บทที่ 202 เจ้าของโรงพยาบาล
“แค่ได้เห็นหน้าเอลิซ เฮียก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ” น้ำเสียงอ่อนหวานยวบยาบที่ผมเอื้อนเอ่ยกับเธอ อีกทั้งยังลูบหัวเธอเบา ๆ ด้วยความรักใคร่ที่มากล้น ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าความขุ่นมัวที่มีต่อเธอก่อนหน้านั้นได้มลายหายไปจนสิ้นแล้ว
แต่ทว่า...เหมือนเธอจะยังไม่สาแก่ใจ เพราะเธอยังคงส่งพลังการทำลายล้างความแข็งกร้าวที่มีของผม ออกมาต่อเนื่องอย่างไม่จบไม่สิ้น นั่นก็เพราะเมื่อแม่เมียตัวดีของผม เธอเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานในแบบที่ผมชอบ พร้อมกับหยัดตัวลุกขึ้นยืนมานั่งตักของผม ก่อนจะเอามือเรียวเล็กของเธอคล้องคอของผมไว้ จากนั้นเธอก็ได้หอมฟอดใหญ่ลงมาที่แก้มสากของผม จนทำให้ผมแทบจะสำลักความสุขตาย...
ฟอด ~~
“เอลิซไม่รู้ว่าเอลิซทำอะไรให้เฮียงอน แต่ว่าถ้าสิ่งนี้มันจะทำให้เฮียหายโกรธ...แล้วละก็...”
และเพียงเพราะว่าเธอแค่อยากจะง้อผม...
ผมที่ยังไม่ทันจะหายอึ้งกับการกระทำของเธอก่อนหน้านี้ ถึงกับต้องเบิกตาโพลงเมื่อเจอเข้ากับการกระทำถัดไปของเธอ โดยที่ผมเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว...
เมื่อสิ่งที่เธอส่งมาง้อผม ทำให้ผมถึงกับลืมสิ่งที่อยากจะพูดอยากจะถามเธอจนหมดสิ้น นั่นก็เพราะว่าสติที่ขาวโพลนกำลังจดจ่อมัวแต่ดื่มด่ำอยู่กับความหอมหวานของเรือนร่างสวยที่ส่งมาปรนเปรอผมไม่หยุด และผมเองก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อที่ได้ตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอ ความรู้สึกที่ยิ่งกินก็ยิ่งไม่รู้จักอิ่ม ยิ่งได้ลิ้มลองก็ยิ่งมัวเมาลุ่มหลง และถ้าเปรียบเธอเป็นดั่งอาหาร เธอก็คงจะเป็นอาหารจานเดียวที่ผมจะกินไปตลอดชีวิต...
...และคงไม่มีใครหรือผู้หญิงคนไหนมาแทนเธอได้อีกแล้ว...
ผมที่กำลังมัวเมาอยู่กับความสุขที่ตักตวงเอาจากร่างกายเธออย่างไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย ยิ่งนับวันผมยิ่งรักยิ่งหลงเมียจนแทบอยากจะสิงร่างเธอเอาไว้ และกว่าจะรู้ตัวว่าผมได้โหมกระหน่ำความรักให้กับเธอมากเกินไป ก็ตอนที่เธอหลับอยู่ในอ้อมกอดของผมแล้ว
หลังจากที่ผมหลุดออกมาจากภวังค์ความวาบหวาม ผมก็ได้อุ้มเธอวางลงบนที่นอนพร้อมกับจัดท่าให้เธอได้นอนสบาย ๆ ก่อนที่ตัวผมเองจะหยัดตัวนั่งมองใบหน้าสวยหวานด้วยความรักใคร่และไม่อยากห่างไปไหน
ใบหน้าสวยหวานที่นอนหลับตาพริ้ม สีหน้าที่ยังดูสดใสแต่แซมไปด้วยความเหนื่อยเล็กน้อยเพราะผลพวงจากการที่โดนผมฉกฉวยเอาความหวานจากเรือนร่าง แม้ว่าใบหน้าจะไม่ฉายความเจ็บป่วยใด ๆ ออกมา แต่ทว่า...ผมเองก็อยากจะรู้ว่าเพราะเหตุใดเธอถึงต้องไปที่นั่น...ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น
ผมทั้งมองทั้งลูบไล้ไปตามกรอบหน้าสวยด้วยความรักแสนรัก ก่อนจะก้มลงไปจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนกับแก้มนวลด้วยความรู้สึกหวงแหนและโคตรรัก พร้อมกับนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าเธอจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้ผมแทบจะขาดใจอยากจะรู้ว่าเธอปิดบังอะไรผมอยู่กันแน่
และก่อนที่ความคิดของผมมันจะเตลิดไปมากกว่านี้ ความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาขัดขวางเสียก่อน เมื่อผมนึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่กลับบ้านมา ความคิดนั้นถึงกับทำให้ผมลืมสิ่งที่อยากจะถามกับเธอ แล้วรีบเด้งตัวลุกขึ้นจัดการตัวเองก่อนจะลงไปเตรียมอาหารเผื่อเอาไว้ถ้าหากเธอตื่นขึ้นมาจะได้อุ่นกินได้ในทันที
และในขณะที่ผมกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่นั้น...
