บทที่ 194 มันสายไปแล้ว...

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 194 มันสายไปแล้ว...

เปิดขาย
หมวดหนังสือ: 

หลังจากที่ฉันขึ้นรถกลับไป ~~

 

--- มาร์ค Talk ---

 

“ยังไง...มาร์ค...มองเขาตาละห้อยขนาดนี้ ไม่แสดงตัวออกมาเลยล่ะ เอาแต่แอบมองแอบฟังอยู่ได้” น้ำค้างที่เอ่ยแซวผม หลังจากที่เห็นผมเดินออกมาจากที่ซ่อนตัวเพื่อมามองดูเธอจนลับตาไป

 

“ทำอย่างงั้นได้ยังไงล่ะ เขาจะได้หาว่าฉันเป็นโรคจิตล่ะสิ” ผมตอบน้ำค้างเสียงอ่อย พร้อมกับความรู้สึกเศร้าที่ก่อตัวอยู่ในหัวใจ

 

“ทีเรื่องอื่นยังทำเป็นเนียนได้เลย” น้ำค้างยังไม่เลิกแซว

 

“มันไม่เหมือนกันโว๊ยยย...” ผมโวยใส่เพื่อนสาวเล็กน้อย

 

“และก็...จะให้ทำไงได้ล่ะ...ทุกอย่างมันสายไปหมดแล้วนิ” ผมที่ปลงตกเอ่ยเสียงเศร้า หลังจากที่ความจริงในวันนี้มันได้ตอกตะปูปิดความหวังของผมจนหมดสิ้นลงไปแล้ว

 

“แหม...แต่ก็กล้าน่ะย่ะ...ไม่ใช่หมอสูติฯ แต่เสนอตัวไปบอกผลตรวจให้เขาน่ะ” น้ำค้างที่อดแขวะไม่ได้ เพราะแค่เธอเห็นว่าเขาแทรกแซงขั้นตอนการตรวจจนออกนอกหน้าขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ต้องสำคัญสำหรับเขามากขนาดไหน

 

“ก็ให้ทำไงได้ว่ะ...ก็คนมันอยากรู้นี่หว่า” ผมที่มักไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ถ้าเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับเธอ พร้อมกับนึกย้อนไปถึงตอนที่ผมได้กระซิบออกคำสั่งกับพนักงานต้อนรับของโรงพยาบาลที่รับเรื่องของเอลิซไว้

 

นอกจากลงชื่อหมอเจ้าของเคสเป็นชื่อผมแล้ว คุณช่วยแจ้งพยาบาลที่ดูแลด้วยว่าทุกอย่างหรือข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ให้ทำแบบส่วนตัวที่สุดและทุกอย่างห้ามรั่วไหลเด็ดขาด โดยเฉพาะการมาตรวจในครั้งนี้ของเธอจะต้องไม่ลงประวัติหรือผลตรวจอะไรเลย และทุกอย่างให้ผ่านผมโดยตรงเท่านั้น!!...อ่อ...แล้วก็อีกอย่างบอกแผนกความปลอดภัยให้ลบบันทึกกล้องวงจรปิดช่วงระยะเวลาตั้งแต่เธอมาที่นี่จนกระทั่งเธอกลับไปให้หมดด้วยนะครับ...

 

ผมที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เธอต้องขอร้องให้ผมปกปิดเรื่องที่เธอมาขอตรวจการตั้งครรภ์ในครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะด้วยนิสัยของคนอย่างไอ้เซบาสเธียแล้ว มีหรือที่มันจะไม่รู้ว่าเธอมาโรงพยาบาลนี้ มันรู้แน่อยู่แล้ว และมันต้องให้คนมาสืบอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยเอลิซปกปิดเอาไว้ เพราะอย่างน้อยความลับนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกชนะไอ้เซบาสเธียมันได้อย่างหนึ่ง...นั่นก็คือ...ผมเป็นคนแรกที่ได้รู้ว่าเอลิซท้องยังไงล่ะ...หึหึ

 

แต่ทว่า...สิ่งสำคัญอีกอย่างถึงเหตุผลที่ผมช่วยเธอปกปิดผลการตรวจในครั้งนี้ นั่นก็เพราะว่า...มันเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของเธอ คนที่มีศัตรูเยอะแบบไอ้เซบาสเธีย ลองถ้าไอ้คนพวกนั้นได้รู้ถึงข่าวอันโอชะนี้แล้วละก็...หึ...แทบไม่ต้องเดาเลยว่าเรื่องอันตรายมากมายแค่ไหนที่จะถาโถมเข้ามาที่เอลิซต้องเสี่ยงตกอยู่ในอันตราย

 

แล้วไหนจะคนของท่านผู้นำอีก ถ้าหากเขารู้เรื่องนี้แล้วล่ะก็ เอลิซจะกลายเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับไอ้เซบาสเธียได้อย่างหวานหมูเลยทีเดียว

 

และในขณะที่ผมกำลังรู้สึกสะใจทั้งเรื่องที่ไอ้เซบาสเธียหน้าโง่มันยังไม่รู้ถึงผลการตรวจของเอลิซ สลับระคนกันไปมาถึงความคิดที่ผมกำลังกลุ้มใจถึงความปลอดภัยของเธออยู่นั้น...

