ตอนที่ 837 ดาร์ดพัพเพท
ตอนที่ 837 ดาร์ดพัพเพท
“ฉันทิ้งผมเส้นหนึ่งเอาไว้ในรูกุญแจ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว” หวู่หยูหมิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
เซี่ยเฟยชะงักค้างไปเล็กน้อย เพราะวิธีการทิ้งเส้นผมเอาไว้ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่เขากลับไม่สังเกตเห็นผมเส้นนั้นในระหว่างที่เขาบุกเข้ามาภายในห้องนี้เลย
คำอธิบายเดียวที่เขาสามารถบอกได้สำหรับเหตุการณ์นี้ นั่นก็คือสายลับของสกายวิงเคลื่อนไหวอย่างประมาทเกินไปและเป็นสาเหตุที่ทำให้หวู่หยูหมิงได้รู้ตัว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าเขาเป็นคนของสกายวิง แต่หวู่หยูหมิงก็ยังคงรักษาท่าทีเอาไว้อย่างสงบ
ราชากฎขั้นที่ 3 มีความมั่นใจในระดับนี้ได้ยังไง?
เพราะคนทั่วทั้งจักรวาลต่างก็รู้ว่าพลังเพียงแค่นี้ไม่สามารถหยุดความเร็วของสกายวิงเอาไว้ได้?
คำถามมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเซี่ยเฟย พูดตามหลักการและเหตุผลแล้วชายหนุ่มสมควรจะลงมือสังหารหวู่หยูหมิงในทันทีที่เขาเดินเข้ามา
แต่สาเหตุที่เซี่ยเฟยยังไม่เลือกจะลงมือนั้นก็เพราะอีกฝ่ายเดินเข้ามาภายในห้องอย่างสงบมากเกินไป และช่วงเวลาที่หวู่หยูหมิงเกิดอาการลังเลที่หน้าประตู มันก็หมายความว่าชายคนนี้รับรู้ถึงศัตรูได้ล่วงหน้าแล้ว
ด้วยความมั่นใจของอีกฝ่ายเซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแผนจากการลอบสังหารเป็นการสังหารศัตรูอย่างเปิดเผย
เหตุการณ์นี้ทำให้หวู่หยูหมิงรู้สึกผิดหวังด้วยเช่นกัน เพราะเซี่ยเฟยไม่ได้เคลื่อนไหวทันทีอย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้ การที่เขาลังเลเพียงแค่เล็กน้อยทำให้เซี่ยเฟยเปลี่ยนกลยุทธ์ในทันที ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าศัตรูคนนี้ไม่ใช่ศัตรูที่เขาสามารถรับมือได้ง่าย ๆ
มันคงจะไม่มีใครคาดคิดว่าเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากที่ลูกนอกสมรสของเซียงจินเฉิงเดินเข้ามาในประตู การเผชิญหน้ารอบแรกระหว่างเซี่ยเฟยกับหวู่หยูหมิงก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ทำไมแกถึงไม่ลงมือทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้ามา?” หวู่หยูหมิงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
“นั่นก็เพราะว่าแกรอให้ฉันเคลื่อนไหวอยู่แล้ว ถึงแม้ฉันจะไม่รู้เหตุผลว่าแกต้องการแบบนั้นไปทำไม แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้คือฉันไม่ควรเคลื่อนไหวตามแผนการของศัตรู” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างใจเย็น
หวู่หยูหมิงเหลือบสายตามองเซี่ยเฟยในความมืดอย่างสงสัย ทันใดนั้นมือขวาของเขาก็ถูกสะบัดออกไปพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโหมกระหน่ำขึ้นมาในทันที
‘อาวุธมายา! อาวุธมายาที่หลอมรวมแล้วด้วย!!’ เซี่ยเฟยอุทานภายในใจอย่างตื่นตระหนก เพราะเขาสามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายของอาวุธมายาได้อย่างฉับพลัน
