ตอนที่ 839 เปลวไฟและสายฟ้า

“ตายซะ!” หวู่หยูหมิงส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับเปลวไฟโหมกระหน่ำที่ลุกท่วมขึ้นมาราวกับสึนามิ

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเคลื่อนที่หลบไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่ต้องการจะเผชิญหน้ากับเปลวเพลิงของศัตรูซึ่ง ๆ หน้าอีกต่อไป

ลาวาละลายลักษณ์ที่หลอมรวมเข้ากับเพลิงผลาญเป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก เพราะถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการปกป้องจากชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์น แต่มันก็ยังทำให้ร่างกายของเขาสัมผัสได้ถึงการเผาไหม้ และถ้าหากว่าชุดเกราะของเขาไม่ได้รับการอัปเกรดมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างของเขา มันก็อาจจะก่อให้เกิดบาดแผลพุพองขึ้นมาจนทั่วทั้งร่างกายได้เลย

ที่แย่กว่านั้นคือลาวาละลายลักษณ์ไม่มีรากเหมือนกับหงส์คราม มันจึงสามารถปะทุขึ้นมาได้จากทุกที่ทุกเวลา เซี่ยเฟยจึงไม่สามารถตามร่องรอยของเปลวเพลิงไปหาผู้ใช้อย่างหวู่หยูหมิงได้

เปลวเพลิงที่ถูกปล่อยออกมารุนแรงมาก และในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีพื้นที่หลายสิบตารางกิโลเมตรก็ถูกปกคลุมไปด้วยทะเลเพลิง

“อดทนไว้!” เซี่ยเฟยพยายามเตือนตัวเองขึ้นมาเบา ๆ

แม้ว่าเขาจะต้องการสังหารหุ่นเชิดของหวู่หยูหมิงลงไปในทันที แต่การทำแบบนั้นมันก็ต้องแลกมากับอาการบาดเจ็บของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญหวู่หยูหมิงยังมีหุ่นเชิดเหลืออยู่อีกมากมาย แม้ว่าเขาจะทำลายหุ่นเชิดตรงหน้าลงไป แต่มันก็คงจะมีหุ่นเชิดตัวใหม่ปรากฏขึ้นมาในเวลาเพียงแค่ไม่นาน

ฟุบ!

เซี่ยเฟยวิ่งวนรอบหุ่นเชิดของหวู่หยูหมิงอย่างรวดเร็ว และพยายามคิดว่าเขาจะทำลายหุ่นเชิดตัวนี้ลงไปยังไงโดยไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับเปลวไฟของศัตรู

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็มองเห็นช่องว่างในเปลวเพลิง เขาจึงรีบถีบเท้าเพื่อเปลี่ยนทิศทางในการวิ่งอย่างรวดเร็ว

หงส์คราม!

ใบหญ้าสีฟ้าขนาดใหญ่พุ่งตัวออกไปในทะเลเพลิงอย่างไม่เกรงกลัว จากนั้นมันก็ใช้แรงบิดอันทรงพลังเพื่อบดขยี้หุ่นเชิดของหวู่หยูหมิงให้แตกออกเป็นชิ้น ๆ

ก่อนที่ชายหนุ่มจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทันใดนั้นมันก็ได้มีสายฟ้าฟาดพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างฉับพลัน และตำแหน่งเป้าหมายของสายฟ้านั้นยังอยู่ห่างจากตัวเขาไปไม่ไกล

เล่ห์กายา!

