1 ปฐมบท

ในยุคสมัยที่ตระกูลไฮพีเรียนเรืองอำนาจ กษัตริย์เอ็ดการ์ปกครองดินแดนอย่างสงบสุขเป็นเวลานานกว่าสี่สิบปี เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุที่เก้าสิบสามสุขภาพของราชาเฒ่าก็ทรุดโทรมลงอย่างต่อเนื่อง เจ้าชายสเตฟาน ที่สอง โอรสเพียงหนึ่งเดียวของพระองค์กลับหันหลังให้บัลลังก์และในภายหลังถูกพรากไปด้วยโรคร้าย ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทในบัลลังก์แห่งครีเซนต์ยังคงว่างอยู่เป็นเวลาหลายปี มหาสภาในกษัตริย์เอ็ดการ์เรียกร้องให้มีการเลือกทายาทองค์ใหม่จากผู้อ้างสิทธิ์ทั้งหมด บรรดาลอร์ดผู้ครองแคว้นและเหล่าขุนนางต่างๆเดินทางมายังครีเซนต์เพื่อร่วมการพิจารณา ในตอนนั้นเจ้าชายไลโอเนล เจ้าหญิงฟาลิเซีย และเจ้าชายอีนอคเป็นเพียงสามที่มีคุณสมบัติเพียงพอจะสืบทอดบัลลังก์ ทว่าบาทหลวงและขุนนางชั้นสูงต่างมิเห็นชอบหากสตรีนั่งบัลลังก์แห่งครีเซนต์ และเจ้าชายอีนอคเยาว์วัยเกินกว่าจะนั่งบัลลังก์ ท้ายที่สุดบัลลังก์ตกเป็นของเจ้าชายไลโอเนล ไฮพีเรียน บุตรในเจ้าหญิงไลล่า ไฮพีเรียนกับลอร์ดดาร์อิน ซิมุม แห่งเมืองมิราจ ทางตะวันออกของแอนเชียนน่า

หลังจากที่ยุคสมัยของราชาเฒ่าสิ้นสุดลง กษัตริย์ไลโอเนลเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงชนชั้นสูงจากตระกูลโคสต์แลนด์ เจ้าแห่งเมืองท่าชายฝั่งทะเลของครีเซนต์ ท่านหญิงเวโรนิก้า พระนางมีผิวราวไข่มุกเรือนผมสีดำขลับและดวงตาสีฟ้าขุ่นราวกับท้องฟ้าในยามกลางวันซึ่งเต็มไปด้วยเมฆ ทั้งสองครองรักกันมานานทว่ากลับไม่มีทายาทร่วมกัน จนกระทั่งในปีที่ห้าราชินีก็ได้ให้กำเนิดรัชทายาทในบัลลังก์ลำดับที่หนึ่ง เจ้าชายเซเวียร์ ไฮพีเรียน

โต๊ะหินขนาดมหึมาตั้งตระหง่านทอดตัวยาวอยู่กลางห้องประชุมมหาสภา หินคาลซิโดนีสีเทานวลอมฟ้าทั้งก้อนถูกเจียระไนอย่างพิถีพิถันจากช่างฝีมือยุคเก่าแก่ของครีเซนต์ จนกลายเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขอบมุมทุกด้านถูกขัดเรียบคมกริบ ลายหินธรรมชาติแทรกเส้นสีเงินบางเบา คล้ายม่านหมอกอยู่ภายใต้ผิวเนื้อเย็นเฉียบของมัน พื้นผิวโต๊ะถูกขัดจนเรียบเนียนเกินกว่าจะจิตนาการสะท้อนแสงจากโคมไฟระย้าซึ่งแขวนอยู่บนเพดาน

ประตูห้องประชุมเปิดออกอย่างแรงจนบานไม้กระแทกกับผนังเสียงดัง ปัง! กษัตริย์ไลโอเนล ไฮพีเรียน เสด็จเข้ามาด้วยฝีเท้าเร่งรีบรีบและเต็มไปด้วยความหงุดหงิด พระองค์เป็นชายวัยยี่สิบแปดปี รูปร่างสูงสง่า ผมสีบรูเน็ตยุ่งเล็กน้อยเหมือนไม่ใส่ใจจะจัดแต่ง ดวงตาสีเขียวมะกอกส่องประกายแข็งกร้าว สายพระเนตรกวาดมองทั่วห้องเพียงชั่วครู่ก่อนจะตรงดิ่งไปยังหัวโต๊ะโดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใด 

