บทที่ 46: กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง

-A A +A

บทที่ 46: กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง

ความเงียบ...
นั่นคือสิ่งแรกที่กลับมา...
หลังจากที่จิตสำนึกของพวกเขาถูกเหวี่ยงกลับมาสู่โถงแห่งนิรันดร์... เสียงกรีดร้อง... เสียงระเบิด... และภาพของประวัติศาสตร์ที่แตกสลายได้จางหายไป... เหลือเพียงความเงียบงันที่สมบูรณ์แบบและความขาวโพลนที่ไร้ที่สิ้นสุด
ผลึกความทรงจำได้กลับไปนิ่งสนิทอีกครั้ง... เรื่องเล่าของมันได้จบลงแล้ว...
แต่สำหรับทีมเดินทางเท้าทั้งหกคน... ฝันร้ายที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น...
"อึก..."
เสียงแรกที่ทำลายความเงียบคือเสียงสำลัก... โอไรออนลอยขดตัวอยู่กลางอากาศ... เขาอาเจียนออกมา... แม้ว่าจะไม่มีอะไรอยู่ในท้องของเขาก็ตาม สมองของเขากำลังพยายามจะขับไล่ "ข้อมูล" ที่เป็นพิษซึ่งเขาเพิ่งจะ "ได้ยิน" มาทั้งหมดออกไป... เสียงกรีดร้องของดาวเคราะห์ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา
ไลราไม่ได้ดีไปกว่ากัน... เธอไม่ได้ร้องไห้... แต่กลับสั่นสะท้านไปทั้งตัวราวกับกำลังจับไข้ เธอรู้สึกได้ถึง "ความเจ็บปวด" ของทุกคนในที่นั้น... ความละอายใจของลีน่า... ความขมขื่นของเร็กซ์... ความโศกเศร้าของคราม... มันคือคลื่นแห่งความทุกข์ที่ซัดเข้าใส่เธอจนแทบจะจมมิด
เร็กซ์... ทหารผู้แข็งแกร่ง... กำลังกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เขาไม่ได้กำลังโกรธใคร... แต่กำลังโกรธ "ทุกสิ่งทุกอย่าง" "แล้วมันหมายความว่ายังไงวะ!" เขาตะโกนออกมาในที่สุด เสียงของเขาแหบพร่าและเต็มไปด้วยความสับสน "ที่ข้าสู้มาทั้งหมด... ที่ข้าเชื่อมาทั้งหมด... มันคือเรื่องโกหกงั้นเหรอ!"
ครามนั่งนิ่งอยู่กลางอากาศ... ดวงตาข้างเดียวของเขาปิดสนิท... เขากำลังสวดมนต์... ไม่ใช่บทสวดแห่งผู้พิทักษ์... แต่เป็นบทสวดส่งวิญญาณที่เรียบง่าย... ให้กับบรรพบุรุษของเขานับพัน... และให้กับบรรพบุรุษของชาวฟ้า... ที่ต่างก็ตกเป็นเหยื่อของความผิดพลาดเดียวกัน
แต่คนที่แตกสลายที่สุด... คือลีน่า
เธอลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว... ห่างจากคนอื่นๆ... เธอไม่ได้ร้องไห้... ไม่ได้ตะโกน... แต่กลับยกมือขึ้นมามอง... มือที่เคยสร้างสรรค์... มือที่เคยเชื่อมั่นในตรรกะ... บัดนี้เธอกลับมองเห็นมันเป็นมือของโซลานา... มือที่เต็มไปด้วยความโอหัง... มือที่เหนี่ยวไกนำมาซึ่งหายนะ... ภาระความผิดของบรรพบุรุษมันหนักอึ้งเกินกว่าที่เธอจะรับไหว... เธอคือ... ทายาทของปีศาจ...
ทุกคนต่างจมอยู่ในนรกส่วนตัวของตัวเอง... จนกระทั่ง...