เซี่ยเฟยบิดร่างกายออกไปด้วยความเร็วสูง เพื่อหลบหลีกสายฟ้าฟาดและปลีกตัวออกไปให้ห่างจากทะเลเพลิง

“ระวังด้วย สายฟ้าบนดาวดวงนี้ทรงพลังมาก มันคือภัยคุกคามอีกอย่างหนึ่งที่น่ากลัวไม่ต่างไปจากเปลวเพลิงพวกนั้นเลย” โอโร่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด

จุดที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบันคือศูนย์กลางของพายุแม่เหล็กไฟฟ้า สายฟ้าที่ฟาดผ่าลงมาจึงสามารถทำร้ายได้แม้กระทั่งราชากฎผู้ทรงพลัง

“อือ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

ทันใดนั้นหุ่นเชิดตัวใหม่ของหวู่หยูหมิงก็ปรากฏตัวออกมา ซึ่งเซี่ยเฟยต้องยอมรับเลยว่าหุ่นเชิดของตระกูลดาร์ดพัพเพทสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่ต่างไปจากร่างคนจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งหุ่นเชิดนี้ยังสามารถส่งพลังการโจมตีออกมาได้อีกด้วย มันจึงกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวที่เซี่ยเฟยยังหาวิธีแก้ไม่ได้

“ไอ้พวกแมลงสาบตายยาก!” เซี่ยเฟยบ่นอย่างรำคาญใจ

สถานการณ์ไม่ได้เอนเอียงมาทางฝั่งของเขาเลย มันจึงไม่ได้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกปวดหัวเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้แต่ขนอุยก็กำลังรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากอีกด้วย

ท้ายที่สุดอาวุธมายาและอสูรศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกัน หากขนอุยผลีผลามเข้าไปในทะเลเพลิง มันย่อมได้รับบาดแผลพุพองกลับคืนมา เซี่ยเฟยจึงพยายามเหนี่ยวรั้งเจ้าตัวน้อยเอาไว้เพื่อไม่ให้มันเคลื่อนไหวจนได้รับบาดเจ็บ

แม้ว่าขนอุยจะสามารถใช้พลังงานห่อหุ้มร่างเพื่อปกป้องเปลวเพลิงพวกนั้นได้ แต่การเคลื่อนไหวแบบนั้นมันก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาลด้วยเช่นกัน เซี่ยเฟยจึงไม่อยากจะให้ขนอุยใช้พลังงานโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร เพราะถึงแม้ว่าเขาจะพยายามให้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 กับมันทุกวัน แต่ขนอุยก็ยังไม่สามารถเติมเต็มพลังงานกลับมาได้จนถึงระดับก่อนที่มันจะบาดเจ็บสาหัสในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้เลย

หงส์ครามบิดตัวไปมาท่ามกลางทะเลเพลิงเพื่อทำลายหุ่นเชิดของหวู่หยูหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็ทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะท้ายที่สุดธาตุพืชก็ยังคงแพ้ทางธาตุไฟตามหลักการของธรรมชาติอยู่ดี

เปลวเพลิงจากลาวาละลายลักษณ์สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับหงส์ครามครั้งแล้วครั้งเล่า เศษใบหญ้าเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกแผดเผาจึงปลิวลอยไปทั่วทั้งบริเวณ

โชคดีที่หงส์ครามได้หลอมรวมอาวุธมายาเข้าไปอีกสองชิ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ได้กลืนกินเบญจมาศดาวกระจาย มันจึงทำให้หงส์ครามมีพลังงานเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ประกอบกับความดื้อรั้นที่มันมีมาตั้งแต่เดิมจึงทำให้หงส์ครามยังคงดิ้นรนท่ามกลางเปลวเพลิงอย่างไม่ยอมแพ้

—

ยิ่งเวลาผ่านไปสีหน้าของหวู่หยูหมิงที่ซ่อนตัวอยู่ในระยะไกลก็บิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถึงแม้ว่าลาวาละลายลักษณ์จะสามารถหยุดยั้งหงส์ครามเอาไว้ได้ แต่มันก็ไม่สามารถที่จะทำลายใบหญ้าที่น่ารำคาญพวกนี้ได้เลย 

ยิ่งไปกว่านั้นอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างขนอุยก็เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้ว่าในปัจจุบันมันจะยังไม่มีโอกาสอาละวาด แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อสูรตัวน้อยตัวนี้เริ่มเคลื่อนไหว มันก็จะมีความอันตรายไม่ต่างไปจากเจ้านายของมัน

