ตอนที่ 896 สิ่งมีชีวิตร่างมหึมา

-A A +A

ตอนที่ 896 สิ่งมีชีวิตร่างมหึมา

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 896 สิ่งมีชีวิตร่างมหึมา

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตในดาร์คไนท์ หงส์ครามก็สำแดงพลังออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหญ้าขนาดใหญ่กวาดออกไปทั่วทั้งกองทัพและไม่มีศัตรูคนใดสามารถหยุดยั้งพลังของหงส์ครามได้

หงส์ครามคล้ายกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้โดยเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงแต่พลังทำลายของมันจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเท่านั้น แม้แต่พิษของต้นพลัมเก้าราตรีที่เซี่ยเฟยคิดว่าหายไปแล้วก็ยังถูกสำแดงพลังออกมาด้วย

ตูม!

นักรบดาร์คไนท์คนหนึ่งถูกหงส์ครามฟาดลงกับพื้นอย่างโหดเหี้ยม เมื่อพิจารณาจากการแต่งกายของนักรบคนนี้แล้ว มันก็ดูเหมือนกับว่าเขาเป็นนักรบที่มีระดับสูงกว่านักรบคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อหงส์ครามฟาดใบหญ้าซ้ำลงมาร่างกายของเขาก็ถูกแยกออกเป็น 2 ส่วนโดยไม่อาจต้านทานได้

วินาทีต่อมานักรบคนนั้นก็ส่งเสียงร้องโหยหวนพร้อมกับผิวที่เริ่มผุกร่อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานร่างของเขาก็กลายเป็นเพียงแค่ฝุ่นผงที่นอนกองอยู่บนดิน

นี่คือพลังของพิษจากต้นพลัมเก้าราตรี

ต้นพลัมเก้าราตรีเป็นตัวแทนของพิษที่รุนแรงที่สุดในจักรวาล และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พิษของต้นพลัมเก้าราตรีจะใช้ผ่านหงส์ครามได้ไม่ดีนัก แต่มันกลับใช้ได้ผลกับพวกดาร์คไนท์อย่างไม่น่าเชื่อ

พิษร้ายที่แฝงตัวอยู่บนใบหญ้าของหงส์ครามออกฤทธิ์ในเวลาเพียงแค่ไม่นาน ซึ่งถ้าหากว่าศัตรูคนใดโดนพิษเข้าไป ร่างของพวกเขาก็จะสูญสลายกลายเป็นฝุ่นผงในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที

เซี่ยเฟยมองไปยังหงส์ครามอย่างประหลาดใจ เพราะมันไม่เคยสำแดงพลังออกมาได้อย่างรุนแรงแบบนี้มาก่อน

พวกนักรบดาร์คไนท์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมาก เพราะแม้แต่พลังงานของขนอุยก็แทบที่จะไม่สามารถสร้างความเสียหายถาวรให้กับพวกมันได้ แต่ในกรณีของหงส์ครามกลับแตกต่างออกไป เพราะอาวุธมายาชิ้นนี้สามารถกวาดล้างศัตรูได้จำนวนมหาศาล โดยการตวัดใบหญ้าออกไปเพียงแค่ครั้งเดียว

อีกด้านหนึ่งต้นสนไร้วันสลายก็กำลังปล่อยกิ่งก้านและใบไม้ของมันเข้าใส่ศัตรูด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการต่อสู้ของต้นสนไร้วันสลายก็ไม่สามารถนำมาเทียบชั้นกับหงส์ครามได้ เพราะอาวุธมายาของเซี่ยเฟยเกิดจากการหลอมรวมของอาวุธมายาถึงสามชนิด แต่ทางต้นสนไร้วันสลายได้พึ่งพาเพียงแค่ความแข็งแกร่งของมันเท่านั้น

เหล่าบรรดานักรบดาร์ไนท์คล้ายกับจะรู้อยู่แล้วว่าอาวุธมายาคือของแสลงสำหรับพวกมัน ดังนั้นพวกมันเป็นจำนวนนับล้านจึงมุ่งทำลายอาวุธมายาทั้งคู่จนกลายเป็นเหมือนกับเมฆดำที่กำลังปกคลุมท้องฟ้า

เมื่อศัตรูถาโถมเข้ามาเป็นจำนวนมาก เซี่ยเฟยกับต้นสนไร้วันสลายก็จำเป็นจะต้องพึ่งพากันและกันเพื่อต่อต้านศัตรู ในเวลานั้นเซี่ยเฟยได้ทำการจัดการกับศัตรูทางด้านซ้าย ขณะที่ต้นสนไร้วันสลายมุ่งเน้นการโจมตีไปทางศัตรูฝั่งขวา

ยิ่งพวกเขาต่อสู้ร่วมกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งมีความเข้าใจในตัวกันและกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยทีมเวิร์คที่เกิดขึ้นมาในสนามรบนี่เอง มันจึงทำให้พวกเขาสามารถต้านทานศัตรูได้ระลอกแล้วระลอกเล่า

ทางด้านขนอุยมันได้รับหน้าที่ในการขัดขวางศัตรูเท่านั้น และถึงแม้ว่าลำแสงพลังงานของมันจะไม่สามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างเด็ดขาดเหมือนกับการโจมตีจากหงส์คราม แต่มันก็ยังมีบทบาทในการชะลอไม่ให้ศัตรูถาโถมเข้ามามากเกินไป

เมื่อเห็นว่ากำลังเสริมจากสกายวิงยังเดินทางมาไม่ถึง ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัยว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับนักรบทั้ง 12 คน

ฉึก!

