บทที่ 392 เพิ่มค่าหัว
บทที่ 392 เพิ่มค่าหัว
หลังจากเวลาผ่านพ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมง ลู่หยาง, ฮั่นอิ่งและมู่หยูก็สังหารแตนผีเขี้ยวพิษไปได้มากกว่า 6,000 ตัวทำให้พวกฮั่นชามีเลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็น 38
ชายหนุ่มมองดูซากศพที่อยู่กลาดเกลื่อนบนพื้นพร้อมกับยุติสภาพของอสูรเพลิงลง เมื่อเขาได้มองดูเวลาเขาก็ได้พบว่าตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะบ่ายโมงแล้ว
“อีก 10 นาทีมอนสเตอร์จะเกิดใหม่ ทุกคนแยกย้ายกันไปเก็บเลเวลประจำกลุ่มเดิมได้”
ทุกคนต่างก็รีบแบ่งกลุ่มด้วยแววตาอันเป็นประกาย ก่อนที่จะกระจายนำทีมไปเก็บเลเวลตามตำแหน่งที่ลู่หยางได้มอบหมายเอาไว้ในคราวก่อน
การแบ่งทีมกันเก็บเลเวลแบบนี้ช่วยให้สมาชิกภายในทีมมีเลเวลเพิ่มขึ้นจากเดิมเร็วมาก ซึ่งหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปจนถึงเที่ยงคืน สามพี่น้องตระกูลฮั่น, เสี่ยวเหลียงและมู่หยูก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 48 ลู่หยางมีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 45 และพวกฮั่นชามีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 41
หลังออกจากเกมทุกคนต่างก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงในทันทีราวกับว่าการเก็บเลเวลในครั้งนี้สร้างความเหนื่อยล้ายิ่งกว่าการฝึกซ้อมประจำวันของพวกเขาเสียอีก
แม้ลู่หยางจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มกำลังเร่งรีบให้ทุกคนเก็บเลเวล พวกเขาจึงรู้สึกว่าอีกไม่นานมันน่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นทุกคนจึงตั้งใจเก็บเลเวลกันเป็นพิเศษ
วันที่ 4 ลู่หยางก็ยังคงเข้าเกมพาทุกคนเก็บเลเวลจนถึง 20:00 น. ซึ่งในที่สุดฮั่นอิ่ง, ฮั่นเฟย, ฮั่นอวี่, เสี่ยวเหลียงและมู่หยูก็มีเลเวลถึง 50
ระหว่างนี้ลู่หยางก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 47 ด้วยเช่นกัน ขณะที่พวกฮั่นชามีเลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็น 45
ทันใดนั้นเอง
ช่องแชทโลก: ฉือมู่: ฉันขอประกาศข่าวดีให้ทุกคนทราบว่ากิลด์เพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่ของเราได้รับเงินลงทุนสนับสนุนเพิ่มขึ้นมาอีก 300 ล้านเครดิต หากยอดฝีมือคนใดสนใจอยากจะเข้าร่วมกิลด์ของเรา เพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่ก็เปิดประตูต้อนรับด้วยความเต็มใจ ตราบใดก็ตามที่คุณสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณคือยอดฝีมือจริง ๆ พวกเราก็พร้อมจะให้ค่าตอบแทนตามที่คุณต้องการ
