บทที่ 393 ตกหลุมพลาง
บทที่ 393 ตกหลุมพลาง
“เท่าที่เรารู้มากำลังของบลัดไทแรนท์ก็แข็งแกร่งกว่ากองกำลังของฉงป้าเพียงแค่นิดเดียวไม่ใช่เหรอแล้วพวกมันจะเอาชนะฉงป้าได้ยังไง?” เจียงเจ๋อถาม
“ฉันขอถามหน่อยว่านายคิดว่าเรากับโอเวอร์ลอร์ดใครแข็งแกร่งกว่ากัน?” ลู่หยางถาม
“มันก็ต้องเป็นพวกเราสิ” เจียงเจ๋อตอบอย่างมั่นใจ
“แล้วพวกนายรู้สึกยังไงถ้าฉือมู่กับฉงป้ารวมกำลังกันแล้วมาเผชิญหน้ากับเราในตอนนี้?” ลู่หยางถาม
“ถ้าไม่นับเงินทุนที่พวกเขาเพิ่งลงทุนไป ถึงแม้พวกเขาจะรวมกำลังกันแต่พวกเขาก็ยังสู้พวกเราไม่ได้” ถูเฟิงกล่าว
ทันใดนั้นทุกคนก็เหมือนกับจะตระหนักบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้
“ที่โซลออฟอีเทอนิตี้เพิ่มค่าหัวให้กับสมาชิกของเราไม่ใช่เพราะว่าเขากำลังตั้งเป้ามาที่พวกเรา แต่เขากำลังหลอกฉือมู่กับฉงป้าต่างหาก!” เซี่ยหยู่เว่ยอุทานขึ้นมาเสียงดัง
“ใช่แล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ทันใดนั้นทุกคนต่างก็สูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรง
“จำไว้ว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นถ้าฉือมู่กับฉงป้ารู้ตัวคนที่จะซวยอาจจะกลายเป็นพวกเรา” ลู่หยางกล่าว
“ผมปิดฟังก์ชั่นสื่อสารไปแล้วครับ ช่วงนี้ผมจะพยายามเก็บเลเวลอยู่เงียบ ๆ ส่วนเรื่องของกิลด์ก็จะให้ฉิงชางจัดการคนเดียว” เหมาชิวกล่าว
“ผมก็เหมือนกัน”
“ผมก็เหมือนกัน”
…
นอกเหนือจากเหล่าบรรดาแม่ทัพของกิลด์แล้วสมาชิกแกนหลักคนอื่น ๆ ต่างก็ตกลงกันว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากการมีส่วนร่วมกับกิลด์สักพัก เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวรั่วไหลออกไปโดยที่พวกเขาไม่ทันระวังตัว
—
อีกด้านหนึ่ง
บริเวณตอนใต้ของเมืองเซนต์กอลล์ ฉือมู่, ฉงป้าและหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่ที่เพิ่งจะประกาศพันธมิตรไปต่างก็หัวเราะชอบใจ หลังจากได้เห็นข่าวโซลออฟอีเทอนิตี้ประกาศเพิ่มค่าหัวสมาชิกของบลัดบราเธอร์
“โซลออฟอีเทอนิตี้กำลังเร่งตัดกำลังของลู่หยางแล้ว อีกไม่นานบลัดไทแรนท์ก็คงจะยอมตีเข้าใส่บลัดบราเธอร์สินะ”
“ตอนแรกจำนวนสมาชิกของดีวายโซลที่โดนล่าฆ่าหัวสูงกว่าจำนวนสมาชิกของบลัดบราเธอร์มาก ในที่สุดโซลออฟอีเทอนิตี้ก็คงจะทนไม่ไหวแล้ว”
“หลังจากพวกเขาต่อสู้กัน ไม่แน่พี่ฉือมู่กับพี่ฉงป้าก็อาจจะได้ยึดครองป้อมปราการของทั้งสองฝ่ายในคราวเดียว” เหิงเจียหัวหน้ากิลด์ซอร์ดพอยติ้งกล่าว
ฉือมู่กับฉงป้าต่างก็หันมาสบตากัน จากนั้นทั้งคู่ก็เผยรอยยิ้มโดยไม่พูดอะไร
ในบรรดากิลด์ทั้งหมดภายในเมืองเซนต์กอลล์ กิลด์ที่พวกเขาทั้งคู่หวาดกลัวมากที่สุดไม่ใช่บลัดเติสตี้อย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน แต่มันคือกิลด์บลัดบราเธอร์ของลู่หยางต่างหาก
