บทที่ 458: เจ้าไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตที่นี่ใช่หรือไม่?

-A A +A

บทที่ 458: เจ้าไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตที่นี่ใช่หรือไม่?

“เอาล่ะ…” เต่าชราเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ยอมบอกหญิงสาว “ความลับสวรรค์ย่อมไม่อาจเปิดเผยได้”

มู่ไป๋ไป่ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น คิ้วเรียวจึงขมวดเข้าหากันแน่น “นี่ท่านไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาของกินแบบเปล่า ๆ ใช่หรือไม่?”

เหตุใดเธอถึงรู้สึกว่าเจ้าเต่าเฒ่าตัวนี้พยายามหลอกเธอ?

“จะเป็นไปได้อย่างไร!” เต่าอาวุโสทำหน้าตาเหลอหลา “ข้ามีชีวิตอยู่ยืนนานมาถึงเพียงนี้ ข้าจะมาขอกินดื่มจากเด็กน้อยอย่างเจ้าแบบไม่จ่ายได้อย่างไรกัน?”

มู่ไป๋ไป่ขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับจ้องเต่าสูงอายุตัวนี้ด้วยความรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างก็มีคนมาเคาะประตูจากด้านนอก

นางกำนัลคนนี้เป็นคนของไทเฮาที่ทรงสั่งให้มาเชิญเธอไปร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพระนาง

เมื่อวานเพิ่งเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับซูหว่าน มู่ไป๋ไป่ยังจำได้ดี แต่เธอก็จำเป็นจะต้องไปที่ตำหนักฉือซิ่ง ดังนั้นเธอจึงสั่งให้จื่อเฟิงคอยอยู่ดูแลที่ตำหนักอวี๋ชิงโดยบอกให้เขาช่วยดูแลท่าแม่ และหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ให้เขารีบมาแจ้งให้เธอทราบทันที

เนื่องจากไทเฮาไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักตี้เฉินเมื่อวานนี้ แน่นอนว่าหญิงสาวก็จงใจที่จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นด้วย เธอจึงแค่ไปร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพระนาง จนกระทั่งอยู่พูดคุยกับพระนางจนพอใจแล้วค่อยขอตัวกลับ

หลังจากมู่ไป๋ไป่กลับมาที่ห้องของตัวเอง เธอก็แอบออกจากตำหนักเพื่อมุ่งหน้าไปหาอาเค่อ 

เนื่องด้วยพื้นเพของอาเค่อนั้นพิเศษมาก เธอจึงฝากเขาไว้ที่จวนของมู่จวินเซิ่งตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาในวัง

“เจ้าอยากให้ข้าไปตรวจสอบฝ่าบาทว่าถูกวางยาพิษหรือไม่อย่างนั้นหรือ?” ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมาขอให้เขาทำเช่นนี้ เขาจึงยืนนิ่งอ้าปากค้าง ส่วนเสี่ยวหยินที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็โผล่หัวออกมาเพราะความประหลาดใจเช่นกัน

“ถ้าจะพูดให้ชัด เป็นเขาไม่ใช่ท่าน” มู่ไป๋ไป่ดื่มชาที่หลัวเซียวเซียวรินให้ทีเดียวหมด “ข้าอยากยืมตัวเสี่ยวหยินของท่าน”

“ไม่ได้! มันอันตรายเกินไป!” อาเค่อรีบเอามือบังงูตัวน้อยพร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธซ้ำ ๆ “เรากำลังจะเข้าไปในวังหลวงนะ ถ้าเกิดเสี่ยวหยินถูกพบเข้าจะเป็นอย่างไร?”

เขาเคยได้ยินเรื่องราวมากมายจากพวกผู้อาวุโสในเผ่า พวกเขาบอกว่าวังหลวงนั้นเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในเป่ยหลง ผู้คนที่นั่นกินเนื้อมนุษย์

“ท่านไม่ต้องห่วง มีข้าอยู่ทั้งคน เสี่ยวหยินของท่านไม่เป็นไรหรอก” มู่ไป๋ไป่พูดให้ความมั่นใจแก่อีกฝ่ายพลางยื่นเนื้อชิ้นหนึ่งให้งูเผือกตัวเล็ก

ส่วนเสี่ยวหยินก็เอาแต่มองอาเค่อ พอเห็นว่าเจ้านายของตนไม่ได้ห้ามอะไร มันจึงรับเนื้อมากินอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะพูดกับหญิงสาวว่า “ขอเพียงมีท่านเจ้าอสูรอยู่ด้วย ข้าก็ไม่กลัวอะไรขอรับ”

ทันใดนั้นอาเค่อก็ทำหน้าเหมือนเข้าใจว่าสหายของตนกำลังพูดอะไร เขาจึงรีบส่ายหัวด้วยสีหน้าจริงจัง “มันยังไม่เพียงพอ… ฮ่องเต้ของเป่ยหลงสั่งห้ามเรื่องของคุณไสย ทุกคนในเผ่าของเราเคยเผชิญกับเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ถ้าฝ่าบาทสั่งลงโทษคนในเผ่าเพราะข้าจะทำอย่างไร?”

