บทที่ 366 ลอบโจมตี

“ทำไมคุณถึงคิดจะโจมตีป้อมของฉงป้าก่อนล่ะ?” หวังเถิงถามด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ทุกคนหันมามองหน้าเขาด้วยความตกใจ

“ความจริงผมก็อยากจะโจมตีป้อมวินด์ธันเดอร์อยู่เหมือนกัน แต่ในตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

“ทำไมล่ะ?” ในใจของหวังเถิงก็อยากจะโจมตีป้อมของลู่หยางลงเหมือนกัน เพราะการโค่นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองเซนต์กอลล์ถือเป็นการประกาศแสนยานุภาพแล้วมันยังจะทำให้ลิ่วเจียมองเขาในแง่ดีกว่าเดิมอีกด้วย

“ผมกับแบล็คบลัดเพิ่งจะไปสืบข่าวที่เมืองเซนต์กอลล์มาและจากสายลับที่พวกเราแฝงตัวไว้ในกิลด์ต่าง ๆ มันก็ดูเหมือนกับว่าฉือมู่, ฉงป้า, เหลยหลงและเฉียนเฉียนกำลังเจรจาพันธมิตรกับลู่หยางเพื่อสร้างกองกำลังมาต่อต้านการร่วมมือของพวกเรา” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

“พูดต่อไปเลย” หวังเถิงกล่าวโดยแววตาได้เปลี่ยนไปอย่างคมกริบ

โซลออฟอีเทอนิตี้สังเกตเห็นว่าหวังเถิงให้ความสนใจกับข่าวนี้มาก เขาจึงพูดต่อขึ้นมาว่า

“ถึงแม้พวกเขาจะพยายามเจรจาเป็นพันธมิตรกันก็จริง แต่การเจรจากลับล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ฉือมู่กับฉงป้าต้องการให้ลู่หยางไปเป็นกองหน้า ขณะที่ทางฝั่งของลู่หยางก็รู้ทันพวกเขาจึงแยกย้ายกันไปอย่างไม่ค่อยลงรอย”

“ตาเฒ่าฉือมู่ยังชอบใช้เล่ห์เหลี่ยมอยู่เหมือนเดิมสินะ ส่วนฉงป้าก็ทำเสียชื่อของตัวเองเปล่า ๆ ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้แล้วใครจะยอมโง่มาเป็นเหยื่อแทนพวกมัน” หวังเถิงกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะเยาะ

“ใช่ครับ หลังจากที่ลู่หยางปฏิเสธข้อเสนอของทั้งสองคนนั้นไป พันธมิตรของพวกเขาก็เหลืออยู่เพียงแค่ 4 กิลด์เท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าในอีกไม่นานพวกเขาคงจะประกาศเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้ ในตอนนั้นพันธมิตรของพวกเขาจะมีจำนวนสมาชิกไม่น้อยกว่าพวกเรา ขณะที่กำลังทรัพย์ของฉงป้ากับฉือมู่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากำลังทรัพย์ของคุณชายลิ่วเจียอย่างแน่นอน ถ้าเราไม่กำจัดฉงป้าหรือฉือมู่ไปตั้งแต่เนิ่น ๆ มันก็จะทำให้พวกเขาพัฒนากลายเป็นภัยคุกคามใหญ่ของพวกเราในอนาคต” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

“สิ่งที่คุณพูดมันก็มีเหตุผล ลู่หยางเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่โชคดีสร้างกิลด์มาได้จนถึงตอนนี้โดยปราศจากนายทุนหนุนหลัง แต่ทั้งฉงป้าและฉือมู่ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีกำลังทรัพย์ขนาดใหญ่ การโค่นล้ม 1 ใน 2 คนนี้โดยเร็วที่สุดน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีของพวกเรา” หวังเถิงกล่าว

“ผมกับแบล็คบลัดได้ปรึกษากันอย่างละเอียดแล้วว่าการโจมตีฉงป้าคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุด เพราะป้อมปราการของเขาอยู่ใกล้กับป้อมปราการของบลัดไทแรนท์ หากเราระดมอุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30 ไปให้บลัดไทแรนท์ยืม เขาก็จะสามารถสร้างกองกำลังผู้เล่นชุดทองประมาณ 30,000 คนได้ในเวลาเพียงแค่ประมาณครึ่งเดือน” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

“ผมจะรีบสั่งให้ลูกน้องเก็บเลเวลโดยเร็วที่สุด คาดการณ์ว่าผมจะมีกองกำลังผู้เล่นเลเวล 30 จำนวน 50,000 คนภายในครึ่งเดือน” บลัดไทแรนท์กล่าว