ไลรา... ผู้ที่เจ็บปวดที่สุด... กลับเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว... เธอฝืนความรู้สึกทั้งหมดที่ท่วมท้นอยู่ในตัว... และ "ว่าย" ผ่านความว่างเปล่าเข้าไปหาพี่ชายของเธอ... เธอกอดเขาไว้แน่น... ไม่ได้พูดอะไร... เป็นเพียงการสัมผัสที่บอกว่า "เรายังอยู่ตรงนี้"
แต่แล้ว... เธอก็ "รู้สึก" ได้ถึงคลื่นความรู้สึกอีกระลอกหนึ่ง... มันไม่ใช่ความสับสนของเร็กซ์... ไม่ใช่ความโศกเศร้าของคราม... แต่มันคือ "ความว่างเปล่า" ที่หนาวเหน็บ... ความรู้สึกของการยอมจำนนที่แผ่ออกมาจากทิศทางที่ลีน่าลอยตัวอยู่
ไลราค่อยๆ หันศีรษะไปทางต้นตอของความรู้สึกนั้น... "ท่านผู้บัญชาการ..." เธอกระซิบเรียกเบาๆ "...เราต้องการท่าน"
มันคือคำพูดสั้นๆ... แต่มันก็ทรงพลังพอที่จะดึงลีน่ากลับมาจากขอบเหว...
คำว่า "เรา" ของไลรา... มันคือสมอเรือที่มองไม่เห็น... ที่ฉุดรั้งจิตใจของลีน่าไม่ให้จมดิ่งลงไปในมหาสมุทรแห่งความผิดบาปของบรรพบุรุษ เธอยังไม่ได้อยู่คนเดียว... เธอยังมี "ทีม" ของเธอ
ลีน่าสูดหายใจเข้าลึกๆ... เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ภาพในประวัติศาสตร์จบลง อากาศที่ไร้รสชาติของโถงแห่งนิรันดร์ดูเหมือนจะหนักอึ้งและเต็มไปด้วยความขมขื่น เธอมองไปยังกลุ่มก้อนแห่งความเจ็บปวดที่อยู่ไม่ไกล... ไลราที่กำลังกอดปลอบโอไรออน... เร็กซ์ที่ยังคงตะโกนอย่างสับสน... และครามที่นั่งนิ่งสงบ...
เธอค่อยๆ "ว่าย" ผ่านความว่างเปล่าเข้าไปหาพวกเขาอย่างช้าๆ... ทุกการเคลื่อนไหวรู้สึกเหมือนต้องออกแรงมหาศาล... ราวกับว่า "ภาระแห่งความจริง" ที่เธอเพิ่งได้รับรู้นั้นมีน้ำหนักจริงๆ
เมื่อเห็นลีน่าเคลื่อนไหว... เร็กซ์ก็หยุดตะโกน... สัญชาตญาณของทหารที่ถูกปลูกฝังมาทั้งชีวิตสั่งให้เขาหันมาให้ความสนใจกับผู้บัญชาการของตน แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่รู้แล้วว่า "หน้าที่" ของตัวเองคืออะไร... แต่การปกป้องลีน่าคือสิ่งเดียวที่ยังคงชัดเจนอยู่ในใจของเขา เขากัดฟันและเคลื่อนตัวเข้าไปรวมกลุ่มอย่างเงียบๆ
ครามลืมตาขึ้น เขามองเห็นความแตกสลายของเหล่า "ชาวฟ้า" ที่อยู่เบื้องหน้า เขารู้ดีว่าตำนานที่เขาได้ยินมาทั้งชีวิต... กับการได้ "เห็น" มันด้วยตาของตัวเองนั้น... มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
พวกเขาค่อยๆ รวมตัวกันเป็นวงกลมเล็กๆ... ท่ามกลางความขาวโพลนที่ไร้ที่สิ้นสุด... เป็นเกาะแห่งความเจ็บปวดที่ลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยวในมหาสมุทรแห่งนิรันดร์
ไม่มีใครพูดอะไรเป็นเวลานาน... พวกเขาทำได้เพียงแบ่งปันความเงียบอันหนักอึ้งและรับรู้ถึงความทุกข์ของกันและกัน...
จนกระทั่งลีน่า... ผู้บัญชาการ... และทายาทของโซลานา... เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
"ดิฉัน..." เสียงของเธอสั่นเทาและแหบพร่า "...ดิฉันขอโทษ"
คำพูดนั้นทำให้ทุกคนชะงัก "ดิฉันขอโทษ... สำหรับความโอหังของบรรพบุรุษของดิฉัน... สำหรับความเจ็บปวดที่พวกเขาได้สร้างขึ้น... สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง"
"มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า"
ครามเป็นคนตอบกลับ... น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งแต่กลับทรงพลังอย่างน่าประหลาด "ความผิดพลาดได้เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อสามร้อยปีก่อน... และไม่มีใครในที่นี้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้น" เขาหยุด... แววตาของเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของลีน่า "ภาระของพวกเรา... ไม่ใช่การแบกรับ 'ความผิด'... แต่คือการแบกรับ 'ความรับผิดชอบ' ที่จะแก้ไขมัน"
คำพูดของผู้อาวุโสแห่งพงไพรคือแสงสว่างดวงเล็กๆ ที่ส่องเข้ามาในความมืด...