ช่องแชทโลก: ฉงป้า: ฉันขอประกาศข่าวดีให้ทุกคนทราบว่ากิลด์โอเวอร์ลอร์ดของเราได้รับเงินลงทุนสนับสนุนเพิ่มขึ้นมาอีก 300 ล้านเครดิต หากใครสนใจอยากจะมาร่วมงานกับฉันก็ขอให้มาสมัครเข้าร่วมกับโอเวอร์ลอร์ดได้เลย ฉันขอเอาหัวตัวเองเป็นประกันว่าเงินเดือนสวัสดิการของเราไม่น้อยหน้ากว่ากิลด์ไหน ๆ อย่างแน่นอน
ทันทีที่มีการประกาศมันก็เกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งฝั่งมนุษย์ในทันที
“ดูเหมือนคราวนี้ฉือมู่กับฉงป้าจะทุ่มสุดตัวเลยนะ”
“พวกเราลองไปสมัครเข้ากิลด์ของพวกเขาดีไหม? บางทีพวกเราอาจจะได้เงินเดือนจากการเล่นเกมด้วย”
…
การประกาศข่าวของกิลด์ทั้งสองสามารถดึงดูดผู้คนให้ไปสมัครเข้าร่วมกิลด์เป็นจำนวนมาก และพร้อมกันนั้นมันก็ทำให้จุดรับสมัครของบลัดบราเธอร์และบลัดเติสตี้กลายเป็นสถานที่อันเงียบเหงาในทันที
–
ในพื้นที่พิเศษ
เหล่าบรรดาสมาชิกแกนหลักของบลัดบราเธอร์ถูกเรียกรวมตัวกันเพื่อประชุมฉุกเฉินอีกครั้งหนึ่ง
“สองคนนั้นมันจะต้องวางแผนทำอะไรบางอย่างแน่ ๆ” ถูเฟิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเงินของพวกมันจะซื้อทุกอย่างได้” ไป๋เหลิงกล่าวอย่างหงุดหงิด
การกระทำของทั้งสองคนเริ่มไม่ใช่การเล่นเกมแล้วแต่เป็นการทุ่มเงินเพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์ภายในเกมทั้งหมด หากใครแสดงตัวว่าเป็นพันธมิตรคนเหล่านั้นก็จะประสบพบเจอกับความรุ่งเรือง แต่ถ้าหากว่าใครแสดงท่าทีต่อต้านคนเหล่านั้นก็จะพังพินาศไปด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการประกาศออกมาในครั้งนี้มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากการกระทำของลิ่วเจียเลย
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าฉือมู่เป็นคนมีฝีมือ ที่แท้เขาก็แค่คนรวยที่อยากจะเล่นเกม” ฉิงชางกล่าว
“ทุกคนไม่จำเป็นจะต้องหงุดหงิดกับเรื่องแค่นี้หรอก” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบไหล่ฉิงชางเบา ๆ
“หัวหน้า พวกเราจำเป็นจะต้องเรียกรวมกำลังพลเตรียมพร้อมสำหรับสงครามไหมครับ? บางทีฉือมู่กับฉงป้าอาจจะเล็งป้อมปราการของพวกเราอยู่ก็ได้” บิทเทอร์เลิฟถาม
หากบลัดไทแรนท์, ฉือมู่และฉงป้าเลือกจะโจมตีบลัดบราเธอร์พร้อม ๆ กัน ในเวลานั้นพวกเขาก็อาจจะสูญเสียป้อมปราการทั้ง 2 แห่งภายในมือไป
ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาในทันที มีเพียงแต่ลู่หยางที่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ใจเย็น ๆ ทุกคนไม่จำเป็นจะต้องกังวลกับเรื่องนี้หรอก พรุ่งนี้ทุกคนมอบหมายงานให้คนอื่นคอยดูแลทีมแทนตัวเองด้วยนะ ฉันจะพาพวกนายไปเก็บเลเวล”
“เก็บเลเวล?” เซี่ยหยู่เว่ยทวนคำอย่างประหลาดใจ
“ใช่ ฉันมีวิธีที่จะทำให้พวกเธอมีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 40 อย่างรวดเร็ว หากฉันคาดการณ์ไม่ผิดมันก็น่าจะใช้เวลาแค่วันเดียว” ลู่หยางกล่าว
