บทที่ 455: เลิกจ้องคนรักเจ้าได้แล้ว

-A A +A

บทที่ 455: เลิกจ้องคนรักเจ้าได้แล้ว

“ปู่?” มู่ไป๋ไป่รู้สึกขบขันกับคำพูดของอีกฝ่าย เธอจึงยื่นมือออกไปจิ้มเปลือกของมัน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร ถึงคิดจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าปู่?”

เต่าเฒ่าไม่ได้โมโหเลย มันปีนขึ้นไปบนก้อนหิน ทำให้กระดองของมันค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากน้ำ ในเวลานั้นหญิงสาวเพิ่งสังเกตเห็นว่ากระดองของมันเรืองแสงสีฟ้าอ่อนและมีลวดลายประหลาดอยู่รอบ ๆ ซึ่งดูงดงามมาก

“ฮึ เจ้าเป็นลูกสาวคนที่ 6 ลูกสาวคนโปรดของฮ่องเต้ใช่หรือไม่?” เต่าชรายืดหัวออกมาแล้วตอบเสียงเอื่อยเฉื่อย “ในตอนที่เจ้าเกิด ข้าได้ไปเยี่ยมเจ้าด้วย เนื้อตัวของเจ้ายับย่นดูน่าเกลียดมาก ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าพอโตมาหน้าตาของเจ้าจะเป็นแบบนี้”

ขณะที่มู่ไป๋ไป่กำลังจะอ้าปากพูดบางอย่าง เต่าเฒ่าก็เงยหัวขึ้นมามองดูอีกฝ่าย

แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เธอไม่เคยคิดว่าเต่าตัวนี้จะเป็น ‘ผู้อาวุโส’ และเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เฝ้าดูยามที่เธอถือกำเนิดขึ้นมา

“ท่านปู่เต่า จริง ๆ แล้วท่านอาศัยอยู่ในวังหลวงนี้มานานแล้วหรือ?” หญิงสาวนั่งขัดสมาธิลงข้างสระน้ำแล้วพูดคุยกับมัน “ถ้าอย่างนั้น ท่านคงจะรู้ความลับอะไรมากมายในวังแห่งนี้ใช่หรือไม่?”

“แน่นอน!” เต่าอาวุโสหัวเราะอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง “ข้าไม่ได้อวดนะ แต่ไม่มีสิ่งใดในวังหลวงแห่งนี้ที่เต่าตัวนี้ไม่รู้”

“ท่านเก่งกาจขนาดนั้นเชียวหรือ?” มู่ไป๋ไป่ไม่ค่อยเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ เธอจึงคิดว่าจะทดสอบมันดูสักหน่อย “ท่านปู่เต่า เช่นนั้นท่านบอกข้ามาหน่อยสิว่าตอนข้าอายุ 4 ขวบ ข้าถูกผลักตกลงไปในน้ำ ใครเป็นคนทำ?”

“นังหนูน้อย นี่เจ้าจงใจทดสอบข้าใช่หรือไม่?” เต่าเฒ่าหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบว่า “คนที่ถูกผลักลงสระไม่ใช่เจ้า แต่เป็นแม่หนูน้อยที่คอยติดตามเจ้ามาโดยตลอดต่างหาก ข้าจำได้ว่าข้าเคยเห็นนางอยู่ในน้ำครั้งหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นดูเป็นคนมีฐานะ แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของนางไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ น่าเสียดายจริง ๆ…” 

“ท่านจำหน้าคนได้ด้วยหรือ?!” มู่ไป๋ไป่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก ไม่ใช่หลัวเซียวเซียวหรอกหรือที่ชีวิตไม่ราบรื่น?

“หากเจ้ามีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น เจ้าก็จะได้รู้อะไรมากขึ้นตามธรรมชาติ” เต่าชราพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่เมื่อหญิงสาวได้ฟังคำพูดของมัน ความคิดมากมายก็ผุดขึ้นมาในหัว

ถ้าเต่าเฒ่าตัวนี้รู้ทุกอย่างจริง ๆ หรือเธอจะถามเรื่องลี่เฟยได้?

ณ จุดนี้ ยังมีสิ่งที่อธิบายไม่ได้เกี่ยวกับการกระทำของลี่เฟย และทำไมท่านพ่อถึงปล่อยนางออกมาจากตำหนักเย็น?

