บทที่ 270 การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
บทที่ 270 การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
ลู่หยางเก็บคำรับรองเอาไว้ในกระเป๋าอย่างถนุถนอม ก่อนที่เขาจะติดต่อไปหาเสี่ยวเหลียง
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ขณะเดียวกันเสี่ยวเหลียงที่ได้ใส่ชุดเซ็ตทมิฬก็ได้ถือโล่ขนาดใหญ่พร้อมกับเดินพ่นพิษไปทั่วทั้งแผ่นที่
“หมอกพิษใช้งานได้ดีมากเลยครับ” เสี่ยวเหลียงกล่าวอย่างภูมิใจ
“พยายามเข้าล่ะ หลังจากนายกลับมาฉันมีของดีจะให้นายด้วย” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อะไรเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย
“เดี๋ยวออกมาก็รู้เอง” ลู่หยางตอบ
“โห่” เสี่ยวเหลียงส่งเสียงงอแงขึ้นมาเบา ๆ ขณะเดียวกันเขาก็รู้ดีว่าการที่ลู่หยางบอกว่าอีกฝ่ายคือของดี มันก็จะต้องเป็นของที่หายากมาก ๆ ของเกมอย่างแน่นอน
“อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวผมจะรีบออกไปนะครับ” เสี่ยวเหลียงกล่าวอย่างกระตือรือร้น
ลู่หยางส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับปิดหน้าต่างสื่อสารไป จากนั้นเขาก็ทำการเก็บไอเท็มในส่วนที่เหลือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นน้ำยาแต่มันก็พอมีไอเท็มดี ๆ อยู่บ้างอย่าง เช่น คำรับรองเปลี่ยนอาชีพเบอเซิกเกอร์ 1 ใบ, คำรับรองเปลี่ยนอาชีพนักบวช 1 ใบ, บลูปริ้นชุดเซ็ตเมจิกสตีล 2 ชิ้นและดวงตาปีศาจโบราณที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไรเหมือนกัน
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็พาสามพี่น้องเดินเคลียร์มอนสเตอร์ทั่วทั้งรังปีศาจโบราณ ซึ่งของที่ดรอปลงมามันก็ดีอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้พวกเขายังสามารถรวบรวมชุดเซ็ตเมจิกสตีลได้ครบเซ็ตและยังพบคำรับรองเปลี่ยนอาชีพพาลาดินอีก 2 ใบ ส่วนอุปกรณ์ระดับเหล็กลงไปลู่หยางได้ทำการแยกชิ้นส่วนพวกมันเพื่อเปลี่ยนเป็นวัสดุสำหรับการเอนชานท์ทั้งหมด
“วันนี้แยกย้ายกันแค่นี้ก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าว
“ถ้างั้นพวกเราสองคนขอตัวไปทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพนะครับ” ฮั่นเฟยกล่าวอย่างกระตือรือร้น
การได้รับอาวุธระดับตำนานทำให้สองฝาแฝดอยากจะเปลี่ยนอาชีพโดยเร็วที่สุด ลู่หยางจึงพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ไปเถอะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ให้ถามฉัน หลังจากเปลี่ยนอาชีพเสร็จแล้วก็รีบกลับมาช่วยพี่สาวของพวกนายนะ”
“ครับ” ฮั่นเฟยกับฮั่นอวี่พูดพร้อมกัน ก่อนที่พวกเขาจะเทเลพอร์ตไปยังเมืองเซนต์กอลล์
ขณะเดียวกันลู่หยางก็ได้พาฮั่นอิ่งไปทิ้งไว้ที่ป่านิรันดร์ทางตอนใต้ของเมือง โดยเขาได้มอบผู้พิทักษ์ป่าบาปนิรันดร์เลเวล 7 ทั้ง 5 ตัวให้กับเธอและมอบหมายให้เธอออกไปหาเอมเมอรัลด์คริสตัล
