เลือกต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 แบบไหนดีกว่าและตอบโจทย์กว่ากัน

          เมื่อเราซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดง นอกจากของตกแต่งเพิ่มเติมที่ทางโชว์รูมมอบให้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่มอบให้คือ ประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองอัตโนมัติทันที โดยที่ผู้ซื้อรถยนต์ไม่ต้องดำเนินการเรื่องเอกสารเอง ด้วยเหตุนี้หลายบคนจึงยังใหม่ต่อการต่อประกันรถด้วยตัวเอง เพื่อช่วยให้คนที่เพิ่งต่อประกันรถยนต์เป็นครั้งแรกตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เรามีจุดเด่นของประกันรถยนต์แต่ละแบบมาฝาก เลือกได้ง่ายขึ้นแน่นอน

ประกันรถยนต์ชั้น 1

จุดเด่นของ ประกันรถชั้น 1 คือความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน และเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร อีกทั้งคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันในกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ ถูกโจรกรรม และเงินประกันตัวเมื่อผู้เอาประกันถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เรียกได้ว่าเป็นประกันที่คุ้ทครองมากที่สุด แต่ประกันรถยนต์ประเภทนี้มีข้อจำกัดตรงที่ส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครองเฉพาะรถยนต์อายุไม่เกิน 5 ปี นอกจากนั้นยังมีเบี้ยประกันสูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ

ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส

ประกันชั้น 2 พลัส ของ SCB Protect มีความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณีใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่จ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 และไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุของรถยนต์ อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของประกันรถยนต์ประเภทนี้มีจำกัดตรงที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถที่มีคู่กรณี ไม่รวมความคุ้มครองกรณีน้ำท่วมและภัยพิบัติทางธรรมชาติ  

ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส

จุดเด่นของ ประกันชั้น 3 พลัส คือค่าเบี้ยประกันถูกแต่ยังคงให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน และเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ทั้งรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมทั้งวงเงินประกันตัวเมื่อผู้เอาประกันถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ประกันรถยนต์ประเภทนี้มีข้อจำกัดตรงที่ให้ความคุ้มครองกรณีรถชนรถที่มีคู่กรณีเช่นเดียวกับ ประกันชั้น 2 พลัส

ประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3

ปัจจุบัน ประกันชั้น 2 และชั้น 3 ได้รับความนิยมน้อยลง เพราะประกันรถยนต์ทั้งสองประเภทให้ความคุ้มครองเฉพาะเงินวงเงินประกันตัวเมื่อผู้เอาประกันถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนความเสียหายต่อทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาลจะคุ้มครองเฉพาะของคู่กรณีเท่านั้น จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมแต่ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันไม่แพง ซึ่งประกันรถยนต์ทั้งสองแบบจะแตกต่างกัน ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้และถูกโจรกรรมด้วย ในขณะที่ ประกันรถชั้น 3 จะไม่คุ้มครองในเรื่องนี้

สำหรับจุดเด่นของประกันแต่ละประเภทล้วนแต่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แนะนำว่าถ้าเป็นรถยนต์ใหม่อายุน้อย รถยนต์ใช้งานประจำ ออกต่างจังหวัดบ่อย หรือยังขาดความชำนาญในการขับรถ ให้เลือก ประกันชั้น 1 หรือ 2 พลัส เพราะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานไม่บ่อย เก็บในพื้นที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด ขับในเส้นทางเดิม หรือผู้ขับขี่มีประสบการณ์และชำนาญในการขับขี่ แนะนำให้เลือก ประกันชั้น 3 พลัส ส่วนรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานควรเลือก ประกันชั้น 2 และ ประกันรถชั้น 3 จะช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์มากกว่าประกันประเภทอื่น

ชมรายละเอียดเพิ่มเติม

https://online.scbprotect.co.th/motor/type-2