บทที่ 140 ความร่วมมือ

-A A +A

บทที่ 140 ความร่วมมือ

บทที่ 140 ความร่วมมือ

“เขาคือลู่หยางใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจะรีบประกาศออกไปเอง” ฮิดเดนเบลดกล่าว

ฉือมู่รีบดึงตัวสหายของตัวเองเอาไว้ก่อนจะพูดว่า

“อย่าเลยแค่นี้มันก็น่าอายมากพอแล้ว ถึงเราจะจำวิธีการเคลื่อนไหวของเขาได้แต่เราก็ยังไม่มีหลักฐานจริง ๆ ถึงจะพูดไปมันก็ไม่มีใครเชื่อหรอก แต่มันจะยิ่งเพิ่มชื่อเสียงของลู่หยางไปเปล่า ๆ อีกอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในไม่สมควรจะต้องนำออกไปยังภายนอก”

“ไอ้หมอนี่มันไม่รู้จักบุญคุณคนจริง ๆ แล้วแบบนี้พวกเราจะทำยังไงต่อไป?” ฮิดเดนเบลดพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“แน่นอนว่าเรื่องนี้มันปล่อยผ่านไม่ได้ หากเขาไม่ปล่อยอุปกรณ์อะไรบางอย่างออกมาบ้างอย่างน้อยเขาก็ต้องให้คำอธิบายกับฉันหน่อย” ฉือมู่กล่าว

เรื่องนี้ทำให้ทุกกิลด์เสียหน้าอย่างหนัก เพราะท้ายที่สุดแม้มันจะมีคนหลายหมื่นคนพยายามขวางทางลู่หยางไว้ แต่ชายคนนี้ก็ยังสามารถขโมยอุปกรณ์หนีไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาได้ ทุกคนจึงรู้สึกอับอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

วิหารเทพอสูร

ลู่หยางมองคริสตัลปีศาจภายในมือด้วยความตื่นเต้น ท้ายที่สุดของชิ้นนี้ก็เป็นของที่หาได้ยากมาก โดยมันมีโอกาสดรอปจากบอสระดับลอร์ดเลเวล 50 เท่านั้นแต่อัตราการดรอปก็ไม่มีอะไรที่แน่นอน

ในชาติก่อนชายหนุ่มต้องสังหารบอสระดับลอร์ดไปประมาณ 60 ตัวถึงจะได้ไอเท็มชิ้นนี้มา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าคริสตัลปีศาจเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากแค่ไหน

ตอนแรกลู่หยางวางแผนว่าพอถึงเลเวล 50 เขาจะฝึกทีม 100 คนขึ้นมาด้วยตัวเอง ก่อนจะพาทีม ๆ นั้นไปฆ่าบอสระดับลอร์ดด้วยกัน อย่างเร็วที่สุดมันก็น่าจะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งปีถึงจะได้รับคริสตัลปีศาจมาไว้ในครอบครอง แต่ใครจะไปคิดว่าแท้ที่จริงหลังจากเซิร์ฟเวอร์เปิดให้บริการไปเพียงแค่ 10 วันเขาก็ได้รับไอเท็มชิ้นนี้มาไว้ในครอบครองแล้ว

สิ่งที่ต้องใช้อัปเกรดหัวใจเทพอสูรเป็นเลเวล 2 มีแค่สองอย่าง หนึ่งคือคริสตัลปีศาจและอีกหนึ่งคือเศษวิญญาณภูติไฟที่ดรอปจากบอสระดับลอร์ดตัวสุดท้ายของดันเจียนวิหารออสมานระดับอีปิคในเลเวล 30

ยิ่งไปกว่านั้นในชาติก่อนมันก็มีคนปล่อยคลิปวิดีโอการเคลียร์ดันเจียนวิหารออสมานด้วยตัวคนเดียว ซึ่งข้อกำหนดของการเคลียร์ดันเจียนในตอนนี้เขาก็สามารถจะทำได้แล้ว

ลู่หยางกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้นเมื่อคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะสามารถอัปเกรดหัวใจเทพอสูรให้กลายเป็นเลเวล 2 ได้แล้ว

หัวใจเทพอสูรเลเวล 2 ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มค่าสถานะขึ้นอย่างมหาศาล แต่มันยังจะทำให้เขาสามารถกลายร่างเป็นปีศาจเปลวเพลิงได้อีกด้วย

ปีศาจเปลวเพลิงมีความสามารถพิเศษอยู่ 2 อย่าง โดยอย่างแรกคือเพิ่มระยะความเสียหายของสกิลทั้งหมดขึ้น 30% ส่วนอย่างที่ 2 คือภายในระยะเวลาแปลงร่าง 30 นาทีในช่วงเวลานั้นสกิลทุกสกิลจะไม่มีคูลดาวน์!