 

“มาร์ค...ไอ้มาร์ค...ไอ้หมอมาร์ค!!” เสียงแว้ดจากเพื่อนสนิทของผมก็ดังขึ้นมาจนทำให้ผมแสบแก้วหู ถึงกับสะดุ้งตื่นออกจากภวังค์ความคิด

 

“โอ๊ยยย...จะตะโกนทำไมว่ะ...หูหนวกแล้วมั้งเนี้ย...” ผมที่ถึงกับเอามือขึ้นมาเขย่ารูหูหลังจากได้ยินเสียงเรียกอันดังจากคนเป็นเพื่อน

 

“ก็ฉันเรียกแกตั้งนาน...นึกว่าจิตหลุดตามเอลิซกลับบ้านไปล่ะ” น้ำค้างยังแขวะผมไม่เลิก

 

“แล้วมีอะไร...ตะโกนซะดังเชียว” ผมที่อดค่อนแคะเพื่อนสาวไม่ได้

 

“ก็ฉันบอกว่า...เอาจริงฉันก็รู้สึกเสียดายนะ ที่เอลิซไม่ได้เป็นแฟนกับแกอ่ะ ฉันน่ะรู้สึกชอบเอลิซเขามากเลยนะ บอกได้เลยว่าถูกชะตามาก เธอคุยสนุกด้วย แถมหน้าตาก็น่ารัก ดวงตากลมโตสุกใสคู่นั้นน่ะดูมีเสน่ห์สุด ๆ ไปเลย โดยเฉพาะรอยยิ้มนะ...โอ้โห้...แกเอ๊ยยย ขนาดฉันที่เป็นผู้หญิงยังละลายไม่ได้เลย...” น้ำค้างเอ่ยบอกอย่างตรงไปตรงมา ถึงมิตรภาพใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเอลิซ พร้อมกับท่าทางที่ดูจะถูกอกถูกใจเอลิซเป็นอย่างมาก

 

คำพูดของเพื่อนสาว กลับยิ่งทำให้หัวใจของผมห่อเหี่ยวมากขึ้นไปอีก ถ้าวันนี้เด็กในท้องเป็นลูกของผม ผมจะมีความสุขมากขนาดไหนกันนะ...

 

ทำไมนะ...ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้...

 

และในขณะที่ผมกำลังเหม่อลอยไปกับความคิดของตัวเอง คำถามบางอย่างของไอ้เพื่อนตัวดีก็ได้ถูกส่งออกมาเพื่อกรีดเข้าไปที่กลางใจของผม จนทำให้ผมถึงขนาดที่จะต้องรีบเดินหนีมันไปในทันที

 

“เออนี่...แล้วแกรู้ไหมว่าพ่อของเด็กเป็นใคร” น้ำค้างที่ไม่คิดจะเก็บความสงสัยเอาไว้บ้างเลย เอ่ยถาม...

 

ผมยักไหล่เบา ๆ เป็นคำตอบ ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวกลับไปทำงานต่อ โดยที่น้ำค้างมันยังคงไม่ละความพยายามที่จะอยากรู้ ถึงกับรีบเดินตามผมมาเพื่อจะรู้ให้ได้...

 

--- เอลิซ Talk ---

 

ณ Penthouse เซบาสเธีย

 

หลังจากที่ฉันกลับมาจากโรงพยาบาลฉันก็รีบกลับขึ้นมายังเพนท์เฮ้าส์ทันที โดยที่เมื่อฉันเปิดประตูเดินเข้ามายังโถงห้อง ก็ต้องพบเข้ากลับ...

 

ร่างสูงกำยำที่นั่งไขว่ห้างรอการกลับมาของฉันอยู่ก่อนแล้ว...

 

เฮือก ~~

 

ฉันลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอเบา ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าที่ตกใจให้เปลี่ยนเป็นร่าเริงเดินเข้าไปหาเขา

 

“อ้าว...เฮีย...ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วจังเลยค่ะ” ^-^ ฉันยิ้มแย้มถามด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ

 

สายตาสีเทาเข้มส่งมามองฉันด้วยแววตาที่ยากหยั่งถึง จนฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

 

“พอดีวันนี้เฮียเคลียร์งานเสร็จแล้วนะคะ ก็เลยรีบกลับบ้าน” น้ำเสียงเรียบนิ่งที่ถูกส่งออกมาจากปากทรงสวยของเขา ยิ่งทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกหวาดระแวง

 

“อ้าวเหรอคะ...แล้วทำไมเฮียไม่โทรมาบอกเอลิซก่อนล่ะ เอลิซจะได้รีบกลับมา...เนี้ยเดินเล่นเพลินเลย” ฉันยังคงตีเนียนไม่ได้พูดความจริงออกไป

 

“อ๋อเหรอออออ...คะ” น้ำเสียงของเขาที่ฟังยังไงก็รู้ว่าประชด จนทำให้ฉันเริ่มจะทำตัวไม่ถูก

 

(เอาไงดีว่ะ...ไอ้เอลิซเอ้ย...ไม้ตายล่ะกัน) ฉันที่หลุบตาหลบเขาพร้อมกับคิดหาวิธีเอาตัวรอด

 

หลังจากคิดทบทวนแล้ว ฉันก็รีบตรงเข้าไปคุกเข่าอยู่ที่ด้านหน้าของเขา แล้วสวมกอดเขาทันที

 

“คิดถึงเฮียจังเลยค่ะ เฮียเหนื่อยไหมคะ หิวหรือเปล่าอยากกินอะไรไหม...หื้ม” ฉันออกลูกอ้อนใส่เขาทันที

 

และสิ่งที่ฉันทำก็ได้ผล เมื่อน้ำเสียงที่เขาตอบกลับฉันมาดูจะนุ่มนวลลงทันที

 

“แค่ได้เห็นหน้าเอลิซ เฮียก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ” เขาเอ่ยบอกพร้อมกับลูบหัวฉันเบา ๆ ด้วยความรัก

 

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา พร้อมกับส่งยิ้มกว้างออกไป ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นยืนเพื่อนั่งตักของเขาแล้วเอามือคล้องคอของเขาไว้...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.