ตอนที่ 38 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

พยัคฆ์ร้าย..สายลับ

-A A +A

ตอนที่ 38 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ 

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึง เหตุการณ์ของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น

.. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. พัชฌา

 

 (เพลงประกอบ นิยาย พยัคฆ์ร้าย..สายลับ)  พัชฌา

ขอขอบคุณ คุณซาร่า ผุงประเสริฐ จาก ค่าย โซนี่ มิวสิค ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

เจอกับตัวเอง ถึงรู้ – ซาร่า

https://www.youtube.com/watch?v=0sPOMxRH7Ic

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

ตอนที่ 38 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

“พี่ไปจริง แต่ไม่ได้อยู่ในชุดนั้น พี่อยู่ในอีกชุดนึงที่ให้วางระเบิด เพราะแทนไทสั่งไว้เท่านั้น” สนบอกไปตามความเป็นจริง

“แต่รู้สึกว่า พี่ไม่เห็นผู้การเผด็จในนั้นนะ แกคงหนีรอดไปได้” แล้วก็วางสาย

   เบ็นซ์พอรู้ก็ร้อนใจ จะเอายังไงดี ยังโกรธน้องสาวอยู่เรื่องแย่งแฟนพี่ แต่ก็อีกหละ ไม่รู้จะเอายังไงดี โบว์ก็หายไป เพราะทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย..เพ็ญตกใจมากที่สามีโดนข้อหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย จึงปรึกษาพ่อ

“พ่อ พี่เด็จ ทำไงดี ตอนนี้พี่เด็จกลายเป็นผู้ก่อการร้ายไปแล้ว ถูกตามจับ รูปออกไปทั่วประเทศแล้ว พ่อ ทำไง พ่อ หนูกลัว”

“ใจเย็นๆซิลูก พ่อกำลังคิดอยู่ พรุ่งนี้พ่อจะลองถามอัธวุฒิดู ว่าต้นสายปลายเหตุมันเป็นยังไง”

   ส่วนทางบ้านของเผด็จก็เหมือนตกอยู่ในคุกออกไปไหนลำบากมาก เพราะตำรวจมาเฝ้าเข้ม ทำให้เกศ ผิง เบื้องและแม่ กินไม่ได้นอนไม่หลับไปเลย “น้าเกศหนูกลัว พ่อไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกใช่ไหมน้า”

   เกศเอาแขนทั้งสองข้างมากอดลูกทั้งสองคนไว้ แล้วปลอบใจ “น้าหอม พ่อจะเป็นไรไหม ตอนนี้พ่อไปไหน เบื้องจะหาพ่อ”

“โธ่ พ่อคุณทูนหัวของน้า ใจเย็นๆนะลูก พ่อของหนูต้องปลอดภัย เพราะพ่อของพวกหนูเป็นคนดี จำเอาไว้นะ ว่าพ่อเป็นคนดี”

\\\\\ ----- /////

   แตงโมพากันตภณหนีไปที่สำนักงานตัวเอง แต่ก่อนจะไปถึงสำนักงานก็พามาหลบที่ฟิตเนตก่อนเพราะต้องใช้เวลาในการจัดห้องหับก่อน พอมาเจอพลอยใสจึงแอบรักขึ้นมาทันที หัวใจ..ใครจะรู้ หลงความน่ารักของสาวน้อยพลอยใสขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว

“นี่ไอ้น้อง ให้มาหลบภัย ไม่ใช่มาหลีสาว น้อยๆหน่อยๆนั่นมันน้องสาวฉันนะโว๊ย”

   แตงโมเดินมาตบกบาลภณนิดหน่อย หลังจากไปทำแผลที่โรงพยาบาลมา แล้วก็หันมองไปที่ปูนซึ่งกำลังสอนเด็กๆอยู่ ปูนก็ยิ้มให้

“น้องเค้าชื่ออะไรหนะพี่ ทำไมถึงได้น่ารักน่าชังแบบนี้หละ” แตงโมกำลังเพลินกับการมองสาวปูน จนไม่ได้ยิน ภณจึงหันไปดู

“เพ่ ใครหนะ แฟนหรา น่ารักจุง” โดนตบกบาลอีกครั้ง

“ทะลึ่งนะแก ไงเมื่อกี้ถามอะไร” แล้วภณก็ชี้ไปที่พลอยใส

“พลอยใส เค้าเป็นเจ้าของฟิตเนตที่ ที่แกกำลังนั่งอยู่นี่แหละ ไปไปที่พักของแกได้แล้วไป ยังจะมาทำตาเยิ้มอีก”

   แล้วแตงโมก็พากันตภณไปที่สำนักงานนักสืบของเขากับปริ๊นซ์ ที่ชั้นสาม แตงโมให้กันตภณมาหลบอยู่ที่นี่ หลังจากที่หนีการจับกุมของพวกแทนไท กองบัญชาการของเขา จึงได้รู้จักกับปริ๊นซ์ด้วย

“นี่ปริ๊นซ์เพื่อนฉัน” กันตภณยกมือไหว้ “เออ ไหว้พระไอ้น้อง”

   คุยไปคุยมาก็สามารถเข้ากันได้ดี เพราะเก่งคอมทั้งคู่ จึงจับมือเป็นเพื่อนกัน

***** +++++ *****

  ปูนเริ่มมีใจให้กับแตงโม หัวใจ..ใครจะรู้ หลังจากที่ปูนบาดเจ็บจากภาระกิจในครั้งนี้ คล้ายๆกับทับทิมตอนที่อยู่หุบเขา แตงโมมารับกระสุนแทนเธอ จนทำให้ปูนซึ้งใจมาก จึงเลิกคิดถึงเผด็จ คนรักที่ไม่มีหัวใจเสียที หลังจากเลิกงานปูนมาดูแลแตงโมที่บ้าน

“พี่โมเป็นไงบ้าง เจ็บมากไหม หนูต้องขอโทษนะที่ต้องทำให้พี่เจ็บในครั้งนี้”

“ไม่เป็นไร เพื่อปูนพี่ทำได้” ปูนเขินหน้าแดง จนทับทิม เอาแขนสะกิดเพื่อน

“ไงหละแก เห็นยังว่าพี่ชายฉันก็ดีไม่แพ้อาเด็จของแก” ปูนมองหน้าเพื่อนแล้วชี้หน้า

“ไม่ต้องเลยแก ต่อไปนี้ห้ามพูดถึงคนที่ไม่มีหัวใจคนนั้นให้ฉันได้ยินอีก ต่อไปนี้ฉันจะเลิกคิดถึงเค้าแล้ว เข้าใจไหม”

“จร้า พี่สะใภ้” ปูนชี้หน้าทับทิมแล้วก็ลุกไล่ตีทับทิม

“จะไปไหน ไอ้เตี๊ย พูดอะไร ฉันเสียนะ กลับมาเดี๋ยวนี้” ทับทิมวิ่งไปพูดไป ไม่หยุด รอบบ้าน

“พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ พี่สะใภ้..” แตงโมแอบยืนยิ้มกับความสุขเล็กๆที่ได้รับ

>>>>> ***** <<<<<

   ก่อนที่ฐานจะระเบิด เทียนหอมสามารถ วิ่งไปเอากล่องสำคัญหลังตู้ได้ทัน แล้วหนีหายไปพร้อมเนตร ไปหาเนเน่และพู่กันที่ 7 เพราะสองคนนั้นยังปลอดภัย เมื่อเนตรรู้ว่าชุดของเธออยู่กับพู่กันเธอดีใจมาก เธอจึงรีบขอคืนเพื่อจะเอาไปช่วยคนที่เธอรัก

“พู่กันพี่ขอชุดพี่คืนด้วย อยู่ที่แกใช่ไหม” พู่กันพยักหน้า

“แล้วพี่จะเอาไปทำอะไร ก็เห็นคราวก่อนทิ้งไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ใครบอกทิ้ง ฉันบอกว่าขอฝากเอาไว้ แค่ฝาก ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องรึไง เร็วไปเอามา ตอนนี้นายกำลังตกอยู่ในอันตราย ต้องหนีทั้งตำรวจและฉัตรเทพ งานนี้ฉันไม่ช่วยไม่ได้ และไม่ขอให้ใครช่วยด้วย ฉันจะไปคนเดียว เพราะไม่อยากให้ใครมาได้รับอันตราย”

“แล้วรู้เหรอว่านายอยู่ไหน” เทียนหอมถาม เพราะขนาดเอเป้นเมียแท้ๆ เธอยังไม่รู้เลย

“ต้องรู้ซิ เพราะหนูติดเครื่องติดตามตัวไว้ในตัวของนายแล้ว” เทียนหอมงง

“ไม่ต้องถาม เอาเป็นว่ารู้ก็แล้วกัน” เนตรบอก

“นี่ก็ 6 โมงเย็นแล้ว ฉันต้องรีบเดินทาง ไม่งั้นอาจไม่ทัน นายอยู่ต่างจังหวัด”

   เนตรเป็นห่วงแฟนตัวเองจนลืมเรื่องที่งอนและเรื่องที่เขาเคยทำไว้ทุกอย่าง พอสำรวจว่าชุดและอุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ครบ เนตรก็รีบแต่งตัวเป็นหงส์ฟ้า สีฟ้าสวยสดใสและไปทันที “พี่ไปด้วย” เทียนหอมกล่าวขึ้นมาอย่างหนักแน่น

“พี่อย่าไปเลย งานนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับพี่” เนตรแกล้งพูดไปแบบนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าอะไรคืออะไร แต่ที่ทำไปเพราะรักอย่างเดียวล้วนๆ

   เนตรไม่อยากให้เทียนหอมเป็นอะไร เพราะรู้ว่าเผด็จรักเทียนหอมมาก ขืนให้เข้ามายุ่งเรื่องนี้ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาเธอรับผิดชอบไม่ไหวแน่ หอมยอมบอกความจริงกับเนตรเรื่องเผด็จเช่นกัน แต่ไม่ได้บอกอะไรมาก แค่บอกว่าเป็นคนรักและผูกพันกันมานาน

“ในเมื่อแกไปช่วยคนที่แกรักได้ ทำไมฉันจะไปช่วยคนที่ฉันรักไม่ได้ เหมือนแกหละ” เทียนหอมส่งยิ้มให้น้องสาว

“พี่หอม พี่อย่าบอกนะว่า พี่เป็นอะไรกับนายหนะ” หัวใจ..ใครจะรู้ เนตรแกล้งทำเป็นไม่เคยรู้เรื่อง ระหว่างเทียนหอมกับนาย

“เอาเถอะ มันอธิบายยาก แกอย่ารู้เลย เอาเป็นอันว่า เราไปช่วยคนที่เรารักด้วยกัน โอเครไหม”

