดอะไรอยู่คะ  ไหมถามไม่ยอมตอบ”

“เปล่า”

“มีพิรุธนะคะเนี่ย”

“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย” ชลิตยีหัวลูกสาวแล้วย้อนถาม “จริงสิ  มาหาพ่อมีธุระอะไร”

“ไม่มีธุระมาหาไม่ได้ใช่มั้ยคะคุณพ่อ”

“ได้  แต่ไม่ใช่กับไหมตะวัน”

“คุณพ่ออ่ะ  เบื่อคนรู้ทันจริงๆ”

“เอ้า  ว่ามา” ชลิตยกข้อมือมองเวลา  “แต่มีอยู่เรื่องนึงที่พ่อตามใจเราไมได้”

ใบหน้าที่เจือด้วยรอยยิ้มของไหมตะวันถึงกับสะดุดกึก    “ไหมกำลังจะมาขออนุญาตคุณพ่อไปดูคอนเสิร์ตคู่ดูโอเกาหลีที่กำลังดังมากๆค่ะ”

“ได้สิ”  ชลิตตอบ  “คอนเสิร์ตวันไหนพ่ออนุญาตให้ไปให้ได้ทั้งนั้น   ยกเว้นวันมะรืนนี้  หนูต้องไปงานแจกรางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำปีที่อำเภอสายทองกับพ่อ”

“แต่คอนเสิร์ตมีมะรืนนี้นะคะ ไหมรับปากพี่อัคแล้วด้วย” 

ใบหน้าของหญิงสาวงอง้ำ  ชลิตแอบถอนใจ  นี่แหละ...บุคลิกแบบเดียวกับสุรีย์ฉายเป๊ะ...เป๊ะเวอร์  แต่งานนี้เขาจะใจอ่อนไม่ได้  เพราะได้บอกเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นแรมเดือน  ไม่ใช่เพิ่งบอก   ชลิตรู้ดีว่าการจะบังคับให้ไหมตะวันให้เป็นไปตามที่ต้องการนั้น  จะต้องมีเหตุมีผลชนิดที่เถียงไม่ออกนั่นแหละ  เจ้าตัวถึงยอม  ไม่กล้าบิดพลิ้ว

“เพราะเรื่องนี้ใช่มั้ยหนูถึงมาหาพ่อถึงกรม”

“ค่ะ  ไหมแค่จะมาขอให้คุณพ่อเห็นใจ...”

“พ่อไม่อนุญาต  เกาหลีจะดูเมื่อไหร่ก็ได้  เดี๋ยวมันก็มาอีกเชื่อสิ”

“คุณพ่อคะ  เค้าเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการเล่นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบนะคะ”  หล่อนเสียงดัง  ด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจเสียเต็มประดา

“ก็ใช่  ถ้าพ่อเป็นเกาหลี  พ่อก็ต้องเลือกประเทศที่คนมันคลั่งเกาหลีเป็นชาติแรกเหมือนกัน  ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก”

“คุณพ่อไม่เข้าใจ”

“พ่อเข้าใจ  แต่วันมะรืนนี้  หนูต้องไปอำเภอสายทองตามที่หนูรับปากกับพ่อเอาไว้แล้ว  สัญญานี้จะบิดพลิ้วไม่ได้”

“คุณพ่ออ่ะ”

“กลับบ้านได้แล้ว  พ่อจะทำงาน”

----------------

มือถือกรีดเสียงดัง  แต่ชายหนุ่มเจ้าของเครื่องกำลังพันตูอยู่กับเรือนร่างฉุๆของสาวใหญ่  แค่ขยับจะถอยออกห่างก็ถูกท่อนแขนเหมือนปลีกล้วยตวัดรอบต้นคอเอาไว้ 

“อย่าไปสนใจเลยค่ะเบบี๋”

ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัด  อยากจบเกมรักนี้ให้เร็วที่สุด  เขารู้สึกเหนื่อยไม่มีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น  บางครั้งนึกรังเกียจตัวเอง  แต่ไม่มีทางเลือกมากนัก    เขาเกิดในตระกูลไฮโซ   เปลือกดูดี ข้างในกลวง  ดีหน่อยที่มีรูปเป็นทรัพย์  อาศัยรูปกายกับชื่อเสียงครั้งอดีตของตระกูล  จึงกลายเป็นที่หมายปองของเหล่าซ้อๆเศรษฐินีเงินหนาทั้งหลาย  มันอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก  แต่ใครไม่อยู่ในฐานะแบบเดียวกับเขาย่อมไม่รู้สึกหรอกว่า  การยอมให้คนหมิ่นหยามนั้น  น่ากลัวเสียยิ่งกว่าความตาย