สิ่งสำคัญสำหรับการอัปเกรดไม่ใช่การแปลงร่างเป็นปีศาจเปลวเพลิง แต่คือค่าสถานะและโบนัสเลเวลสกิลที่หัวใจเทพอสูรเลเวล 2 จะมอบให้ต่างหาก ในเวลานั้นพลังโจมตีเวทมนตร์ของเขาจะสูงมากและมันก็หมายความว่าเขาจะสามารถหาอุปกรณ์มาให้น้อง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

จากนั้นแผนการสร้างกิลด์ก็จะมาถึงเร็วกว่ากำหนดแล้วมันก็หมายความว่าเขาจะสามารถเริ่มแผนการแก้แค้นในชาตินี้ได้แล้ว

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังตื่นเต้นอยู่นั่นเอง ฉือมู่ก็ติดต่อเข้ามาหาเขา

“น้องชาย วันนี้นายหลอกพวกเราจนหัวหมุนเลยนะ”

ลู่หยางชะงักค้างไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตระหนักว่าถึงแม้การแปลงร่างเป็นก็อบลินจะหลอกคนอื่นได้ แต่วิธีการเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาก็คงจะไม่สามารถหนีไปจากสายตาอันเฉียบคมของอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน

“คุณหมายความว่ายังไงเหรอครับ?” ลู่หยางตอบไปอย่างไร้เดียงสา

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่อยากบอกว่าต่อไปพวกเราจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันไหม?” ฉือมู่พูดอย่างมีนัยยะ

ลู่หยางสามารถตีความคำพูดนี้ได้ในทันทีและมันก็เป็นคำขู่จากอีกฝ่ายอย่างชัดเจน นัยหนึ่งชายชรากำลังบอกว่าเขารู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของลู่หยาง อีกนัยหนึ่งคือการบอกว่าลู่หยางไม่ควรจะต่อต้านเขา

แน่นอนว่าลู่หยางไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวคำขู่นี้ แต่ในระหว่างที่เขากำลังคิดจะปฏิเสธทันใดนั้นเขาก็นึกถึงปัญหาเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

แผนที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหลักของหญ้าสโตน์รูท, หญ้าดรายลีฟและหญ้าซิลเวอร์ลีฟอยู่ในการดูแลของฉือมู่ โดยสมุนไพรทั้งสามชนิดนี้คือวัตถุดิบสำหรับการปรุงน้ำยาต้านพิษ แน่นอนว่าเนื่องมาจากอีกฝ่ายยังไม่รู้สูตรน้ำยาต้านพิษ ชายชราจึงแทบจะไม่รู้คุณค่าของสมุนไพรทั้งสามชนิดนี้เลย

หากเขาจำไม่ผิดคนเก็บสมุนไพรของฉือมู่น่าจะมีจำนวนอยู่มากกว่า 500 คน ดังนั้นภายในคลังกิลด์เพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่จะต้องมีสมุนไพรทั้งสามชนิดนี้เก็บเอาไว้เยอะแน่ ๆ

ก่อนหน้านี้เขาเขียนชื่อนักปรุงยาชั้นยอดหลายคนให้กับจินปู้ฮวนไปแล้ว หากอีกฝ่ายสามารถชักชวนคนเหล่านี้มาทำสัญญาได้สำเร็จ สมุนไพรที่ถูกปล่อยขายในร้านค้าประมูลก็จะไม่พอใช้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงสมควรจะทำการค้ากับฉือมู่

อีกอย่างถ้าหากเขาต้องการจะสร้างกิลด์ในเร็ว ๆ นี้ มันก็จำเป็นจะต้องใช้เงินทุนสนับสนุนจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงแต่มันจะต้องมีเงินทุนหมุนเวียนภายในสตูดิโอ แต่มันยังต้องมีเงินทุนสำรองสำหรับการทำสงครามกับกิลด์บลัดเติสตี้ด้วย

เงินจำนวนนี้ย่อมไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ แค่ค่าน้ำยาที่จะต้องแจกจ่ายให้ลูกน้องหลายพันคนมันก็เป็นเงินจำนวนหลายพันเหรียญทองแล้ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องมีวัตถุดิบสำหรับการผลิตน้ำยาต้านพิษที่มั่นคง เมื่อไหร่ก็ตามที่ยาต้านพิษขายได้อย่างมั่นคง เมื่อนั้นเขาก็จะมีเงินทุนสำหรับการทำสงครามอย่างเพียงพอ