"แล้วเราจะเชื่ออะไรได้อีก?" เร็กซ์ถามขึ้นมาลอยๆ "ถ้าทุกอย่างที่เราเคยรู้มามันคือเรื่องโกหก"
"เราเชื่อในกันและกัน"
ครั้งนี้เป็นลีน่าที่ตอบกลับ... น้ำเสียงของเธอเริ่มกลับมามั่นคงอีกครั้ง... เธอหันไปมองหน้าทุกคน... ทั้งทีมของเธอและพันธมิตรใหม่... "ภารกิจเก่าของเรามันจบไปแล้ว... ตั้งแต่วันที่เราก้าวเข้ามาในนี้... เราได้ค้นพบ 'มรดก' ที่แท้จริงแล้ว... และมันคือมรดกที่แตกสลาย"
"ภารกิจใหม่ของเรา..." เธอกล่าว "...คือการเก็บชิ้นส่วนเหล่านั้นขึ้นมา... และสร้างมันขึ้นมาใหม่... ให้ถูกต้อง"
คำพูดของลีน่าได้กลายเป็นจุดศูนย์รวมใหม่ให้กับจิตใจที่แตกสลายของทุกคน พวกเขายังคงบอบช้ำ... ยังคงหวาดกลัว... แต่บัดนี้พวกเขามี "เหตุผล" ที่จะก้าวต่อไปแล้ว มันคือภารกิจที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้... คือการเยียวยาบาดแผลที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อสามร้อยปีก่อน... แต่การมีเป้าหมายร่วมกันก็ยังดีกว่าการจมอยู่ในความสิ้นหวังอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
"เราเห็นพ้องต้องกันแล้ว... ว่าเรามีภารกิจใหม่" เร็กซ์เป็นคนแรกที่พูดถึงปัญหาที่อยู่ตรงหน้า เสียงของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยความขมขื่นอีกต่อไป แต่กลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นที่เยือกเย็น "แต่ทั้งหมดนี้จะไม่มีความหมาย... ถ้าเรายังติดอยู่ในนี้"
คำพูดของเขาคือความจริงที่โหดร้าย พวกเขาหันไปมองรอบตัวอีกครั้ง... ความขาวโพลนที่ไร้ขอบเขตยังคงทอดยาวไปทุกทิศทาง ทางเข้าที่พวกเขาเคยผ่านมาได้หายไปโดยสมบูรณ์แล้ว
"ต้องมีทางออกสิ" ลีน่าพึมพำ เธอพยายามจะติดต่อกับฐานที่มั่นอีกครั้ง "ศิลา? เอลารา? ได้ยินดิฉันไหม? ตอบด้วย!"
...มีเพียงความเงียบงันตอบกลับมา...
พวกเขาพยายาม "ว่าย" กลับไปในทิศทางเดิมที่พวกเขาจำได้ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนที่ไปนานแค่ไหน... ทิวทัศน์รอบตัวก็ยังคงเหมือนเดิม... ไม่มีการเปลี่ยนแปลง... ไม่มีความคืบหน้า... พวกเขากำลังย่ำอยู่กับที่ในโถงแห่งความว่างเปล่า
"ไร้ประโยชน์" ครามกล่าวอย่างสงบนิ่ง "ที่นี่ไม่มี 'ทิศทาง'... มันมีแต่ 'ใจกลาง' เท่านั้น"
ทุกคนหันไปมอง "ใจกลาง" ที่ว่านั้น... ผลึกความทรงจำที่ลอยนิ่งอยู่เหมือนเดิม
"มันเป็นกับดักงั้นรึ" เร็กซ์คำราม "มันหลอกให้เราเข้ามาดูความจริง... แล้วก็ขังเราไว้ที่นี่ตลอดกาล"
"ไม่..."
