บทที่ 348 นัดพบ
บทที่ 348 นัดพบ
“เอ่อ…ก็ได้ครับ ถึงยังไงช่วงนี้พวกเราก็ใช้ชีวิตส่วนมากในเกมอยู่แล้ว นอกจากไปเรียนพวกเราก็ไม่ได้ออกนอกบ้านไปไหนเลย” ฉิงชางกล่าว
“พวกเราก็เหมือนกัน” ไป๋ฉือกล่าว
“พรุ่งนี้ผมต้องพาน้อง ๆ ในทีมไปลงดันเจียน ทุกคนกำลังรอผมพาพวกเขาไปเก็บเลเวลอยู่” บิทเทอร์เลิฟกล่าว
“ผมก็ไปไหนไม่ได้เหมือนกัน” ซุนหยูกล่าว ซึ่งเรื่องที่เขาขาหักในโลกแห่งความเป็นจริงทุก ๆ คนต่างก็รู้เรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว
“ทางฝั่งของฉันน่าจะยุ่งที่สุด เพราะตอนนี้มีคนมาให้จัดการตั้ง 70,000 คน กว่าที่ทุกอย่างจะลงตัวคงจะมีเรื่องให้ปวดหัวอีกเยอะเลย” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“ทุกคนควรเตรียมความพร้อมเอาไว้ให้ดี หลังจากชนะในสงครามครั้งนี้กิลด์ของเราคงจะดึงดูดผู้เล่นระดับสูงได้อีกมากมาย และพวกเราก็จะต้องเตรียมการสำหรับสงครามในครั้งต่อไปด้วย” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“สงครามครั้งต่อไป?” ทุกคนต่างก็อุทาน ก่อนจะมองไปยังลู่หยางด้วยแววตาอันเป็นประกาย
“ฉันพึ่งได้ข่าวมาว่าแบล็คบลัดนำกำลังพลที่เหลืออยู่ไปเข้าร่วมกับดีวายโซล” ลู่หยางกล่าว
“อะไรนะครับ/ค่ะ?!” ทุกคนต่างก็อุทานพร้อมกับหมวดคิ้ว
“ดีวายโซลไม่ได้พัฒนาอยู่ในเมืองซีเอ็มเพอเรอร์งั้นเหรอ? การที่พวกเขารับพวกแบล็คบลัดเข้าไปมันหมายความว่าอะไร”
ลู่หยางทำการเปิดแผนที่ 3 มิติบนโต๊ะประชุมพร้อมกับอธิบายขึ้นมาว่า
“เมืองซีเอ็มเพอเรอร์ตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของเมืองเซนต์กอลล์ และในเขตทางเหนือของเมืองก็มีป้อมปราการอยู่ทั้งหมด 4 ป้อม ตอนนี้ดีวายโซลได้ยึดป้อมในเขตทางเหนือไปได้ 3 ป้อมแล้วและป้อมที่อยู่ใกล้กับป้อมวินด์ธันเดอร์ที่สุดก็อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น”
“ดีวายโซลมันจะต้องมีแผนการอะไรสักอย่างแน่ ๆ หากพวกเขาใช้ม้วนคัมภีร์เร่งความเร็ว การเดินทัพก็จะร่นเวลาลงมาเหลือเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น” ฉิงชางกล่าวหลังจากพิจารณาภูมิประเทศบนแผนที่
“ใช่แล้ว แบล็คบลัดได้ไปเข้าร่วมกับดีวายโซลพร้อมกับนำคำสั่งบุกป้อมวินด์ธันเดอร์ไปด้วย แต่ตอนนี้ดีวายโซลยังยุ่งอยู่กับการจัดการป้อมปราการอีก 2 แห่ง หลังจากที่พวกเขาจัดการป้อมปราการทั้ง 2 แห่งนี้ได้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็คงจะคิดถึงป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ของพวกเรา” ลู่หยางกล่าว
“ฉันจะพยายามระวังให้มากที่สุดค่ะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวด้วยสีหน้าอันจริงจัง
“เธอจะระวังตัวไปทำไม พวกเราควรบุกไปหาพวกมันก่อนเลยไม่ดีกว่าเหรอ? ในเมื่อดีวายโซลตั้งใจรับแบล็คบลัดเข้าไป ฉันก็จะสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกมันเหมือนกัน อีกอย่างฉันก็ตั้งใจจะหาป้อมปราการให้ทุกคนอยู่แล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เมืองซีเอ็มเพอเรอร์
“เยี่ยมไปเลย!” ไป๋ฉือกล่าว