เกมจบแล้วในสภาพเหงื่อโซมกาย  เรี่ยวแรงถดถอยเหมือนเพิ่งผ่านสนามวิ่งมาราธอน  แต่ยังอ้อยอิ่ง อ้อยสร้อย  คล้ายจะขออีกสักยก   ชายหนุ่มต้องใช้มารยาที่ผู้ชายอย่างเขามีมากกว่าผู้หญิง  ทั้งปลอบประโลมทั้งขู่กลายๆว่า  ความสัมพันธ์อาจไม่ยืดยาว   นั่นแหละจึงสามารถขับรถออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่พร้อมเงินติดกระเป๋าอีกปึกหนึ่ง

ชายหนุ่มฉุกคิดถึงสายเข้า  หยิบมือถือเหลือบมองหน้าจอแวบเดียว  ใจหายวูบ  เพราะมีถึง 19  สายไม่ได้รับ

“งานเข้า”  พึมพำ  ก่อนจะตบไฟเลี้ยวเพื่อหาที่จอดรถเพื่อเคลียร์...

----------------

สุรีย์ฉายดึงร่างของไหมตะวันที่ออกอาการกระฟัดกระเฟียดตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน   นางรับฟังแล้วปลอบโยนอย่างเข้าข้างลูกสาว  คนอื่นผิดหมด  ลูกสาวของนางถูกต้องเสมอ  นิสัยของไหมตะวันจะว่าไปแล้วถอดแบบมาจากสุรีย์ฉายนั่นเอง  ไฮโซ หรูหรา  ฟุ่มเฟือย เอาแต่ใจ วีนแตก  ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก 

สุรีย์ฉายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของอธิบดีกรมใหญ่  มีชีวิตเป็นคุณหนูตลอดมา  ไหมตะวันเป็นลูกไม้ที่หล่นใต้โคนต้น  เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ  เพราะคุณสมบัติที่หล่อนเป็น  ก็คือ คุณสมบัติเดียวกับสุรีย์ฉายผู้เป็นแม่นั่นเอง

“เรื่องคุณพ่อ  เอาไว้แม่จัดการให้เอง    เป็นพ่อประสาอะไรไม่รู้จักตามใจลูก”  นางให้ท้ายลูกสาวสุดที่รักสุดๆ 

“ไหมไม่อยากไปงานบ้าๆ  บ้านๆนั่นเลยนะคะคุณแม่”  

“แม่เข้าใจหนูดี  เรามันผู้ดี  เรื่องอะไรจะต้องไปข้องแวะกับพวกชาวนาชาวไร่จนๆ  มันคนละชั้นกัน”  น้ำเสียงของสุรีย์ฉายแสดงความหมิ่นหยามคน  ซึ่งเป็นนิสัยปกติของนางนั่นเอง

“โอ.นะลูก  มะรืนนี้หนูเตรียมชุดสวยๆไปดูคอนเสิร์ตกับคุณอัคราได้เลยนะ  เรื่องคุณพ่อปล่อยให้แม่จัดการเอง”

“ไม่ค่ะ”  ไหมตะวันขยับออกห่างมารดาพร้อมปฏิเสธทันควัน

“อ้าว...”  สุรีย์ฉายอ้าปาก  ตามอารมณ์ของไหมตะวันไม่ทัน  “ไหนบอกว่าอยากไปดูคอนเสิร์ตกับคุณอัครา  แต่ติดที่ต้องไปงานกับคุณพ่อ”

“ไหมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละค่ะ  โกรธพี่อัคแล้วด้วย”

“อ้าว...  ไหม...  เดี๋ยว...”  สุรีย์ฉายมองตามหลังไหมตะวันที่เดินลงส้นหนักๆจากไป  แววตาของนางมีประกายพึงพอใจ  ไม่ได้เป็นกังวลแม้แต่นิดเดียว   เพราะนี่แหละคือความต้องการของนาง  สุรีย์ฉายออกแบบไหมตะวันให้เป็นอย่างที่นางต้องการ

ประกายตาของสุรีย์ฉายยามนี้  จะมีสักกี่คนที่อ่านความคิดของนางออกว่า  นางไม่ได้มีความปรารถนาดีต่อไหมตะวันแม้แต่นิดเดียว 