แม้อาวุธมายาของหวู่หยูหมิงจะเป็นอาวุธมายาธาตุไฟ แต่กลิ่นอายของอาวุธมายาที่ถูกหลอมรวมกันแล้วก็ทำให้เซี่ยเฟยสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ในทันที และเรื่องนี้มันก็ทำให้เขาได้ตระหนักว่าเขาไม่ใช่บุคคลเพียงคนเดียวที่ครอบครองอาวุธมายาที่หลอมรวมกัน
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะรู้สึกตกตะลึงกับอาวุธมายาของอีกฝ่าย แต่คำพูดของโอโร่มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้น
“โชคดีที่ตอนแรกนายไม่ได้บุกเข้าไปโดยพลการ หวู่หยูหมิงเป็นผู้ใช้กฎแห่งความมืด ถ้าฉันเดาไม่ผิดเขาน่าจะเป็นลูกผสมระหว่างคนของเผ่าเทพกับคนของเผ่ามาร” โอโร่กล่าว
ในที่สุดความจริงที่เซี่ยเฟยเคยสงสัยก็ถูกเปิดเผย แล้วมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหวู่หยูหมิงถึงต้องซ่อนตัวถึงขนาดนั้น นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นลูกผสมของสองเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนาน
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยไม่มีเวลาคิดว่าทำไมเซียงจินเฉิงถึงมีลูกชายเลือดผสมแบบนี้ได้ แล้วทำไมอาวุธมายาของตระกูลมูนวอร์ดถึงมาอยู่ในมือของหวู่หยูหมิง เพราะทันทีที่เลือดผสมคนนี้เริ่มโจมตีอีกฝ่ายก็ปลดปล่อยไฟออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เปลวไฟโหมกระหน่ำขึ้นมาอย่างรุนแรงภายในพริบตา ต่อมาเสาเพลิงขนาดใหญ่ก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและทำให้ตัวอาคารถูกเผาไหม้จนกลายเป็นตอตะโก
ชายหนุ่มใช้ความเร็วพุ่งทะลุหน้าต่างออกมาอย่างว่องไว เพราะเปลวไฟของศัตรูไม่ใช่เปลวไฟธรรมดาแต่เป็นเปลวไฟของอาวุธมายา หากเขาสัมผัสกับเปลวไฟเหล่านั้นเข้าไปแม้แต่ครั้งเดียว มันก็อาจจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบได้เลย
เมืองแคบ ๆ ไม่เอื้ออำนวยให้เขาสามารถใช้พลังความเร็วได้เต็มที่ เขาจึงรีบวิ่งออกไปยังพื้นที่โล่งที่อยู่บริเวณนอกเมือง
อย่างไรก็ตามทันทีที่ชายหนุ่มหยุดวิ่ง มันก็มีเรื่องน่าแปลกใจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เพราะมันมีลูกบอลเปลวไฟกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาจากบนท้องฟ้า
กฎมิติ!
เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะเมื่อสักครู่นี้หวู่หยูหมิงเพิ่งจะใช้กฎแห่งความมืดเพื่อซ่อนอาวุธมายาของตัวเอง แต่ในคราวนี้อีกฝ่ายกำลังใช้กฎมิติเพื่อติดตามเขามาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีหวู่หยูหมิงก็ได้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้กฎแห่งความมืด, กฎมิติหรืออาวุธมายาธาตุไฟที่ถูกหลอมรวม
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ตระหนักได้ในทันทีว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้าคืออัจฉริยะ เพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าการที่อีกฝ่ายสามารถใช้กฎของเทพกับมารได้ มันคือความสามารถพิเศษของพวกลูกผสมหรือเปล่า
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยรีบบิดตัวกระโดดหลบออกไปอีกครั้ง ก่อนที่ลูกบอลไฟลาวากับลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่จะพุ่งลงมากระแทกกับพื้น
ตูม!