หลังจากที่มีสงครามเกิดขึ้นหลายครั้ง พวกเขาทั้งคู่ก็มักจะถูกลู่หยางหลอกใช้งานมาโดยตลอด และทุกครั้งที่สงครามจบลงกิลด์เล็ก ๆ ของลู่หยางกลับเป็นกิลด์ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ทั้งฉือมู่และฉงป้าจึงเก็บความไม่พอใจสะสมเอาไว้มาเป็นเวลานานแล้ว
หลังจากที่พวกเขาได้ลงทุนเพิ่มด้วยเม็ดเงินมหาศาล ทั้งสองคนต่างก็มีความคิดที่จะกำจัดลู่หยางพร้อม ๆ กัน แต่ก่อนหน้านี้พวกเขายังคงสถานะการเป็นพันธมิตรกันอยู่ การพยายามกำจัดพันธมิตรก็คงจะถูกทุกคนตราหน้าว่าพวกเขาเป็นพวกไว้ใจไม่ได้
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในคราวนี้กลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าหากว่าบลัดไทแรนท์เริ่มโจมตีลู่หยาง ในเวลานั้นพวกเขาทั้งสองคนก็จะแอบสนับสนุนจื่อเวยพาวิเลี่ยนและออเรนจ์อะเลิร์ทให้ไปโจมตีบลัดบราเธอร์อีกด้านหนึ่งอย่างลับ ๆ และในฐานะที่พวกเขาเป็นพันธมิตรกับทั้งสองฝ่ายมาก่อน พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะออกไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกนอกหน้าได้เหมือนกัน
การกระทำนี้จะทำให้ประชาชนมองเห็นว่าพวกเขาสามารถวางตัวเป็นกลางได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันก็จะเป็นโอกาสที่พวกเขาสามารถกำจัดลู่หยางได้โดยไม่ถูกสังคมรุมประนาม
“อย่าพูดเรื่องนี้เลย นั่นมันเป็นเรื่องของพวกเขา พวกเราไม่อยากเข้าไปยุ่ง” ฉงป้ากล่าว
“ก่อนหน้านี้ฉันเชิญลู่หยางเข้าร่วมพันธมิตรของพวกเราด้วยซ้ำ แต่เขาเลือกจะปฏิเสธคำเชิญของฉันเอง คราวนี้เป็นโอกาสดีในการกำจัดบลัดเติสตี้แท้ ๆ แต่เขากลับเลือกที่จะปฏิเสธโอกาสไปซะแบบนั้น” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าออกมาอย่างเสียดาย
เฉียนเฉียนเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร
เหล่าบรรดาพันธมิตรคนใหม่ ๆ ต่างก็พูดตำหนิลู่หยางแล้วบอกว่าสถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายสมควรจะเผชิญหน้าด้วยตัวคนเดียวแล้ว
ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ ๆ บลัดไทแรนท์ก็แอบส่งข้อความมาหาฉือมู่และฉงป้าว่า
“พี่ชายทั้งสองพอจะมีเวลาไหม?”
ฉือมู่กับฉงป้าหันไปสบตากัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็แสดงสีหน้าออกมาด้วยความดีใจ
“ทุกคนคุยกันไปก่อนนะ ฉันกับฉงป้ามีธุระต้องไปจัดการนิดหน่อย” ฉือมู่กล่าว
ฉงป้าก็เริ่มพูดลาด้วยเช่นกัน ขณะที่อีกด้านหนึ่งเขาก็ได้ส่งข้อความตอบกลับไปหาบลัดไทแรนท์
“ฉันว่างคุยได้ไม่มีปัญหา”
“พวกเราเข้าไปคุยในพื้นที่พิเศษกันดีไหม?” บลัดไทแรนท์ตอบ
“ได้สิ” ฉือมู่ตอบก่อนจะส่งคำเชิญให้บลัดไทแรนท์และฉงป้าเข้าร่วมพื้นที่พิเศษพร้อม ๆ กัน
ทันทีที่ปรากฏตัวบลัดไทแรนท์ก็ยกมือคำนับด้วยรอยยิ้ม
“พี่ชายทั้งสองช่างน่าเกรงขามจริง ๆ การประกาศศักดาของพวกคุณในครั้งนี้ต่างก็ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ”
สิ่งที่ฉงป้ารู้สึกภูมิใจมากที่สุดนั่นก็คือเรื่องการทำธุรกิจของตัวเอง เขาจึงพูดกับบลัดไทแรนท์อย่างหยิ่งผยองว่า
“นายมีเรื่องจะคุยอะไรกับพวกเรา?”