บลัดบิวเทียสแทงเข้าไปภายในหน้าอกของพวกดาร์คไนท์อย่างง่ายดาย ก่อนที่มันจะดูดพลังงานเข้ามาอย่างบ้าคลั่งไม่ว่าเป้าหมายของมันจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใดก็ตาม

เมื่อพลังงานจากพวกดาร์คไนท์ถูกส่งตรงเข้าไปยังสมองของชายหนุ่ม เซี่ยเฟยก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลก ๆ เพราะพลังงานเหล่านี้แตกต่างจากพลังงานที่เขาเคยสัมผัสมาอย่างสิ้นเชิง

พวกดาร์คไนท์ไม่ได้ให้พลังงานกับชายหนุ่มมากนัก แต่พลังงานของพวกมันกลับทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกสบายตัว

สิ่งมีชีวิตในดาร์คไนท์ถือได้ว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในดินแดนกฎ แต่เซี่ยเฟยกลับติดใจพลังงานของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เพราะมันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังได้ลิ้มรสอาหารจานโปรด

เมื่อกำลังเสริมไม่มาชายหนุ่มก็ทำได้เพียงแต่กัดฟันต่อสู้อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้เร่งจังหวะการสังหารศัตรู เพราะเขาได้ใช้โอกาสนี้ในการฝึกฝนในระหว่างการต่อสู้

พลังงานจากพวกดาร์คไนท์มีความเสถียรสูงมาก ชายหนุ่มจึงไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของพลังงานและเขาก็ได้ใช้โอกาสอันดีนี้ในการพัฒนาตัวเองด้วย

ฉึก!

ระหว่างที่บลัดบิวเทียสเจาะผ่านทะลุหน้าอกของนักรบดาร์คไนท์ตัวสุดท้าย เซี่ยเฟยก็ทะลวงผ่านอุปสรรคกลายเป็นจักรพรรดิขั้นที่ 3 ไปพร้อม ๆ กัน

วิธีการฝึกกฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิงทำให้เซี่ยเฟยตระหนักว่าการฝึกฝนไม่จำเป็นจะต้องทำในสถานที่อันเงียบสงบเท่านั้น แต่เขายังสามารถทำได้ในระหว่างการเคลื่อนไหวหรือระหว่างการต่อสู้อีกด้วย

สิ่งสำคัญคือการเคลื่อนไหวและฝึกฝนอย่างสมดุลย์กัน ซึ่งในขั้นตอนนั้นมันก็จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงความผันผวนของพลังงาน

อัลฟ่าสอนให้เซี่ยเฟยสามารถทำเรื่องหลาย ๆ เรื่องพร้อม ๆ กันได้ ขณะที่พวกดาร์คไนท์คอยป้อนพลังงานบริสุทธิ์ให้กับชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง และเมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ได้รวมเข้าด้วยกัน มันก็เป็นผลให้ชายหนุ่มสามารถฝึกฝนในระหว่างการต่อสู้ได้สำเร็จ

“พวกมันคืออะไรกันแน่? ทำไมพลังงานของพวกมันถึงให้ความสบายตัวแบบนี้” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ก้มศีรษะใช้มีดแยกศพหลาย ๆ ร่างออกจากกัน เพื่อทำการตรวจดูอวัยวะภายในของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้

แม้ว่าด้านนอกพวกดาร์คไนท์จะดูคล้ายกับมนุษย์ แต่พวกมันกลับไม่มีอวัยวะภายในอย่างเช่นตับหรือหัวใจอยู่ภายในร่างกายเลย ระบบการทำงานภายในร่างกายของพวกมันเป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะมันเต็มไปด้วยอวัยวะขนาดเล็กอันยุ่งเหยิงพันกันจนวุ่นวายไปหมด

เซี่ยเฟยสูดลมหายใจเข้าไปในปอด ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ โดยปกติสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่นอกดินแดนกฎ การที่พวกมันได้ปรากฏตัวที่นี่ในวันนี้ มันก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดาร์คไนท์น่าจะเริ่มเคลื่อนไหวออกมาแล้ว

สิ่งที่ชายหนุ่มได้พบในวันนี้คือนักรบระดับต่ำสุดของดาร์คไนท์อย่างแน่นอน เพราะพวกมันไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีของเซี่ยเฟยได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่านี้จะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไหร่

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงต้นสนไร้วันสลายก็กลับมากลายเป็นปกติ ต้นไม้สีเขียวมรกตต้นใหญ่ต้นนี้ดูมีท่าทางเหนื่อยล้าอยู่เล็กน้อย แต่มันก็ยังคงยืนหยัดอยู่อย่างภาคภูมิใจ

