บทที่ 400 เข้าประชิดป้อม
บทที่ 400 เข้าประชิดป้อม
“แล้วพวกเราจะทำยังไงดี? เราควรจะยกกำลังไปช่วยฉงป้าเลยดีไหม?” เหลยหลงถาม
“ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องช่วยฉงป้าเอาไว้ให้ได้ เพราะถ้าหากบลัดไทแรนท์เอาชนะฉงป้าไปได้แล้ว เป้าหมายต่อไปของมันก็จะต้องเป็นพวกเราอย่างแน่นอน” ฉือมู่ตอบ
“แล้วพวกเราควรจะส่งกำลังไปช่วยยังไง? จะให้ยกทัพใหญ่ไปมันก็คงไม่ทันแล้ว จะให้ส่งผู้เล่นชั้นยอดไปก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้มากเหมือนกัน” เฉียนเฉียนกล่าว
“เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปหาฉงป้าให้เขายอมจ่ายเงินส่งกองกำลังของพวกเธอไปที่เมืองเซนต์กอลล์ อย่างน้อยกองกำลังหลักของพวกเธอก็น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของสงครามไปได้บ้างไม่มากก็น้อย” ฉือมู่กล่าวก่อนที่เขาจะรีบติดต่อไปหาฉงป้าในทันที
—
บนกำแพงป้อมปราการแบล็คร็อค
ฉงป้ากำลังจัดกองกำลังเพื่อเตรียมป้องกันและถึงแม้สมาชิกภายในกิลด์ของเขาจะมีจำนวนน้อยกว่าสมาชิกภายในกิลด์บลัดเติสตี้อยู่ 30,000 คน แต่ฉงป้าก็มีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถป้องกันป้อมปราการเอาไว้ได้โดยไม่มีปัญหา
ท้ายที่สุดภายในป้อมแบล็คร็อคก็มีหอธนูคอยป้องกันถึง 1,000 หอ ยิ่งไปกว่านั้นเหนือประตูเมืองแต่ละด้านยังมีการติดตั้งปืนใหญ่เวทมนตร์เอาไว้อีกด้วย
ในระหว่างที่ฉงป้ากำลังยืนมองสถานการณ์รอบ ๆ ป้อมด้วยความพึงพอใจอยู่นั่นเอง เขาก็ได้รับการติดต่อมาจากฉือมู่
“มีอะไรครับ?”
“เราเพิ่งได้รับคำยืนยันว่าทัพที่ยกมาหาพวกเราเป็นเพียงทัพหลอก แต่ความจริงหวังเถิงรวบรวมสมาชิกหลักของกิลด์ใหญ่ ๆ เอาไปซ่อนไว้ในกองทัพของบลัดเติสตี้ หากฉันคาดเดาไม่ผิดเป้าหมายของพวกเขาในคราวนี้ก็คือป้อมปราการของนาย” ฉือมู่กล่าวอย่างเคร่งเครียด
“พวกมันมีกันกี่คน?” ฉงป้าถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“สมาชิกหลักของทั้ง 5 กิลด์น่าจะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 คน” ฉือมู่ตอบ
ฉงป้าส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง ก่อนที่เขาจะพูดออกไปว่า
“คนแค่นั้นถูกปืนใหญ่เวทมนตร์ของผมยิงทีเดียวก็ตายกันหมดแล้ว อีกอย่างกองกำลังหลักของผมมุ่งเน้นไปที่นักธนูกับนักเวทน้ำแข็งที่มีความโดดเด่นสำหรับการตั้งรับมากที่สุด”
ฉวยอู๋อี้ ผู้ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากิลด์โอเวอร์ลอร์ดได้มีทีมนักเวทน้ำแข็ง 3,000 คน โดยทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่สวมใส่ชุดอุปกรณ์ระดับทองและเรียนรู้สกิลบลิซซาร์ด ซึ่งเป็นสกิลโจมตีวงกว้างด้วยกันทุกคน ยิ่งไปกว่านั้นนักเวทน้ำแข็ง 10 คนภายในกองกำลังยังได้เรียนรู้สกิลฟรอสริง ซึ่งเป็นสกิลกึ่งต้องห้ามมาแล้วอีกด้วย
“ตอนนี้ไม่มีเวลามาพูดจาเรื่องไร้สาระแล้ว เหลยหลงกับเฉียนเฉียนตกลงจะส่งกองกำลังหลักมาช่วยกิลด์ของนาย แต่นายจำเป็นจะต้องจ่ายค่าเทเลพอร์ตไปกลับให้กับพวกเขา แบบนี้นายโอเคไหม?” ฉือมู่กล่าวอย่างร้อนใจ
“ทั้งหมดเท่าไหร่?” ฉงป้าถาม
“ค่าเทเลพอร์ตไปกลับอยู่ที่คนละ 10 เหรียญทอง ขั้นแรกนายจ่ายมา 3,000 เหรียญทองก่อนสองคนนั้นจะได้นำทีมผู้เล่นชั้นยอดไปช่วยเหลือนายได้” ฉือมู่กล่าว
เงินจำนวน 3,000 เหรียญทองมีมูลค่าเท่ากับ 90,000 เครดิต อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้กลับเป็นค่าเดินทางให้กับผู้เล่นได้เพียงแค่ 300 คน ฉงป้าจึงลังเลว่าเขาควรจะจ่ายเงินก้อนนี้ออกไปดีหรือเปล่า
ในระหว่างที่ฉงป้ากำลังลังเลอยู่นั่นเอง ผืนป่าที่ห่างจากป้อมแบล็คร็อคออกไป 3 กิโลเมตรก็เริ่มมีเสียงกองรบดังขึ้นมาแต่ไกล
ตึง!