“ก็ได้พี่ เอาไงเอากัน” ทั้งสองคนยิ้มและพยักหน้า เทียนหอมลุกเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ เป็นหงส์หยก สีเขียวสดแล้วเดินออกมา

“ก่อนที่พวกนั้นมันจะมาเอาชีวิตของคนที่เรารักไป” เทียนหอมจับมืกับเนตรอัปสร แล้วกำลังจะเดินออกไป สวมเสื้อคลุมทับชุดไว้

“ได้” เนตรรับปาก เนเน่ ยืนคิดอยู่นาน พอเห็นแม่ๆจะออกไปลุย จึงขอเอาด้วย “หนูไปด้วย”

“แกจะไปทำไม ไม่ใช่เรื่องของเด็ก อีกอย่างพรุ่งนี้แกก็มีเรียน ไม่เอาแม่ไม่ให้ไป ถ้าแกเป็นอะไรขึ้นมาพ่อแกจะมาว่าฉันได้”

   เนตรบอกลูกสาวด้วยความห่วงใยจริงๆ “หนูเป็นลูกนะแม่ พ่อมีอันตรายหนูก็ต้องไปช่วยซิ ไม่หละ ยังไงหนูก็จะไป เรื่องเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ พ่อสำคัญกว่า แม่อย่ามาห้ามหนูซะให้ยากเลย พ่อใคร ใครก็รัก หนูรักพ่อเหมือนที่พวกแม่ๆรักเหมือนกันนั่นแหละ เข้าใจไหมแม่ อย่าคิดนานเลย ในเมื่อแม่ไปได้ ทำไมหนูจะไปช่วยพ่อไม่ได้” เนเน่ยังไงก็ไม่ยอม จนแม่ๆต้องกลุ้มใจ

“เอางี้ เอาไงเอากันพวกเราไปด้วยกันหมดทั้ง 4 คนนี่แหละ” พู่กันสรุปให้ แล้วทั้งสองคนที่เหลือ ก็วิ่งกลับเข้าไปแต่งชุด

   เนเน่มาในชุด ธิดาพญายม สีขาวบริสุทธิ์ และ พู่กันในชุด เทพ พญายม สีดำอมตะ ออกมาและทั้งสี่คนก็ตรงไปช่วยเผด็จ

***** ฿฿฿฿฿ *****

   คฑาเริ่มรู้ว่าเบียร์ชอบจึงตัดสินใจคบหัวใจ..ใครจะรู้ คฑาเองอย่างที่รู้ๆว่าอยากเลิกและมาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป

“เบียร์ครับ” เบียร์กำลังจัดร้าน “ขา” ตอบซะเสียงหวานจนทำให้คฑาใจละลายเลย เผลอเอามือเขามาจับมือเบียร์เอาไว้

“ให้ผมดูแลชีวิตเบียร์ได้ไหม” เบียร์ตกใจในประโยคนี้ของคฑา

“เดี๋ยวนะ เมื้อกี้ ฑาว่าอะไรนะ เบียร์ได้ยินไม่ถนัด พอดีกำลังจัดของอยู่”

“เออ..ไม่มีอะไร ผมจะบอกว่า ให้ผมช่วยอะไรไหม” เบียร์อมยิ้ม

“ได้ งั้นก็ช่วยเอาแผงนี้ไปไว้ตรงโน้นนะ แล้วเอาเสื้อผ้าในถุงนี้ออกมาแขวนให้ด้วยก็แล้วกันจะได้เสร็จเร็วๆ”

“ครับ” คฑา ยังไม่กล้าที่จะเผยความในใจที่แท้จริงออกมามา ที่จริงแล้วตัวเขาเองก็ชอบเบียร์เช่นกัน ติดตรงที่ว่าเขาทำงานไม่ดี

%%%%%% ----- %%%%%%

   กันตภณหาทาง หาเรื่องมาจีบพลอยใส ไม่เว้นแต่ละวัน จนทำให้พวกปูนและทับทิมสงสัยว่า อีตานี่มาทำอะไรทุกวี่ทุกวันที่นี่

“นี่พี่ภณ หนูถามจริงๆ พี่มาที่นี่ทุกวี่ทุกวันทำไม ทั้งๆที่ ที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้พี่ทำ งานพี่อยู่ที่สำนักงานนักสืบไม่ใช่เหรอ ข้างบนหนะ”

   ทับทิมถามภณ เพราะข้องใจ จนภณต้องยอมบอกความจริงกับทับทิมบางส่วน

“พี่เออ..น้องพลอยใสหนะครับ เธอน่ารักมาก นะพี่ขอถามอะไรทิมหน่อยซิ อยากรู้ว่าน้องเค้ามีแฟนหรือคนรักรึยัง”

“อืม เท่าที่อยู่ด้วยกันมา หนูก็ไม่เห็นมีใครมาจีบพี่แกสักที เพราะพี่แกหลบอยู่แต่ในนี้ พวกลูกค้าก็ไม่เห็นมีใครมาจีบนะ”

   ปูนเดินเข้ามาตบไหล่ซ้ายภณ “ทำไมพี่จะจีบพี่สาวหนูเหรอ ยากนะต้องผ่านด่านพวกหนูไปก่อน ถ้าไม่ดีและแข็งแรงพอที่จะมาดูแลพี่สาวหนูหละก็หมดสิทธิ์ โดยเฉพาะพวกเจ้าชู้อย่างพี่เนี่ย รับรองหมดสิทธิ์”

“โถ..น้องๆครับ พี่เป็นคนเจ้าชู้ที่ไหน ถ้าเจ้าชู้จริงปาดนี้ พี่มีลูกเต็มฐานไปนานแล้ว ทำแต่งานหลบก็อยู่แต่ในเขา ไม่ได้เจอใครเลย ไอ้ที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้เรื่อง” พลอยใสดูเวลาที่ข้อมือ เที่ยงแล้ว ได้เวลาที่ต้องไปธนาคาร จึงปิดเครื่องคอมฯ และลุกขึ้น

“นั่นแน่ ยอมรับออกมาแล้วใช่ไหมว่าชอบพี่สาวหนู” ทับทิมแหย่ ภณ ภณเขินอายหน้าแดงเลย

“ผู้ชายอะไรวะ เขินหน้าแดงยังกะลูกตำลึง แต๋วหรือเปล่าวะเนี่ย ไหนดูดิ” ปูนแซวหนัก จนภณต้องวิ่งหนี

   พลอยใสลุกขึ้นมาพอดีจะเดินไปเอาสมุดบัญชีที่หน้าเคาเตอร์ ภณวิ่งหนีปูนกับทับทิม มาโดนพลอยใสพอดี เธอล้มลงอย่างแรง ภณรีบดึงพลอยใสขึ้นมา “ขอโทษครับน้องพี่ไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไร หนูไม่เป็นไร” ภณจ้องพลอยใสอยู่นานจนพลอยใส ใจเต้นตุ๊บๆ หัวใจ..ใครจะรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพลอยใสเช่นกัน

“พี่คะ พี่” พลอยใสสะกิดภณ “ครับ” พลอยใสชี้ไปที่มือ

“เมื่อไหร่จะปล่อยหนูสักทีหละคะ หนูจะรีบไปธุระ” ภณเลยต้องปล่อย

“ขอโทษครับ” พอปล่อย พลอยใสรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ หยิบสมุดบัญชี แล้วรีบเดินจ้ำอ้าว ออกไปเลย

   ปูนกับทับทิม แอบยิ้มและหัวเราะอยู่ในห้องสอน ภณหันไปยิ้มแหยๆให้กับทั้งสองคน แล้วก็รีบเดินหายไปจากตรงนั้น

..... +++++ .....

  โบว์ตามหาเผด็จอย่างใจจดใจจ่อ ตั้งแต่เช้าจนเย็น ไปที่คอนโดก็ไม่มี จึงตามรอยจากสัญญานในโทรศัพท์ที่เธอก็ติดไว้ คิดว่าพอจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน “อยู่ต่างจังหวัดนี่ ไม่ได้เข้ามาในกรุงเทพ ทำไมครั้งแรก ถึงไม่ปรากฏนะ หรือว่าป๊าปิดเครื่อง”

   เธอรีบเปลี่ยนชุดเป็นนางแมวป่า แล้วตามสัญญานไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพราะใจเป็นห่วงสามีตลอดทุกวินาที

///// +++++ /////

   2 ทุ่ม..ขิงมาดูแลอัธวิทย์ถึงบ้าน เพราะขิงเริ่มมีใจให้กับอัธวิทย์จริงๆมากขึ้น หัวใจ..ใครจะรู้ และลดความเอาแต่ใจตัวเองลงเพื่อคนที่เธอรัก “วิทย์เป็นอะไรขึ้นมาอีกหละ พักหลังๆหน้าดูไม่ดีเอาเลย”

“ขิงรักวิทย์ไหม” ขิงทำหน้าแปลกๆ เมื่อวิทย์ยิงคำถามนี้ขึ้นมา

“ทำไมอยู่ดีๆ วันนี้วิทย์ถามขิงแปลกๆ ถ้าไม่รักจะมาอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเหรอ”

   ขิงวางมีดที่ปอกแอ๊ปเปิ้ล แล้วเดินไปล้างมือ เช็ดมือแล้วเอามือสองมือไปจับหน้าวิทย์ แล้วก็จูบไปที่ปากสักพักก็ถอนออกมา

“สบายใจขึ้นรึยังคะ” แล้ววิทย์ก็เอามือเอื้อมมากอดขิง ขิงนั่งอยู่บนตักขวาวิทย์

“วิทย์ไม่สบายใจเรื่องพ่อ ตั้งแต่พ่อไปตามจับคุณลุง” วิทย์ระบายความในใจออกมา “วิทย์หมายถึงผู้การเหรอ”

“ใช่..คือคำสั่งมันเหมือนให้ล้างบาง อะไรสักอย่าง มันไม่ใช่คำสั่งให้ไปจับอะไร อย่างที่ข่าวออกไป พ่อก็เลยมานั่งเครียดอยู่บนห้องหลายวันแล้ว วิทย์เองก็ไม่สบายใจวันนั้นที่ไปช่วยพ่อถล่มฐานแห่งนั้นหนะ”

“เอาน่า ไหนๆเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว อย่าเก็บเอามาคิดมากเลยนะคนดี”

   ขิงเอามือขวาลูบผมวิทย์เปิดหน้าผาก แล้วก็ก้มลงไปหอมหน้าผาก

“งั้นขิงกลับก่อนนะ วิทย์จะได้ไปดูพ่อ แล้วอย่านอนดึกนักนะ ขิงเป็นห่วง” แล้วขิงก็ลุก อัธวิทย์ดึงแขนขิงไว้