—
หลังลู่หยางเดินมาหานายกเทศมนตรีของเมืองไวท์ไลท์ ชายหัวล้านก็รีบวิ่งเข้ามาหาลู่หยางอย่างตื่นเต้น
“นี่มันกลิ่นอายของปีศาจโบราณ ท่านวีรบุรุษคุณได้จัดการปีศาจโบราณไปแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ผมขอดวงตาของมันได้ไหม? ผมจะเอาดวงตาของมันไปทำการวิจัยต่อ” นายกกล่าว
“ได้ครับ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับมอบดวงตาปีศาจโบราณให้กับนายก
ระบบ: ชื่อเสียงของคุณในเมืองไวท์ไลท์อยู่ในระดับบูชา
“ท่านวีรบุรุษ คุณอยากจะซื้ออะไรไหม? ทางเมืองมีของดี ๆ มากมาย หลังจากที่พวกเราได้ต่อสู้กับพวกปีศาจโบราณมาเป็นเวลานาน”
หลังจากนายกพูดจบมันก็มีหน้าต่างซื้อขายปรากฏขึ้นมาต่อหน้าลู่หยาง
บลูปริ้น: แหวนฟลอว์เลสดีเฟนส์ (ระดับทอง), ชิ้นเดียวในโลก
บลูปริ้น: เหรียญตราฟลอว์เลสดีเฟนส์ (ระดับทอง), ชิ้นเดียวในโลก
บลูปริ้น: ผ้าคลุมฟลอว์เลสดีเฟนส์ (ระดับทอง), ชิ้นเดียวในโลก
บลูปริ้น: สร้อยฟลอว์เลสดีเฟนส์ (ระดับทอง), ชิ้นเดียวในโลก
เมื่อได้เห็นรายการไอเท็ม มันก็ทำให้ลู่หยางอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้ที่สามารถบุกเบิกพื้นที่ใหม่ได้สำเร็จถึงสามารถพัฒนากิลด์ไปได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น เพราะแท้ที่จริงมันก็มีบลูปริ้นระดับทองที่มีเพียงแค่ชิ้นเดียวมาวางขายเป็นของตอบแทนพวกเขานั่นเอง
“นี่มันประธานลู่หยางแห่งบลัดบราเธอร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณถึงมาเมืองไวท์ไลท์คนเดียวล่ะ?” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากระยะไกล
ลู่หยางรีบหันตามเสียงไป ก่อนที่เขาจะจำได้ว่าคนที่พูดคือโคลด์วินเทอร์ฮาร์ทเลส หัวหน้ากิลด์คลาสเมทแอสโซซิเอชั่น
กิลด์ของโคลด์วินเทอร์เป็นกิลด์ขนาดกลางที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซนต์กอลล์ และในตอนนี้กิลด์คลาสเมทแอสโซซิเอชั่นก็ยังไม่มีข้อบาดหมางกับบลัดบราเธอร์
“มาทำภารกิจ” ลู่หยางตอบ
“คุณพอจะได้อะไรดี ๆ มาบ้างไหม?” โคลด์วินเทอร์ถามด้วยแววตาเป็นประกาย
ลู่หยางย่อมไม่มีทางเล่าเรื่องของตัวเองออกไปฟรี ๆ อย่างแน่นอน และในตอนแรกเขาก็เคยมองว่าโคลด์วินเทอร์เป็นคนที่ดีกว่านี้ แต่คำถามของอีกฝ่ายก็ได้ทำให้เขามองไปยังโคลด์วินเทอร์ด้วยแววตาที่แตกต่างไปจากเดิม
“ไม่มีอะไรสำคัญหรอก มันก็แค่ภารกิจธรรมดาทั่วไป” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะพยักหน้าเล็กน้อยและหยิบคัมภีร์ย้อนกลับออกมาใช้
เมื่อโคลด์วินเทอร์ได้เห็นร่างของลู่หยางกลายเป็นแสงหายไป รอยยิ้มที่เคยมีบนใบหน้าก็ถูกเปลี่ยนเป็นท่าทางอันเย็นชา ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ”
—
เมืองเซนต์กอลล์