ตึง!
ตึง!
…
ผู้เล่นชุดเงินจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มปรากฏตัวออกมาจากป่า ซึ่งหลังจากที่ฉงป้าได้ใช้กล้องส่องทางไกลมองสำรวจศัตรู เขาก็ได้เห็นดีม่อนบลัด, เครสเซินมูน, สโนวี่รีเวอร์, เวสท์วินด์, ฉู่หานและไนท์เทรสนำทัพอยู่แถวหน้าสุด
“พวกมันใส่ชุดระดับเงินหมดเลยงั้นเหรอ?” ฉงป้าพึมพำก่อนจะถ่ายทอดภาพเหตุการณ์ด้านนอกป้อมปราการแบล็คร็อคไปให้กับฉือมู่ดู
“เห็นหวังเถิงหรือบลัดไทแรนท์หรือเปล่า?” ฉือมู่ถาม
ฉงป้ากวาดสายตามองไปยังแนวของต้นไม้ที่ค่อย ๆ ล้มลง
“อยู่ตรงนั้นไง”
โครม!
หลังต้นไม้ใหญ่ต้นสุดท้ายถูกโค่นลงมันก็เผยให้เห็นหอบัญชาการขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ ถูกเคลื่อนออกมาจากป่า โดยหอนี้มีความสูงกว่ากำแพงเมือง บริเวณชั้นบนสุดคือหวังเถิงที่นำทัพมาด้วยตัวเอง โดยมีบลัดไทแรนท์, โซลออฟอีเทอนิตี้และแบล็คบลัดยืนอยู่ใกล้ ๆ
“พวกแกใจกล้ามากที่กล้าบุกป้อมปราการของฉันแบบนี้” ฉงป้าตะโกนด่าขณะชี้ไปที่หน้าของบลัดไทแรนท์
บลัดไทแรนท์หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับหวังเถิงที่อยู่ใกล้ ๆ
“คุณหวังพูดอะไรสักหน่อยดีไหมครับ? เผื่อว่าฉงป้ามันจะตายตาหลับหลังจากพ่ายแพ้ให้กับพวกเราแล้ว”
“ฉันล่ะชอบคำพูดของนายจริง ๆ” หวังเถิงหัวเราะขึ้นมาดังลั่น ก่อนที่เขาจะก้าวเดินออกไปยกมือคารวะให้กับฉงป้า 1 ครั้ง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับท่านประธานหวังแห่งไนน์ริเวอร์กรุ๊ป ผมชื่อหวังเถิงเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดของจงเทียนกรุ๊ป”
“นายทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?” ฉงป้าถามขณะมองไปทางหวังเถิง
“เซคคัลเวิลด์เป็นเกมที่ไม่เหมือนกับเกมอื่น ๆ ในโลกนี้อีกแล้ว เพราะมันเป็นเกมที่ทำให้เราสามารถทำตามความทะเยอทะยานของเราได้ แม้วันนี้คุณจะนำกิลด์มายึดป้อมปราการแต่พรุ่งนี้ก็สามารถมีคนนำกองกำลังมายึดป้อมปราการของคุณไปได้ด้วยเหมือนกัน เรื่องเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นขอให้ท่านประธานหวังอย่าได้ถือสาหาความกันเลย” หวังเถิงกล่าวอย่างใจเย็น
“การที่นายพูดแบบนี้ มันก็แสดงว่านายวางแผนจะยึดป้อมปราการของฉันมานานแล้วสินะ ก่อนหน้านี้นายก็เป็นคนส่งบลัดไทแรนท์มาหาฉันเพื่อพยายามเบี่ยงเบนความสนใจใช่ไหม?” ฉงป้ากล่าว
หวังเถิงปรบมือพร้อมกับพูดว่า
“ถูกต้อง ทุกสิ่งที่เราทำมาต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแผนการที่จะเอาชนะคุณในวันนี้ สิ่งที่น่าตลกคือคุณกับฉือมู่ยังคงแอบวางแผนจะโจมตีป้อมปราการคริมสันของลู่หยาง ในตอนที่พวกเราจะโจมตีป้อมปราการวินด์ธันเดอร์”
ฉงป้าชะงักค้างไปเล็กน้อยแล้วรู้สึกว่าคำพูดของอีกฝ่ายเป็นการพยายามหักหน้าเขาชัด ๆ
“จะโจมตีก็เข้ามาเลย เลิกพูดจาไร้สาระกันได้แล้ว”
หวังเถิงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปด้วยท่าทางสบาย ๆ
“สาเหตุที่ผมพูดมากขนาดนี้ก็เพื่อจะบอกให้ทุกคนในเซิฟเวอร์ได้รู้ว่ากว่าที่พวกเราจะเริ่มทำสงคราม พวกเราได้วางกลยุทธ์และแผนการอันยอดเยี่ยมอะไรเอาไว้บ้าง”