“มีอะไร” วิทย์เอาปากเขาประกบไปที่ปากของขิง แล้วก็ผลักขิงลงไปที่โซฟา เอามือจับไปที่เต้าขิง ขิงยังไม่ยอมเสียตัวในตอนนี้แน่

“อย่าค่ะวิทย์ ขิงยังไม่พร้อม นะ ถ้ารักขิง อดใจอีกนิด แล้วขิงจะยอมให้วิทย์ทำทุกอย่างตามที่หัวใจวิทย์ต้องการ”

   วิทย์จึงลุกขึ้น “วิทย์ขอโทษ” ขิงเข้าใจแฟนตัวเองดี แล้วก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มซ้ายแล้วก็จัดเสื้อและก็เดินกลับออกไป

+++++ ****** +++++

   ไม่นานขิงก็กลับมาถึงบ้าน กำลังจะเดินขึ้นห้องเห็นแทนไทนั่งดูทีวีอยู่คนเดียวที่ห้องรับแขก เธอเหลือบไปดูเวลา 3 ทุ่ม จึงเดินเข้าไปถามแทนไทซะเลยเรื่องที่ไปถล่มฐานของเผด็จ..ขิงเอามือไปแตะไหล่ซ้ายแทนไท

“ป๊า ยังไม่นอนเหรอคะ” แทนไทหันมา

“อ้าวขิง ไปไหนมาหละวันนี้ กลับซะดึกเชียว”

“หนูพึ่งกลับมาจากบ้านวิทย์หนะค่ะ เจอป๊าก็ดีแล้ว หนูขอถามอะไรป๊าหน่อย”

“มีอะไรหละ ว่าไป” แทนไท ยังสนใจทีวี “ที่ข่าวออกเรื่องถล่มฐานเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ที่เมืองกาญจน์หนะ ฝีมือป๊าใช่ไหม”

“ใช่ แล้วแกถามทำไม” แทนไทชักอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเลยทีเดียวจึงปิดทีวี แล้วหันมาถามลูกสาว

“ทำไม แล้วมันเรื่องอะไรของแก ฉันไม่เห็นว่ามันจะมาเกี่ยวอะไรกับแกเลย”

“เกี่ยวซิป๊า” ขิงสวนกลับทันที “ยังไง” แทนไทก็ถามเช่นกัน

“ผู้กำกับเค้าเป็นพ่อของคนที่หนูรัก แล้วป๊าใช้อำนาจมืดของป๊า ไปบังคับให้เค้าต้องไปทำเรื่อง ทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำ”

“นี่แกรักมันจริงๆเข้าแล้วเหรอนังขิง ฉันแค่ให้แกไปตีสนิทหรอกมัน เอาข้อมูลต่างๆมาจากมันเท่านั้น ไม่ได้ให้แกไปรักมันจริงๆ”

“ใช่ หนูรักวิทย์ เมื่อก่อนอาจจะไม่และรักหลอกๆรักปลอมๆเพราะป๊าสั่ง แต่พอนานไปเมื่อหนูได้คบและรู้ถึงนิสัยใจคอของเขามากขึ้น มันจึงทำให้หนูรู้ว่าหนูหลอกวิทย์และหลอกใจตัวเองต่อไปอีกไม่ได้ ความดีและความจริงใจของเขามันทำให้หนูละอายใจ”

“นี่แก..บ้าไปแล้ว แกเห็นศัตรู ดีกว่าป๊าใช่ไหม ถึงพูดแบบนี้” แทนไทเริ่มโมโหลูกสาว

“ก็ป๊าทำเกินไป อีกอย่างป๊าจำไม่ได้เหรอที่ผู้การเค้าช่วยชีวิตครอบครัวเราเอาไว้เมื่อครั้งที่แล้ว ป๊าจำไม่ได้เหรอ แล้วนี่ทำไมป๊าถึงกลับมาตอบแทนคนที่ช่วยชีวิตป๊าในครั้งนั้นด้วยวิธีนี้หละ” แทนไทตบหน้าขิงดังเพลี๊ยะ

   ขิงมองหน้าแทนไท ผิดหวังกับพ่อตัวเองมาก ที่กลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ “ป๊าขอโทษ” แทนไทเดินไปกอดลูกสาว ขิงร้องไห้

“หนูขอนะ หยุดเถอะ พอเถอะ เรามีมากพอแล้ว หยุดแค่นี้ อย่างอื่นหนูช่วยป๊าได้ แต่เรื่องนี้ หนูทำไม่ได้ หนูทำไม่ได้จริงๆ”

   แล้วขิงก็วิ่งหนีขึ้นไปร้องไห้ในห้องของตัวเองต่อ แทนไทมองตามขึ้นไปและถอนหายใจ จะทำยังไงดี นี่ก็ลูกสาวส่วนนั่นก็ศัตรู

***** >>><<< *****

   เผด็จหนีการจับกุมของตำรวจกลุ่มใหม่ เพราะกลายเป็นผู้ร้ายไปแล้วในฐานะหัวหน้าผู้ก่อการร้ายซะเอง..4 ทุ่ม ตำรวจกลุ่มหนึ่งเจอเผด็จก่อนจึงขอจับแบบนิ่มนวล แบบไม่รีรอ ขอกำลังเสริมมาช่วย นึกว่าเผด็จไม่มีพิษสงอะไรมาก แต่พวกนั้นคิดผิด

“ผู้การผมขอโทษด้วยครับ ยกมือขึ้น ยอมให้พวกเราจับซะดีๆอย่าหนีเลย ผู้การหนีไม่รอดหรอก ท่านมีคนเดียว แต่พวกเราเป็นสิบ”  

   เสียงลึกลับหลุดลอยมา “ใครบอกว่าคนเดียว” นางแมวป่าโผล่มา แล้วรีบวิ่งไปช่วยสามี พวกตำรวจยิงใส่ โบว์เอาผ้าคลุมบังไว้ แล้วรีบพาเผด็จที่ร่างกายเหมือนจะหมดแรง เพราะหนีการจับกุม แทบจะไม่ได้ทานอะไรเลยมาหลายวัน ไปหลบที่หลังต้นไม้ แล้วก็มาสู้กับตำรวจกลุ่มนั้น สู้กันอยู่ไม่นาน 4 คนแยกไปจับเผด็จ โบว์ก็ต้องไปช่วย โบว์ผลักเผด็จตกน้ำไปโดยไม่ตั้งใจ “ป๊า”

   ตอนที่โบว์ผลักเผด็จโดยไม่ได้ตั้งใจนั้น โทรศัพท์ของเผด็จได้หล่นลงมากระแทกพื้นอย่างแรง ทำให้เครื่องแตกกระจาย ตัวจับสัญญานที่อยู่ในนั้นพังไปเลย  ตำรวจทั้งฝูงตามมายิงโบว์กระโดดหลบแล้วก็หายตัวไปทันที เผด็จหล่นน้ำลอยไปอยู่ตรงไหนไม่รู้

<<<<< ----- >>>>>

   ตำรวจกลุ่มนั้นเลยวอร์แจ้งให้อัธวุฒิทราบ  เช้าขึ้น อัธวุฒิและทีมจึงรีบมาดู พวกนั้นจึงรายงาน

“มีนางแมวป่ามาช่วยครับผู้กำกับ แสดงว่าต้องเป็นพวกเดียวกันอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมรับเรื่องต่อเอง หมดหน้าที่พวกคุณแล้ว ขอบใจมาก”

   ป๋องให้ทุกคนกระจายตามหาเผด็จตลอดริมน้ำ ก็หาไม่เจอ

   ประมาณ 9 โมงเผด็จรู้สึกตัว จึงเดินโซซัดโซเซ ขึ้นมาจากน้ำ แขนซ้ายก็บาดเจ็บ หิวก็หิว สตางค์เหลือกี่บาทก็ไม่รู้ มาถึงร้านค้าเล็กๆแห่งหนึ่งแถวนั้น เห็นว่ามีเบียร์ เอามือล้วงในกระเป๋ากางเกงมีแบ็งค์ 500 ก็เลยส่งให้ หาขนมติดมาด้วยเล็กน้อย หาข้าวเหนียวหมูปิ้ง รองท้อง เหลือเท่าไหร่ไม่รู้ยัดเก็บใส่กระเป๋าดังเดิม และหาที่นั่งพักแถวนั้น เขาเจอต้นไม้ใหญ่ พอนั่งพักได้ เอาหัวพิงแล้วมองขึ้นฟ้า “ นี่เหรอวะชีวิตสายลับ พยัคฆ์ร้าย ช่างตลกสิ้นดี” แล้วก็ ยกเบียร์กระป๋องที่ซื้อมาดื่ม พอหมดก็ขยำทิ้ง และเปิดใหม่

  สักพักเขาก็ลุกและเดินไป ไม่นานก็เจอวัด เขาจึงเข้าไปไหว้พระ แล้วก็ออกมาหาที่นั่งพัก เจอพระรูปหนึ่งจึงนั่งสนทนาด้วย

“เป็นอะไรมาหละโยม บาดเจ็บมาด้วย” เผด็จนั่งยองๆพนมมือไหว้พระ

“ผมต้องขอโทษพระคุณเจ้าด้วยนะครับ ที่มาทำให้วัดแห่งนี้แปดเปื้อนสิ่งที่ไม่ดี”

“แล้วโยมคิดว่าอะไรดี อะไรไม่ดีหละ สุรายาเมาที่โยมซื้อมาหนะ โยมคิดว่ามันดีไหมหละ มันก็เหมือนกับความคิดของคนเรานั่นแหละ คิดดีมันก็ดี ถ้าคิดไม่ดี มันก็คือไม่ดี อาตมาไม่รู้หรอกว่าโยมเป็นใคร เป็นโจรผู้ร้ายมาจากไหน ในเมื่อโยมเดือดร้อน แล้วเข้ามาในนี้ วัดเป็นสิ่งบริสุทธิ์ ถ้าคิดว่ามาอยู่ที่นี่แล้ว โยมสบายใจ อาตมาก็ไม่ได้ว่าอะไร เชิญพักผ่อนหลับนอนได้ตามสบาย”