ครืดดด ~~ ครืดดด ~~
หน้าจอมือถือโชว์ชื่อผู้ที่ติดต่อเข้ามา ~~~ (กิต)
“เออ...” ผมกรอกเสียงไปตามสาย
“นายครับมีข้อมูลมาอัปเดตครับ” กิตรีบรายงาน
“ว่ามา” ผมมองไปยังร่างบางที่นอนหลับสนิท ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปนอกห้องเพราะไม่อยากรบกวนการนอนของเธอ
“โรงพยาบาลนั้น เป็นของไอ้มาคินทร์จริง ๆ ด้วยครับนาย โดยมันไม่เปิดเผยถึงการถือหุ้นของมัน แถมมันยังบริหารงานอย่างเงียบ ๆ เป็นเสมือนผู้บริหารเงา จึงแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลแห่งนี้เลยครับ และถ้าไม่เป็นเพราะเส้นสายของนายข้อมูลพวกนี้เราไม่มีทางรู้ได้เลยครับ” กิตรายงานด้วยความตื่นเต้นกับข้อมูลที่ตนเพิ่งได้รับมา
“อ่อ...แล้วอีกเรื่องหนึ่งครับ ไอ้มาคินทร์มันทำงานในโรงพยาบาลนั้นในฐานะคุณหมอธรรมดา ๆ คนหนึ่งใช่ไหมครับนาย แต่น่าแปลกตรงที่ว่าในฐานะหมอมันแทบจะไม่มีข้อมูลการรักษาคนไข้ในฐานข้อมูลเลยครับ” กิตเผยข้อสงสัยของตัวเองให้ผู้เป็นเจ้านายได้รับรู้
“หึ...ก็ทุกคนที่มันรักษาก็คงจะเป็นพวกระดับวีไอพีนะซิ เพราะอย่างนี้ข้อมูลทุกอย่างจึงอยู่ที่มันไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลโรงพยาบาล” ผมเฉลยในสิ่งที่กิตสงสัย
“อ๋อ...เป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะอย่างนี้นี่เองแฮ็กเกอร์ของเราถึงตามแกะรอยถึงสาเหตุที่นายหญิงไปโรงพยาบาลนั้นไม่เจอเลย” กิตที่เหมือนจะเข้าใจอะไรมากขึ้น ก่อนที่เขาจะรีบรายงานสิ่งที่ได้รับรู้มาเพิ่มเติมด้วยกลัวว่าตัวเองจะขาดตกบกพร่องเรื่องสำคัญไป
“...ยังมีอีกเรื่องครับนาย...” กิตเว้นวรรคก่อนจะรายงานต่อ
“จากข้อมูลที่ได้มา พนักงานทุกคนที่ทำงานในโรงพยาบาลแห่งนั้นจะถูกสั่งห้ามไม่ให้บอกใคร ๆ ว่ามันคือประธานของโรงพยาบาลแห่งนี้ และยังถูกจับให้ทำสัญญาเพื่อปกปิดข้อมูลในเรื่องนี้ด้วยครับ” กิตรายงานต่อ
ผมแสยะยิ้มที่มุมปาก ด้วยความรู้สึกพอใจกับข้อมูลที่ได้รับ
“อืมดีมาก...แล้วเรื่องที่เกี่ยวกับเมียกูล่ะ ว่าเอลิซไปทำอะไรที่นั่น ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง” ผมเอ่ยเข้าประเด็นในสิ่งที่ผมอยากรู้ทันที
“เรื่องที่นายหญิงไปทำอะไรที่นั่น แทบจะไม่มีข้อมูลเลยครับ ยังกับนายหญิงไม่เคยไปที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเลยครับนาย ส่วนสายที่ผมส่งไปล้วงข้อมูล ลองได้ถามพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ที่อยู่ที่นั่นในวันนั้นแล้วครับ แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็นนายหญิงสักคน” กิตที่ยังอดแปลกใจกับข้อมูลนี้ไม่ได้
“หึ...มันก็คงเป็นฝีมือไอ้มาคินทร์น่ะซิ” ผมกัดฟันกรอดทันที นี่มันคิดจะทำอะไรกันแน่ หรือว่ามันยังไม่ยอมตัดใจจากเมียผม
(แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เมียผมสวยน่ารักนมโตน่าฟัดขนาดนั้น)
“แล้วสรุปเอลิซได้นัดเจอกับมันหรือเปล่า” ผมตรงประเด็นในสิ่งที่ผมแอบหวั่นใจอีกครั้ง
(ถ้ามึงลองแอบนัดเมียกูละก็...เตรียมเก็บเศษปูนของโรงพยาบาลมึงได้เลย...ไอ้มาคินทร์!!)
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 33
แสดงความคิดเห็น