เสียงที่ดังขัดขึ้นมานั้นไม่ใช่ของลีน่าหรือคราม... แต่เป็นเสียงของ ลินดา
ทุกคนหันไปมองเธอ เด็กสาวที่ปกติจะทำหน้าที่แค่เป็นล่าม บัดนี้กลับมีแววตาที่จริงจังและเปี่ยมไปด้วยปัญญาที่ดูเกินวัยของเธอ
"ตอนที่ท่านพ่อเล่าเรื่อง 'ต้นไม้โลก' ให้ข้าฟัง..." เธอเริ่มต้นเล่า "...เขาบอกว่ามันไม่ใช่แค่สถานที่เก็บความทรงจำ... แต่เป็น 'ผู้พิพากษา' และ 'ผู้ชี้นำ'"
เธอหยุดและมองไปที่ผลึก "มันทดสอบเรา... เพื่อดูว่าเรา 'คู่ควร' ที่จะรับรู้ความจริงหรือไม่... และเราก็ผ่านบททดสอบของมันแล้ว"
"แล้วยังไงต่อ" ลีน่าถาม
"ข้าคิดว่า..." ลินดาพูดช้าๆ "...ทางออกอาจจะไม่ได้อยู่ที่การ 'ค้นหา'... แต่อยู่ที่การ 'ขอ' ก็ได้"
คำพูดที่เรียบง่ายของเธอทำให้ทุกคนต้องนิ่งคิด... มันคือแนวคิดที่ขัดแย้งกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมด... แต่ในสถานที่ที่กฎฟิสิกส์ปกติใช้ไม่ได้ผล... บางทีคำตอบที่เรียบง่ายที่สุดอาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดก็ได้
"มันไม่ได้ขังเราไว้" ลินดาพูดต่อ "แต่บางที... มันอาจจะกำลังรอ... รอฟังว่าหลังจากที่เรารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว... เราจะ 'ทำอะไร' ต่อไป"
คำพูดของลินดาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งนั้น... ได้กลายเป็นสมมติฐานสุดท้ายที่พวกเขามีเหลืออยู่ มันคือความหวังที่ดูเหมือนจะไร้เหตุผลที่สุด... แต่ในสถานที่ที่กฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ใช้ไม่ได้ผล... บางทีความไร้เหตุผลอาจจะเป็นตรรกะเดียวที่ถูกต้องก็ได้
ลีน่าเป็นคนแรกที่ยอมรับในแนวคิดนั้น เธอไม่ได้มองมันในฐานะ "คำขอ" ที่งมงาย... แต่ตีความมันในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์
"เธออาจจะพูดถูกนะลินดา" เธอกล่าวขึ้น ทำให้ทุกคนหันมามอง "ผลึกนั่น... มันอาจจะไม่ใช่แค่ 'ห้องสมุด'... แต่มันคือ 'ระบบประมวลผลควอนตัมชีวภาพ' ที่ซับซ้อน มันไม่ได้แค่แสดงข้อมูล... แต่มันยัง 'ประเมิน' ผู้ที่เข้ามาใช้งานด้วย"
เธอเริ่มอธิบายทฤษฎีของเธอ "บททดสอบแรกคือการดูว่าเรา 'คู่ควร' ที่จะรับรู้ความจริงหรือไม่... และเราก็ผ่านมันมาแล้ว" เธอหยุดและกวาดตามองทุกคน "แต่บางที... อาจจะมีบททดสอบที่สอง... บททดสอบที่สำคัญกว่า... คือการประเมิน 'เจตจำนง' (Intent) ของเราหลังจากที่ได้รับรู้ความจริงทั้งหมด... มันกำลังรอ 'คำตอบ' จากเรา... ว่าเราจะนำความรู้นี้ไปทำอะไรต่อ"
"แล้วเราจะ 'ตอบ' มันได้ยังไง" เร็กซ์ถาม
"เราจะทำในสิ่งที่เราเพิ่งจะเรียนรู้มา" ลีน่าตอบ "เราจะ 'เชื่อมต่อ' กับมันอีกครั้ง... แต่คราวนี้... เราไม่ได้เข้าไปเพื่อ 'รับ'... แต่เราจะเข้าไปเพื่อ 'ให้'... เราจะแสดง 'เจตจำนง' ที่เป็นหนึ่งเดียวของเราให้มันเห็น"
มันคือแผนการที่บ้าบิ่นและไม่มีอะไรมารับประกันความสำเร็จ... แต่เมื่อมองไปยังร่างที่ถูกแช่แข็งซึ่งยังคงลอยอยู่อย่างเงียบงันในระยะไกล... พวกเขาก็รู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
พวกเขาค่อยๆ "ว่าย" ผ่านความว่างเปล่าอีกครั้ง... กลับไปยังใจกลางของโถงแห่งนิรันดร์... ที่ซึ่งผลึกความทรงจำขนาดมหึมายังคงลอยนิ่งอยู่
ครั้งนี้... ไม่มีใครลังเล...
