บทที่ 349 เปิดเผยความจริง
บทที่ 349 เปิดเผยความจริง
คืนนั้นลู่หยางนอนไม่หลับอยู่ทั้งคืนและถึงแม้ในชาติก่อนเขาจะเคยผ่านพ้นประสบการณ์เรื่องต่าง ๆ มาอย่างมากมาย แต่เมื่อมันเป็นเรื่องของเสินเมิ่งเหยา มันก็ทำให้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้จริง ๆ
ตอนนี้เวลาได้ล่วงเลยผ่านมาจนถึงตี 4 แล้ว ลู่หยางจึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงไปออกกำลังกายทางด้านนอก ซึ่งหลังจากที่เขาออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เขาก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวพร้อมกับไปยืนรออยู่ใต้ต้นไม้หน้าหอพักหญิงตอนช่วงประมาณ 6 โมงครึ่ง
ช่วงปลายเดือนกันยายนอากาศยังคงร้อนจัด แม้จะเป็นในช่วงยามเช้าตรู่แล้วถึงแม้ว่าจะมีต้นไม้ใหญ่คอยบดบังแสงแดดเอาไว้ แต่ภายในใจของลู่หยางมันกลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุดเขาก็กำลังกังวลอยู่ภายในใจว่าสิ่งที่เขาเคยทำไปในก่อนหน้านี้จะทำให้เสินเมิ่งเหยาไม่พอใจหรือไม่ เรื่องที่เขาโกหกเธอจะสร้างความประทับใจที่ไม่ดีกับเธอหรือเปล่าและหลังจากนี้เธอจะยังยอมเป็นแฟนกับเขาอยู่ไหม
…
คำถามมากมายทรมานจิตใจลู่หยางมาตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนการถูกไฟแผดเผาไปทั่วทั้งตัว
ระหว่างที่ลู่หยางกำลังกังวลใจอยู่นั้น มันก็มีเสียงฮัมเพลงเบา ๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ซึ่งชายหนุ่มก็รู้ได้ในทันทีว่าเสินเมิ่งเหยามาหาเขาแล้ว
ลู่หยางพยายามจะหลบหน้าอีกฝ่ายไปก่อน แต่เขาก็ได้ยินเสียงเสินเมิ่งเหยาร้องเรียกเขาขึ้นมาเสียก่อน
“เอ้า นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เมื่อลู่หยางหันกลับไปเขาก็ได้เห็นเสินเมิ่งเหยาแต่งตัวอย่างน่ารัก และถึงแม้บนใบหน้าจะไม่ได้ตกแต่งมากมายนัก แต่มันก็ยังคงเป็นความงามที่น่าหลงใหล
“ทำไมนายมองฉันแบบนี้ล่ะ?” เสินเมิ่งเหยาถามหลังจากได้เห็นลู่หยางมองมาที่เธอด้วยแววตาอันเหม่อลอย
ลู่หยางสัมผัสได้เลยว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นเร็วมาก แต่เมื่อเขาไม่สามารถจะหลบหนีไปจากสถานการณ์นี้ได้ เขาจึงสูดลมหายใจลึก ๆ และพูดออกไปว่า
“ฉันกำลังรอคน ๆ หนึ่งอยู่น่ะ”
“นายมีนัดที่นี่เหรอ?” เสินเมิ่งเหยาถามอย่างประหลาดใจ
“เธอก็มีนัดเหมือนกันเหรอ?” ลู่หยางถาม
“ใช่” เสินเมิ่งเหยาตอบ
“แล้วเธอมารอใครล่ะ?” ลู่หยางถาม
“คนที่ฉันรอเป็นคนที่เก่งมาก ๆ เขาบอกว่าเขาจะมาจัดการนายให้ฉันด้วย เขาชื่อว่า…” เสินเมิ่งเหยาพูดออกไปอย่างไม่ระวังตัว และทันใดนั้นดวงตาของเธอก็กำลังเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เขาชื่อลู่หยางใช่ไหม?” ลู่หยางยักไหล่ด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าเล็ก ๆ ของเสินเมิ่งเหยาเริ่มเผยรอยยิ้มขึ้นมาด้วยความดีใจ แต่ภายในแววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งเธออีกแล้ว
“นี่พี่แกล้งฉันอีกแล้วเหรอ?!” เสินเมิ่งเหยากล่าวอย่างง้องอน
ลู่หยางเดินไปด้านหน้าเสินเมิ่งเหยา ก่อนจะยื่นแขนออกไปโอบกอดเธอไว้
“ฉันก็แค่อยากจะเซอร์ไพรส์ให้เธอตกใจ แต่ก่อนหน้านี้ฉันกลัวเธอจะโกรธฉันมากเลย”
คำพูดของลู่หยางทำให้เธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใส่ใจความรู้สึกของเธอขนาดนี้
ก่อนจะเดินมาที่นี่เธอจินตนาการถึงลู่หยางเอาไว้อย่างมากมาย แต่ใครจะไปรู้ว่าแท้ที่จริงลู่หยางภายในเกมจะเป็นคน ๆ เดียวกับลู่หยางที่ชอบแกล้งเธอ
ถึงเธอจะมีความสุขแต่เสินเมิ่งเหยาก็ไม่ได้คิดจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ เธอจึงแอบคิดภายในใจว่าจะหาทางแก้เผ็ดลู่หยางให้ได้เลย
“ใครบอกว่าฉันโกรธ บอกฉันมาเลยนะว่าพี่รู้ว่าฉันคือหลานอวี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เสินเมิ่งเหยากล่าวด้วยสีหน้าอันบึ้งตึง
“ฉันจำได้ตอนที่เธอเต้นเพลงเดียวกันกับเพลงที่เธอซ้อมให้ฉันดู” ลู่หยางกล่าว
เสินเมิ่งเหยาเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกไปว่า
“แบบนี้มันก็หมายความว่าตลอดเวลาพี่ตั้งใจจะแกล้งฉันมาตลอดเลยใช่ไหม?”