บลัดไทแรนท์, โซลออฟอีเทอนิตี้และแบล็คบลัดต่างก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง เพราะแผนการจัดการกับฉงป้าต่างก็ดำเนินมาได้ด้วยดี
“แผนการแรกคือการทำให้พวกคุณกับลู่หยางแตกคอกันอย่างสิ้นเชิง โดยแผนการนี้ถูกดำเนินโดยโซลออฟอีเทอนิตี้ที่ทำการเสนอรางวัลค่าหัวให้กับลูกกิลด์ของลู่หยาง ซึ่งผลที่ได้ก็คือคุณกับฉือมู่ต่างก็มองดูทั้ง 2 กิลด์ห้ำหั่นกันแล้วแอบรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในภายหลัง”
“แผนการขั้นที่ 2 คือในตอนที่พวกคุณประกาศพันธมิตรกันอย่างยิ่งใหญ่ ทางฝั่งผมก็ได้ส่งนักเวทชั้นยอดจากทั้ง 5 กิลด์แอบเข้าไปภายในเมืองเซนต์กอลล์เพื่อพาทีมของบลัดเติสตี้เก็บเลเวลอย่างรวดเร็ว” หวังเถิงกล่าว
“แล้วยังไงต่อล่ะ?” ฉงป้าตอบกลับโดยเริ่มตระหนักว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล
“แล้วยังไงต่อ? ช่วง 10 วันที่ผ่านมานี้ทีมนักเวทเหล่านั้นช่วยสมาชิกของบลัดเติสตี้เก็บเลเวลโดยไม่รับค่าประสบการณ์ ทำให้ตอนนี้บลัดเติสตี้มีผู้เล่นเลเวล 30 ถึง 80,000 คนแล้ว และผมยังได้ทุ่มเงินกว้านซื้อวัตถุดิบจาก 3 เมืองหลักทำให้เราสามารถผลิตอุปกรณ์ระดับทองให้กับพวกเขาทั้ง 80,000 คนได้พอดี” หวังเถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยาะเย้ย จากนั้นเขาก็ยกมือขวาโบกมือไปด้านหน้าเบา ๆ
ทันใดนั้นผู้เล่นในแถวทั้งสองข้างของหอบัญชาการก็ทำการติดตั้งอุปกรณ์ระดับทองเข้าไปพร้อม ๆ กันทำให้กองกำลังเหล่านี้เหมือนกับเปล่งประกายแสงสีทองออกมาอย่างเจิดจ้า ซึ่งในความเป็นจริงพวกเขามีกองกำลังผู้เล่นชุดทองอยู่เพียงแค่ 40,000 คนเท่านั้น ตัวเลข 80,000 คนที่หวังเถิงพูดออกไปเป็นเพียงแค่คำลวงที่ทำให้ฉงป้าเสียกำลังใจมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามคำพูดนี้ก็สามารถข่มขวัญลูกน้องของฉงป้าได้อย่างชัดเจน และทำให้ผู้เล่นทุกคนในป้อมแบล็คร็อคต่างก็แสดงสีหน้าขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก
“กองกำลังผู้เล่นชุดทอง 80,000 คน มันหมายความว่ายังไง?”
ย้อนกลับไปกองกำลังผู้เล่นชุดทอง 10,000 คนของลู่หยางก็เคยกวาดล้างกองกำลังผู้เล่นธรรมดา 200,000 คนของเดธโซลมาแล้ว แต่ในตอนนี้พวกเขามีกองกำลังผู้เล่นชุดทองแค่ 8,000 คน ซึ่งมันก็เป็นจำนวนเพียงแค่ 1 ใน 10 ของผู้เล่นชุดทองฝั่งตรงข้าม
ฉงป้ายังนิ่งเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรออกมา แต่แสงสีทองที่ส่องประกายอยู่ในระยะไกลเริ่มทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาเป็นครั้งแรก
“พี่ชายรีบให้พันธมิตรทุกคนส่งกองกำลังหลักมาเร็วเข้า ไม่ว่าพวกเขาจะเรียกเงินค่าเดินทางเท่าไหร่ผมก็พร้อมจะจ่ายให้” ฉงป้ากล่าว
“ฉันจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย น้องชาย นายจะต้องทนเอาไว้ให้ได้นะ” ฉือมู่กล่าวอย่างตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าด้วยเช่นกัน
จบแล้วจ้าสำหรับกลุ่ม VIP2 ตอนที่ 301-400 ตอนนี้ในกลุ่มอัปถึงตอนที่ 417 แล้วนะคะ ใครสนใจสามารถติดตามได้ที่เพจเฟสบุ๊กสนพ.เซียนอ่านได้เลยน๊า
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 121
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น