บทที่ 445: ถ้าท่านชอบใครก็อย่าได้กังวล

ข้อความผิดพลาด

You must have JavaScript and cookies enabled in your browser to flag content.

-A A +A

บทที่ 445: ถ้าท่านชอบใครก็อย่าได้กังวล

“แค่ก ๆ!” มู่จวินฝานสำลักชาร้อนในปากแล้วหันไปจ้องน้องสาวของตน “เจ้าโตขึ้นมากแล้ว แม้กระทั่งเรื่องการแต่งงานของพี่ เจ้าก็ยังใส่ใจ”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” มู่ไป๋ไป่ส่งผ้าเช็ดหน้าให้เขาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านพี่รัชทายาท ท่านเป็นพี่ชายของข้า ข้าหวังว่าท่านจะได้แต่งงานกับคนที่ท่านชอบ ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน คอยดูแลซึ่งกันและกัน แน่นอนว่าเรื่องนี้ข้าจะต้องใส่ใจให้มากขึ้น”

ชายหนุ่มชะงักไปทันที ในขณะที่มีความตื่นตระหนกฉายผ่านดวงตาของเขา “ชอบ?”

เขาที่อยู่ในตำแหน่งนี้มีคุณสมบัติที่จะพูดเรื่องความรักได้ด้วยหรือ?

มู่ไป๋ไป่เหมือนจะรู้ความคิดของมู่จวินฝาน เธอจึงได้แต่รู้สึกเอือมระอา ในตอนที่ยังเป็นเด็กเธอคิดว่าขอเพียงเธอเดินทางไปอยู่ที่ไกล ๆ อย่างหุบเขาหมอเทวดา เธอก็จะค่อย ๆ หนีออกจากชีวิตในรั้ววังหลวงได้จนกระทั่งได้รับอิสระ

แต่พอเธอโตขึ้น เธอก็ได้รู้ว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เธออยู่ในเมืองที่ถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงสูงแห่งนี้มาตลอด และไม่เคยได้ออกไปไหนเลย

แล้วทันใดนั้นความรู้สึกขุ่นเคืองใจก็เกิดขึ้น หญิงสาวกลืนองุ่นรสเปรี้ยวอมหวานลงคอแล้วขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านพี่รัชทายาท ท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะมีเหตุผลมากมายที่จะทำเช่นนั้น แต่การแต่งงานเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวของเรา เราไม่ควรปล่อยให้คนอื่นมาควบคุม ขอเพียงท่านมีคนที่ชอบ ข้าจะช่วยท่านเอง!”

มู่จวินฝานคอยปกป้องเธอมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องปกป้องพี่ชายคนโตของเธอเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม พี่รองมีคนที่รักอยู่แล้ว ถ้าเธอพยายามให้มากกว่านี้ บางทีเธออาจจะใช้โอกาสในวันฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาเพื่อหาคนรักให้กับพี่ใหญ่ของเธอด้วย

ยิ่งมู่ไป๋ไป่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกมีความหวังมากขึ้น

“เจ้า…” มู่จวินฝานรู้สึกขบขันกับท่าทางจริงจังของน้องสาว ริมฝีปากหยักได้รูปจึงยกขึ้นและใบหน้าที่เดิมทีมีเพียงความเย็นชากลับอ่อนโยนขึ้นมาทันใด ซึ่งภาพที่ปรากฏดูงดงามมากจนผู้คนไม่อาจละสายตาไปได้

“เจ้าควรจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองมากกว่านะ”

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าขุนนางหลายคนได้เอ่ยถึงการแต่งงานของเจ้าขึ้นมาอีกครั้งแล้ว”

เนื่องจากมู่ไป๋ไป่เป็นองค์หญิงที่มีชื่อเสียงและมีคุณูปการต่อแผ่นดินมากที่สุดในเป่ยหลง การแต่งงานของนางจึงควรได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ

คู่แต่งงานที่ขุนนางพวกนั้นเสนอมาล้วนเป็นองค์ชายจากต่างแคว้นทั้งสิ้น

“แน่นอนว่าข้ารู้” มู่ไป๋ไป่รู้สึกโมโหมากเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ “ตาแก่พวกนั้นว่างมากนักหรืออย่างไรถึงได้คิดแต่จะหาวิธีส่งข้าไปแต่งงานทุกวัน”

“นี่ข้าไปเบียดเบียนพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือข้าไปขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของพวกเขาตั้งแต่ชาติที่แล้วกันถึงได้จองเวรไม่เลิกแบบนี้”