พวกเขาจัดเรียงตัวเองเป็นวงกลมล้อมรอบผลึก... หันหน้าเข้าหามัน... มันคือภาพของพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบ... คือการรวมตัวกันของสองโลกที่แตกสลาย
"ทุกคน... พร้อมนะ" ลีน่ากล่าว "ไม่ต้องใช้คำพูด... ไม่ต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อน... แค่ 'รู้สึก'... รู้สึกถึงภารกิจใหม่ของเรา... รู้สึกถึงเป้าหมายที่เราต้องทำให้สำเร็จ"
แล้วพวกเขาก็ยื่นมือออกไป... สัมผัสกับพื้นผิวของผลึกอีกครั้ง... พร้อมกัน...
และในวินาทีนั้นเอง... จิตสำนึกของพวกเขาก็ถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอีกครั้ง... แต่คราวนี้... พวกเขาไม่ได้เห็นภาพในอดีต... แต่กลับได้ "เห็น" จิตใจของกันและกัน...
• 
ลีน่า... โปรเจคภาพของ "ยูโทเปีย" ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่... ไม่ใช่เมืองที่ปิดตาย... แต่เป็นเมืองที่เปิดกว้าง... ที่ซึ่งเทคโนโลยีและธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน... เธอคือ 'วิสัยทัศน์'
 
เร็กซ์... โปรเจคความรู้สึกของการ "ปกป้อง"... ไม่ใช่แค่การปกป้องนคร... แต่คือการปกป้อง "ทุกคน"... ทั้งชาวฟ้าและคนป่า... เขาคือ 'โล่'
 
คราม... โปรเจคความรู้สึกโศกเศร้าอันยาวนานของผืนดิน... แต่ที่ปลายทางของความโศกเศร้านั้น... กลับมีแสงสว่างแห่งความหวังที่จะได้ "เยียวยา"... เขาคือ 'บาดแผลและความหวัง'
 
ลินดา... โปรเจคภาพของ "สะพาน"... สะพานที่ไม่ได้สร้างจากเหล็กกล้า... แต่สร้างจากความเข้าใจ... ทอดข้ามระหว่างนครแห่งตรรกะและพงไพรแห่งศรัทธา... เธอคือ 'ผู้เชื่อมต่อ'
• 
โอไรออน... เขาไม่ได้โปรเจคภาพ... แต่เป็น "เสียง"... คือ "สังคีตบทใหม่"... ที่ผสมผสานระหว่างคลื่นความถี่ที่บริสุทธิ์ของวิทยาศาสตร์... กับเสียงที่วุ่นวายแต่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของธรรมชาติ... เขาคือ 'บทเพลง'
• 
ไลรา... เธอไม่ได้โปรเจคสิ่งใดเลย... แต่กลับเป็น "ตัวกลาง" ที่โอบอุ้มทุกความรู้สึกและภาพนิมิตของทุกคนเอาไว้... หลอมรวมมันให้กลายเป็น "เจตจำนง" ที่เป็นหนึ่งเดียว... เธอคือ 'หัวใจ'
เจตจำนงที่บริสุทธิ์และทรงพลังนั้น... ได้ไหลผ่านปลายนิ้วของพวกเขา... เข้าไปสู่ใจกลางของผลึกความทรงจำ...
และมัน... ก็ตอบสนอง...