   พระเห็นว่าเผด็จเดือดร้อน เพราะดูจากสภาพแล้ว จะไปไหนอีกคงไม่ไหว ก็ให้นั่งพักตามสบาย แล้วก็เดินจากไป เผด็จจึงหาที่พัก อยู่ที่วัดนี่จนมืด ทานอาหารจนอิ่มก็นอนหลับ เพราะเมาหรือจะด้วยอะไรก็ตามเถอะ ประมาณ 1 ทุ่มนิดๆ พอเผด็จได้สติ ตื่นขึ้นมาจากใต้ร่มไม้ที่เขาได้พักพิงเมื่อตอนบ่าย เผด็จก็ออกมาจากวัด กลุ่มของอัธวุฒิตามรอยมาได้ทัน เผด็จเดินพ้นวัดออกมาได้ไม่นาน ก็ต้องเจอการล้อมจับครั้งใหญ่ สภาพร่างกายแบบนั้น จะไปไหนได้ และจะรอดพ้นจากการจับกุมครั้งนี้ไหม ไม่ต้องคิดเลย ยากมาก

----- ^^^^^ -----

   อัธวุฒิถูกบีบให้จับเพื่อนตัวเองอีกครั้ง จึงต้องทำตามไม่งั้นก็จะโดนสอบสวนทางวินัย พวก 4 คน ทีมพญายม ได้ตามมาช่วยเผด็จ

“อย่าทำร้ายตำรวจจนถึงตายนะ เพราะเขาทำตามหน้าที่ เอาแค่สลบก็พอ” เทียนหอมบอก ทุกคนรับปาก แล้วก็แยกย้ายกันไป

   จากนั้นการต่อสู้ของทั้ง 4 คน กับตำรวจทีมอัธวุฒิจึงได้เกิดขึ้น เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ทั้งปืนทั้งมือเปล่า เสียงดังลั่นทุ่งบริเวณนั้นไปหมด จ่ามิ่ง จ่าหมง ก็ไม่อยากที่จะจับเผด็จเช่นกัน จึงเลี่ยง ยิงได้ก็ไม่ยิง จนตำรวจของผู้กำกับคนใหม่ ผิดสังเกตุ

“ทำไมไม่ยิง จ่าใกล้ออกขนาดนั้น” หมวดคนหนึ่งถาม “เหงื่อเข้าตาครับหมวด เลยยิงไม่ถนัด มันไกลด้วย” จ่ามิ่งแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

“จ่าหมง ทำไมไม่วิ่งตามไปหละ นั่นไง” จ่าหมง ทำท่าเหนื่อย “ไม่ไหวแล้วครับหมวด แก่แล้ว วิ่งมานานแล้ว ขอพักแป๊บ”

   แล้วหมวดคนนั้นก็วิ่งตามเผด็จไป จ่ามิ่ง จ่าหมง เดินมาจับมือกัน แล้วก็เดินยิ้มกลับไปอีกทาง เจออัธวุฒิ

“เป็นไงบ้างจ่า เจอเฮียบ้างไหม ผมวิ่งตามมาเห็นไปทางโน้นแว๊บๆ แกหนีได้ไหม”

“แหม ผู้กำกับนี่ คิดเหมือนพวกผมเลย ไปแล้วผมให้หนีไปทางโน้นแล้ว คิดว่าคงปลอดภัย”

   สักพักเสียงปืนดังขึ้นสองนัด “เฮีย..ไปเร็วจ่า” แล้วทั้งสามคนก็วิ่งเสียงปืนไป เนตร เนน่ และพู่กัน วิ่งแยกไปต่อสู้กันอีกมุมนึง เพื่อไม่ให้ไปรุมเผด็จเพียงคนเดียว จากนั้นจึงได้แยกย้ายกระจัดกระจายกลับที่พักเหลือแต่เนตรที่ห่วงแฟน จึงตามเผด็จไปติดๆ

   เผด็จพลาดท่าโดนยิง 1 นัด บาดเจ็บตกน้ำ เพราะเมา หิวและเหนื่อยด้วย จากที่หนีการจับกุมไปพร้อมกับๆเสียใจที่โบว์หนีไป เนตรอัปสรกระโดดลงน้ำ ตามมาช่วยชีวิตคนที่เธอรักไว้ได้ทัน พาหนีไปจากตรงนั้นและไปหลบซ่อนตัวในป่า เนตรก่อกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่นและเอากระสุนออกให้เผด็จได้สำเร็จ และได้เสียตัวให้กับเผด็จในคืนนั้น เพราะพิษไข้หรือพิษเหล้าเบียร์ไม่รู้

“โบว์ โบว์ โบว์กลับมาอยู่กับป๊าแล้วใช่ไหม” แล้วเผด็จก็ดึงมือของเนตรมากอด เนตรน้ำตาไหลพรากเมื่อชื่อที่เอ่ยขึ้นไม่ใช่เธอ

   แต่เธอไม่แคร์ในเมื่อคนที่อยู่ต่อหน้าเธอตรงนี้เป็นคนที่เธอรัก เผด็จนอนหลับตา เธอจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เผด็จดึงเนตรมากอด ตัวสั่นเพราะหนาวหรือพิษไข้ก็ไม่รู้ เธอจึงตัดสินใจให้ไออุ่นจากตัวของเธอ มอบร่างกายของเธอให้กับคนที่เธอรัก เผด็จดึงเนตรมากอดมาหอมมาจูบมาไซร์จนเธอเก็บอารมณ์ไว้ไม่ไหว เธอจึงถอดชุดเสื้อผ้าของเธอออกหมดจนเปลือยเหมือนเผด็จ เพราะตอนที่ทำแผลเธอถอดเสื้อผ้าของเผด็จออกหมดและตากผิงไฟไว้ให้แห้งเพราะตกน้ำไม่งั้นเช้าไม่มีชุดใส่ (15 มี.ค. วันที่เผด็จโดนตามล่า)

“โบว์ โบว์ โบว์ อย่าหนีป๊าไปไหนอีกนะ ป๊าคิดถึงหนูมาก ป๊ารักหนูนะ อย่าหนีป๊าไปไหนอีกขอร้อง นะนะ ป๊ารักหนูนะ”

“ค่ะป๊า หนูจะไม่จากป๊าไปไหนอีกแล้ว หนูจะอยู่กับป๊าตลอดไป หนูให้สัญญา ป๊าอย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะ” เนตรยอมเป็นโบว์ให้

   จากนั้นเธอก็เข้าสวมกอดให้ไออุ่นกับเผด็จ ทำทุกอย่างที่จะให้เผด็จหายหนาวหายสั่น ทั้งดูดทั้งเค้นทั้งเล้าโลม เนตรตัดสินใจและคิดดีแล้วจึงทำ เผด็จไม่รู้ตัวว่าในคืนนั้นเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง จึงได้เนตรเป็นเมียอีกคน แต่เนตรก็ยอม เต็มใจ เพราะคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะเป็นเมียเผด็จแบบเต็มตัวเสียที จึงได้ยอมพลีความสาวให้กับคนที่ตนรักอย่างมีความสุข ไม่รู้ว่ากี่รอบในคืนนั้น

  เนตรเอาผ้าดำมาคลุมชุดหงส์ฟ้าไว้ เพราะไม่อยากให้เป็นที่สะดุดตาของพวกตำรวจ เผด็จนึกว่าคือโบว์ เธอก็เต็มใจ ยอมเป็นของเผด็จ โดยที่ไม่บอกให้เผด็จรู้ รุ่งเช้าเธอหนีไป เพราะไม่อยากเจ็บและปวดใจมากกว่านี้ แค่นี้เธอก็มีความสุขแล้วที่ได้ให้ความสาวกับคนที่เธอรัก เผด็จตื่นมากับสภาพที่เปลือย แต่เผด็จรู้ว่าคือเนตร เพราะเนตรลืมอุปกรณ์ประจำตัวของเธอเอาไว้ เนตรวิ่งกลับมาเอา เผด็จจึงรั้งตัวไว้แล้วขอโทษ “เนตรพี่ขอโทษนะที่ได้ทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้สึกตัวเลย พี่ไม่ดีเลย พี่นี่มันเลวจริงๆที่ทำกับเนตรแบบนั้นได้ พี่จะไม่ให้อภัยตัวเองเลย ยกโทษให้พี่นะ พี่จะรับผิดชอบเนตรเอง”

   เนตรนั่งร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเผด็จ เขาแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำและยื้อกันอยู่นาน แต่เนตรก็ปฏิเสธิ

“นายไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรหนูหรอก หนูเต็มใจ อะไรที่ช่วยชีวิตนายได้ หนูก็ทำ เป็นใคร คนอื่น เค้าก็ทำกันทั้งนั้นแหละ อย่าเลย ถ้านายไม่สบายใจ เพราะสิ่งที่นายทำไป มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ เพราะตอนที่นายทำ นายก็เรียกแต่โบว์ๆ ไม่ได้เรียกหรือเอ่ยชื่อหนูเลย เพราะฉะนั้น หนูถึงบอกไงคะว่า ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรหนูทั้งนั้น หนูให้ก็เพราะหนูรัก แต่ในเมื่อนายไม่เคยรักหนูเลย หนูก็จะไปตามทางของหนู นายไม่ต้องห่วงและกังวลอะไรหรอกนะ ต่อแต่นี้ไปหนูจะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีก” แล้วก็ลุกขึ้น

“เพราะหนูไม่ใช่โบว์ คนที่นายรัก” แล้วเนตรก็วิ่งหนีไป หัวใจ..ใครจะรู้ ว่าเนตรคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น

   เผด็จรีบลุกแต่งชุดให้เรียบร้อย แล้วค่อยๆ วิ่งตามเนตรไปได้สักพัก เผด็จล้มลง เนตรจึงหยุดและหันมา เห็นสภาพคนรักแล้ว จึงวิ่งกลับมา “วิ่งมาทำไม ทำไมไม่นอนพัก เจ็บอยู่แท้ๆนายต้องพักผ่อนให้เยอะๆนะ ต่อไปไม่มีนี้หนูดูแลอีกแล้ว ดูแลและรักษาตัวเองให้ดีๆนะ ระวังพวกนั้นจะตามมาด้วย หนูไปหละ”

   เผด็จเอื้อมเอามือจับแขนเนตรไว้เท่าที่แรงจะมี และก็มองหน้า สักพักก็หมดสติไปต่อหน้าเนตร จนเนตรต้องใจอ่อน เพราะสามียังเจ็บอยู่ไม่อยากทิ้งไปไหน เมื่อคิดได้ เธอจึงยอมอยู่ดูแลเผด็จให้หายดีก่อน

