บทที่ 220 รู้จักเธอไหม!!
ปัง!!
เอกสารเป็นปึกถูกโยนไปที่ตรงหน้าของคุณหมอสาวจนเกิดเป็นเสียงอันดัง
ปึกเอกสารที่ถูกโยนมานั้นทำให้คุณหมอสาวยื่นใบหน้าสวยแบบฉบับหมวยอินเตอร์ชะโงกหน้าพร้อมกับขยับร่างที่ยังถูกมัด ให้เข้ามาใกล้กองเอกสารเหล่านั้น เพื่อที่ตัวเองจะได้มองเห็นเนื้อหาที่อยู่บนหน้ากระดาษเหล่านั้นได้ถนัด
และหลังจากที่เธอกวาดสายตาอ่านข้อมูลบนเอกสารเหล่านั้นได้ไม่นาน ดวงตาคู่เล็กกลับต้องเบิกตากว้างออกมาทันที พร้อมกับใบหน้าหมวยที่ซีดลงในถนัดตา จนทำให้หน้าที่ขาวอยู่แล้วแทบจะขาวเป็นกระดาษ
“นะ...นี่มัน” คุณหมอสาวเอ่ยตะกุกตะกัก อีกทั้งยังเริ่มมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดซึมขึ้นตามกรอบหน้า หลังจากได้เห็นเนื้อหาข้อมูลที่อยู่บนหน้ากระดาษ
“หึ...แล้วมาบอกกูว่าเป็นแค่เพื่อนสมัยเรียนแค่นั้น แต่ว่า...เพื่อนสมัยเรียนแบบไหนกันนะ ที่ช่วยปกปิดความลับให้กัน ที่ช่วยบริหารกิจการให้กัน ทั้งยังช่วยทุกอย่างแม้กระทั่งยอมอยู่กินนอนที่โรงพยาบาลแห่งนั้น แทบจะไม่กลับบ้านเลย แถมยังช่วยปกปิดเรื่องหุ้นที่ไอ้มาคินทร์มันถืออีกด้วย ดูท่าแล้วมันคงจะไว้ใจเธอมากเลยซินะ...หึหึหึ ถ้าอย่างนั้นกูจะให้โอกาสมึงบอกความจริงกับกูอีกครั้งว่ามึงคือเมียมันใช่ไหม!!” ใบหน้าคมเผยข้อมูลที่ตนรู้ออกมา ก่อนจะแค่นเสียงเย็นใส่ จนคู่สนทนาถึงกับรู้สึกหนาวสะท้านเข้าไปถึงกระดูก
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าถึงกับหน้าซีดเผือด สายตาหลุกหลิกอย่างคนไปไม่เป็น หลังจากที่เจอผมรัวคำพูดใส่ นั่นยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าเธอต้องเป็นเมียมันอย่างแน่นอน
จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมจนทำให้บรรยากาศดูนิ่งไปหมด เธอที่เม้มปากแน่น แม้จะหวาดกลัวแต่ก็พยายามที่จะสงบสติอารมณ์นั้นเอาไว้
“เอาว่ายังไง ยังยืนยันว่าเป็นเพื่อนกับไอ้มาคินทร์อยู่ไหม” ผมยักคิ้ว พร้อมกับเอ่ยถามเธอไปอีกรอบ
แต่สิ่งที่ผมได้รับคำตอบกลับมานั่นก็คือเสียงหัวเราะที่อยู่ในลำคอของคุณหมอสาว
“หึหึหึ...ถึงนายจะเค้นถามฉันอีกสักกี่รอบ จะเค้นถามฉันอีกสักกี่ครั้ง คำตอบเดียวกันนั่นก็คือ ฉันกับมาร์คเราเป็นแค่เพื่อนกัน เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น...ฮึก...ฮึก” คุณหมอสาวที่จนปัญญาที่จะพูดให้กับคนตรงหน้าเชื่อ ก็ได้แต่ทำใจปลงยอมรับชะตากรรมที่เขาจะใส่ร้ายป้ายสีมาเท่านั้น
เมื่อสิ้นเสียงคุณหมอสาวที่ดูสิ้นหวัง เม็ดน้ำใสก็ค่อย ๆ หลั่งรินออกมาจากดวงตาเล็กคู่นั้นอย่างสุดจะกักกลั้น
คุณหมอสาวที่ยังคงหนักแน่นกับคำตอบเดิมของตน บวกกับความเด็ดเดี่ยวและมั่นคงของเธอ เริ่มไปกระตุ้นให้หัวใจคนคนหนึ่งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลของผมเริ่มสั่นไหว...