เธอไม่รู้จะถามเรื่องนี้กับใครเลยจริง ๆ อีกทั้งคนในวังหลวงก็มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะยากที่จะไว้ใจ

มู่ไป๋ไป่ที่มีความคิดบางอย่างอยู่ในใจกำลังจะพูดออกมา แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร เธอก็เห็นเต่าอายุยืนตัวนั้นหดตัวกลับลงไปในน้ำเสียก่อน

มีเพียงกระดองเต่าเรืองแสงสีฟ้าเท่านั้นที่ยังพอเห็นจากบนผิวน้ำรำไร

“ท่านปู่เต่า?”  หญิงสาวมึนงงกับการกระทำของมัน 

“เจ้ากำลังคุยกับใครน่ะ?” เซียวถังอี้ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังมู่ไป๋ไป่เงียบ ๆ พร้อมกับถือกล่องอาหารในมือ

“ว้าย!” หญิงสาวตกใจจนเกือบพลัดตกน้ำ โชคดีที่ชายหนุ่มคว้าคอเสื้อของเธอไว้ได้ทันเวลา ทำให้เธอรอดจากการตัวเปียกโชกไปได้

แต่เขาก็ปล่อยให้เธอห้อยอยู่กลางอากาศเหนือผิวน้ำเพียง 1 ข้อนิ้ว ก่อนที่เท้าของเธอจะเหยียบลงบนโขดหินได้อย่างปลอดภัย

ภายใต้แสงจันทร์ น้ำสีใสสะท้อนแก้มอมชมพูของมู่ไป๋ไป่ซึ่งขับให้เจ้าตัวดูงดงามยิ่งนัก

“นี่ ท่าน ท่าน ท่าน…” หญิงสาวเหลือบมองเต่าที่กำลังยืนดูเธออยู่เฉย ๆ ก่อนจะหันกลับมาแหวใส่คนที่ทำให้เธอขวัญกระเจิงด้วยความโมโห “ทำไมท่านถึงเดินมาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย!” 

“ท่านจงใจทำใช่หรือไม่ ท่านอยากจะทำให้ข้าตกใจกลัวจนทำเรื่องน่าอาย”

เซียวถังอี้เลิกคิ้วขึ้นเงียบ ๆ พลางตอบออกไปว่า “ที่ข้าเดินมาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงเป็นเพราะว่าวรยุทธข้าสูงส่งเกินไป หากข้าคิดอยากจะทำให้เจ้าอับอาย ข้าคงไม่ทำอะไรโง่ ๆ เช่นนี้”

“เจ้ารีบขึ้นมาสิ” ร่างสูงกระชับแขนตัวเองเล็กน้อยเพื่อดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามาหาเขา

ก่อนหน้านี้ข้อเท้าของมู่ไป๋ไป่พลิกเพราะตกลงมาจากหน้าต่าง เมื่อเท้าสัมผัสพื้น ตัวเธอจึงสูญเสียการทรงตัวเซไปด้านข้าง

“ถ้าเจ้าเจ็บขาก็อยู่นิ่ง ๆ” เซียวถังอี้จับต้นแขนของหญิงสาวเอาไว้เพื่อไม่ให้นางล้มและสั่งให้นางนั่งลงบนก้อนหินที่อยู่ใกล้ ๆ “ทำไมถึงวิ่งไปทั่วเช่นนี้?”

มู่ไป๋ไป่รู้เพียงว่าต้นแขนที่ชายหนุ่มพยุงตนเอาไว้มันทั้งร้อนทั้งชา และความร้อนนั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วใบหน้านวลลออ

หญิงสาวจึงกุมใบหน้าเห่อร้อนของตัวเองในขณะที่เหลือบมองไปทางผิวน้ำ

แล้วเธอก็แอบรู้สึกขอบคุณที่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ทำให้มองเห็นอะไรไม่ชัดเจนนัก

“เมื่อกี้เจ้าคุยอยู่กับใคร?” เซียวถังอี้วางกล่องอาหารไว้ตรงหน้าพวกเขาทั้ง 2 จากนั้นก็หยิบจอกสุรา 2 ใบออกมารินสุราลงไป

ทันใดนั้นกลิ่นหอมสดชื่นของสุราก็ฟุ้งไปในอากาศ

มู่ไป๋ไป่อดไม่ได้ที่จะขยับจมูกไปดม “นี่เป็นสุราจากห้องเก็บสุราของท่านพ่อไม่ใช่หรือ?”

“อะไร?” ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกายระยิบระยับ “ในตอนที่ข้ามาเข้าเฝ้าฝ่าบาท ข้าจำเป็นจะต้องพกสุรามาด้วยหรืออย่างไร?”