“พี่ชายก่อนหน้านี้ที่พวกเรามีความขัดแย้งกันนั่นก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น ความจริงที่พวกเราต้องต่อสู้กันก่อนหน้านี้ทั้งหมดมันคือความผิดของลู่หยางเพียงคนเดียว” บลัดไทแรนท์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉือมู่กับฉงป้าต่างก็หันไปมองสบตากันและทันใดนั้นพวกเขาก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าสาเหตุที่บลัดไทแรนท์ติดต่อมาหาก็คงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลู่หยาง
“สรุปน้องชายมีเรื่องอะไรกันแน่?” ฉือมู่ถาม
“ทางฝั่งของผมก็เพิ่งจะได้รับเงินทุนมาบ้างเหมือนกัน ผมจึงเตรียมจะไปแก้แค้นลู่หยางแต่ผมจะไม่สร้างปัญหาให้กับพี่ชายทั้งสองอย่างแน่นอน สิ่งที่ผมจะทำมีเพียงแค่การช่วยแบล็คบลัดยึดป้อมปราการคืนมาเท่านั้น ตอนนี้พวกคุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าแบล็คบลัดกลายเป็นคนโปรดของหวังเถิง” บลัดไทแรนท์กล่าว
แบล็คบลัดได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยพิเศษของหวังเถิง เนื่องมาจากแผนการยึดครองป้อมปราการแบล็คร็อคร่วมกับโซลออฟอีเทอนิตี้ ซึ่งถ้าหากว่าใครติดตามข่าวเรื่องนี้สักหน่อย พวกเขาก็จะได้รับข่าวเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งของแบล็คบลัดและโซลออฟอีเทอนิตี้แล้ว เพียงแต่คนนอกยังไม่รู้ว่าพวกเขาได้รับการแต่งตั้งด้วยเหตุผลอะไรก็เท่านั้นเอง
แน่นอนว่าในฐานะหัวหน้ากิลด์ใหญ่ฉือมู่กับฉงป้าย่อมได้ยินข่าวเรื่องนี้มาด้วยเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาคิดว่าสาเหตุที่แบล็คบลัดถูกแต่งตั้งเพราะอีกฝ่ายรู้จักประจบประแจงหวังเถิงจนทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจ
ฉงป้ามองไปทางฉือมู่ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“หากนายจะโจมตีลู่หยางมันก็เป็นเรื่องของนายไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเรา ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่ใช่พันธมิตรกับลู่หยางแล้ว แต่เราก็ไม่มีความคิดที่จะไปซ้ำเติมเขาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นความแค้นของพวกนายก็ให้พวกนายเป็นคนจัดการกันเองไปเถอะ”
บลัดไทแรนท์ส่ายหัวไปมาพร้อมกับพูดว่า
“พี่ชายทั้งสองอย่าล้อเล่นแบบนั้นเลย หากในช่วงที่ผมกับลู่หยางปะทะกันจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักแล้วพวกคุณทั้งคู่จู่โจมซ้ำเติมผมจากทางด้านหลัง ในตอนนั้นฝั่งผมก็จะแย่เอานะครับ”
ฉือมู่กับฉงป้าต่างก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เพราะในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังอ่อนกำลังลง หากพวกเขามีการเคลื่อนไหวในเวลานั้นพวกเขาก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
“น้องชาย พวกเราไม่ได้มีความคิดที่จะจู่โจมซ้ำเติมเข้าหานายจริง ๆ นายลืมไปแล้วหรือยังไงว่าทางฝั่งนายมีหวังเถิงกับอีก 4 กิลด์คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง หากพวกเราประกาศสงครามกับพวกนายโดยตรงแบบนั้นลู่หยางจะไม่ใช่คนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดหรอกเหรอ?” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
บลัดไทแรนท์จ้องตาฉือมู่ ก่อนจะหันไปมองฉงป้าและพูดว่า
“ถ้างั้นผมก็จะไม่ปิดบังพวกคุณทั้งคู่ก็แล้วกัน ผมจะเริ่มโจมตีป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ในอีก 1 สัปดาห์ หวังว่าพวกเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไปได้อีกนาน”
ทั้งฉือมู่และฉงป้าต่างก็ยังไม่อยากทำสงครามกับหวังเถิงในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงตอบรับคำพูดของบลัดไทแรนท์กลับไปโดยไม่มีปัญหาอะไร
“พวกเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ฉือมู่กล่าว
บลัดไทแรนท์ยกมือขึ้นคำนับให้ทั้งสองคนก่อนจะออกจากพื้นที่พิเศษ แต่ทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมาด้านนอก บนสีหน้าของเขากลับปรากฏรอยยิ้มอันเย็นชา ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับหวังเถิง, โซลออฟอีเทอนิตี้และคนอื่น ๆ ในห้องประชุมว่า
“พวกมันทั้งคู่ตกหลุมพรางแล้ว”
เรียบร้อย!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 137
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น