ผมที่พอจะมองออกว่าคุณหมอตรงหน้าเธอพูดความจริง จึงเลือกที่จะไม่ถามเกี่ยวกับประเด็นนั้นอีก นั่นก็เพราะว่าผมไม่ได้จับเธอมาเพราะอยากจะแก้แค้นไอ้มาคินทร์ แต่ที่ผมพาตัวเธอมาเพราะผมอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับอาการของเมียผม
เพียงแต่ที่ผมถามถึงความสัมพันธ์ของเธอกับไอ้มาคินทร์ในตอนแรก นั่นก็เพราะว่าผมอยากมั่นใจว่าไอ้มาคินทร์มันมีเมียแล้ว และมันจะไม่มายุ่งกับเมียรักของผมอีก
แต่หลังจากที่ผมได้คำตอบที่ผมไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร ผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณหมอสาวกับไอ้มาคินทร์อีก แต่ทว่า...เธอเองก็ยังไม่หยุดร้องไห้จนผมเองอดรำคาญเสียงสะอื้นของเธอไม่ได้
“น้ำตามึงไม่มีผลกับกูหรอกนะ อย่าคิดว่ากูจะสงสาร หยุดร้องไห้ซะ กูรำคาญ!!” ผมที่รู้สึกแบบที่พูดออกไปจริง ๆ เพราะปกติแล้วผมมักจะรำคาญเสียงร้องและน้ำตาผู้หญิง โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ชอบสำออยเรียกร้องความสนใจ พวกผู้หญิงแบบนั้นผมล่ะรำคาญเป็นที่สุด
แต่ทุกอย่างมันย่อมมีข้อยกเว้น เพราะสำหรับผมผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะยกเว้นให้เธอ นั่นก็คือ...เมียที่น่ารักของผม...เพราะเพียงแค่เมื่อไรที่บนดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นของเธอมีน้ำตาเอ่อคลอ เพียงแค่เท่านั้นก็ทำให้หัวใจของผมวูบไหวเจ็บแปล๊บคล้ายกับถูกของมีคมทิ่มแทงกรีดเฉือนก็ไม่ปาน
(เห้อออ...พูดแล้วก็คิดถึงเมีย รีบถามรีบกลับไปกอดเมียดีกว่า...กู)
ผมรีบเรียกสติที่มัวแต่คิดถึงใบหน้าหวาน ๆ ของเมียรัก พร้อมกับนึกไปถึงทรวดทรงที่ทำให้ผมอยากจะเข้าคลุกวงในของเธอ ให้กลับมาเพื่อถามคำถามคุณหมอสาวในประเด็นถัดไปต่อ
และคำถามที่ผมกำลังจะถามเธอต่อไปนี้ มันเป็นคำถามที่ทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาทันที
“เงียบ!! และฟังให้ดี มึงรู้จักผู้หญิงที่อยู่ในรูปนี่ไหม” ผมตะคอกคุณหมอสาวที่ยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุดจนเธอสะดุ้งเฮือก ~~ ก่อนจะยื่นรูปใบหน้าของผู้หญิงที่ผมรักที่อยู่ในมือถือของผมให้เธอได้ดู
เธอที่ค่อย ๆ เงยหน้าที่ก้มอยู่ขึ้นมา แล้วปรายตามองมาดูรูปที่โชว์อยู่ที่หน้าจอมือถือด้วยท่าทีหวาดระแวง
แต่แล้วปฏิกิริยาตอบสนองของเธอก็ทำให้ผมรู้ได้ในทันทีเลยว่า เธอต้องรู้จักและเคยเจอกับเอลิซเมียรักของผมมาก่อนอย่างแน่นอน
“อะ...เอลิซ” เสียงแผ่วเบาที่หลุดออกมาจากริมฝีปากสีชมพู พร้อมกับดวงตาคู่เล็กที่เบิกกว้างฉายถึงความตกใจระคนสงสัยออกมาอย่างปิดไม่มิด นั่นยิ่งทำให้ผมแน่ใจเลยว่าสิ่งที่ผมคาดคิดไว้ไม่ผิดแน่
“ว่าไงรู้จักเธอไหม??” ผมถามเธอย้ำไปอีกครั้ง
ใบหน้าหมวยอินเตอร์ของคุณหมอสาวหลุบมองต่ำลงทันที พร้อมกับสายตาหลุกหลิกอย่างคนที่กำลังลังเลและใช้ความคิด จนถึงกับทำให้ผมเริ่มจะหงุดหงิด
“เอ้า!! ว่ายังไงวะ!! รู้จักเธอไหม” ผมตวาดเธอลั่น เพราะไม่พอใจที่เธออ้ำอึ้งไม่ยอมตอบคำถามผมสักที
“มะ...ไม่รู้จัก...ไม่รู้จัก” คุณหมอสาวส่ายหัวดิก ๆ ตอบโดยที่ตัวเธอไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากับผม
“กูให้มึงตอบอีกรอบ...มึงเลือกเอาว่าจะโกหกกูต่อไหม” ผมแค่นเสียงเย็นใส่ พร้อมกับกอดอกเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อีกรอบ แล้วมองเธอด้วยสายตากดดัน
ตัวคุณหมอสาวยังสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวก้มหน้าไม่พูดไม่จา ถึงผมจะมองออกว่าเธอกำลังใช้ความคิดและลังเลอะไรบางอย่าง แต่ผมก็ไม่อาจจะใจเย็นพอเพื่อรอให้เธอสงบลง
“กูจะถามมึงอีกครั้งนะว่า...มึงรู้จักเธอไหม!!” ผมพูดพร้อมกับส่งความกดดันจากสายตาของผมออกไป จนทำให้เธอเริ่มที่จะเปิดปาก
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 20
แสดงความคิดเห็น