เบื้องหลังพระองค์ ราชองครักษ์ในชุดเกราะสีทองอร่าม สลักลวดลายสัญลักษณ์ราชวงค์ไฮพีเรียนเดินตามมาอย่างเคร่งขรึม ผืนผ้าคลุมสีทองแดงเข้มโบกไหวตามการก้าว ลอร์ดและบาทหลวงผู้เป็นสมาชิกสภานั่งอยู่รายรอบโต๊ะหินแกะสลัก เสียงสนทนาเบาๆก่อนหน้านี้พลันเงียบหายไปในทันทีที่กษัตริย์ปรากฏกาย พระองค์นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ซึ่งพนักพิงแกะสลักเป็นดวงอาทิตย์สิบหกแฉก ตราประจำตระกูลไฮพีเรียน เก้าอี้ด้านขวาของพระองค์ยังคงว่างอยู่

"ฝ่าบาท" ลอร์ดฮิวโก้  โอลสันที่ปรึกษาส่วนพระองค์ หนึ่งในสมาชิกสภาโค้งหัวคำนับพระองค์ เขาอายุสี่สิบแปดปี ลอร์ดฮิวโก้เป็นชายสูง ผอมเพรียว หลังของเขายืดตรงเสมออย่างผู้ได้รับการอบรมจากราชสำนักตั้งแต่อย่างเยาว์วัย ผมสีทองตัดสั้นเรียบแปล้ เคราแพะบางเฉียบแต่งเรียบ ดวงตาสีเฮเซลเฉียบคมมองทะลุคนได้ราวกับอ่านหนังสือ สวมเสื้อคลุมยาวสีเลือดหมูประดับขอบเงินและตราประจำตำแหน่งที่อกซ้าย คำแนะนำของเขามักชี้ทิศทางการตัดสินใจของราชาไลโอเนลอยู่บนครั้ง 

"วันนี้เราจะต้องเดินทางไปเยือนมิราจ" กษัตริย์หยุดพูดพักหนึ่ง สายตาเฉียบคมของเขามองสมาชิกสภาแต่ละคน มือหนาตบลงบนโต๊ะหินเสียงดังลั่น "แต่พวกเจ้ากลับมาคุดขู้อยู่ในห้องประชุมสภาและเรียกประชุมเร่งด่วน...ด้วยเรื่องอะไร" เสียงของเขาสูงขึ้นด้วยความหงุดหงิดก่อนจะลดลงในตอนท้าย เขาควรจะอยู่ที่รถม้าของราชวงศ์ ไม่ใช่ที่ห้องประชุมแห่งนี้

"ฝ่าบาท อันที่จริงกระหม่อมก็อยากจะหารือเรื่องนี้เมื่อฝ่าบาทกลับมาจากการเยี่ยมเยือนทางเหนือของดินแดนเรา แต่...กระหม่อมพิจารณาดูแล้วนี่เป็นเรื่องเร่งด่วน...เรื่องทายาทของพระองค์" ลอร์ดฮิวโกที่ปรึกษาในราชาไลโอเนล กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางเป็นกังวล เขาจงใจหยุดเพียงเท่านี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากกษัติรย์ได้เป็นอย่างดี

"เราเป็นกังวลฝ่าบาท เห็นชัดแล้วว่าราชินีไม่สามารถทำหน้าที่...เอ่อ ให้กำเนิดทายาทได้อีกต่อไป หมอหลวงลงความเห็นว่าร่างกายพระนางอ่อนแอเกินกว่าจะอุ้มท้องทารกให้อยู่รอด หากยังฝืนทรงครรภ์ต่อไปจะเป็นอันตรายต่อตัวนางเอง" ลอร์ดคาร์ล สโตนเฮิล์มช่วยเสริม แม้เขาจะดูลังเลที่จะพูดอยู่บ้าง เขาเป็นชายร่างใหญ่ บึกบึนเหมือนกำแพงหิน เขามีอายุสี่สิบเจ็ดปี ผิวคล้ำแดดจากการเติบโตในภูมิภาคเขาหินและเหมืองแร่ด้านตะวันตกของดินแดน เส้นผมสีน้ำตาลของเขาถูกถักเปียแน่น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาปกติจะมีแววดุดัน เขาสวมเสื้อคลุมหนังสีดำตัดกับตราประจำตระกูลเป็นรูปค้อนทุบแผ่นหิน ปักด้วยด้ายเงิน โดยปกติแล้วเขาเป็นคนหัวแข็ง ตรงไปตรงมา พูดจากไม่อ้อมค้อม และพร้อมทุบโต๊ะเมื่อไม่เห็นด้วยกับสิ่งใด เขายึดถือเกียรติ์และคำสัญญาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมักดูถูกพวกขุนนางที่มากด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่ในห้องประชุมแห่งนี้เขาเป็นเพียงชายตัวใหญ่ขี้กังวลเท่านั้น