“พวกเรารีบพาทีมไปเก็บเลเวลกันเถอะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“ฉันไปด้วย” หลานอวี่กล่าว
เซี่ยหยู่เว่ยกำลังจะพยักหน้ารับ แต่ลู่หยางได้พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“หยู่เว่ย ฉันขอยืมตัวหลานอวี่ไปสัก 2-3 วันนะ ฉันตั้งใจจะพาเธอไปทำภารกิจ”
“ใช่เหรอคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซุกซน ส่วนสมาชิกหลักคนอื่น ๆ ก็กำลังเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างกรุ้มกริ่มด้วยเช่นกัน
ใบหน้าของหลานอวี่เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงไปด้วยความเขินอาย
ลู่หยางเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ หลานอวี่ก่อนที่เขาจะโอบเอวบาง ๆ ของเธอเบา ๆ และพูดขึ้นมาว่า
“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก พวกนายคุยเรื่องเก็บเลเวลกกันต่อเถอะ หวังว่าหลังจากฉันกลับมาเลเวลของทุกคนจะไม่ตามหลังฉันมากเกินไป”
“โห่!” ทุกคนต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องเมื่อได้เห็นลู่หยางหนีไปพร้อมกับคำคุยโวแบบนี้
ลู่หยางเลือกที่จะไม่สนใจเสียงหัวเราะของทุกคนพร้อมกับรีบพาหลานอวี่ออกไปจากห้อง เพราะถ้าหากเขาอยู่ในห้องประชุมต่อสหายเหล่านี้คงจะรุมล้อพวกเขาแน่ ๆ
หลานอวี่หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ขณะวิ่งตามลู่หยางออกมาจากประตู ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่วิ่งมาจนถึงสถานที่ปลอดผู้คนแล้ว หลานอวี่ก็พูดขึ้นมาว่า
“พวกนั้นแกล้งฉันอีกแล้ว”
“ขอแค่มีฉันอยู่ไม่มีใครแกล้งเธอได้หรอก” ลู่หยางกล่าว
หลานอวี่พยักหน้าอย่างมีความสุข
หลังจากผ่านพ้นสงครามมาหลายครั้งลู่หยางก็ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองไปทั่วทั้งเมืองเซนต์กอลล์ หลานอวี่จึงมองไปยังชายตรงหน้าด้วยความชื่นชม เพราะท้ายที่สุดคน ๆ นี้ก็เรียกได้ว่ามีความสามารถรอบด้านเลยทีเดียว
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? ฉันไม่ค่อยมีเวลามาดูแลเธอเลยเพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับสงคราม” ลู่หยางกล่าวด้วยความรู้สึกผิด
“ช่วงนี้ก็ดีนะ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงมีคนกะล่อนคนหนึ่งชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อยเลย” หลานอวี่กล่าว
“ใครเหรอ?” ลู่หยางถามพร้อมแอบหัวเราะขึ้นมาภายในใจ
“เขาชื่อเหมือนพี่เลย แต่จะบอกว่าแกล้งก็คงจะไม่ใช่เรียกว่าเขาชอบมาทำให้ฉันหงุดหงิดมากกว่า” หลานอวี่กล่าวอย่างน่ารัก
ลู่หยางทำได้แต่หัวเราะภายในใจ เพราะคนขี้แกล้งคนนั้นมันก็คือเขาเอง
“มีคนแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ ว่าแต่เธอเรียนอยู่ที่ไหน? เดี๋ยวพี่จะไปจัดการเขาให้เอง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ จริง ๆ คน ๆ นั้นก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อาจจะเพราะเขาเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้วก็ได้ล่ะมั้งคะ แต่เอาจริง ๆ พวกเรานัดเจอกันข้างนอกก็ดีเหมือนกัน ฉันก็อยากรู้ว่าข้างนอกพี่เป็นยังไง” หลานอวี่กล่าวด้วยใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