“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ไป๋เหลิงกล่าว
“ใช่ ถ้ารออีก 3 วันการเก็บเลเวลก็จะเร็วกว่านี้อีก ตอนนี้พวกนายไปจัดการทีมของตัวเองกันก่อนเถอะ พยายามบอกลูกน้องให้ข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้และพยายามแยกย้ายกันไปเก็บเลเวลโดยเร็วที่สุด”
กองกำลังหลักของบลัดบราเธอร์คือกองกำลังที่ภักดีกับกิลด์มากที่สุด เพราะพวกเขาคือสมาชิกตั้งแต่กิลด์ยังมีขนาดเล็กและถูกข่มเหงรังแก
พวกเขาจึงมีความผูกพันกับกิลด์ไม่ต่างไปจากครอบครัว เมื่ออดีต 2 พันธมิตรใหญ่มีท่าทีจะประกาศทำสงคราม ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึกโกรธแทนกิลด์ด้วยกันทั้งนั้น
“หัวหน้า มันอย่าว่าแต่ให้ผมไปบอกให้ลูกน้องควบคุมอารมณ์ตัวเองเลย แม้แต่ผมก็ยังควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ผมอยากจะออกไปตะโกนด่าฉงป้าชะมัด ไอ้พวกนี้มันไม่รู้จักคำว่าบุญคุณกันเลยหรือยังไง” ไป๋เหลิงกล่าวอย่างอารมณ์เสีย
สิ่งที่ฉงป้ากำลังทำอยู่นั้นเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าเกลียดอย่างแท้จริง เพราะเมื่อพวกเขาไม่ยอมเป็นเกราะกำบังให้โอเวอร์ลอร์ด ฉงป้าก็เริ่มมองว่าพวกเขาเป็นศัตรู การกระทำนี้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฉงป้าไม่ได้มองเห็นลู่หยางเป็นพันธมิตรกันตั้งแต่แรก ซึ่งในความเป็นจริงโอเวอร์ลอร์ดก็ทำตัวเสียมารยาทตั้งแต่เรื่องที่พยายามดึงสามพี่น้องตระกูลไป๋ออกไปจากบลัดบราเธอร์แล้ว
“ใช่ครับหัวหน้า ผมก็กำลังอึดอัดอยู่เหมือนกัน” ซุนหยูกล่าว
เมื่อลู่หยางสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของทุกคน เขาก็ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจและพูดว่า
“เอาล่ะเดี๋ยวฉันจะวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันให้ทุกคนได้ฟังอย่างละเอียดก็แล้วกัน”
“เรื่องอะไรครับ?”
“พวกนายสังเกตไหมว่าไม่ว่าจะเป็นบลัดไทแรนท์, โซลออฟอีเทอนิตี้หรือแม้กระทั่งหวังเถิง ช่วงนี้พวกเขาก็เงียบกันไปแปลก ๆ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“จริงด้วย ผมลืมพวกมันไปเลย” ไป๋เหลิงกล่าว
“พวกนายไม่รู้สึกว่าพวกมันกำลังเก็บตัวกันมากเกินไปหรือยังไง?” ลู่หยางถาม
“หัวหน้ากำลังหมายความว่ายังไงครับ?” บิทเทอร์เลิฟถาม
“ลองคิดดูง่าย ๆ นะว่าการประกาศลงทุนของฉือมู่กับฉงป้าในครั้งนี้ มันยังรวมกันมากกว่าการลงทุนของลิ่วเจียทางฝั่งมนุษย์ด้วยซ้ำ แล้วทำไมหวังเถิงที่คอยดูแลเรื่องต่าง ๆ แทนลิ่วเจียอยู่ถึงไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้ฉือมู่กับฉงป้ากลับไปบ้าง?” ลู่หยางกล่าว