   จากนั้นเนตรก็พาเผด็จไปที่กระต๊อบหลังเก่าที่เคยพาพวกเบ็นซ์มารักษาตัว เกือบเดือนที่หลบซ่อนตัว เธอก็ปรนนิบัติเผด็จอย่างดีร่วมรักกันทุกครั้งที่ใจต้องการ เผด็จไม่รู้จะให้อะไรเป็นการตอบแทนในความดีและความรักของเธอ จึงถอดแหวนนามสกุลที่ติดตัวเขาอยู่ที่นิ้วก้อยขวา สวมที่นิ้วนางให้กับเนตรเพื่อให้รู้ว่าเนตรมีเจ้าของแล้ว คือเขา

“สำหรับเมียคนนี้ที่พี่รัก พี่ไม่มีอะไรให้หนู นี่คือแหวนประจำตระกูลพี่ ถึงมันอาจจะไม่ใหญ่และแพงเหมือนวงของเพ็ญ แต่มันก็พอมีราคา หนัก 1 บาท พี่ให้เนตรไว้เป็นการตอบแทน ที่เนตรดีต่อพี่ เพื่อตอบแทนและให้รู้ว่าเนตรมีเจ้าของแล้วคือพี่ ใส่ไว้นะแล้วอย่าถอด นะ” แล้วเผด็จก็สวมแหวนที่นิ้วนางให้กับเนตร และก็หอมไปที่หน้าผาก เนตรดีใจมาก เอาหน้าผากเธอชนกับหน้าผากเผด็จและเอามือทั้งสองข้างคล้องคอสามี จูบไปที่ปากแช่ไว้สักพักแล้วก็ถอนออกมา และก็ไหว้เผด็จที่อกซ้าย

   เผด็จเอื้อมมือไปเอาเป้คู่ทุกข์คู่ยากใบเดิมมาเปิด แล้วก็หยิบกล่องเลสทองออกมา เผด็จหงายดูใต้เลสว่าใช่ชื่อเนตรไหมพอใช่ ก็ดึงออกมา เนตรจำกล่องได้ว่าเคยเห็น มันเหมือนกับของเทียนหอมเลยทุกประการ และเผด็จก็ให้เลสสายสร้อยทองคำหนัก 1 บาท สลักชื่อเผด็จ PD อีก 1 เส้น บอกว่าจะให้ตั้งนานแล้วแต่หาเนตรไม่เจอ เขาเก็บไว้กับตัวตลอด จึงสวมให้ที่ข้อมือซ้ายเนตร

“อย่าถอดนะคนดี พี่มอบหัวใจไว้ให้หนูดูแลแล้ว จงรักษามันไว้ให้ดี เท่ากับชีวิตพี่เลยนะ”  เนตรไหว้เผด็จ ด้วยความซึ้งใจ เนตรดีใจมากที่เผด็จดีต่อเธอ และให้ความสำคัญกับเมียคนนี้ พอเช้าวันใหม่เธอก็หายตัวไปทันที หลังจากที่เผด็จดีขึ้น เผด็จเสียใจมาก

\\\\\ ----- /////

   เพ็ญเป็นห่วงสามีมาก หายไปเลยหลายสัปดาห์ ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง ตั้งแต่มีข่าวออกมาเมื่อกลางเดือนว่าโดนยิงตกน้ำ ถึงสองครั้ง “อาป๋องว่าไงคะ มีคำตอบให้หนูหรือยังว่าพี่เด็จ ผัวหนูไปไหน เป็นตายร้ายดียังไง” เพ็ญเดินอุ้ยอ้ายเข้าไปถามป๋องถึงในห้องทำงานด้วยชุดคลุมท้อง ป๋องไม่รู้จะตอบเพ็ญยังไง จึงบอกไปแบบกลางๆเพื่อให้เพ็ญสบายใจ

“คุณหนูนั่งก่อน” แล้วเพ็ญก็นั่งลงอย่างช้าๆ ป๋อง หยิบนมกล่องมาให้เพ็ญทานไปพลางๆ

“คือผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอะไรนะในการตามหา ผมก็ให้จ่ามิ่ง จ่าหมง แกะรอยจากตำแหน่งสุดท้ายที่เราคิดว่าจะใช่ แต่ก็ไม่เจอ เท่าที่รู้เฮียยังไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บ ถูกปืนยิง แต่ไม่รู้กี่นัด เพราะเราเห็นรอยเลือด ก่อนที่แกจะตกน้ำไปและกระแสน้ำพัดพาแกไปถึงตรงไหนก็ไม่รู้ จะออกทะเลไปแล้วหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่รู้ได้ เพราะน้ำตรงนั้นเชี่ยวและแรงมาก”

   เพ็ญสีหน้าไม่ดีเลย “แล้วนี่เราไม่มีวิธีใดเลยเหรอคะคุณอาที่สามารถพอจะรู้ได้ว่าพี่เด็จอยู่ไหนในตอนนี้”

“ไม่ได้เลยครับ ถ้าโทรศัพท์เฮียยังอยู่ เราก็ยังพอจับสัญญานและตามรอยได้ แต่นี่เท่าที่ผมรู้ นี่ครับ”

   ป๋องหยิบเอาเศษโทรศัพท์ของเผด็จมาให้เพ็ญดู “มันเป็นแบบนี้หนะครับ ผมเก็บมาได้ที่ริมตลิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว” แล้วป๋องก็ดันถุงนั้นไปให้เพ็ญ “คุณหนูเก็บไว้เถอะครับ อยู่กับผมคงไม่มีประโยชน์อะไร อย่างน้อยอยู่กับคุณหนูมันยังจะมีประโยชน์กว่า ทั้งเบอร์ทั้งเมม อยู่ในนี้หมด” แล้วเพ็ญก็เอื้อมมือไปเก็บซากโทรศัพท์ ของเผด็จมากอดเอาไว้และก็ร้องไห้ ป๋องเห็นแล้วก็สงสารไม่รู้จะช่วยยังไงดีหัวใจ..ใครจะรู้ ว่าในตอนนี้ จิตใจของเพ็ญเป็นเช่นไรจะทุกข์ขนาดไหน

   เบียร์วิ่งกระหืดกระหอบมาถามคนตรงชั้น 4 “น้องๆเห็นหมวดเพ็ญเพื่อนพี่ไหม ที่ท้องๆหนะ”

“อ้อ หนูเห็นคนนึง ที่ใส่ชุดคลุมท้องใช่ไหมพี่” เบียร์พยักหน้า

“หนูเห็นพี่แกเดินหายเข้าไปในห้องผู้กำกับอัธวุฒิหนะค่ะ”

“ขอบใจมากน้อง” เบียร์เอามือตีไหลซ้ายเด็กคนนั้นเบาๆ แล้วก็รีบวิ่งไปที่ห้องนั้น แล้วเคาะประตู และเปิดเข้าไปเลย

“ไอ้เพ็ญ ฉันว่าแล้ว ว่าแกต้องอยู่ที่นี่ ฉันเข้าห้องน้ำ แป๊บเดียว เผลอไม่ได้เลยนะแก ท้องก็โตออกขนาดนี้ ทำไมหนีมาไวจริง ไปกลับ ไปที่โต๊ะเราก่อน มีอะไรทำไมถึงไม่บอกฉัน ฉันจะพามา มาแบบนี้มันอันตรายนะรู้ไหม ถ้าแกเกิดล้มหรือเป็นอะไรขึ้นมา หลานฉันจะเป็นอันตรายได้นะ ไปไป”

   แล้วเบียร์ก็ลากตัวเพ็ญขึ้นชั้น 5 (เธอขอย้ายตำแหน่งมาอยู่กับเบียร์ที่ชั้น 5 ในหมวดกองคลังและพัสดุ เมื่อพ่อเธอหมดอำนาจไปแล้ว อีกอย่างทางกรมเห็นว่า เพ็ญท้องจึงยอมให้ตามคำขอไม่ได้ว่าอะไร”

“อย่าลืมนะคะคุณอา ถ้าได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับพี่เด็จอย่าลืมบอกหนูโดยเร็วที่สุดนะคะ”

   เบียร์ลากเพ็ญออกไป เพ็ญก็ยังอุตส่าห์หันคอมาสั่งเสียป๋อง ป๋องพยักหน้ารับปาก แล้วเบียร์ก็ปิดประตูห้องให้ทันที ขิง ม่านมุกและอ้อมเห็นสภาพเพ็ญก็สงสาร ท้องอยู่แท้ๆแต่ผัวกลับไม่อยู่ แถมยังโดนข้อหาผู้ก่อการร้ายอีก

///// +++++ /////

   เกศหลังจากที่เผด็จโดนยิงตกน้ำหายไป จึงตัดสินใจขอแม่ผาด กลับไปอยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ขอไปทำงานเพื่อลืมอะไรบางอย่าง “เอาเถอะลูกถ้าคิดว่ามันทำให้เจ้าสบายใจ เจ้าก็ไปเถอะเกศ”

“หนูต้องขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะที่ต้องทำแบบนี้ หนูอยู่ไม่ได้จริงๆเมื่อพี่เด็จไม่อยู่ หนูขอเวลาทำใจสักนิดกับชีวิตในตอนนี้ ถ้าแกตายหรือหายสาปสูญไปจริงๆหนูจะได้รู้อนาคตของตัวเองว่าจะไปทางไหนดี”

“แล้วเด็กสองคนนั้นจะว่าไง เจ้าสามารถทิ้งมันไปได้ลงคอเชียวหรอเกศ มันติดและผูกพันกับเจ้ายังกะอะไรดี เพราะตอนนี้มันนึกว่าเจ้าเป็นแม่พวกมันไปแล้ว ไม่ลองคิดดูใหม่อีกทีเหรอ นะ” ยังไงเกศก็ต้องไป รั้งยังไงก็ไม่อยู่

“ใช่ว่าหนูจะใจดำทิ้งลูกๆนะคะแม่ แต่หนูขอเวลาทำใจตัวเองให้เข้มแข็งกว่านี้ก่อน 1 เดือนที่ผ่านมา มันยิ่งทำให้หนูเจ็บ ไม่รู้ว่าจะเจ็บยังไงแล้ว สภาพที่มองไปทางไหนก็มีแต่รูปพี่เด็จ หนูขอนะ สักระยะ ถ้าหนูเข้มแข็งพอแล้วแล้วหนูจะกลับมา”

   ผิงกับเบื้อง สองคนวิ่งลงมากอดเอวเกศ “น้าเกศจะทิ้งหนูกับน้องไปไหนคะ พ่อก็ไม่อยู่ แล้วนี่น้าเกศยังจะมาหนีพวกหนูไปอีกเหรอ ไม่เอา หนูไม่ให้น้าเกศไปไหนหรอก” ผิงร้องไห้กอดเอวเกศไว้แน่ ผาดพยายามดึงผิงออกมา

“ใช่ครับ น้าเกศจะหนีพวกเราไปไหน น้าเกศไม่รักพวกผมแล้วเหรอ พ่อก็ไม่รัก ไม่มีใครรักพวกเราเลย”

   เกศทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า น้ำตาไหลพร่าง “น้าสัญญาว่าน้าจะกลับมา แต่ตอนนี้น้าขอเวลากลับไปทำใจและตั้งหลักอะไรบางอย่างเสียก่อน เมื่อเสร็จธุระและงานแล้ว น้าจะกลับมาอยู่กับพวกเราที่นี่อีก ไม่นานหรอกนะ น้าให้สัญญาจริงๆ”

“แล้วน้าเกศอย่าหลอกให้เบื้องกับพี่ผิงรอเก้อนะ” เบื้องบอกเกศด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขเลย

“ครับ..น้าเกศขอให้สัญญา” แล้วเกศก็ยกนิ้วก้อยทั้งสองข้างขึ้นมา ผิงกับเบื้องก็เกี่ยวก้อยกันคนละข้างพร้อมกับปาดน้ำตา และเกศก็หอมแก้มเด็กทั้งสองคนละข้าง “น้าไปก่อนนะ” ทั้งสองคนก็หอมแก้มเกศคนละข้างและโบกมือบ๊ายบาย

   จากนั้นเกศก็เอากระเป๋าเสื้อผ้าใส่หลังรถ แล้วก็ขับรถออกไปเลย ปล่อยให้บ้านหลังนี้คงเหลือแต่ย่าผาด ขนมผิง ขนมเบื้องและสาวใช้อีก 2 คนเท่านั้น เพราะเพ็ญไปอยู่บ้านพ่อ บรรยากาศในบ้านจะเป็นยังไงต่อไปก็ไม่อาจรู้ได้ เมื่อหัวหน้าครอบครัวไม่อยู่

----- ^^^^^ -----

  เบ็นซ์และแป๋ว ก็พยายามหาโบว์ เพราะติดต่อโบว์ไม่ได้สักที เดือนนึงผ่านไปแล้ว ไม่รู้ว่าน้องเก็บตัวเงียบไปอยู่ที่ไหน

“แป๋วแกคิดอย่างฉันไหมวะ” แป๋วกำลังนั่งเล่นสบายๆบนเปลที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ “อะไร”

“งานนี้ฉัตรเทพต้องอยู่เบื้องหลังด้วยแน่ๆ โดยเฉพาะฐานของคุณอาที่โดนถล่มยับขนาดนั้น ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงบ้างเนาะ”

“ยังจะไปคิดถึงเขาอีก” แป๋วโยนเปลือกถั่วที่กำลังทานอยู่ใส่หัวเพื่อน แล้วก็กระโดดลงมาจากเปล

“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ตอนนี้พวกเราก็กำลังหนีการตามล่าอยู่เหมือนกันนะโว๊ย ดูซิไอ้โบว์จะเป็นยังไงเราก็ยังไม่รู้เลย”

“นั่นดิ แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนของมันเนี่ย ทำไมมันถึงไม่ยอมเปิดเครื่องสักทีนะ” เบ็นซ์เป็นห่วงน้องสาวมาก

<<<<< ----- >>>>>

   อัธวุฒิก็ยังวนเวียนมาแอบดูเมียเป็นระยะๆไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว หัวใจ..ใครจะรู้ ว่าทับทิมคิดยังไงกันแน่ เธอกำลังสับสน กำลังต่อสู้กับสงครามในจิตใจของตัวเองอยู่ ภาพที่เธอเตะกระสอบทรายอย่างหนักหน่วงดังตุ๊บๆ เอาเป็นเอาตาย ต่อหน้าเด็กๆที่เธอสอน ภาพที่เธอออกแรงต่อยชกลมกับคู่ซ้อมเป้ามือ ทั้งต่อยทั้งเตะอย่างไม่รู้สึกกับความอ่อนล้า พอทับทิมเหลือบไปเห็นป๋องที่แอบมายืนดู ป๋องก็รีบหลบหน้าทันที ทัมทิม วิ่งออกไปดูก็ไม่เห็นแล้วว่าหายไปทางไหน จึงกลับเข้าไปสอนเด็กต่อ ป๋องซึ่งหลบอยู่อีกมุมนึงของตึกได้แต่น้ำตาซึม แล้วก็โยนช่อดอกไม้ทิ้งใส่ไว้ในถังขยะเสียเองคราวนี้ ไม่กล้าเอาไปให้ เพราะกลัวจะถูกโยนทิ้งต่อหน้าอีก

***** ฿฿฿฿฿ *****

  โบว์ย้อนกลับ ไปที่คอนโดเผด็จ นอนพักรักษาตัวเช่นกัน เพราะพลาดถูกยิงเฉียดตายไปนิดเดียว ตอนผลักเผด็จ แผลเข้าลึกเหมือนกันที่แขนขวา “ป๊า..ปาดนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ที่ขนาดเรามียารักษา ยังเจ็บและปวดแทบตาย แล้วป๊าหละ มียามีอะไรรักษาไหม ป๊าไปอยู่ที่ไหนนะ ทำไมถึงไม่ติดต่อกลับมา รู้ไหมว่าหนูเป็นห่วง ป๊า”

***** +++++ *****

   เพ็ญพอกลับไปถึงบ้านเอากระเป๋าสตางค์วาง แล้วก็เดินไปหยิบโน๊ตบุ๊คมาเปิด หยิบเอาถุงเศษโทรศัพท์สามีออกมา หยิบเมมโมรี่การ์ดออกมาเสียบที่โน๊ตบุ๊ค ดูภาพถ่ายทั้งหมดเท่าที่จะดูได้ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ กับช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด มีตั้งแต่วันที่ไปฮันนี่มูนที่ปารีส วันแต่งงาน วันปีใหม่ วันลอยกระทง และอื่นๆที่หลงเหลือเก็บอยู่

   ส่วนใหญ่เพ็ญจะใช้เครื่องของเผด็จเป็นตัวที่ถ่าย เพราะอยากจะให้ความทรงจำดีๆอยู่กับเผด็จเสมอ แล้วเธอก็ไปเจอเอา Clip นึงที่เผด็จอัดเอาไว้ โดยที่เธอก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี Clip แบบนี้อยู่ด้วย Clip ที่ว่าเป็น Clip ที่อัดไว้ตอนที่เผด็จหนีตายจากฐานและได้ถูกยิงบาดเจ็บมาแล้ว “สำหรับเพ็ญ เด็กน้อยที่น่ารักที่สุดของอา เจ้าหญิงตัวน้อยๆที่สุดแสนจะซนและขี้งอน <เพ็ญน้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว..บ้าไอ้ผัวบ้า เค้าไม่ได้ขี้งอนซะหน่อย> อาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับไปเจอหน้าลูกเมียอีกไหม ถ้าเพ็ญได้เปิดมาเจอ Clip นี้ขอให้เพ็ญจงได้รับรู้ไว้ว่า อาไม่เคยโกรธและเกลียดเพ็ญเลยแม้แต่นิดเดียว อารักเพ็ญมากนะครับขอจงให้รู้ไว้ด้วย รักมากกว่าใคร ดูแลตัวเองและลูกให้ดีด้วยนะ อาคงต้องไปแล้ว อยู่นานมากไม่ได้ รักและคิดถึงเพ็ญของอามากที่สุดในโลกเลยนะ” แล้วก็มีเสียงปืนยิงเข้ามา และภาพก็ดับมืดไป “อาเต๋า..” เพ็ญดึงภาพกลับมาตรงภาพสุดท้ายที่เป็นหน้าเผด็จกำลังทำท่ายกมือบอกรักค้างไว้

“อาเต๋า อาอยู่ไหน หนูรักอามากนะ หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า อาก็รักหนู ทำไมตอนอยู่ต่อหน้าอาถึงไม่พูด ทำไม ทำไม มาบอกหนูตอนนี้ทำไม ตอนอยู่ด้วยกันทำไมถึงไม่ยอมบอก มาบอกตอนนี้มันจะมีประโยชน์อะไร หนูอยากได้ยินจากปากอาเอง กลับมานะ”

***** ----- *****

  กันตภณ หลังจากที่ได้คุยกับพลอยใสวันนั้น จากนั้นก็เริ่มหาเรื่องเข้าไปช่วยและเทคแคร์ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องคอมนี่เข้าทางภณเลย พอดีเครื่องคอมมีปัญหาต้องลงโปรแกรมใหม่ ธรรมดาเรื่องพวกนี้ ปริ๊นซ์จะเป็นคนมาทำให้ แต่เรื่องอะไรที่เขาจะให้คนอื่นมาทำ สู้ทำเองไม่ดีรึ “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหละครับน้องพลอย”

   พลอยใสหันไปมองหน้าภณ “อ้าว พี่พล คือสงสัยเครื่องจะรวนและมีปัญหา ไวรัสน่าจะเล่นงานหนูแล้วหละ งานเร่งเสียด้วย สงสัยต้องล้างเครื่องใหม่ เสียเวลาอีกแล้ว กว่าที่พี่ปริ๊นซ์จะมาถึงก็ต้องเย็น ดูซิทำอะไรไม่ได้เลย”

“มาเดี๋ยวพี่ทำให้ก็ได้ ลงโปรแกรมแป๊บเดียวเอง สบายมาก ไม่ต้องรอพี่ปริ๊นซ์หรอก”

“พี่ภณ ทำได้ด้วยเหรอคะ งั้นดีเลย ช่วยหนูหน่อย หนู Backup ข้อมูลไว้แล้วที่ Drive D:\ ปลอดภัย”

   แล้วภณก็จัดการ หยิบกระเป๋ามหัศจรรย์ของเขาที่อยู่ในกระเป๋าส่วนตัวที่ติดตัวมาเสมอขึ้นมา จัดการล้างเครื่องและลงโปรแกรม Windows รวมทั้งชุด Office ใหม่ให้กับพลอยใสใหม่ทันที ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ทุกอย่างก็กลับมาใช้งานได้ดังเดิมจนพลอยใสยิ้มออก

“ขอบคุณมาเลยคะพี่ พี่ภณนี่เก่งที่สุดและน่ารักด้วย งั้นหนูขอตัวทำงานก่อนนะคะ รีบ เสียเวลามาก็นานแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนแล้ว” จากนั้นพลอยใสก็รีบปั่นงาน กันตภณยืนยิ้มไม่หุบที่ได้ช่วยคนที่เขาชอบ หัวใจ..ใครจะรู้ ว่าตอนนี้พลอยใสได้ให้คะแนนความดี+ความน่ารัก กับกันตภณไปเท่าใดแล้ว ต้องรอลุ้นกันต่อไป