“ไม่มีทางแน่!”

ในตอนที่ชายหนุ่มออกจากเผ่า หัวหน้าเผ่าได้กำชับเขาอยู่หลายครั้งว่าให้เขาปกป้องตัวเองให้ดี อย่าให้ใครรู้เรื่องเกี่ยวกับเผ่า

สำหรับตัวเขา การบอกเรื่องนี้ให้มู่ไป๋ไป่รู้ก็ถือว่าเป็นข้อยกเว้นแล้ว

หากเขากล้าไปเหยียบสถานที่ที่อันตรายอย่างในวังหลวงอีก…

“ไม่! ข้าไม่ให้ไป!” อาเค่อพูดจบแล้วก็หันหลังวิ่งออกจากห้องทิ้งให้หญิงสาวนั่งมึนงงอยู่ที่เดิม

“ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้หัวรั้นขนาดนี้…” มู่ไป๋ไป่ไม่ได้คาดว่าอีกฝ่ายจะต่อต้านรุนแรงถึงเพียงนี้ แต่เธอก็ได้สัญญากับเซียวถังอี้เอาไว้แล้วว่าคืนนี้จะให้เขายืมตัวคนผู้นี้ไป

ทันทีที่หญิงสาวย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นริมสระน้ำเมื่อคืนนี้ เธอก็รู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนขึ้นลามไปจนถึงใบหู เธอจึงอดไม่ได้ที่ยกมือลูบมันเบา ๆ

“องค์หญิงหก มีเรื่องน่ายินดีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่เพคะ?” หลัวเซียวเซียวที่นั่งอยู่ด้านข้างสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้เป็นนาย

นางกับองค์หญิงหกเติบโตมาด้วยกัน ในขณะที่อีกฝ่ายเข้าใจนาง นางเองก็เข้าใจอีกฝ่ายเช่นกัน

“หืม?” มู่ไป๋ไป่ปรือตามองคนถามคล้ายคนกำลังรู้สึกผิด “ไม่หรอก ไม่มีเรื่องน่ายินดีอะไร”

“เอ่อ… ว่าแต่เจ้าอาศัยอยู่ที่จวนของพี่รองเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อกี้ข้าเห็นเสื้อผ้าที่เจ้ากำลังซ่อมอยู่ นั่นเป็นเสื้อผ้าของพี่รองหรือไม่?”

ขณะที่หญิงสาวกำลังพูด เธอก็ขยิบตาให้คนตรงหน้าอย่างเจ้าเล่ห์

หลัวเซียวเซียวมึนงงกับคำถามของมู่ไป๋ไป่สักพัก ก่อนจะบุ้ยปากใส่อีกคน “เสื้อผ้าพวกนั้นเป็นขององค์ชายรองจริง ๆ เพคะ พระองค์ทำเสื้อผ้าขาดในขณะที่กำลังฝึกวรยุทธเมื่อวานนี้ หม่อมฉันว่างงานไม่มีอะไรทำจึงได้อาสาช่วยซ่อมให้องค์ชายรอง”

หญิงสาวพยายามที่จะเปิดใจให้กับมู่จวินเซิ่ง

สำหรับนาง องค์ชายรองเป็นคนดีมากจริง ๆ

แต่… ความรักนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคนผู้นั้นเป็นคนดีหรือว่าทำดีกับตนหรือไม่

พอหลัวเซียวเซียวคิดถึงเรื่องนี้ นางก็หลุบตาลงต่ำด้วยความรู้สึกขมขื่นในใจ

“นี่ ทำไมเจ้าจะต้องอธิบายให้ข้าฟังยืดยาวเพียงนี้” มู่ไป๋ไป่โบกมือปัดแบบไม่ใส่ใจ “ข้าไม่ได้ตำหนิเจ้าสักหน่อย เซียวเซียว จำสิ่งที่ข้าพูดเอาไว้ให้ดี ข้าเพียงแค่อยากให้เจ้ามีความสุข แต่คนที่จะตัดสินใจว่าจะอยู่กับพี่รองของข้าหรือไม่ก็คือเจ้า”

“เจ้าอย่าได้ฝืน”