มู่จวินฝานฟังน้องสาวพูดจาหยาบคายแล้วเขาก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้นเล็กน้อย “ในสายตาของขุนนางในท้องพระโรง เจ้ากับข้าเป็นเพียงเครื่องมือในการปกป้องแว่นแคว้น เจ้าอย่าได้โกรธเคืองไปเลย”

“ข้ารู้” มู่ไป๋ไป่เม้มปากแน่น “ข้าไม่ได้โกรธ ข้าแค่รู้สึกไม่สบายใจ โชคดีที่ท่านพ่อห้ามข้าไว้ ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่กลับมาร่วมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาแน่”

เธอไม่คาดคิดว่าคนในสมัยนี้จะกระตือรือร้นเรื่องแต่งงานมากขนาดนี้ แม้แต่องค์หญิงก็ยังหนีไม่พ้นแรงกดดันเรื่องแต่งงาน

พอมู่จวินฝานได้ยินน้องสาวพูดถึงมู่เทียนฉง ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป เขาวางถ้วยชาลงช้า ๆ และโบกมือส่งสัญญาณให้นางกำนัลกับขันทีออกไปอย่างใจเย็น

“เมื่อคืนไป๋ไป่ได้ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อหรือไม่?”

สีหน้าของมู่ไป๋ไป่เปลี่ยนเป็นขึงขัง แล้วเธอก็พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “เพคะ ข้าไปเข้าเฝ้าท่านพ่อมา…”

จากนั้นเธอก็เล่าคร่าว ๆ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตำหนักตี้เฉินเมื่อคืนนี้

“ท่านพี่รัชทายาท มันเกิดอะไรขึ้นหรือ?” หญิงสาวขมวดคิ้วถาม “ก่อนหน้านี้ท่านบอกข้าเพียงว่าท่านพ่อมีรับสั่งให้ปล่อยตัวลี่เฟยออกจากตำหนักเย็น แต่ทำไมท่านถึงไม่บอกข้าว่านางได้รับความโปรดปรานจากท่านพ่อกลับคืนมาด้วย?”

ความจริงที่ว่าลี่เฟยสามารถเข้าใกล้ตำหนักตี้เฉินได้นั้นมันคือการได้รับความโปรดปรานจากมู่เทียนฉงโดยปริยาย

และเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้สูงมากว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลี่เฟยเข้าออกตำหนักตี้เฉิน

ในช่วงที่เธอไม่อยู่ในวัง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“ที่ข้าไม่ได้บอกเจ้าเพราะกลัวว่าเจ้าจะเป็นกังวล” มู่จวินฝานเห็นแววตากังวลของน้องสาวและรู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปกปิดนางได้ “เจ้าจำได้หรือไม่ว่าลี่เฟยให้กำเนิดองค์ชายน้อยในตำหนักเย็น?”

มู่ไป๋ไป่พยักหน้าบ่งบอกว่าเธอจำได้

ตอนที่เธอได้รับข่าวจากองครักษ์เงา เธอแทบจะคิดว่าตัวเองตาฝาดอ่านผิดไปเอง ต่อมาเธอจึงเขียนจดหมายไปหาท่านพี่รัชทายาทเพื่อยืนยันเรื่องนี้ เขาบอกเพียงว่าไม่สะดวกที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าวมากกว่านี้ในจดหมาย แล้วเขาก็ไม่เคยเอ่ยถึงมันอีก

ต่อมาพอเธอยุ่งอยู่กับการรักษาคนไข้ที่หุบเขาหมอเทวดาทุกวัน เธอก็ค่อย ๆ ลืมเลือนเรื่องนี้ไป 

“ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของท่านพ่อของเรา?” หญิงสาวเคยล่วงรู้ความลับที่ว่าลี่เฟยมีความสัมพันธ์กับองครักษ์ ซึ่งมันมากกว่า 1 ครั้งด้วยซ้ำ

ที่สำคัญกว่านั้น ยังมีข่าวลืออยู่ในวังหลวงตลอดว่าลี่เฟยมีปัญหาด้านสุขภาพไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ถึงแม้ว่าจะเข้าวังมาหลายปีแล้ว

เหตุใดจู่ ๆ นางถึงตั้งครรภ์ได้อีกครั้งหลังจากที่เข้าไปอยู่ในตำหนักเย็น?