ลู่หยางมุ่งหน้าตรงไปยังร้านตีเหล็กทางตอนเหนือของเมือง ซึ่งในปัจจุบันมีสาว ๆ เป็นจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอยู่ตรงบริเวณประตู
“นั่นไง คุณลุงที่ทำภารกิจระดับ SSS ของราชาตัวตลกเมื่อไม่กี่วันก่อน”
“เท่จังเลย”
เมื่อได้ฟังบทสนทนามันก็ทำให้ลู่หยางแทบจะกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ ขณะเดียวกันฮั่นจงที่กำลังเขินก็กำลังจ้องมองมาทางชายหนุ่มด้วยแววตาอันดุดัน
“ดูเหมือนแฟนคลับของอาจารย์จะเยอะขึ้นนะครับ” ลู่หยางพูดกับฮั่นจงหลังจากที่เขาเดินเข้าไปภายในห้อง
หลังจบภารกิจท้าทายราชาตัวตลกเมื่อครั้งที่แล้ว ฮั่นจงก็ถูกผู้เล่นคนอื่นค้นพบได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าเขาเปิดร้านขายอุปกรณ์อยู่ทางตอนเหนือของเมือง
เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มีผู้เล่นเป็นอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนอยากจะมาสมัครเป็นศิษย์ของฮั่นจง และมันก็ยังมีแฟนคลับสาว ๆ มากมายที่อยากจะลองคบหาดูใจกับเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อฮั่นจงได้เผชิญหน้ากับเด็กสาววัย 16 ที่กำลัง ‘’กระตือรือร้น’ มากขนาดนี้ มันก็ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกไปเหมือนกัน
ท้ายที่สุดเขาก็มีอายุ 40 กว่าปีแล้วจะให้เขาคบหาดูใจกับเด็ก ๆ ที่มีอายุใกล้ ๆ กับลูกสาวได้ยังไง แล้วเนื่องมาจากเขาใช้ชีวิตอยู่ในป่ามานาน เขาจึงไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหาเรื่องนี้ยังไงดี สิ่งที่เขาพอจะคิดได้ก็มีเพียงแค่การพยายามทำเป็นมองไม่เห็นพวกสาว ๆ ไปเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเด็กสาวเหล่านี้ก็ยังคงมีความพยายาม เพราะทุกวันหลังเลิกเรียนพวกเธอจะมารวมตัวกันที่นี่ และในวันนี้มันก็ดูเหมือนจะมีคนเข้ามาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
“มีอะไรก็พูดมาเร็ว ๆ เข้า หลังจัดการธุระเสร็จก็กลับไปซะ” ฮั่นจงกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจมากนัก
ลู่หยางแทบจะกลั้นขำไม่อยู่อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหยิบบลูปริ้นชุดเซ็ตเมจิกสตีลและชุดเซ็ตฟลอว์เลสดีเฟนส์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อมอบให้กับอาจารย์
“อาจารย์ช่วยหาคนมาเรียนรู้พวกมันแล้วสร้างอุปกรณ์มาให้กับเสี่ยวเหลียงเซ็ตหนึ่งก่อนนะครับ”
“เสี่ยวเถา เสี่ยวเฮอ มานี่” ฮั่นจงตะโกนเรียก
“มาแล้วครับ” เด็กหนุ่ม 2 คนรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกัน และเมื่อพวกเขาได้เห็นลู่หยางทั้งคู่ก็โค้งคำนับอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับหัวหน้า”
“สองคนนี้เพิ่งจะเลื่อนระดับเป็นนักตีเหล็กผู้เชี่ยวชาญ โดยรวมพวกเขาก็พอจะมีพรสวรรค์อยู่บ้าง” ฮั่นจงกล่าว