แต่เรื่องนี้เขาไม่สมควรจะพูดขึ้นมาด้วยตัวเองและเขาก็ไม่อยากจะให้ฉือมู่มองว่าเขามีนิสัยยอมใครง่าย ๆ ชายหนุ่มจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า

“ตอนนี้พอจะมีโครงการที่พวกเราร่วมมือกันได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือการต่อสู้กับบลัดไทแรนท์และแบล็คบลัด หากมีโอกาสคุณก็มาหาผมได้ ถ้ามีโอกาสผมก็จะไปหาคุณเหมือนกัน”

ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังสนทนากับฉือมู่อยู่นั้น เขาก็แอบทำการติดต่อไปหาจินปู้ฮวน

“ติดต่อไปขอซื้อสมุนไพรจากฉือมู่”

“ได้ครับ ผมจะรีบไปขอซื้อสมุนไพรจากพวกเขาเดี๋ยวนี้”

“อาจารย์ ผมกำลังจะรายงานเรื่องนี้พอดีเลย คนทั้งแปดคนที่หัวหน้าให้ชื่อมาผมไปชวนพวกเขามาอยู่ด้วยกันได้หมดแล้ว คนพวกนี้ต่างก็มีฝีมือดีด้วยกันทั้งนั้น สายตาในการมองคนของอาจารย์ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ” จินปู้ฮวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชื่นชม

“ดีมาก แต่จำไว้ว่าต่อไปนี้นายคือหัวหน้าและไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับฉันอย่างเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็ต้องห้ามให้ใครรู้ว่านายคือลูกน้องของฉัน” ลู่หยางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

หากมีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ร้านขายยาของจินปู้ฮวนก็คงจะดำเนินการต่อไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นบลัดไทแรนท์, ฉงป้า, ฉือมู่หรือแบล็คบลัดก็คงจะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ กับเรื่องนี้แน่

“ได้ครับ อาจารย์ไว้ใจผมได้เลย ผมรู้ดีว่าจะต้องทำยังไง” จินปู้ฮวนกล่าวพร้อมกับพยักหน้า ซึ่งในระหว่างนี้เขาก็เปิดเครื่องสื่อสารเพื่อเปิดเผยการติดต่อของเขาให้ลู่หยางได้รับฟังด้วย

ลู่หยางก็อยากจะลองดูความสามารถในการเจรจาของจินปู้ฮวนอยู่เหมือนกัน ซึ่งในระหว่างนั้นอีกฝ่ายก็ทำการติดต่อไปขอซื้อสมุนไพรจากลูกน้องของฉือมู่

ชายชรากำลังพยายามหวานล้อมลู่หยาง แต่จู่ ๆ เขาก็ได้ยินลูกน้องรายงานมาว่ามันมีคนต้องการซื้อสมุนไพรเป็นจำนวนมากและต้องการที่จะติดต่อพูดคุยกับเขาโดยตรง ฉือมู่จึงจำเป็นจะต้องวางสายจากลู่หยางก่อนพร้อมกับรับคำขอเป็นเพื่อนจากจินปู้ฮวน

“คุณต้องการซื้อสมุนไพรใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ผมต้องการสมุนไพรวันละ 6,000 ชุดเพื่อแจกจ่ายให้ลูกน้องของผมใช้ในการปรุงยา” จินปู้ฮวนกล่าว

“น้องชายใจกว้างดีนี่” ฉือมู่กล่าวเพราะเขารู้ดีว่าการฝึกนักปรุงยาเป็นเรื่องที่เผาผลาญเงินมากแค่ไหน เพราะในกิลด์ของเขาก็ยังฝึกนักปรุงยาขึ้นมาได้เพียงแค่ 36 คนและในปัจจุบันทุกคนก็ยังเป็นเพียงแค่นักปรุงยาขั้นต้นเท่านั้นเอง

จินปู้ฮวนรู้ดีว่าฉือมู่กำลังต้องการจะสืบข่าว ดังนั้นเขายิ่งพูดมากเท่าไหร่อีกฝ่ายก็จะยิ่งคาดเดาเรื่องต่าง ๆ ได้มากเท่านั้น เด็กหนุ่มจึงถามเพื่อเบี่ยงประเด็นออกไปว่า

“คุณมีสมุนไพรอะไรบ้าง?”

“ฉันมีหญ้าสโตน์รูท, หญ้าดรายลีฟและหญ้าซิลเวอร์ลีฟเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีซันเฟาเวอร์, โคฟเวอร์และสเน็คออร์คิดเข้ามาบ้าง แต่สามอย่างหลังผลผลิตไม่ค่อยสม่ำเสมอ” ฉือมู่ตอบ

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.