“ใช่” สีหน้าของมู่จวินฝานจริงจังมากขึ้น “ตำแหน่งของข้าไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องวังหลังมากนัก แต่เรื่องนี้มันแปลกมากเกินไป ข้าจึงได้สั่งให้คนไปช่วยสืบสวนเรื่องนี้แบบลับ ๆ”

“ในช่วงเวลานั้น เสด็จพ่อรู้สึกนอนไม่หลับและมีอาการปวดหัว เสด็จพ่อได้เรียกหมอหลวงมาตรวจติดต่อกันหลายวัน แต่ก็ไม่สามารถรักษาอาการนั้นได้ เดิมทีข้าตั้งใจจะเขียนจดหมายถึงเจ้า เพราะคิดว่าหุบเขาหมอเทวดาอาจจะมียาบางอย่างที่ช่วยรักษาอาการพวกนี้”

“แต่ก่อนที่ข้าจะทันได้ทำเช่นนั้น เสด็จพ่อก็ได้แอบพาลี่เฟยออกมาจากตำหนักเย็นให้ไปที่ตำหนักของเขา”

“หลังจากนั้น… ลี่เฟยก็ตั้งครรภ์ และเสด็จพ่อก็ทรงออกราชโองการอภัยโทษให้นาง”

มู่ไป๋ไป่ตั้งใจฟังในขณะที่คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นเรื่อย ๆ “แปลกมาก… มันแปลกเกินไป ท่านยังมีบันทึกการรักษาของหมอหลวงหรือไม่?”

“แล้วท่านได้สั่งให้คนไปตรวจสอบลี่เฟยหรือยัง นางเอายาอะไรให้ท่านพ่อกินหรือไม่?”

ไม่อย่างนั้น เหตุใดการกระทำของท่านพ่อจึงแปลกไปนัก?

“ไป๋ไป่ ข้าก็คิดแบบเดียวกับเจ้านั่นแหละ” มู่จวินฝานขมวดคิ้วแน่นขึ้นเช่นกัน “ข้าส่งคนไปตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ”

แต่เพราะเหตุนี้เองเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจมากแล้วรอคอยการกลับมาของน้องสาวอยู่ตลอด

ไป๋ไป่เป็นเหมือนดาวนำโชคของเป่ยหลง เมื่อ 12 ปีก่อนนางยังสามารถช่วยชีวิตเขาให้รอดพ้นจากชายแดนมาได้ คราวนี้เขายังเชื่อว่ามีเพียงไป๋ไป่เท่านั้นที่สามารถพลิกสถานการณ์นี้ได้

“ตอนนี้ลี่เฟยอยู่ที่ไหน ข้าจะไปหาคำตอบเอง” มู่ไป๋ไป่ยังคงไม่ปักใจเชื่อ เรื่องนี้จะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่นอน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอได้เห็นเรื่องของราวต่าง ๆ มากมายบนโลก  มีหลายสิ่งที่สามารถควบคุมจิตใจของผู้คนได้

ลี่เฟยผู้ชั่วร้ายคนนี้ย่อมใช้วิธีการที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

บางทีนางอาจจะติดสินบนคนรอบข้างท่านพ่อ แล้วใช้สิ่งนั้นควบคุมเขา

มู่จวินฝานเข้าใจสิ่งที่น้องสาวคิดจึงตอบออกไปอย่างใจเย็น “ขณะนี้ลี่เฟยยังไม่ได้รับตำแหน่งพระสนมกลับคืนมา ดังนั้นนางจึงไม่ได้อาศัยอยู่ในตำหนักเดิม”

“ไป๋ไป่ หากเจ้าต้องการพบนาง ข้าเกรงว่าเจ้าคงต้องรอจนกว่าจะถึงงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮาในอีก 3 วันข้างหน้า”

“ทำไมล่ะเพคะ?” มู่ไป๋ไป่ขมวดคิ้วมุ่น “แม้ว่านางจะไม่ได้อาศัยอยู่ในตำหนักเดิม แต่นางก็ยังคงอาศัยอยู่ในวังหลวง ข้าแอบไปดูก็ได้”

องค์รัชทายาทถอนหายใจ ก่อนจะกล่าวว่า “ไป๋ไป่ เจ้าไม่เข้าใจอีกหรือ? ตอนนี้ลี่เฟยกำลังอาศัยอยู่ในตำหนักของเสด็จพ่อ หากเจ้าต้องการพบนาง เจ้าจะต้องแจ้งให้เสด็จพ่อทราบก่อน”

“...” มู่ไป๋ไป่ถึงกับพูดไม่ออก

ที่แท้ท่านพ่อของเธอได้พาผู้หญิงใจร้ายคนนั้นเข้าไปอยู่ในห้องบรรทมของเขา

ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมท่านแม่ถึงได้ดูเศร้าหมองเช่นนั้น

เมื่อมู่ไป๋ไป่ได้รู้ความจริง เธอก็กัดฟันด้วยความโมโห

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.