วินาทีที่ "เจตจำนง" ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวของพวกเขาไหลเข้าสู่ใจกลางของผลึกความทรงจำ... ปรากฏการณ์ที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ทั้งหมดก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ผลึกที่เคยโปร่งแสง... บัดนี้กลับส่องสว่างวาบขึ้นด้วยแสงสีทองที่อบอุ่นและทรงพลัง! มันไม่ใช่แสงที่เย็นชาเหมือนตอนแรก... แต่เป็นแสงที่เต็มไปด้วย "ชีวิต"... แสงนั้นไม่ได้สาดส่องออกมาภายนอก... แต่กลับถูกดูดกลืนกลับเข้าไปในตัวเอง... ราวกับว่าหัวใจที่หลับใหลมานานนับศตวรรษ... ได้เริ่มเต้นอีกครั้ง
ครืนนนนนนนนนนนนนนนนน...
เสียงที่ดังขึ้นไม่ใช่เสียงที่เกิดจากอากาศ... แต่เป็นเสียงที่สั่นสะเทือนอยู่ใน "จิตสำนึก" ของพวกเขาโดยตรง... มันคือเสียงของความเป็นจริงที่กำลังถูก "เขียน" ขึ้นมาใหม่...
ความขาวโพลนที่เคยไร้ที่สิ้นสุด... เริ่มสั่นไหวราวกับผิวน้ำที่ถูกรบกวน... มันไม่ได้หายไป... แต่กำลัง "ก่อตัว"
เบื้องล่าง... ที่ซึ่งเคยเป็นความว่างเปล่า... บัดนี้กลับปรากฏเป็น "พื้นดิน"... มันคือทุ่งหญ้าสีเขียวมรกตที่นุ่มนวลราวกับพรม... และเมื่อเท้าของพวกเขาสัมผัสกับมันเป็นครั้งแรก... พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงโน้มถ่วงที่ค่อยๆ กลับคืนมาอย่างนุ่มนวล... พวกเขากำลัง "ยืน" อยู่บนโลกอีกครั้ง
เบื้องบน... ที่ซึ่งเคยเป็นความขาวโพลน... บัดนี้กลับกลายเป็น "ท้องฟ้า"... ท้องฟ้าสีครามสดใสที่มีหมู่เมฆสีขาวลอยล่องอย่างเชื่องช้า... และมีดวงอาทิตย์สีทองที่สาดส่องแสงอันอบอุ่นลงมา...
และรอบตัวของพวกเขา...
"นี่มัน..." ลีน่าพึมพำออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา
มันคือภาพของ "ยูโทเปีย"... แต่ไม่ใช่ยูโทเปียที่พวกเธอเคยเห็นในความทรงจำ... มันไม่ใช่เมืองที่สมบูรณ์แบบจนเย็นชา... แต่เป็นเมืองที่ "มีชีวิต"
ตึกระฟ้าโลหะชีวภาพที่เคยสูงตระหง่าน... บัดนี้กลับมีเถาวัลย์สีเขียวสดเลื้อยพันอย่างกลมกลืน... บนยอดของโดมแก้วคริสตัลไม่ได้มีแค่ความว่างเปล่า... แต่กลับมีสวนลอยฟ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน... และ "ถนน" ที่เคยเป็นเส้นทางแสง... บัดนี้กลับกลายเป็นลำธารใสสะอาดที่ไหลคดเคี้ยวไปตามตัวเมือง...
"ข้า... ได้ยิน" โอไรออนกระซิบ น้ำตาไหลอาบแก้มของเขา "...ข้าได้ยินเสียง... เสียงหัวเราะของเด็กๆ... เสียงน้ำไหล... เสียงใบไม้... มันคือ... บทเพลงที่สมบูรณ์แบบ"
มันคือภาพที่พวกเขาทุกคนได้โปรเจคเข้าไปในผลึก... มันคือ "วิสัยทัศน์" ของลีน่า... คือ "การปกป้อง" ของเร็กซ์... คือ "การเยียวยา" ของคราม... คือ "สะพาน" ของลินดา... คือ "บทเพลง" ของโอไรออน... และคือ "หัวใจ" ของไลรา...
ผลึกความทรงจำไม่ได้แค่ "รับฟัง" เจตจำนงของพวกเขา... แต่มันได้ "สร้าง" โลกใบใหม่ขึ้นมาจากเจตจำนงนั้น... เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นถึง "ความเป็นไปได้"... แสดงให้พวกเขาเห็นถึงปลายทางของภารกิจที่พวกเขาเพิ่งจะแบกรับ
ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่งดงามนั้น... ได้ปรากฏ "เส้นทางขึ้น... มันคือทางเดินหินสีขาวสายเล็กๆ ที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปข้างหน้า... มุ่งตรงไปยังใจกลางของเมืองแห่งความฝันนั้น... ที่ซึ่งมีแสงสว่างที่อบอุ่นและเชื้อเชิญที่สุดรออยู่
มันไม่ใช่แค่ "ทางออก"... แต่มันคือ "คำเชิญ"...