----------------

ลูกดอกปลิวจากมือของไหมตะวันไปปักที่รูปภาพของอัคราที่แปะอยู่กับผนังห้อง  ดอกแล้วดอกเล่า ท่ามกลางเสียงกรีดดังของมือถือซึ่งเป็นสายเรียกเข้าจากอัครานั่นเอง  ถ้าใครมาเห็นความแม่นยำในการปาลูกดอกของไหมตะวันอาจต้องอ้าปากค้าง

หล่อนเลือกเป้าแล้วปาลูกดอกออกไป   ไม่พลาดแม้แต่ดอกเดียว   ที่เป็นอย่างนี้เพราะไหมตะวันนั้นถูกสอนให้รู้จักศิลปะป้องกันตัวจากชลิตตั้งแต่ยังเด็ก  มวยไทย  คาราเต้ ยูโด  ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าแทบจะทุกแขนง  รวมทั้งการยิงปืน  หล่อนมีดีกรีเป็นถึงแช้มป์นักกีฬายิงปืนสมัครเล่นตั้งแต่เพิ่งเข้าปีหนึ่ง  เพราะฉะนั้นการปาลูกดอกจึงเป็นเรื่องเด็กๆสำหรับไหมตะวัน

เสียงมือถือเงียบลง  ไหมตะวันหยุดปาลูกดอก  ก่อนจะหยิบมือถือมากดปิด   หล่อนยังไม่พร้อมจะให้อภัยใคร  แม้ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนที่คบหากันมาอย่างยาวนาน  โดยได้รับการสนับสนุนจากสุรีย์ฉายผู้เป็นมารดา

“คุณหนูขา...” เสียงอ่อนโยนของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง  “ให้ป้าเข้าไปนะคะ”

“....”  ไหมตะวันระบายลมออกจากปาก  หล่อนอาจจะไม่น่ารักกับสุรีย์ฉายได้    หล่อนวีนกับทุกคนได้  ยกเว้นนิ่ม  ผู้เป็นแม่นม  ดูแลหล่อนเสมือนเป็นแม่คนหนึ่ง   ไหมตะวันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมกับแม่นม  หล่อนถึงไม่กล้าแสดงกิริยาไม่น่ารักให้นางเห็น  หรืออาจจะเป็นเพราะ...เกือบทุกครั้งที่หล่อนรู้สึกแย่ๆ  หล่อนรู้สึกดีกับคำพูดของแม่นม 

เปรียบเทียบแม่นมกับสุรีย์ฉายผู้เป็นมารดา    แม่นมไม่ใช่คนที่ตามใจหล่อนเสียทุกเรื่อง  ตรงกันข้าม  เป็นอีกคนหนึ่งที่คอยทักท้วงเมื่อเห็นหล่อนตั้งป้อมตั้งแง่กับชลิตหรือสุรีย์ฉาย

“ไม่ได้ล็อกหรอกค่ะคุณป้า” 

ป้านิ่มเปิดประตูเข้ามา  สายตาที่มองมายังหญิงสาวรุ่นราวคราวลูก  ยังเต็มไปด้วยความห่วงใยไม่ต่างจากเดิม

“ทะเลาะกับคุณอัครามาหรือคะคุณหนู”

“เปล่าค่ะ”

“ยังจะโกหกป้าอีกนะคะ”

“ก็ไม่ได้ทะเลาะจริงๆนี่คะ   แค่โทร.หาเป็นสิบๆสาย  แต่พี่อัคไม่ยอมรับเท่านั้น”

“คุณอัคบอกว่าติดประชุมกับลูกค้าอยู่ค่ะ” 

หญิงสาวสบตากับแม่นม  “พี่อัคฟ้องคุณป้าหรือคะ”

“เปล่าหรอกจ้ะ  คุณอัคมานั่งรอคุณหนูอยู่สักพักใหญ่แล้ว ท่าทางเธอดูร้อนใจมาก  โทร.หาคุณหนูเป็นร้อยสายได้แล้วมั้ง... ลงไปหาพี่เค้าหน่อยนะคะคุณหนูขา  สงสารคุณอัคออก”

ไหมตะวันพยักหน้าอายๆ  ป้านิ่มดึงร่างนั้นเข้ามาสวมกอด  ใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้มละไม 