ลู่หยางตื่นเต้นจนหัวใจแทบกระโดดออกมาจากอก เพราะการที่เธอพูดแบบนี้มันก็แสดงว่าเธอมีใจให้กับเขาจริง ๆ
“โอเค สาวน้อย ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกัน”
“แต่ว่าฉันอยู่ที่เมืองตงไห่นะคะ พี่มาได้ใช่ไหม?” หลานอวี่กล่าวด้วยใบหน้าสีแดงก่ำ
“บังเอิญจริง ๆ ที่ฉันก็อยู่ที่เมืองตงไห่เหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว
“หา?! พวกเราอยู่เมืองเดียวกันเหรอ” หลานอวี่เงยหน้าขึ้นมองลู่หยางด้วยความประหลาดใจ
“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ 7 โมงเช้าฉันจะไปรอที่มหาวิทยาลัยของเธอก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ได้ค่ะ” หหลานอวี่ตอบ
ลู่หยางคิดถึงช่วงเวลานี้มานานมากแล้ว ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นมาเป็นเวลานาน เขาก็มีโอกาสจะได้คบกับเธอจริง ๆ สักที ความจริงเขาอยากจะบอกเธอตั้งแต่ในตอนนี้เลยว่าเขาเป็นใครแต่เพื่อให้เธอเซอร์ไพรส์เขาจึงตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
หลังจากที่พูดคุยรายละเอียดเรื่องการนัดพบกันอีกสักพัก ทั้งคู่ก็ออกไปพักอย่างนอกเกม
หลานอวี่ตื่นเต้นกับการเจอลู่หยางในโลกแห่งความเป็นจริงครั้งแรกด้วยเช่นกัน ซึ่งในจินตนาการอีกฝ่ายจะต้องเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่และหล่อเหลามาก ๆ อย่างแน่นอน
—
เที่ยงคืน
หลังจากเซี่ยหยู่เว่ยออกจากเกมเธอก็ได้พบว่าเสินเมิ่งเหยายังไม่นอน เธอจึงถามออกไปด้วยความสงสัยว่า
“มัวเหม่ออะไรอยู่ ทำไมถึงยังไม่นอน?”
“ลู่หยางบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะมาหาฉัน ฉันเลยกำลังคิดอยู่ว่าเขาจะหน้าตาเป็นยังไง” เสินเมิ่งเหยากล่าว
“เดี๋ยวเจอกันเธอก็รู้เองแหละ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“เธอเคยเจอเขาแล้วเหรอ?” เสินเมิ่งเหยาถามอย่างสงสัย
เซี่ยหยู่เว่ยกระอักกระอ่วนใจอยู่เล็กน้อย เพราะถึงแม้เธอจะยังไม่เคยเจอลู่หยาง แต่เธอก็รู้แล้วว่าข้างนอกอีกฝ่ายเป็นใคร เธอจึงรีบทำท่าเป็นไม่สนใจพร้อมกับพูดออกไปว่า
“เขาก็เป็นผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งนั่นแหละ”
เสินเมิ่งเหยายื่นปากออกมาอย่างน่ารัก ซึ่งเธอก็คิดถึงเรื่องลู่หยางจนกระทั่งประมาณตี 2 ก่อนที่จะนอนหลับไป
—
อีกด้านหนึ่ง
ลู่หยางยังนอนไม่หลับและกำลังหันหน้ามองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่างที่เต็มไปด้วยดวงดาว
เนื่องมาจากสถานที่ที่เขาอยู่ค่อนข้างอยู่ห่างจากตัวเมืองมากพอสมควร บนท้องฟ้าจึงสามารถมองเห็นดวงดาวได้อย่างชัดเจน
หลังจากเกิดใหม่ในชาตินี้เขาก็เคยสัญญากับตัวเองแล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้เสินเมิ่งเหยาต้องเจอกับความเจ็บปวดเหมือนในชาติก่อน และมันก็จะไม่มีใครสามารถพรากเสินเมิ่งเหยาไปจากเขาได้เป็นอันขาด
รักแท้รักจริงรักมากกกกก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 150
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น