คำเชิญให้ก้าวเดินไปบนเส้นทางของผู้เยียวยา...

ทีมเดินทางเท้าทั้งหกคนมองหน้ากัน... ไม่จำเป็นต้องมีคำพูด... พวกเขาต่างเข้าใจตรงกันว่านี่คือเส้นทางเดียวที่เหลืออยู่... คือเส้นทางที่พวกเขาต้องเลือกเดิน
ลีน่าเป็นคนแรกที่ก้าวเท้าออกไปบนทางเดินหินสีขาวนั้น... ตามด้วยเร็กซ์... โอไรออนกับไลรา... และครามกับลินดา...
พวกเขาเดินไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว... ผ่านเมืองในฝันที่เกิดจากเจตจำนงของพวกเขาเอง... มันคือการเดินทางที่เงียบสงบและงดงามที่สุด... แต่ในขณะเดียวกันมันก็คือการอำลา... การอำลาโลกในอุดมคติที่ไม่มีอยู่จริง... เพื่อกลับไปเผชิญหน้ากับโลกแห่งความจริงที่แตกสลาย
ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปใกล้แสงสว่างที่ปลายทางมากเท่าไหร่... ภาพของเมืองในฝันก็ยิ่งค่อยๆ จางลง... เสียงหัวเราะของเด็กๆ... เสียงน้ำไหล... ค่อยๆ เลือนหายไป... ถูกแทนที่ด้วยความเงียบงันอีกครั้ง...
จนกระทั่งพวกเขามาถึงปลายทาง...
มันคือม่านแสงสีทองที่อบอุ่นและเชื้อเชิญ...
ลีน่าหันกลับมามองทีมของเธอเป็นครั้งสุดท้าย... ทุกคนพยักหน้าให้กันอย่างแน่วแน่...
แล้วเธอก็... ก้าวเข้าไป
วูบ...
มันไม่ใช่การ "วาร์ป"... ไม่มีการบิดเบี้ยวของมิติ... แต่มันคือความรู้สึกของการ "ตื่นขึ้นจากฝัน"
วินาทีที่ร่างของลีน่าสัมผัสกับม่านแสง... ภาพของเมืองในฝันก็สลายไปในพริบตา... ความรู้สึกไร้น้ำหนักหายไป... และประสาทสัมผัสทั้งหมดของเธอก็ถูกโจมตีด้วย "ความเป็นจริง" อีกครั้ง...
กลิ่นของดินชื้นและใบไม้เน่า... เสียงลมที่พัดผ่านยอดไม้... และความรู้สึกเย็นเฉียบของพื้นหินใต้ฝ่าเท้า...
เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น...
ภาพที่เห็นไม่ใช่โถงแห่งนิรันดร์หรือเมืองในฝัน... แต่คือป่าที่มืดและน่าเกรงขาม... ที่ซึ่งต้นไม้โลกยังคงตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า... และ "ประตูที่มีชีวิต" ก็ได้ปิดผนึกตัวเองกลับไปนิ่งสนิท... ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
คนอื่นๆ ทยอย "ตื่นขึ้น" ตามกันมาทีละคน... ทุกคนต่างมีสีหน้าที่สับสน... พวกเขากลับมาแล้ว... กลับมาสู่โลกแห่งความจริง
พวกเขาหันมามองหน้ากัน... ไม่จำเป็นต้องมีคำพูด... แต่ในแววตาของแต่ละคนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม พวกเขาทั้งหกคนได้ร่วมเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครเคยไปถึง... และได้แบกรับภาระที่ไม่มีใครเคยแบกรับมาก่อน... พวกเขาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ลีน่าหยิบเครื่องสื่อสารของเธอขึ้นมา... นิ้วของเธอกดปุ่มเปิดสัญญาณอย่างมั่นคง
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้าแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "...ศิลา, เอลารา... พวกเรากลับมาแล้ว"

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ คิวนะครับ

.

รูปภาพของ คิวนะครับ

.

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.