“หากคุณมีกองกำลังผู้เล่นเลเวล 30 จำนวน 50,000 คนแบบนั้นก็ดีเลย เมื่อเริ่มโจมตีคุณสามารถนำผู้เล่นทั้งหมดที่มีเลเวล 20 ขึ้นไปโจมตีป้อมปราการของฉงป้า ในขณะที่พวกเราจะทำการถ่วงเวลาพันธมิตรของพวกมันเอาไว้ ผมคาดว่าในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 4 ชั่วโมง คุณก็น่าจะยึดป้อมปราการแบล็คร็อคมาได้แล้ว” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

“ทางฉันไม่มีปัญหา” บลัดไทแรนท์กล่าว

“คุณลืมเรื่องหนึ่งไปหรือเปล่า? ถ้าหากตอนนั้นลู่หยางส่งกองกำลังมาช่วยฉงป้าล่ะ บลัดไทแรนท์จะไม่เจอกับปัญหางั้นเหรอ?” บลูสกายหัวหน้ากิลด์บลูคริสตัลถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เพราะท้ายที่สุดทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่าบลัดไทแรนท์เคยนำทัพพ่ายแพ้ลู่หยางมาแล้วถึง 3 ครั้ง

บลัดไทแรนท์มองไปทางบลูสกายด้วยความโกรธ แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรขึ้นมาโซลออฟอีเทอนิตี้กลับพูดขึ้นมาเสียก่อน

“นี่คือจุดสำคัญของแผนที่ผมได้วางเอาไว้ โดยผมตั้งใจจะใช้เวลาที่บลัดไทแรนท์นำทีมไปเก็บเลเวลเพื่อยุยงให้ลู่หยางแตกคอกับพวกฉงป้า”

“คุณจะยุยังไง?” บลูสกายถาม

“ก่อนหน้านี้ลู่หยางสั่งให้กองกำลังของเซี่ยหยู่เว่ย 80,000 คนไปเก็บเลเวลในพื้นที่ติดกับพื้นที่ของผม ผมจึงอยากจะขออนุญาตให้ประธานหวังประกาศรางวัลตั้งค่าหัวสมาชิกของบลัดบราเธอร์ว่าถ้าหากใครสังหารคนพวกนี้พร้อมกับอัดวีดีโอมาเป็นหลักฐาน พวกเขาก็จะได้รับค่าตอบแทนกลับไปจำนวน 10 เหรียญเงินในทันที” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

เงินจำนวน 10 เหรียญเงินเทียบเท่ากับเงิน 30 เครดิต หากพวกเขาสังหารสมาชิกบลัดบราเธอร์ได้แค่ 10 คนต่อวัน มันก็ทำให้พวกเขาหาเงินได้ถึง 300 เครดิตแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าโอกาสจะหาเงินง่าย ๆ แบบนี้มันก็ไม่ได้มีให้พบเห็นกันบ่อย ๆ

“การทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาแตกคอกันได้ยังไง?” บลูสกายถาม

“ฉือมู่กับฉงป้าเพิ่งจะมีปัญหากับลู่หยางไปไม่นาน ขณะที่ลู่หยางก็เพิ่งสร้างป้อมปราการขึ้นมา 2 แห่ง ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาจะต้องกำลังขาดแคลนเงินหมุนเวียนภายในกิลด์อย่างแน่นอน เมื่อเราเข้าทำลายบลัดบราเธอร์ ฉือมู่กับฉงป้าก็คงจะยืนดูสถานการณ์นี้อย่างสะใจ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราโจมตีป้อมแบล็คร็อค ในเวลานั้นลู่หยางย่อมไม่มีทางจะยกทัพมาช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน” โซลออฟอีเทอนิตี้อธิบาย

บลัดไทแรนท์เปิดแผนที่ 3 มิติขึ้นมาบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปยังตำแหน่งระหว่างป้อมปราการวินด์ธันเดอร์และป้อมปราการคริมสัน

“ตอนนี้ลู่หยางได้ครอบครองพื้นที่อยู่ 3 โซนคือพื้นที่ทางตอนเหนือ, พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและพื้นที่ทางตะวันตก แม้พื้นที่พวกนี้จะมีขนาดใหญ่มาก แต่พวกเขาก็มีสมาชิกอยู่เพียงแค่ประมาณ 300,000 คน สมาชิกของพวกเขาจึงกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตราบใดก็ตามที่ประชาชนรุมฆ่าคนของบลัดบราเธอร์ พวกเขาย่อมจะต้องสั่งกระชับกองกำลังให้อยู่รวมกันอย่างแน่นอน”

“การเสียชีวิต 1 ครั้งจะทำให้ผู้เล่นเสียค่าประสบการณ์ 10% หากผู้เล่นคนนั้นมีเลเวลถึง 30 แล้วค่าประสบการณ์ 10% มันก็คิดเป็นค่าประสบการณ์หลายแสนหน่วย หากพวกเขาถูกสังหารจนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก มันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลานานกว่าที่พวกนั้นจะฟื้นฟูความแข็งแกร่งขึ้นมาได้”