หญิงสาวเม้มปากแน่นโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะหยิบของกินในกล่องอาหารออกมา

เมื่อตอนกลางวันเธอไม่ทันได้สำรวจอาหารในกล่องมากนัก แต่เมื่อลองเปิดดูจนละเอียดแล้ว เธอก็เพิ่งพบว่ามันเต็มไปด้วยอาหารที่เธอชอบ

นั่นทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะโดยไม่ทราบสาเหตุ และเธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง

ภายใต้แสงจันทร์สีนวล ร่างกายของเซียวถังอี้ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน แม้แต่หน้ากากบนใบหน้าของเขาก็ยังดูไม่เย็นชาเท่ากับตอนกลางวัน

ในตอนที่มู่ไป๋ไป่ยังเป็นเด็ก เธอเคยแอบจินตนาการว่าผู้ชายคนนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร

แต่ส่วนใหญ่แล้วหน้าตาที่เธอจินตนาการถึงไม่ได้ดูดีนัก

เพราะถึงอย่างไรในตอนนั้นเธอก็เกลียดเซียวถังอี้มาก

นอกจากนี้ การที่คนเราจะหยิบหน้ากากมาใส่ปิดบังใบหน้าตัวเองตลอดเวลาไม่ใช่เพราะว่าตนหน้าตาน่าเกลียดเกินกว่าที่จะเปิดเผยให้คนเห็นหรอกหรือ?

แต่เธอไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่ในความฝันค่อย ๆ มีคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นแทนที่

ผู้ชายคนนั้นแต่งกายด้วยชุดสีดำ มีใบหน้าเปล่งปลั่งสะท้อนแสงสีขาวนวล และดวงตาที่ยิ้มแย้มของเขาไม่อาจลบเลือนไปจากความฝันของเธอได้

เธอเคยโกหกตัวเองคิดว่าคงเป็นเพราะเซียวถังถังทำให้เธอคิดมากจนเกินไปจึงได้เก็บเอาไปฝันถึงเซียวถังอี้เจ้าคนนิสัยไม่ดีอยู่บ่อย ๆ

จนกระทั่งจวงอี้หรานปรากฏตัวขึ้น เธอจึงตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น

ใบหน้าเคร่งขรึมที่มีแสงจันทร์ส่องสว่างจ้าประกอบกับดวงตามากเสน่ห์คู่นั้นที่อยู่ตรงหน้าเธอ มันดูเหมาะเจาะลงตัวแต่ก็น่าขัดใจมากเช่นกัน

“นี่ เจ้าเด็กน้อย เอาเนื้อนั้นมาให้ข้าหน่อยสิ” เต่าอาวุโสว่ายน้ำกลับมาอีกครั้งก่อนจะโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ “แล้วเจ้าก็อย่าเอาแต่จ้องคนรักของเจ้าสิ ตาเจ้าจะถลนออกจากเบ้าแล้ว”

“พรูดดดดด!” มู่ไป๋ไป่พ่นสุราที่อยู่ในปากลงไปในน้ำ ในขณะที่ใบหน้าซึ่งแดงอยู่แล้วกลับยิ่งแดงมากกว่าเดิม

“มีอะไรหรือ?” เซียวถังอี้เลิกคิ้วเอียงคอถามคนที่จู่ ๆ ก็พ่นสุราออกมาแบบนั้น “เจ้าสำลักหรือ?”

ยามนี้ใบหน้าของมู่ไป๋ไป่ร้อนผ่าวพร้อมด้วยอารมณ์ที่สับสนปนเป แต่เธอก็ต้องพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ และไม่กล้าตอบอะไรออกไปเพราะเธอกลัวว่าความคิดของตัวเองจะถูกเปิดเผยทันทีที่เปิดปาก

ในเวลาเดียวกัน เธอก็หันไปจ้องเขม็งเต่าเฒ่าที่พูดเรื่องเหลวไหล

คนรักอะไรกัน?

เต่าตัวนี้คงจะแก่มากจริง ๆ ถึงได้สายตาฝ้าฟาง 

ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ได้จ้องเซียวถังอี้แม้แต่น้อย

เธอแค่มองเขานิดเดียวเอง!

“จุ๊ ๆ เจ้าเด็กน้อย เจ้านี่มันไม่รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เลย” เต่าอาวุโสที่ไม่ได้กินเนื้อสักทีจึงเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างหญิงสาวด้วยท่าทางไม่พอใจ

“เจ้าหนุ่ม เอาเนื้อมาให้ข้าหน่อย แล้วข้าจะช่วยตรวจดวงชะตาจากวันตกฟากของเจ้ากับคนรักว่าเหมาะสมกันหรือไม่?”

“...” เซียวถังอี้ยังคงนิ่งเงียบ

“!!!” มู่ไป๋ไป่ที่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมาก

เกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนี้มีคนรักแล้วหรือ?

มู่ไป๋ไป่ไม่สามารถอธิบายว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร เธอรู้สึกอิจฉาและเจ็บแปลบในอก พร้อมกับความร้อนบนใบหน้าที่ดูเหมือนจะลดลงทันที แม้กระทั่งสุราในปากก็มีรสขมปร่า

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.