ประตูห้องประชุมเปิดออกอีกครั้ง เสียงบานไม้เสียดสีกับพื้นหินอ่อนดังขึ้น ชายหนุ่มรูปงามผมสีบรูเน็ตเข้มยาวระต้นคอ นัยต์ตาของเขามีสีเขียวหม่นคล้ายกษัตริย์ ใบหน้าคมสันได้รูป จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักยิ้มอย่างคนมีเสน่ห์ ก้าวเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ แต่ไม่อ้อมค้อม ผ้าคลุมสีเขียวเข้มขลิบทองพลิ้วตามการย่างกราย ผมสีบูรเน็ตปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจพิธีการ ดวงตาสีเขียวหม่นมีประกายบางอย่าง เสียดสีหรือเย้ยหยันก็ยากจะบอกชัด

"พระองค์มีทายาทอยู่แล้วลอร์ดฮิวโก จะให้เอ่ยชื่อรึเปล่า" เจ้าชายอีนอค ไฮพีเรียนลูกผู้น้องของกษัริย์ สมาชิกมหาสภาคนสุดท้าย มองรอบห้องพลางยิ้ม ไม่ใช่ยิ้มของความนอบน้อม แต่เป็นยิ้มที่รู้ดีว่าเขาเข้ามาช้า และเขารู้ดีว่าใครบางคนรู้สึกไม่สบายใจเพราะเรื่องนั้น เขาก้าวไปยังเก้าอี้ว่างข้างพระราชาโดยไม่โค้งคำนับ ใครบางคนขยับตัวแต่ไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวตักเตือน ลอร์ดฮิวโกปรายตามองเขาแวบหนึ่งด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ ขณะที่กษัตริย์ไลโอเนลเพียงเหลือบมองลูกผู้น้อง แล้วหันกลับไปสนใจคนอื่นๆต่อ ราวกับไม่ประหลาดใจกับพฤติกรรมโฉงฉางนี้

"เจ้าชายเซเวียร์ ไฮพีเรียน" พูดจบก็เอนหลังพิงผนักพิงไม้แกะสลักด้วยท่าทางสบายๆ 

"ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังคิดว่าพระองค์ควรจะมีทายาทเพิ่มเพื่อสเสถียรภาพของดินแดน การที่พระองค์มีทายาทเพียงคนเดียวโดยไร้ข้อโต้แย้งอาจทำให้ดินแดนสั่นคลอนฝ่าบาท เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคของกษัตริย์เอ็ดการ์ ดังนั้น..." 

"ถึงอย่างนั้นดินแดนก็ยังมีข้า เจ้าชายอีนอค ไฮพีเรียน สายเลือดแท้ลูกผู้น้องกษัตริย์ เซอร์เดเรค เซอร์ฟลินน์ และเซอร์ดรูฮาน สโตนเฮิล์ม บุตรชายในเจ้าหญิงฟาลิเซีย ถึงแม้พวกเขาจะใช้สกุลฝั่งพ่อแต่สายเลือดครึ่งหนึ่งของพวกเขาก็ยังเป็นไฮพีเรียน ข้าไม่เห็นว่าอาณาจักรเราจะขาดผู้สืบทอดบัลลังก์ตรงไหน ลอร์ดฮิวโก ท่านแค่อยากเสนอตัวบุตรสาวเข้ามาเป็นภริยาน้อยและไต่เต้าขึ้นมาเป็นราชินีรึเปล่าข้าชักไม่แน่ใจ" ถึงตรงนี้ทั้งห้องประชุมก็เงียบลง บรรยากาศตึงเครียดจนลอร์ดคนอื่นๆไม่กล้าแม้แต่จะแทรกบทสนทนา