“แผนนี้ดีใช้ได้ นอกเหนือจากเราจะทำให้บลัดบราเธอร์กระชับพื้นที่เข้าไปเพื่อป้องกันตัวเองแล้วเรายังทำให้พวกเขารับคนเข้ากิลด์ได้ช้าลงอีกด้วย หากแผนการทุกอย่างเป็นไปด้วยดี บางทีจำนวนคนออกจากกิลด์ก็อาจจะมากกว่าจำนวนคนที่สมัครเข้ากิลด์ด้วยซ้ำ รอบแรกฉันอนุมัติเงินให้ 100,000 เหรียญทอง เชิญเอาเงินก้อนนี้ไปเล่นสนุกกับไอ้พวกบลัดบราเธอร์ได้เลย” หวังเถิงกล่าว

—

แม่น้ำฟีลิส

พื้นที่บริเวณนี้เป็นชายแดนระหว่างป้อมปราการวินด์ธันเดอร์และป้อมปราการซีดราก้อน เซี่ยหยู่เว่ยนำกองกำลัง 20,000 คนมาเก็บเลเวลในพื้นที่นี้ด้วยตัวเอง โดยมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในแผนที่จะมีเลเวลอยู่ในช่วง 20-30

แต่ในระหว่างที่เธอกำลังนำทีมเก็บเลเวลอยู่นั้น หยางหวางก็เข้ามารายงานกับเซี่ยหยู่เว่ยว่า

“หัวหน้า กองพลที่ 8 ของเราถูกผู้เล่นที่ไม่รู้จักโจมตีจนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 200 คนครับ”

“เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ? พวกเขาถูกคนธรรมดาแบบนั้นฆ่าตายได้ยังไง?” เซี่ยหยู่เว่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“พวกเขาไม่ได้ถูกซุ่มโจมตีพร้อม ๆ กันครับ แต่พวกเขาแบ่งออกเป็นทีมเล็ก ๆ ทีมละ 5 คนกระจายตัวกันเก็บเลเวล จู่ ๆ พวกเขาก็ถูกศัตรูที่ไม่รู้จักดักโจมตีทุกคนเลยเสียชีวิตกันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว” หยางหวางอธิบาย

“แบล็คบลัดนำคนมาแก้แค้นเราหรือเปล่า?” หลานอวี่กล่าว

“บอกให้ดาร์คไนท์นำคนไปจัดการซะ ส่วนคนอื่นนำทีมเก็บเลเวลต่อ” เซี่ยหยู่เว่ยสั่ง

ดาร์คไนท์เป็นหัวหน้ากองโจรที่เซี่ยหยู่เว่ยตั้งขึ้นมาเลียนแบบกองทัพนักเวทไฟของลู่หยาง โดยทีมนี้มักจะได้รับภารกิจด้านข่าวกรองโดยเฉพาะ

“โอเค ฉันจะส่งข้อความไปหาดาร์คไนท์เดี๋ยวนี้เลย” หลานอวี่กล่าว

เมื่อได้รับคำสั่งดาร์คไนท์ที่กำลังนำโจร 100 คนเก็บเลเวลก็มุ่งหน้าตรงไปยังที่เกิดเหตุในทันที

ในขณะที่เซี่ยหยู่เว่ยคิดว่าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ปกติ ทีมของซุนหยู, บิทเทอร์เลิฟ, ฉิงชาง, 3 พี่น้องตระกูลไป๋และเจียงเจ๋อก็ถูกผู้เล่นที่ไม่รู้จักลอบสังหารด้วยเช่นกัน

“ไอ้บ้าที่ไหนมันกล้ามาทำร้ายคนของเรากันวะ?!” ไป๋เหลิงคำรามอย่างไม่พอใจ หลังจากที่เขานำทีมนักรบชุดทอง 500 คนมุ่งหน้ามายังจุดเกิดเหตุแต่กลับไม่พบศัตรูเลยแม้แต่คนเดียว

ในระหว่างที่เขากำลังหงุดหงิดอยู่นั้น ถูเฟิงก็ส่งคำเชิญให้แกนหลักทุกคนเข้าไปประชุมยังพื้นที่พิเศษ 

“ใจเย็น ๆ เข้าไปประชุมกันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าพวกเราจะทำยังไงต่อไป” ไป๋ฉือกล่าว

“อย่าให้ฉันเจอพวกมันนะ! ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกมันให้หมดเลย” ไป๋หูกล่าวอย่างไม่พอใจ ก่อนที่พวกเขาจะกดตอบรับเข้าไปในพื้นที่พิเศษ

คิดว่าลู่หยางจะรู้ทันแผนการนี้ไหมนะ?