“ขอโทษด้วย ถ้าฉันรู้ว่าหลานอวี่คือเธอตั้งแต่แรก ฉันก็คงจะไม่แกล้งเธอหรอก” ลู่หยางกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“ถึงจะรู้ตัวตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาเท้าสะเอว
ลู่หยางรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามแกล้งเขาคืนอยู่แล้วในตอนนี้เธอก็ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา แต่ในชั่วขณะที่เธอกำลังยืดตัวขึ้นมานั่นเอง ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงหน้าอกคู่นุ่ม ๆ ที่กำลังสัมผัสกับหน้าอกของเขาอยู่
เหตุการณ์นี้ทำให้หัวใจของลู่หยางเต้นรัวขึ้นมาอย่างรุนแรง เพราะในชาติก่อนเขาไม่เคยใกล้ชิดกับเสินเมิ่งเหยาขนาดนี้มาก่อน
“อย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันทำผิดไปแล้ว เอาแบบนี้ดีไหม? พอถึงวันชาติพวกเราก็ไปเที่ยวที่สวนสนุกกัน” ลู่หยางพยายามพูดอย่างเอาใจ
“จริงเหรอ?! พี่อย่าหลอกฉันนะ” เสินเมิ่งเหยากล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย
เธอชอบเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกมาก แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่ของเธอต้องการจะให้เธอเติบโตมาเป็นกุลสตรี ดังนั้นตั้งแต่ที่เธอโตเป็นสาวเธอก็ไม่ได้มีประสบการณ์ไปเล่นที่สวนสนุกอีกเลย
ในชาติก่อนลู่หยางก็เคยพาเสินเมิ่งเหยาไปเที่ยวในช่วงวันหยุดด้วยเหมือนกัน และเขาก็เคยได้ยินเธอพูดเรื่องสวนสนุกให้เขาฟังในตอนนั้นเอง
“เธอลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเราลาหยุดในเกมกันแล้ว ฉันสัญญาว่าพวกเราจะได้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน” ลู่หยางกล่าว
“พี่รับปากแล้วนะ” เสินเมิ่งเหยากล่าว
“อือ ฉันรับปาก เพื่อให้คุณแฟนมีความสุขจะให้ฉันทำอะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าของเสินเมิ่งเหยากลายเป็นสีแดงขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะตีหน้าอกลู่หยางเบา ๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า
“ไอ้คนกะล่อน”
“โอ้โห!” ทันใดนั้นมันก็มีเสียงผู้หญิง 3 คนดังขึ้นมาจากระยะไกล เมื่อลู่หยางกับเสินเมิ่งเหยาหันมองไป พวกเขาก็ได้พบกับจางเหมิง, ฉู่อวี้และหลิวฉ่วงที่กำลังส่งเสียงหยอกล้อพวกเขาอยู่นั่นเอง
“ตอนแรกฉันคิดว่านายจะอกหักซะอีก ที่แท้นายก็แอบคุยกับเธออยู่สินะ” จางเหมิงกล่าว
“ใช่ ๆ ๆ ตอนแรกฉันยังเสียใจแทนนายอยู่เลย ใครจะไปรู้ว่าแม้แต่พวกเราก็จะโดนหลอกกันแบบนี้” หลิวฉ่วงกล่าว
“เหยาเหยาก็ไม่เคยบอกอะไรพวกเราเหมือนกัน เรื่องนี้พวกเธอทั้งสองคนจะต้องชดเชยให้กับพวกเราด้วย” ฉู่อวี้กล่าว
คำพูดของเพื่อน ๆ ทำให้เสินเมิ่งเหยารู้สึกอายมาก แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายออกไปยังไงดี
“เอาแบบนี้ดีไหม? เดี๋ยวเดือนนี้ฉันจะรับผิดชอบค่าอาหารให้กับพวกเธอเอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
“โอเค แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย” หลิวฉ่วงกล่าว
“ว่าแต่เมื่อกี้ฉันได้ยินว่ามีคนจะไปเที่ยวสวนสนุก ความจริงวันชาติพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปไหนเหมือนกันถึงจะอยากกลับบ้านแต่ตอนนี้เราก็ยังกลับไม่ได้” ฉู่อวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน่าสงสาร
จางเหมิงรีบตีหน้าเศร้าพร้อมกับแกล้งหันไปร้องไห้กับฉู่อวี้
เสินเมิ่งเหยาออกจากอ้อมแขนของลู่หยาง ก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อน ๆ ทั้ง 3 คน
“โอเค ฉันพาพวกเธอไปด้วยกันก็ได้”
“เธอนี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย” จางเหมิงและฉู่อวี้ต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน
“พวกเรามาถือโอกาสนี้ช่วยเหยาเหยาสอบสวนผู้ชายคนนี้เถอะ” หลิวฉ่วงกล่าว
“ไม่ต้องหรอก ฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนดี” เสินเมิ่งเหยากล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“แย่แล้ว เหยาเหยาของเราหลงเขาหัวปักหัวปำแล้ว” ฉู่อวี้กล่าว
หวานทั้งตอน 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 166
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น