พลังของอาวุธมายาธาตุไฟมีความรุนแรงแตกต่างจากอาวุธมายาธาตุพืชของเซี่ยเฟยโดยสิ้นเชิง เพราะถึงแม้ว่าอาวุธของอีกฝ่ายจะเกิดจากการหลอมรวมกันของอาวุธสองชนิด แต่พลังทำลายที่มันสร้างขึ้นมาก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่เหนือเกินกว่าพลังทำลายของหงส์ครามเสียอีก
ชายหนุ่มวิ่งวนรอบหวู่หยูหมิงด้วยความเร็วสูง แต่ลูกผสมคนนี้สร้างกำแพงเปลวไฟขนาดใหญ่ล้อมรอบตัวเองเอาไว้ จนทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถใช้ความเร็วในการจู่โจมเข้าใส่ศัตรูได้
ช่องว่าง!
เมื่อมีช่องว่างเล็ก ๆ ในกำแพงเปลวไฟปรากฏขึ้นมา ชายหนุ่มก็รีบพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็ว 480,000 เมตรต่อวินาที
การป้องกันของกำแพงเปลวไฟเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เมื่อเขาพบช่องว่างเขาจึงต้องการจะใช้บลัดบิวเทียสเพื่อสังหารศัตรูโดยเร็วที่สุด
เมื่อชายหนุ่มเคลื่อนที่ผ่านเปลวไฟมาได้สำเร็จ ในที่สุดเขาก็ได้พบกับกลุ่มหมอกสีดำที่ถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยเปลวไฟอันโหมกระหน่ำ
ฉัวะ!
ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นปรับเปลี่ยนรูปร่างเข้ามาป้องกันเปลวไฟบริเวณด้านหน้าอย่างสุดกำลัง จนทำให้ชายหนุ่มสามารถพุ่งฟันเข้าใส่ร่างที่อยู่ท่ามกลางความมืดได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามการโจมตีในครั้งนี้ก็ทำให้เซี่ยเฟยสะดุ้งในทันที เพราะสัมผัสจากการฟันมันไม่ใช่สัมผัสของการฟันผ่านเนื้อหนัง แต่มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังฟันเข้าใส่ท่อนไม้แข็ง ๆ
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าหมอกดำกำลังเคลื่อนที่เข้ามาบดบังดวงตาของเขา จนทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบเริ่มตกอยู่ในความพล่ามัว ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งออกมาทะลุกำแพงเปลวไฟโดยไม่สนใจความร้อนอีกต่อไป เพราะความรู้สึกนี้ทำให้เขาไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเซี่ยเฟยวิ่งทะลุกำแพงเปลวไฟออกมาได้สำเร็จและมองเห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจนอีกครั้ง มันก็ทำให้เขารู้สึกตกตะลึง เพราะสิ่งที่เขาจู่โจมเข้าใส่เมื่อสักครู่คือหุ่นไม้ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ และหุ่นไม้นั้นก็กำลังถูกเผาไหม้จนเกือบจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
“กฎแห่งการบังคับหุ่นเชิด! ฉันรู้แล้วแม่ของหวู่หยูหมิงจะต้องเป็นคนจากตระกูลดาร์ดพัพเพท!!”