ที่สำคัญกว่านั้นคือความเร็วของเซี่ยเฟยเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถจะประมาทได้เลย การเผยช่องว่างออกไปเพียงแค่เล็กน้อยก็เพียงพอจะทำให้นักรบสกายวิงคว้าโอกาสจู่โจมเข้าใส่ช่องว่างนั้นได้ในทันที ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในปัจจุบันเอาไว้ได้ แต่มันก็ยังคงห่างไกลจากการพยายามคุกคามชีวิตของศัตรูอยู่ดี

“ตายไปซะ!” ในที่สุดหวู่หยูหมิงก็ตัดสินใจหยิบหุ่นไม้ออกมาจากแหวนมิติจำนวนร้อยกว่าตัว จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือกดลงไปบนหุ่นไม้ตัวหนึ่งพร้อมกับส่งเสียงพึมพำอะไรขึ้นมาบางอย่าง

พริบตาต่อมาหุ่นไม้ตัวนั้นก็หายเข้าไปภายในมือของหวู่หยูหมิง ก่อนที่จะมีตัวเขาอีกคนปรากฏขึ้นมาในสนามรบ จากนั้นหุ่นเชิดตัวใหม่ก็เริ่มใช้กฎมิติจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยอย่างบ้าคลั่ง

วิชาหุ่นเชิดของหวู่หยูหมิงถือว่าเป็นความสามารถที่น่ากลัวมากจริง ๆ เพราะไม่เพียงแต่เขาจะสามารถสร้างหุ่นเชิดที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเองขึ้นมาได้เท่านั้น แต่หุ่นเชิดพวกนี้ยังสามารถใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย และถึงมันจะไม่ได้มีพลังต่อสู้เทียบเท่าได้กับร่างจริง แต่พวกมันก็มีความได้เปรียบในเรื่องของปริมาณ

หวู่หยูหมิงเริ่มนั่งพักผ่อนเล็กน้อย เพราะการสร้างหุ่นตัวใหม่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาล เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้คริสตัลต้นกำเนิดเพื่อเติมเต็มพลังงาน ก่อนที่จะเริ่มสร้างหุ่นเชิดตัวใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อหุ่นเชิดถูกเพิ่มเข้ามาในสนามรบมากขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์ของเซี่ยเฟยก็เริ่มเข้าสู่ช่วงวิกฤตด้วยเช่นกัน

สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ใช่เซี่ยเฟยกำลังเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดเพียงลำพังอีกต่อไป เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทะเลเพลิงอันร้อนแรงก็ยังคงโหมกระหน่ำเข้ามาไม่หยุด

ความนิ่งเฉยของเซี่ยเฟยทำให้ขนอุยรู้สึกประหลาดใจ เพราะชายหนุ่มดูคล้ายกับจงใจจะอยู่ท่ามกลางหุ่นเชิดเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

เมื่อจำนวนหุ่นเชิดเพิ่มมากขึ้น การโจมตีก็ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวราวกับปลาไหลเพื่อหลบหลีกการโจมตีที่โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะรุนแรงแค่ไหน เซี่ยเฟยก็ไม่เคยก้าวเท้าออกจากพื้นที่เล็ก ๆ นี้เลย เขายังคงพัวพันศัตรูอยู่ในบริเวณนั้นอย่างไม่ลดละ

“นายกำลังทำบ้าอะไรอยู่? ตอนนี้นายควรปลีกตัวออกไปแล้วค่อย ๆ จัดการกับหุ่นเชิดไปทีละตัว!” โอโร่ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

สถานการณ์เริ่มวิกฤตมากขึ้นเรื่อย ๆ และถึงแม้ว่าตอนนี้เซี่ยเฟยจะสามารถใช้ความเร็วหลบหลีกการโจมตีพวกนั้นได้ แต่สุดท้ายการหลบเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับชัยชนะเหนือศัตรู

แม้ว่าโอโร่จะส่งเสียงตะโกนขึ้นมาไม่หยุด แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงเคลื่อนไหวอย่างเด็ดเดี่ยวคล้ายกับว่าเขายังคงยึดมั่นกับแผนการที่เขาวางเอาไว้

ตอนนี้เซี่ยเฟยเลือกที่จะคอยป้องกันตัวเองเท่านั้น โดยไม่คิดที่จะจู่โจมโต้กลับไปแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่อนุญาตให้ขนอุยทำการโจมตี มันจึงยิ่งทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำลายศัตรูของมันได้

ในชั่วพริบตาหุ่นเชิดในสนามรบก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาถึง 117 ตัว ขณะที่พื้นที่บริเวณโดยรอบกำลังลุกท่วมด้วยเปลวเพลิง

“ดูสิว่าแกจะดิ้นรนต่อไปได้อีกนานสักแค่ไหน?!” หวู่หยูหมิงร้องคำรามขึ้นมาจากระยะไกลด้วยใบหน้าที่ดุร้าย

ขบวนทัพเคลื่อนกำลัง!!

ทันทีที่หวู่หยูหมิงออกคำสั่ง หุ่นเชิดทั้ง 117 ตัวก็เริ่มรวบรวมพลังเพื่อจู่โจมเข้าใส่ศัตรูในครั้งเดียว

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่หุ่นเชิดทั้งหมดกำลังรวบรวมพลัง เซี่ยเฟยก็เริ่มมาตรการตอบโต้หลังจากที่เขานิ่งเฉยมาเป็นเวลานาน

ดาบดราก้อนสเกล!

วิญญาณหวน!

อาวุธทั้งสองชิ้นเริ่มแตกกระจายออกไปพร้อม ๆ กัน ก่อนที่พวกมันจะโบยบินขึ้นไปบนเมฆดำที่อยู่ทางด้านบน

“นั่นนายจะทำอะไร?” โอโร่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“โลหะส่วนใหญ่ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้า ยิ่งไปกว่านั้นดาร์คเมทัลที่ใช้ในการสร้างวิญญาณหวนขึ้นมายังเป็นแหล่งนำไฟฟ้าชั้นดีอีกด้วย”

การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยทำให้สายฟ้าในก้อนเมฆเริ่มรวมกำลังกันอย่างรวดเร็ว เสียงฟ้าร้องจึงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับว่ามันกำลังจะมีพายุไฟฟ้าระเบิดออกมาอีกไม่กี่นาทีนี้

ในที่สุดโอโร่ก็เข้าใจแล้วว่าเซี่ยเฟยกำลังพยายามจะทำอะไร ที่แท้ชายหนุ่มก็ต้องการที่จะดึงสายฟ้าที่ถูกสะสมในก้อนเมฆมาเป็นเวลานานในการทำลายศัตรูในคราวเดียว

สิ่งที่เซี่ยเฟยพยายามทำมาโดยตลอดคือการเก็บสะสมพลังงานเอาไว้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ศัตรูต้องการจะพิฆาตเขา เมื่อนั้นมันก็จะเป็นเวลาที่เขาจะพิฆาตศัตรูด้วยเช่นกัน

หุ่นเชิดทั้ง 117 ตัวนี้น่าจะเป็นหุ่นเชิดทั้งหมดของหวู่หยูหมิงแล้ว เซี่ยเฟยจึงเริ่มทำการเคลื่อนไหวเพื่อทำลายหุ่นเชิดทั้งหมดลงไปในคราวเดียว

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างน่ากลัว จากนั้นเขาก็สะบัดมือจากด้านบนลงมาด้านล่างเพื่อชักนำสายฟ้าปริมาณมหาศาลให้เหนี่ยวนำเข้าหาศัตรู

เปรี้ยง!!

***************

กำจัดหุ่นเชิดในคราวเดียว! เฉียบ!!