"หากพระองค์ทรงมีทายาทเพียงองค์เดียว ราชวงค์จะอยู่ในความเสี่ยงอย่างยิ่ง ข้าจึงใครขอให้พระองค์พิจารณาการรับภริยาน้อย เพื่อความมั่นคงของบัลลังก์"

หลายคนผงกศีรษะอย่างเห็นด้วย บ้างก็หลุบตาลงหลบสายตากษัตริย์ แต่นั่นคือช่วงที่เจ้าชายอีนอคเอนกายไปข้างหน้าวางศอกบนโตีะหินคาลซิโดนี และเอ่ยด้วยเสียงนุ่มแต่ชัดเจน

"ท่านเสนอให้ญาติข้าทำลายเกียรติแห่งรักแท้ ของพระองค์กับองค์ราชินี เพื่อความ 'มั่นคงจอมปลอม' งั้นเหรอฮิวโก" ทั้งห้องประชุมเงียบลงอีกครั้ง ลอร์ดฮิวโกเหลือบตามองเจ้าชายหนุ่มช้าๆ สีหน้าไม่เปลี่ยน หากแต่เสียงตอบกลับนั้นมีใบมีดซ่อนอยู่

"ข้าพูดถึงสิ่งจำเป็น ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน เจ้าชาย"

อีนอคยกยิ้มมุมปาก

"แล้วความจำเป็นใดจะมีค่ากว่าคำสัตย์ของพระราชาและความมั่นคงของราชินี ตระกูลไฮพีเรียนมีประวัติมายาวนานแต่ไม่เคยมีกษัตริย์คนใดรับภริยาน้อยมาก่อน หรือท่านหมายถึงความมั่นคงของคนที่หวังเห็นบัลลังก์ไร้ราก แต่เต็มไปด้วยยอดกิ่งงอกผิดทาง"

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทันทีในหมู่สมาชิกมหาสภา บางคนเม้มปาก บางคนเบือนหน้าหนี ส่วนกษัตริย์ไลโอเนลยังคงนั่งนิ่ง เหมือนกำลังชั่งน้ำหนักว่าควรปรามอีนอค หรือปล่อยให้หมากตัวนี้เดินจุดสุดกระดาน

บรรยากาศในห้องประชุมขณะนั้น หนักแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ภายใต้คำว่า "ราชสำนัก" และ "ราชสกุล" มีเพียงอีนอคที่กล้าพูดถึงสิ่งที่คนอื่นพยายามหลีกเลี่ยง

"ข้าว่าเราถกกันมามากพอแล้วสำหรับเรื่องนี้ ข้าเห็นด้วยกับเจ้าชายอีนอค ดินแดนของเรามีเชื้อสายราชวงศ์อยู่มากพอให้สืบทอดบัลลังก์ต่อไปอีกร้อยปีพันปี แต่หากวันหนึ่งบุตรชายสักคนของลอร์ดดันเต้จะต้องเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ ถึงตอนนั้นพวกเขาจะต้องเปลี่ยนมาใช้สกุลไฮพีเรียน อีกอย่างหากไร้ซึ่งบุรุษเหล่านั้น ดินแดนเรายังคงมีเจ้าหญิงฟาลิเซีย และบุตรีในเจ้าชายอีนอค เลดี้โรเซล่าและเลดี้โรสลิน" ทุกคนภายในห้องประชุมนั่งเงียบไม่มีใครเอ่ยอะไรเว้นเพียงแต่เจ้าชายอีนอคที่ยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ เขาจงใจส่งยิ้มยียวนให้กับลอร์ดฮิวโกที่ปรึกษาส่วนพระองค์ ลอร์ดเฒ่ารู้ดีว่าเจ้าชายหนุ่มต้องการกวนประสาทเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ตอบโต้อะไร

"แต่ฝ่าบาท ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของครีเซนต์ไม่เคยมีสตรีนั่งบัลลังก์มาก่อนพะยะค่ะ ข้าคิดว่าอาจจะเป็นการขัดต่อธรรมเนียมหากจะให้เจ้าหญิงฟาลิเซียหรือบุตรีในเจ้าชายอีนอคเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดบัลลังก์" บาทหลวงหนึ่งในสมาชิกมหาสภากล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบและใบหน้าที่สงบหลังจากที่เขาเงียบฟังบทสนทนามานาน