เมื่อหลัวเซียวเซียวเห็นสีหน้าจริงจังขององค์หญิงหก นางก็รู้สึกอุ่นวาบในใจ นางรีบจับมือคนตรงหน้าพร้อมกับยิ้มพยักหน้าให้ “หม่อมฉันก็หวังว่าองค์หญิงจะมีความสุขเช่นกันเพคะ ถ้าองค์หญิงมีคนที่ชอบ พระองค์จะต้องรีบบอกหม่อมฉัน หม่อมฉันจะได้ช่วยพระองค์”

“คนที่ชอบอะไรของเจ้า!” ใบหน้าของมู่ไป๋ไป่แดงขึ้นทันที ในขณะที่น้ำเสียงที่เธอใช้พูดเริ่มติดขัด “ข้าไม่พูดเรื่องนี้กับเจ้าแล้ว ข้าต้องไปคุยกับอาเค่อให้รู้เรื่องก่อน”

หลังจากพูดจบเธอก็ผละจากสหายออกไปอย่างรีบร้อน

เมื่อหลัวเซียวเซียวมองดูแผ่นหลังเล็กที่หายลับไปจากสายตา นางก็อดไม่ได้ที่จะเม้มปาก

จังหวะที่หญิงสาวกำลังจะลุกขึ้นไปเก็บถ้วยชาและขนมบนโต๊ะก็มีร่างสูงเดินเข้ามา

มู่จวินเซิ่งเพิ่งฝึกวรยุทธเสร็จ หน้าผากของเขาจึงเต็มไปด้วยเหงื่อในขณะที่เขามองไปรอบห้องแล้วถามว่า “ไป๋ไป่อยู่ที่ไหน นางกลับไปแล้วหรือ?”

  “ยังเพคะ” หลัวเซียวเซียวเหลือบมองชายหนุ่มด้วยความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขาพลางกล่าวว่า “องค์หญิงหกไปหาอาเค่อ องค์ชายรอง พระองค์เช็ดเหงื่อสักหน่อยเถิดเพคะ อากาศเย็นจะทำให้เป็นหวัดได้เพคะ”

แม่ทัพหนุ่มก้มมองผ้าเช็ดหน้าสีเขียวที่ถูกยื่นมา ก่อนที่แววตาของเขาจะอ่อนลง “ขอบคุณเจ้ามาก จากนี้ไปเจ้าก็ปล่อยให้พวกคนรับใช้ทำเรื่องพวกนี้เถอะ เจ้าไม่จำเป็นจะต้องทำมันด้วยตัวเอง”

เขากำลังพูดถึงหน้าที่ในการเตรียมน้ำชาและเก็บโต๊ะ

“หม่อมฉันเองก็นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรเพคะ” หลัวเซียวเซียวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเขา และยิ้มจาง ๆ ให้อีกฝ่าย “การมีอะไรให้ทำเป็นเรื่องที่ดีกว่าเพคะ”

มู่จวินเซิ่งมองลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “เจ้ารู้สึกไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับข้าที่นี่หรือ?”

ในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ หลัวเซียวเซียวยังคงดูเหมือนเดิม

แต่เขามักจะรู้สึกว่านางไม่ได้มีความสุขเลย

“ถ้า… ถ้าเจ้าอยากกลับบ้านตัวเอง…” ชายหนุ่มยังคงมองสบดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของหลัวเซียวเซียว ในไม่ช้าเขาก็กำมือที่อยู่ข้างตัวแน่นขึ้น

“ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไปเอง ไป๋ไป่ยืนกรานที่จะให้เจ้าอยู่กับข้าเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้า ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะส่งคนไปคอยคุ้มกันเจ้าแทน”

หญิงสาวมองดูใบหน้าหล่อเหลาของแม่ทัพหนุ่มแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจ

ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านางเป็นคนที่สูงส่งและมีเกียรติมาก แต่เขาก็ยังคงอ่อนโยนกับนางเสมอ

นางหวังว่า… นางจะตกหลุมรักเขาได้

“ไม่จำเป็นเพคะ” หลัวเซียวเซียวหลุบตาลงเพื่อซ่อนความรู้สึกในใจ “องค์ชายรองไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้อีกเพคะ”

มู่จวินเซิ่งอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นความเจ็บปวดที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว เขาก็ไม่สามารถเอ่ยคำพูดใด ๆ ออกมาได้ 

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่อาเค่อถูกมู่ไป๋ไป่พูดโน้มน้าวอยู่หลายประโยค ในที่สุดเขาก็ยอมตกลงที่จะเดินทางเข้าวังไปพร้อมกับเธอ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.