“ยินดีที่ได้ร่วมรบด้วยกันนะ แต่ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะพิชิตนายหรอกนะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะใช้มือตบไปยังลำต้นของต้นสนไร้วันสลายเบา ๆ

ต้นสนไร้วันสลายยังคงนิ่งเฉยไม่ไหวติงและถึงแม้ว่ามันจะอนุญาตให้เซี่ยเฟยเข้ามาใกล้ แต่มันก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยอมจำนน

ยิ่งสิ่งมีชีวิตในจักรวาลมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งมีความหยิ่งผยองมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ขนอุยที่ถึงแม้มันจะดูน่ารักในวันปกติ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันได้แสดงพลังอำนาจของมันออกมา แม้แต่นักรบระดับราชันย์ก็ยังไม่สามารถที่จะประมาทมันได้

ทันใดนั้นแผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน ก่อนที่มันจะมีเสียงดังกำลังเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเร่งความเร็วสุดกำลังก่อนที่เขาจะมองไปยังช่องว่างมิติที่ถูกเปิดออกโดยพวกนักรบดาร์คไนท์

“ที่นี่ไม่ใช่มัดดี้!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาเสียงดัง

ชายหนุ่มไม่รู้ว่าตอนนี้เขามาอยู่ที่ไหนแต่สิ่งนั้นมันยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือมันมีร่างกายขนาดใหญ่โตกำลังกระโดดไปมาในอากาศ และการกระโดดแต่ละครั้งก็ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นราวกับเสียงระเบิด

เจ้าของร่างขนาดใหญ่คือคางคกตัวสีดำ ซึ่งขนาดปากของมันสามารถที่จะกลืนดาวเข้าไปได้ทั้งดวง

ปัง ๆ ๆ

เมื่อได้เห็นคางคกตัวใหญ่ หงส์ครามก็แสดงเจตจำนงแห่งการต่อสู้ออกมาอีกครั้ง แต่ในคราวนี้มันแสดงความกังวลออกมาเล็กน้อยคล้ายกับว่ามันกำลังรู้สึกกลัวศัตรูที่อยู่ตรงหน้า

“นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะไม่เพียงแต่เขาจะถูกเคลื่อนย้ายออกมานอกมัดดี้เท่านั้น แต่เขายังได้พบกับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่มีขนาดร่างกายเทียบเท่ากับดวงดาวหลายสิบดวงอีกด้วย

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็กัดฟันรีบวิ่งกลับไปหาต้นสนไร้วันสลายอีกครั้ง เพื่อเตรียมตัวจะหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้

ต้นสนไร้วันสลายมีความสูงมากกว่า 100 เมตร แต่เมื่อเทียบกับคางคกตัวใหญ่ตรงหน้า ต้นไม้ต้นนี้กลับดูเล็กมากและไม่สามารถนำไปเทียบเคียงกับคางคกตัวนี้ได้เลย

“ฉันรู้ว่านายเก่ง แต่นายไม่มีทางจัดการกับเจ้านั่นด้วยตัวเองได้ มากับฉันแล้วฉันจะพานายออกไปจากที่นี่” เซี่ยเฟยกล่าวขณะที่เขาเหยียดแขนขวาออกไป

ต้นสนไร้วันสลายได้ทำการหยั่งรากลงบนดาวดวงนี้แล้ว มันจึงไม่สามารถที่จะทำการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นวิธีการเดียวที่มันจะหลีกเลี่ยงการถูกคางคกกินคือการหลอมรวมเข้ากับหงส์ครามในมือขวาของเซี่ยเฟย

ต้นสนไร้วันสลายเข้าใจสิ่งที่เซี่ยเฟยพูดเป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่อยากที่จะยอมจำนนต่อนักรบหนุ่ม

ปัง ๆ ๆ

เสียงคางคกกระโดดดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณว่าพวกเขาแทบที่จะไม่เหลือเวลาให้ลังเลอีกแล้ว

ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามออกมาเบา ๆ หงส์ครามพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเติบโต แม้แต่ใบดาบของบลัดบิวเทียสก็กำลังเกิดการสั่นไหว ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าผู้ช่วยที่มีจิตวิญญาณรอบ ๆ ตัวชายหนุ่มต่างก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่จนพวกมันแสดงปฏิกิริยาออกมา

สถานการณ์ในตอนนี้มีทางเลือกให้ชายหนุ่มอยู่เพียงแค่ 2 ทางเท่านั้นคือการพยายามหลบหนีไปโดยเร็วที่สุดหรือยืนหยัดต่อสู้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายลงไป

“สู้ก็สู้ว่ะ!” เซี่ยเฟยก็ขมวดคิ้วพร้อมกับส่งเสียงตะโกนปลุกใจ

***************

หวังว่าสู้จบรอบนี้ต้นสนจะยอมจำนนหรือจะใกล้ตายเลยต้านทานพี่เฟยไม่ไหวกันแน่นะ?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.