>>>>> ***** <<<<<

   หลังจากที่ขอพ่อไปทีนึงแล้ว แต่แทนไทก็ไม่สนใจ ยังส่งคนไปทำร้ายเผด็จอีก ขิงจึงเริ่มไม่พอใจพ่อตัวเองมากขึ้น จึงไม่คุยกับพ่ออีกเลยตั้งแต่วันนั้น เจอหน้าเมื่อไหร่ต้องเดินหลบหรือไม่ก็เดินหนี จนเทียมฟ้าสงสัยเอามากๆ

“เอ๊ย จี้ ไอ้ขิงมันเป็นอะไรเหรอวะดูดิ เจอหน้าป๊าก็ไม่พูด นั่งทานข้าว ก็นั่งซะห่าง ซึ่งผิดกับเมื่อก่อนเลยนะโว๊ย”

“ไม่รู้ดิ ไม่ใช่เรื่อง มันจะไปขึ้นช้างลงม้าที่ไหนก็เรื่องของมัน มันจะเป็นอะไรหนูก็ไม่สน” พูดจบก็เดินลงบันไปไปหาของทาน

“สนเดี๋ยวเอารถออกด้วย ฉันจะไป Shopping” ปล่อยให้เทียมฟ้า งงไปเลย

<<<<< ===== >>>>>

  ปูนกับแตงโม มีความรู้สึกที่ดีมากขึ้นทุกวันๆ ตอนนี้ปูนยอมให้แตงโมจับมือและไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง โดยที่ไม่มีทับทิมติดตามอีกแล้วเหมือนคราวเผด็จ ทั้งสองค่อยๆถักทอและก่อกอรักทีละเล็กละน้อย คราวนี้ปูนคิดว่าจะไม่รีบร้อนเหมือนคราวของเผด็จ หัวใจ..ใครจะรู้ ปูนอาจจะรักแตงโมมากกว่าตอนที่รักเผด็จก็เป็นได้

  ม่านมุกกับหมอก็ใช่ย่อย ตอนนี้ก็พัฒนาให้จับมือได้แล้วเช่นกันและหอมมือนิดหน่อย ทีละขั้นๆที่ละเสตป หัวใจ..ใครจะรู้ ความรักของม่านมุกตอนนี้ อาจจะดีและมีความสุขมากกว่าที่ตอนแอบรักอัธวิทย์ก็อาจเป็นได้

   ปริ๊นกับอ้อม คู่นี้ก็ไปเรื่อยๆพอมีงานที่ต้องประสานกันเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ยิ่งทำให้ทั้งสองได้เจอกันบ่อยมากขึ้น หัวใจ..ใครจะรู้ ว่าอ้อมคิดกับปริ๊นซ์ยังไงแล้วในตอนนี้ เพราะช่วงหลังๆนี้อ่านใจและดูพฤติกรรมยาก ดูปราดเปรียวและ Sexy กว่าเดิมเยอะ

  สนหาเวลา ติดต่อแป๋วได้ทางไลน์ แต่ไม่ได้บ่อยนัก เพราะกลัว มีคนจับสัญญานได้ นานๆถึงจะติดต่อกลับไป

\\\\\ ----- /////

   เทียนหอมหลังจากที่ได้ไปช่วยคนรักมา และรู้ข่าวว่าถูกยิงบาดเจ็บตกน้ำ ก็ได้แต่เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในคอนโดไม่ได้ออกไปไหนเพราะตำรวจตามประกบแจ “ไอ้เนตรแกไปอยู่ไหนของแกเนี่ย นี่ก็ตั้งเดือนแล้ว แล้วพี่เด็จหละ ปาดนี้จะเป็นยังไงบ้าง”

***** ///// *****

  คืนนี้ พวก 6 ตัวร้าย ออกปฏิบัติการอีกแล้ว โดยแยกออกเป็นสองกลุ่ม ป๋องกับแตงโมปรึกษากันว่าจะช่วยหาวิธีแก้ข่าวให้กับพวกสามหน้ากากคนดีเสียก่อนแล้วเรื่องสามสาวนักฆ่า ค่อยว่ากัน “คุณโมคิดว่าแผนนี้มันจะได้ผลเหรอ”

“อย่างน้อยมันก็สามารถทำให้เรารู้ว่า 6 คนนั้นทำงานให้ใคร และพวกสามนักฆ่าเป็นใคร ผู้กำกับจะได้สบายใจขึ้นไงครับ”

“เอาก็เอา แล้วปูนกับทับทิมหละ ไม่มาด้วยเหรอ” อัธวุฒิแกล้งถามไปอย่างนั้นแหละ ที่จริงเป็นห่วงเมีย

“มา แต่ผมให้อยู่ทางโน้น เพราะพวกนั้นมันแยกเป็นสองกลุ่ม ผมก็เลยแยกเป็นสองกลุ่มเช่นกัน นั่นไง พวกมันมากันโน้นแล้ว”

   ทีมนี้เหยี่ยวราตรีตัวปลอมเป็นหัวหน้า นำทีม “นี่มันโจรชัดๆนะผู้กำกับ ไม่ใช่คนดีอย่างที่ประกาศไว้เลย มาขโมยร้านเพชรร้านพลอยเค้าเนี่ยนะ” จ่าหมงกล่าว วันนี้แตงโมและทีมไม่ได้แต่งชุดมาปฏิบัติการเพราะพยายามจะแฝงตัวเข้าไปอยู่ในพวกนั้นให้ได้

“จ่าหมงกับจ่ามิ่งอย่าลืมนะ พอผมให้สัญญานทำทีว่าออกไปจับ พอผมกับแตงโมสามารถแฝงตัวเข้าไปได้แล้วผมจะให้สัญญานถอย จำได้นะ” แล้วจ่าทั้งสองก็รับปาก “ครับ” ทุกคนมองซ้ายมองขวา เพื่อความปลอดภัย

   ป๋องกับแตงโมค่อบหมอบตัวลงต่ำ ดูไอ้พวกลูกน้องที่อยู่ปลายแถวห่างๆที่สุด 2 คน ให้สัญญานมิ่งกับหมง จับได้ เพื่อจะได้เบนความสนใจไม่ให้มาดูข้างหลัง “หยุดนะนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกแกทั้งหมดโดนตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว ยอมให้จับซะดีๆ”

   ไม่มีเสียงตอบ พวกนั้นยิงสวนทนที จ่ามิ่ง จ่าหมง และตำรวจอีก 10 กว่านายหลบแทบไม่ทัน จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น พอเสียงทางแตงโมดังขึ้น ทางปูนกับทับทิมก็เริ่มเช่นกัน เพราะอยู่ไม่ห่างกันซะเท่าใด วันนี้พวกนั้นจะมาปล้นร้านทอง และร้านเพชรในห้างแห่งหนึ่ง ปูนกับทับทิมใช้ผ้าดำปิดหน้า กระโจนใส่วิหคขาวและพิราบเทาปลอม แบบไม่ให้ตั้งตัว จนล้มลงกลิ้งไปคนละทาง

“พวกแกเป็นใครกัน มาขัดขวางพวกฉันทำไม” วิหคขาวตัวปลอมพูด

“พลเมืองดีโว๊ย ที่ไม่อยากให้พวกชั่วๆอย่างแก มาปล้นร้านเพชร ร้านพลอยเขาไง” ปูนด่าใส่หน้า

“พวกแกวอนหาที่ตายเสียแล้ว” พิราบเทาตัวปลอมพูด

   ไม่ทันขาดคำทั้งสองคู่ก็ต่อสู้กันด้วยอาวุธและมือเปล่า ทางป๋องกับแตงโม เมื่อกำจัดพวกสมุนสองคนได้แล้ว ก็จัดการเปลี่ยนชุดดึงหมวกไอ้โม่งจากพวกที่สลบออก แล้วให้สัญญานถอยตามแผน ทั้งหมดก็หยุดยิงแล้วถอยกลับออกไป

   ทางสองสาวก็กำลังต่อสู้กับตัวปลอมอย่างมันส์มือ ทับทิมยังเก็บกดอยู่กับเรื่องที่โกรธผัว จึงซัดตัวปลอมคนนี้ไม่ยั้ง ทั้งต่อยทั้งเตะ สุดท้ายเธอกระโดดถีบพิราบเทาตัวปลอมด้วยสองเท้าจนกระเด็นติดข้างฝา จนกระอักเลือดสลบคาที่อยู่ตรงนั้น แล้วก็ดึงหน้ากากและชุดที่ใส่ออกขอดูหน้าหน่อยว่าใคร แล้วก็ให้ตำรวจหญิงเอาตัวไปเก็บซ่อนไว้ก่อน และก็เอาชุดนั้นใส่เองเพื่อแฝงตัวกลับเข้าไปที่รังโจร ปูนก็เช่นกัน เก็บกดกับการที่เผด็จนอกใจใส่ไม่ยั้งระบายอารมณ์กับสาวตัวปลอมคนนี้ จนตัวปลอมรับมือไม่อยู่

   สุดท้าย โดนปูนกระโดดเข่าลอยเข้าให้เต็มๆที่ยอดอก ลงไปนอนหมดสภาพ บอบช้ำ เลือดไหลออกมาจากปาก จากนั้นก็ทำเหมือนทับทิม ดึงหน้ากากออกดูว่าเป็นใคร ถอดชุดนั้นออกแล้วใส่กลับเพื่อแฝงร่างกลับเข้าที่องค์กรลับนั้น แล้วก็ให้ตำรวจหญิงที่มาด้วย นำตัวสองคนนั้นไปขังและเก็บซ่อนไว้ก่อน แล้วปูนกับทับทิมก็ย้อนกลับไปที่ทีมของตัวปลอม ป๋องต้องยอมให้พวกนั้นเอาทองและสร้อยเพชรไปก่อนในคราวนี้ ปูนและทับทิมติดสัญลักษณ์ ไว้ที่ข้อมือขวาเพื่อให้ป๋องและแตงโมรู้ว่า พวกเธอคือใคร

   แตงโมกับป๋องไปกับทีมเหยี่ยว และสามสาวนักฆ่า ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนปูนกับทับทิม ตามไปที่หลังติดๆไม่งั้นเข้าทีมไม่ได้ แล้วเมื่อทั้งหมดเจอกัน เห็นสัญลักษณ์ที่เหมือนกันทั้ง 4 คนก็ถือว่าสำเร็จในก้าวแรก

***** >>><<< *****

  เทียมฟ้า นับวันยิ่งกร่างขึ้นทุกวัน หารู้ไม่ว่า พ่อตัวเองกำลังจะหมดอำนาจ แค่ช่วงนี้ยึดอำนาจบางส่วนจากอัธวุฒิและเชี่ยวมาได้ ก็เลยไม่ค่อยเห็นหัวใคร จึงทำให้พวกกงจักรทองเกิดความหมั่นไส้ ส่งคนมาทำร้าย