"ข้าเห็นด้วยกับบาทหลวงฝ่าบาท สตรีมิอาจนั่งบัลลังก์..." ฮิวโกพูดยังไม่ทันจบประโยคเซอร์เอียนก็ขัดขึ้น 

"ช่างหัวเก่าคร่ำครึเสียจริง เจ้าหญิงฟาลิเซียเป็นสายเลือดแท้ พระนางมีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งทางด้านสติปัญญาและคารม"

"ดูเหมือนทุกท่านกำลังหลงประเด็นสำคัญ ข้ากำลังพูดถึงความกังวลใจเกี่ยวกับรัชทายาท ่สายเลือด' กษัตริย์" ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่งของฮิวโกฉายแววรำคาญเล็กน้อยเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับมานิ่งเรียบดังเดิม

"ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือเจ้าหญิงฟาลิเซีย เราต่างก็มีสายเลือดเดียวกันกับกษัตริย์ ฮิวโก เจ้ากำลังดูหมิ่นสายเลือดของข้าอยู่หรือไม่" เจ้าชายอีนอคถามเสียงเรียบแม้ใบหน้าของเขาจะยังแย้มยิ้มเสน่ห์ตามแบบฉบับของเขาอยู่ก็ตาม ความเงียบเข้าปกคลุมห้องประชุมทันทีอีกครั้ง

กษัตริย์ไลโอนเนลถอนหายใจยาว เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าของเขาอย่างเหนื่อยหน่าย

"นี่มันช่างไร้สาระสิ้นดี..." เขาถอนหายใจอย่างหัวเสียอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา "จนกว่าข้าจะมีทายาทคนที่สอง ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าชายอีนอค ไฮพีเรียน เป็นเจ้าชายรัชทายาทลำดับที่สองนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พิธีแต่งตั้งรัชทายาทจะถูกจัดขึ้นหลังจากการเยี่ยมเยือนเอธาเลียร์ มีใครจะค้านอะไรมั้ย"

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบและตะลึงงันในคำประกาศของกษัตริย์ เจ้าชายอีนอคแสยะยิ้มราวกับผู้ชนะ เขายักคิ้วยียวนให้กับสมาชิกสภทุกคนที่เห็นด้วยกับการให้กษัตริย์พิจารณารับภริยาน้อย

"ดูเหมือนทุกท่านไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว...ดี....ถ้าอย่างนั้นข้าขอปิดการประชุมไร้สาระนี้เพียงเท่านี้ ราชินีและรัชทายาทกำลังรอข้าอยู่ พวกเจ้าเองก็ควรเตรียมตัวเดินทางได้แล้ว" พระราชาไลโอเนลลุกจากที่นั่ง พระองค์เดินผ่านเหล่าสมาชิกมหาสภาซึ่งยังคงนั่งอยู่ประจำที่ของพวกเขาโดยมีราชองครักษ์เดินตามพระองค์ไม่ห่าง ผ้าคลุมไหล่ของพระองค์สะบัดตามการก้าวเดินของพระองค์ทุกย่างก้าว เสียงฝีเท้าดังกึกก้องไปทั่วโถงทางเดินหินอ่อน บนเพดานมีโคมไฟระย้าคอยให้แสงสว่างแก่พระราชวังครีเซนต์ พระองค์มุ่งตรงไปยังรถม้าของราชวงศ์ ซึ่งราชินีและเจ้าชายรัชทายาทกำลังรอพระองค์อยู่

เกร็ดน่ารู้: 1. ราชาไลโอเนลแต่งงานกับท่านหญิงเวโรนิก้า ตอนอายุ 18 ปี ส่วนท่านหญิงอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น! 

               2. ปัจจุบันราชาไลโอเนล อายุ 28 ปี ราชินีเวโรนิก้า อายุ 24 ปี มีบุตรหนึ่งคน เจ้าชายเซเวียร์ อายุ 5 ปี

               2. ปัจจุบันเจ้าหญิงฟาลิเซียอายุ อายุ 26 ปี มีบุตรสามคน เซอร์เดเรค อายุ 8 ปี เซอร์ฟลินน์ อายุ 5 ปี และเซอร์ดรูฮาน อายุ 3 ปี

               3. ปัจจุบันเจ้าชายอีนอคอายุเพียง 20 ปี เท่านั้น มีบุตรีสองคน เลดี้โรสลิน 2 ปี เลดี้โรเซล่า 1 ปี