----------------

“คุณหนูไม่อยู่ค่ะ  ออกไปกับคุณอัคตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายแล้วละค่ะ” 

ชลิตชะงักเท้าหยุด  เมื่อได้รับคำตอบแรกจากป้านิ่ม  หลังกลับจากกรม  โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่ได้ชอบนิสัยใจคอของอัคราแม้แต่นิดเดียว  แม้พยายามเปิดใจยอมรับเพียงใดก็ตาม   เนื่องจากมีข่าวลือเข้าหูบ่อยครั้งว่า  ไฮโซหนุ่มผู้นี้มีพฤติกรรมคั่วสาวแก่แม่ม่ายโดยเฉพาะหญิงแก่มีเงินทั้งหลาย  อาจไม่มีหลักฐานชัดเจน  แต่ผู้ชายด้วยกันย่อมมองผู้ชายออก    อีกอย่างไม่ปรากฏว่าไฮโซหนุ่มผู้นั้นมีการงานเป็นหลักแหล่ง  มีเพียงชาติตระกูลกับนามสกุลไฮโซบังหน้าเท่านั้น   คนเราถ้าไม่มีการงานทำ   เอาแต่ลอยชายไปมา  ต่อให้เป็นไฮโซก็ไม่ได้มีความหมายอะไร

“คุณผู้ชายคะ  จะรับของว่างไหมล่ะคะเดี๋ยวฉันไปจัดให้”

“ไม่ละ  ขอบใจนะ  จริงสิ  คุณฉายล่ะ”

“คุณฉายเพิ่งออกไปค่ะ”

“ไปไหน”

“เห็นบอกว่าเพื่อนก๊วนเก่าโทร.ตามกะทันหันค่ะ  ให้คุณทานข้าวก่อนได้เลยค่ะ  อาจกลับค่ำ”

“แย่จริง  ไม่มีใครอยู่บ้านเลยทั้งแม่ทั้งลูก”

ชลิตบ่น  ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรของครอบครัว   เขาเดาได้ไม่ยากว่าสุรีย์ฉายไปเมาท์มอยเรื่องอะไรกับกลุ่มก๊วนของนาง   ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว  ความคิดของสุรีย์ฉายยังเหมือนเดิม  ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  และเป็นความคิดของไฮโซกลุ่มเล็กๆที่ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องไลฟ์สไตล์โดยไม่สนใจว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว

“พี่นิ่ม”

“คะคุณผู้ชาย”

“คิดว่าอัคราเป็นคนยังไง”

“หล่อค่ะ”

“ผมรู้ว่าหล่อ  แต่หมายถึงนิสัยใจคอ”

“ดีมั้งคะ”  ป้านิ่มตอบอย่างไม่สู้มั่นใจ 

“ถามจริงๆ”  ชลิตทำเสียงเข้ม  “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  ผมอยากรู้จริงๆว่าป้านิ่มจะคิดยังไงกับอัครา”

“งั้นตอบไม่เกรงใจเลยนะคะ”

“ว่า...”

“หน้าหม้อเกิ๊น  ถ้าฉันมีลูกสาวละก็จะไม่ให้เฉียดใกล้ผู้ชายแบบนี้เลยค่ะ”

ใบหน้าขรึมของชลิตถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมา  ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเกือบจะทันที 

“ผมเป็นห่วงลูกไหมนะพี่นิ่ม  ไม่รู้จะทำยังไงจึงจะแยกลูกไหมจากนายอัคราได้”

“ฉันคิดว่าคุณผู้ชายปลื้มซะอีก”

“ไม่  ไม่เลย”

ชลิตตอบด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว   ก่อนขอตัวเข้าไปในบ้าน  ปล่อยให้สาวใหญ่นิ่วหน้าคิด  เพราะเท่าที่รับใช้ครอบครัวนี้มา  ชลิตไม่เคยมีความคิดขัดขวางสุรีย์ฉายได้เลย   เมื่อสุรีย์ฉายเห็นดีเห็นงามให้ไหมตะวันคบหากับอัครา  ก็ต้องเป็นไปตามที่สุรีย์ฉายต้องการนั่นเอง  ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นอื่น

“คุณผู้ชายมาหลอกถามเราหรือเปล่าเนี่ย”  สาวใหญ่บ่นพึมพำ  “ขืนไปฟ้องคุณผู้หญิง  มีหวังถูกเฉดหัวออกจากบ้านแน่  โธ่...”

----------------

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.