“พวกแกเป็นใครวะ มาจอดรถขวางหน้าฉันไว้ทำไม ฉันจะรีบไป”

“จะรีบไปไหนหละเสี่ยน้อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้เงินหนา เพราะได้มาง่ายเหลือเกินนี่ แบ่งพวกรา 5 คนใช้หน่อยซิ”

“แล้วพวกแกเป็นใคร ฉันไม่รู้จัก ถอยไปไหน แกรู้ไหมว่าฉันลูกใคร”

“ก็เพราะรู้นะซิ ถึงได้มาขอปันเศษเงินจากเสี่ยน้อยซะหน่อย”

   แล้วหัวหน้าทีมก็เดินตรงมาต่อยหน้าเทียมฟ้าทันที “เอามา ตอนนี้มีเท่าไหร่ เอามา” เทียมฟ้าชี้ไปที่รถ

“มี มี อยู่ 3 แสนในกระเป๋าหลังรถนั่น อยากได้อะไรเอาไปเลย แต่อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”

“เฮ๊ย แกสองคนไปเอามาซิ อย่าตุกติกนะมึง ตายเอาง่ายๆ ว่าไงมีไหม” ลูกน้องพยักหน้า หัวหน้าใช้ปืนกวักเรียกกลับมา

“ขอบใจนะเสี่ยน้อย” แล้วหัวหน้าก็ชกหน้าไปอีก 2 ที เทียมฟ้าสลบเหมือดอยู่ตรงนั้น แล้วก็เอาเงินสามแสนไปใช้กันอย่างสบาย

///// +++++ /////

   ทีมตัวปลอมกลับเอาของมาไว้ที่องค์กรจันทร์เสี้ยวรังโจรของฉัตรเทพ ป๋องและแตงโมก็มองดูว่าอยู่ตรงไหนที่ใด แตงโมถ่ายภาพด้วยกล้องจิ๋ว ส่วนป๋องก็ใช้กล้องจิ๋วที่เผด็จเคยให้ไว้ เป็นกล้องกระดุมที่ติดไว้ได้ที่เสื้อ ถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน หัวหน้าชุดของทีมตัวปลอมคือเหยี่ยวราตรี และรู้สึกว่านางแมวป่าตัวปลอมจะเป็นกิ๊กหรือคนรักกันรึไงเนี่ยแหละ เพราะหลังจากที่เอาของเก็บสองคนนั้นก็เดินกอดเอวกันไป สงสัยเมื่อจบงาน ก็คงจะไปหาความสำราญกันต่อที่ไหนสักแห่ง อันนี้ก็ไม่รู้ได้

   ตัวปลอมทุกคนหลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงาน บางคนก็นอนที่องค์กร บางคนก็กลับออกไป พวกลูกน้องก็เช่นกัน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่องค์กรเสียมากกว่า “อ้าวไอ้สองคนนั้นหนะ ทำไมยังไม่ถอดหมวกอีก ไม่อาบน้ำอาบท่ารึไง แล้วอย่าเดินเพ่นพล่านหละนายเค้าไม่ชอบ คงมาใหม่หละซิ โน้นห้องน้ำอยู่โน้น แตงโมพยักหน้าแล้วก็พาป๋องหลบไปที่ห้องน้ำ จากนั้นก็ถอดไอ้โม่งออก

“พวกมันคงจำหน้าใครไม่ได้หรอก มันนึกว่าพวกเราเข้ามาใหม่ ผู้กำกับต้องระวังตัวหน่อยแล้วกัน ตอนนี้ผมว่าพวกเราอาบน้ำพักผ่อนกันก่อนดีกว่า ไม่รู้ว่าทางปูนกับทับทิมจะเป็นไงบ้าง”

   ทางปูนกับทับทิม ก็ยังไม่ถอดหน้ากาก จนทำให้นางเสือดาวกับนางสิงห์ดำตัวปลอม ที่ถอดหน้ากากถอดชุดกันออกหมดแล้ว เตรียมตัวจะอาบน้ำสงสัย “อ้าวอีกลอย อีแก้ว ทำไมยังไม่ถอดหน้ากากอีกวะ ธรรมดาพวกแกสองคนจะถอดก่อนเพื่อนเลยนี่ วันนี้มาแปลก” แล้วจะรู้ไหมว่าคนไหนกลอย คนไหนแก้ว สักพัก นางเสือดาวตัวปลอมเดินมาหอมแก้มทับทิม

   สงสัยคนนี้น่าจะเป็นทอม “หอมจัง เอ..วันนี้ทำไมกลอยของพี่กลิ่นหอมจังไม่ยักกะเหมือนวันก่อนๆเลย มามะให้พี่ชื่นใจหน่อย ไม่ได้นอนกอดมาหลายวันแล้ว” ปูนรีบเอาตัวมาบังทันที

“อีแก้ว มึงถอยไปเลยนะนี่ของกู ของมึงอยู่โน้น อีดา มึงมาเอาเมียมึงออกไปทีซิ วันนี้กูจะเอาอีกลอยเมียกูไปกกสักหน่อย”

   ปูนหันไปดูคนที่กำลังเดินมา แล้วก็กระซิบกับทับทิม “ท่าจะไม่ดีแล้วไอ้เตี๊ย ฉันว่าคืนนี้เราเผ่นกันก่อนเถอะ” ทับทิมพยักหน้า

“ไม่ได้ฟัดมาหลายวันแล้ว คิดถึงนมคิดถึงอกมันหวะคนเหี้ยอะไรไม่รู้ แม่งให้มาเต็มไม้เต็มมือเลย มึงดูซิวันนี้เมียกูแม่งตูมกว่าวันก่อนๆอีก” เอื้อยเอามือไปซ้ายขยำที่เต้าขวาทับทิม ปูนรีบผลักมือออก

“เอ๊ะ อีนี่ อีดา มาเลยรีบมาเอาเมียมึงไปเลย วันนี้มันเป็นอะไร”

   ดาเดินเข้ามาแล้วเอามือมาโอบเอวปูน ด้วยสัญชาตญานปูนรีบบิดข้อมือดาทันที

“โอ๊ย..ทำอะไรหนะแก้ว พี่เจ็บนะ” ปูนจึงปล่อยมือดา

   แล้วดึงมือทับทิมเดินหลบออกมาอย่างช้าๆ พอมาถึงใกล้หน้าประตู ปูนจึงหันไปพูด

“วันนี้หนูมีธุระกับกลอย จะไปข้างนอกกันหน่อย นัดกันไว้แล้ว”

“นี่แกสองคน ญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ กูเห็นเจอกันทีไร กัดกันยังกะหมา”

“เอาเถอะพี่ ถือว่าวันนี้หนูขอ” ทับทิมแก้ตัวแทนปูน แล้วก็รีบดึงมือปูนเดินออกไป

“เดี๋ยว” ดาชักสงสัยจึงบอกเพื่อน “เอื้อย ทำไมวันนี้บรรดาเมียๆเรามันดูแปลกๆวะ” ทั้งสองคนค่อยๆเดินมาใกล้ๆปูนและทับทิม

   แล้วดากับเอื้อยก็พยักหน้ากัน จากนั้นก็เอามือพุ่งไปที่หน้าปูนกับทับทิม ปูนและทับทิมตีลังกากลับหลัง 2 ครั้ง หลบออกไป แล้วรีบวิ่งออกไปทันที ดากับเอื้อยสงสัยว่าจะไม่ใช่สองคนเดิมเมียพวกเธอซะแล้ว จึงได้วิ่งตามออกไป ยิงปืนเสียงดังตูมตามไปหมดในห้องล๊อกเกอร์ของผู้หญิง ป๋องและแตงโมกับกำลังอาบน้ำอยู่ จึงรีบออกมาดู เหยี่ยวราตรีกับนางแมวป่าตัวปลอมกำลังเริงรักกันอยู่ อารมณ์เสียเพราะกำลังเอากันอยู่มันส์ๆ ต้องมาชะงักเพราะเสียงปืนของดากับเอื้อย จึงรีบวิ่งออกมาดู

   เห็นสองคนกำลังวิ่งไล่ยิง ปูนกับทับทิมออกมา “หยุด..เกิดอะไรขึ้น อีดา อีเอื้อย” ทั้งสองคนมองขึ้นไปชั้นบน

“พวกแกสองคนมายิงปืนส่งเสียงดังอะไรกัน นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว”

“ฉันสงสัยว่าอีสองคนนั่น” ดาเอ่ยปาก เหยี่ยวราตรีปลอมไม่สนใจ

“พวกมึงจะอะไรกันนักกันหนา กูเห็นพวกมึง สามวันดี สี่วันร้ายกันประจำ”

“แต่” เอื้อย ชี้ไปที่สองคนนั่น วิ่งปรู๊ดออกไปแล้ว เหยี่ยวราตรีปลอม รำคาญ

“พอเลยมันจะไปไหน ก็ปล่อยมัน เอาไว้เช้าแล้วพวกมึงค่อยไป Clear กันเอาเอง กูจะนอน ไป”

   ดากับเอื้อย จึงต้องหยุดตาม ปูนกับทับทิมโชคดีที่หนีออกไปจากองค์กรได้ แต่จะไปไหนดีหละมันมืดออกขนาดนี้ ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน อยู่ตรงส่วนใดของโลก อากาศก็หนาว ป๋องกับแตงโมใส่ชุดแล้ววิ่งตามออกมา “ปูน..ทับทิม” สองหนุ่มวิ่งออกมาตามหา สองสาวก็ค่อยๆเดินหาที่นั่ง เจอต้นไม้จึงนั่งพิงกัน อากาศเย็นมาก เพราะเป็นป่าล้อมรอบเต็มไปหมด

   “ปูน” สักพักแตงโม ตามหาคนรักเจอ วิ่งเข้ามากอดปูน ปูนดีใจมากที่เจอแตงโม แตงโมถอดเสื้อยึดของเขาใส่ให้ปูนอีกที ทับทิมมองดูปูนกับแตงโมแล้วก็นึกอิจฉา

“ถ้ามีคนมาทำแบบนี้ให้เราก็ดีซิ” สักพัก ก็มีเสื้อมาคลุมไหล่ให้ทับทิม

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 39 .. “ หัวใจมีไว้ให้เธอ ”

ตอนที่ 38 .. “ หัวใจ..ใครจะรู้ ”

นิยาย แนว อาชญากรรม และนักสืบ (Detective and Crime Novel) / สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.