ลู่หยางรู้จักเด็กหนุ่ม 2 คนนี้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาเป็นสมาชิกกลุ่มแรกที่เข้ามาทำงานจากโรงเรียนอาชีวะ
“ดีมาก พยายามกันต่อไปนะ”
“ครับ!” เด็กหนุ่มทั้งสองคนพยักหน้าอย่างขึงขังและภายในใจพวกเขาก็ชื่นชมลู่หยางเป็นอย่างยิ่ง
ในทุก ๆ วันพวกเขาจะได้เห็นลู่หยางฝึกฝนอย่างหนักราวกับทรมานตัวเอง และได้เห็นบลัดบราเธอร์เริ่มต้นขึ้นมาจากศูนย์ ทั้งคู่จึงชื่นชมลู่หยางอย่างจริงใจ
“ไปสร้างของพวกนี้กันเถอะ ขอฉันดูฝีมือของพวกนายหน่อย” ลู่หยางกล่าว
ในชาติก่อนทักษะการตีเหล็กและเจียระไนของทั้งคู่เคยเลื่อนระดับไปจนถึงระดับปรมาจารย์ การให้พวกเขาเรียนบลูปริ้นพวกนี้ไปจึงไม่ใช่เรื่องที่ลู่หยางคิดจะขัดข้อง
เด็กหนุ่มทั้งสองไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับความสนใจจากลู่หยาง พวกเขาจึงวิ่งกลับไปที่ห้องตีเหล็กอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะเริ่มทำการสร้างอุปกรณ์อย่างจริงจัง
เมื่อมีบลูปริ้นและคำอธิบายอย่างละเอียด การสร้างอุปกรณ์ขึ้นมาสักชิ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากมากเกินไป สิ่งที่ถือว่ายากลำบากมากจริง ๆ คือการสร้างอุปกรณ์ชิ้นนั้นขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพ 100%
โดยทั่วไปอุปกรณ์ที่ผู้เล่นสร้างขึ้นมามักจะมีค่าสถานะประมาณ 90% จากข้อมูลที่ระบุเอาไว้ในบลูปริ้น ซึ่งสาเหตุที่มันเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะพวกเขาเก็บรายละเอียดในระหว่างการสร้างได้ไม่ดีพอ
ในชาติก่อนลู่หยางก็เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาบ้างด้วยเช่นกัน หลังจากที่เขาได้สอนเด็กหนุ่มทั้งสองคนไปสักพัก ทักษะการตีเหล็กของทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
“หัวหน้าโคตรเก่งเลย! ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะรู้เรื่องการตีเหล็กกับการเจียระไนด้วย” เถาจินหมิงกล่าวอย่างประหลาดใจ
“ขอแค่พวกนายพยายามต่อไป สักวันพวกนายก็จะเหนือกว่าฉันเอง ฉันหวังว่าในอนาคตพวกนายจะกลายเป็นช่างตีเหล็กระดับปรมาจารย์หรือไม่ก็กลายเป็นช่างตีเหล็กระดับเทพไปเลยนะ” ลู่หยางกล่าว
“ครับ” เด็กหนุ่มทั้งสองพยักหน้ารับอย่างแรง
—
ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็สร้างชุดเซ็ตอุปกรณ์เมจิกสตีลและชุดเซ็ตฟลอว์เลสดีเฟนส์จนเสร็จ ซึ่งหลังจากที่ลู่หยางทำการตรวจสอบ เขาก็ได้พบว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นต่างก็มีประสิทธิภาพครบทั้ง 100%
“เพอร์เฟกต์มาก” ลู่หยางกล่าวชื่นชม
เด็กหนุ่มทั้งสองยกมือขึ้นมาเกาหัวอย่างเขินอาย
“ลูกพี่ผมมาแล้ว!” ทันใดนั้นเองเสี่ยวเหลียงก็รีบวิ่งเข้ามาภายในห้องตีเหล็กอย่างรวดเร็ว
เจ้าตัวมารับของดีแล้ว 5555


แสดงความคิดเห็น