“จริงด้วย พวกเขาเงียบเกินไปจริง ๆ แต่โซลออฟอีเทอนิตี้ก็ยังไม่ประกาศถอนค่าหัวสมาชิกของเรานี่คะ” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
“เชื่อฉันไหมว่าภายในวันนี้โซลออฟอีเทอนิตี้จะประกาศเพิ่มค่าหัวสมาชิกของเราขึ้นอีก” ลู่หยางกล่าว
ทุกคนต่างก็หันไปมองหน้าลู่หยางอย่างสงสัย
“ทำไมล่ะคะ?” โคลด์วิลโลว์ถาม
“ทุกคนรอดูสถานการณ์ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยอธิบายทีหลัง” ลู่หยางกล่าว
ในระหว่างที่พวกเขากำลังประชุมกันอยู่นั่นเอง จู่ ๆ โซลออฟอีเทอนิตี้ก็ออกมาประกาศผ่านทางช่องแชทโลก
ช่องแชทโลก: โซลออฟอีเทอนิตี้: เพื่อให้พี่น้องชาวเมืองเซนต์กอลล์มีเงินทองใช้สอยอย่างคล่องมือมากยิ่งขึ้น ฉันขอประกาศเพิ่มค่าหัวสมาชิกของบลัดบราเธอร์ หากใครสามารถสังหารสมาชิกของพวกมันได้สำเร็จและถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน ทุกคนก็สามารถไปขึ้นเงินกับบลัดเติสตี้ในราคาหัวละ 20 เหรียญเงินได้เลย
เมื่อได้เห็นคำประกาศ ทุกคนต่างก็หันไปมองหน้าลู่หยางอย่างฉับพลัน
“หัวหน้ารู้ได้ยังไงเนี่ยหรือว่าคุณมีสายลับอยู่ในดีวายโซล?” เหมาชิวถามอย่างตกตะลึง
“ฉันจะไปหาสายลับแบบนั้นมาจากไหน อีกอย่างถึงฉันจะมีสายลับแฝงอยู่ภายในกิลด์ของพวกเขาจริง ๆ แต่เรื่องสำคัญแบบนี้มันก็มีเพียงแต่ผู้บริหารระดับสูงเท่านั้นแหละที่รู้เรื่อง” ลู่หยางกล่าว
“นั่นสินะ แล้วหัวหน้ารู้ได้ยังไงครับ?” บิทเทอร์เลิฟถาม
“ทุกคนรอดูสถานการณ์ไปก่อนเถอะ แต่ฉันกล้าเอาหัวเป็นเดิมพันเลยว่าเป้าหมายของพวกมันไม่ใช่เราอย่างแน่นอน การประกาศสงครามในครั้งนี้จะต้องเป็นการโจมตีป้อมปราการแบล็คร็อคของฉงป้าแน่ ๆ” ลู่หยางกล่าว
“มันจะเป็นไปได้จริง ๆ เหรอคะ? ฉงป้าพึ่งประกาศเรื่องได้รับเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมาตั้ง 300 ล้านเชียวนะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“เขาเพิ่งลงทุนเพิ่ม 300 ล้านก็จริง แต่อย่าลืมว่าเงินพวกนั้นยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นทรัพยากรในเกมเลยแม้แต่อย่างเดียว ในโอเวอร์ลอร์ดยังคงมีผู้เล่นเลเวล 30 อยู่ประมาณ 20,000 คนเท่าเดิมและในบรรดาผู้เล่นเลเวล 30 พวกนั้นก็มีชุดอุปกรณ์ระดับทองอยู่เพียงแค่ประมาณ 10,000 คน” ลู่หยางกล่าว
“โอเวอร์ลอร์ดมีสมาชิกอยู่ 160,000 คนก็จริง แต่ในสมาชิกเหล่านั้นมันก็มีสมาชิกหลักอยู่เพียงแค่ 20,000 คน ส่วนผู้เล่นที่เหลือต่างก็มีเลเวลเฉลี่ยอยู่เพียงแค่ประมาณ 28 ซึ่งเรื่องนี้เป็นข้อมูลที่ถูเฟิงสืบมาได้จากสายลับที่ส่งเข้าไปแฝงภายในกิลด์”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 225
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น