“ตระกูลดาร์ดพัพเพทเป็นหนึ่งในตระกูลของแดนมารที่มีความเชี่ยวชาญในการบังคับหุ่นเชิดมาก และถ้าหากว่าใครไม่ทันได้สังเกตดี ๆ ศัตรูก็อาจจะถูกหุ่นเชิดของพวกเขาหลอกเอาได้” โอโร่อุทานขึ้นมาเสียงดัง
ก่อนหน้านี้หวู่หยูหมิงก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีความเชี่ยวชาญทางด้านการใช้กฎแห่งความมืด, กฎมิติและอาวุธมายาธาตุไฟ ตอนนี้เขายังได้แสดงออกมาอีกว่าเขามีความเชี่ยวชาญในการใช้กฎแห่งการบังคับหุ่นเชิด มันยิ่งทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
หุ่นเชิดของหวู่หยูหมิงค่อย ๆ เดินออกมาจากกำแพงเปลวไฟด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย
“แกมีพลังในระดับจักรพรรดิกฎสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ใช่! แกเก่งดีนี่ นี่ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เตรียมหุ่นเชิดเอาไว้ ตอนนี้ฉันคงจะถูกดาบแปลก ๆ ของแกฟันเข้าใส่ไปแล้ว” หวู่หยูหมิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
เหตุการณ์เริ่มยุ่งยากมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะลูกนอกสมรสของเซียงจินเฉิงคนนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นลูกผสมระหว่างคนของเผ่าเทพกับคนของเผ่ามารเท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังมีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎอีกด้วย
หากเซี่ยเฟยประมาณการไม่ผิด อย่างน้อยพลังของชายคนนี้ก็สมควรที่จะอยู่ระดับจักรพรรดิกฎขั้นที่ 2
ที่แย่ไปกว่านั้นคือหวู่หยูหมิงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ร่างที่แท้จริง แต่เป็นหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมในระยะไกล ส่วนตัวจริงยังคงกำลังใช้เปลวไฟจู่โจมจากระยะไกลมาตั้งนานแล้ว
“กฎแห่งการบังคับหุ่นเชิดช่างเป็นพลังที่น่ารำคาญจริง ๆ คุณพอจะมีวิธีทำลายมันไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
“ถ้าวิธีการของพวกเขาทำลายได้ง่าย ๆ ตระกูลของพวกเขาคงจะไม่สามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหวู่หยูหมิงยังมีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎด้วย กฎแห่งการบังคับหุ่นเชิดของเขาก็น่าจะมีระดับที่สูงมาก บางทีเขาอาจจะสามารถควบคุมหุ่นเชิดของตัวเองได้จากดาวอีกดวงด้วยซ้ำ” โอโร่กล่าวพร้อมกับส่ายหัว
เซี่ยเฟยค่อย ๆ หลับตาลงด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด และเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งมันก็เผยให้เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดงก่ำ
เนตรมนตราเต็มกำลัง!
แม้ว่าวิชาเนตรมนตราจากวิชามนตราอสูรจะถูกออกแบบมาเพื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรในจักรวาล แต่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังงานไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย การใช้วิชาเนตรมนตราจึงทำให้เซี่ยเฟยสามารถมองหาศัตรูผ่านเปลวไฟวิญญาณเหล่านี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเนตรมนตรายังช่วยเพิ่มระยะการมองเห็นให้กับเขาได้อีกด้วย
“ตรงนั้น!” ในที่สุดชายหนุ่มก็ได้พบศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ไกลออกไปมากกว่า 1,000 กิโลเมตร เขาจึงรีบวิ่งเข้าหาหวู่หยูหมิงด้วยความเร็วเต็มกำลังในทันที
ร่างที่ซ่อนตัวอยู่ในหมอกดำสะดุ้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะเขาไม่คิดว่าเขาจะถูกศัตรูค้นพบตัวตนได้อย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้ หวู่หยูหมิงจึงรีบเปิดใช้งานเข็มทิศมิติเพื่อหลบหนีเข้าไปยังด้านใน
ต่อมาประตูมิติก็ค่อย ๆ ปิดตัวลงเรื่อย ๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ประตูบานนี้ปิดลงสนิท เซี่ยเฟยคงจะไม่สามารถตามหาร่องรอยของอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ
‘ฉันจะปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้เด็ดขาด!!’ เซี่ยเฟยตะโกนภายในใจ เพราะถ้าหากหวู่หยูหมิงสามารถหลบหนีไปได้ สมาชิกระดับล่างของตระกูลก็จะตกอยู่ในอันตรายทันที
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเซี่ยเฟยจะต้องสังหารหวู่หยูหมิงลงในวันนี้ให้ได้!!
ชายหนุ่มรีบเร่งความเร็วให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก่อนที่เขาจะกระโดดมุดตัวเข้าไปในช่องว่างประตูมิติที่ถูกปิดลงมาจนแคบเต็มที
***************
เอาอีกแล้วพุ่งเข้าไปในประตูมิติแบบนี้อีกแล้วววว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 329
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น